9
“อานัส อานีสครับ ไปอาบน้ำครับ แม่เอาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนแล้วครับ” หลังจากที่รู้ว่าจรรยานอนโรงพยาบาล อนัญญาจึงกลับไปเอาเสื้อผ้าทั้งของตนเอง จรรยาและหลานชายมาผลัดเปลี่ยน การกลับไปบ้านครั้งนี้ฟาฎิลให้หล่อนใช้รถสุดหรูเป็นพาหนะเดินทาง
“ฮะแม่” อานัสเดินสะพายกระเป๋าเป้ที่อนัญญาใส่เสื้อผ้าไปยังห้องรับรองเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า อนัญญากำลังก้าวเท้าเดินตามหลานรัก ทว่าเสียงของอิลฮัมดังรั้งขาทั้งสองข้างของหล่อนไว้
“ผมขอคุณด้วยได้ไหมครับ” อิลฮัมบอกเสียงนุ่มนวล “คุยกันหลังจากที่คุณจัดการเรื่องอานัสกับอานีสก็ได้ครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ตอนเย็นฉันให้หลานอาบน้ำเองอยู่แล้วคะ ว่าแต่คุณมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันคะ”
อนัญญาเดินมานั่งบนโซฟาตัวเล็ก ส่วนอิลฮัมทรุดกายลงนั่งข้างฟาฎิล
“ฉันเองก็อยากคุยกับเธอเหมือนกัน เธอคุยกับอิลฮัมเสร็จ เราจะได้คุยกันต่อ” ฟาฎิลบอกอนัญญา
“ฉันไม่คุยกับคุณหรอก” อนัญญาเชิดหน้าใส่ ก่อนหันไปพูดกับอิลฮัม “ส่วนคุณจะคุยอะไรกับฉันคะ”
“ผมอยากรู้ว่า นิวถูกสามีตบตีบ่อยหรือครับ”
อิลฮัมรู้จากอนัญญาคร่าวๆ ว่า ผู้ชายที่ตบตีจรรยาชื่อคำรณ เป็นสามีของจรรยา ตอนแรกที่รู้ว่าจรรยามีสามีแล้ว อิลฮัมผิดหวังเล็กน้อยเพราะเขาเกิดถูกใจหล่อนขึ้นมา
“แต่งงานมาปีกว่าค่ะ สี่เดือนแรกก็ดีอยู่หรอก แต่ต่อจากนั้นลายก็เริ่มออกทั้งดื่มเหล้า เล่นการพนันติดหนี้สินหลายหมื่น มาเอาเงินกับนิวบ่อยๆ ไม่ได้ดั่งใจก็ทุบตี ด้วยความกลัวนิวก็ให้ไป หลังๆ มานี้มันหนักข้อขึ้นจนนิวทนไม่ไหวหนีมาอยู่บ้านแม่ มันก็ตามมาอาละวาดขู่ทำร้ายคนในบ้าน นิวก็ต้องยอมอีก ที่ยอมไม่ใช่เพราะรักมันหรอกนะ แต่กลัวมันจะทำตามคำขู่มากกว่า มันเหมือนหมาบ้ากัดไม่ปล่อย กัดไม่เลือกคนด้วย มีครั้งล่าสุดนี่แหละที่นิวไม่ยอมกลับ ฉันเลยให้มาอยู่บ้านด้วย มันมารังควานฉันจะได้จัดการมัน ที่ไหนได้ดันมาเจอนิวตอนกลับบ้านมันเลยลากนิวไปทำร้ายที่บ้าน” อนัญญาตอบไปแค้นใจคำรณไปด้วย หากคำรณทำตัวอย่างนี้ก่อนแต่งงานกับจรรยา รับรองได้ว่าไม่มีทางที่จรรยาจะร่วมหอด้วย “ยังกลัวว่า มันจะไปอาละวาดบ้านพ่อแม่นิวหรือเปล่า”
“น่าสงสารจัง” อิลฮัมได้ฟังแล้วสงสารจรรยาจับใจ
“ใช่ค่ะ นิวเป็นคนน่าสงสาร ตอนแรกๆ ที่โดนมันตบตี นิวไม่ปริปากบอกใครโดยเฉพาะพ่อกับแม่เพราะกลัวว่าพ่อแม่จะทุกข์ใจไปด้วย นิวต้องทำงานหนักขึ้นเพราะมันเอาเงินจากนิวบ่อยขึ้นและครั้งนึงก็เป็นหมื่น ไหนจะต้องดูแลทางบ้าน ส่งเสียให้มิวเรียนหนังสืออีก แต่นิวก็ต้องทน แต่หลังๆ มันหนักขึ้น ตบไม่พอมีเตะมีถีบ ตัวนิวช้ำไปหมด พ่อแม่เห็นรอยฟกช้ำตามคอและแขนก็เลยเคล้นถาม จนนิวต้องบอกความจริง พ่อแม่ก็บอกให้เลิก อย่างที่บอกไปนิวอยากเลิกแต่มันไม่ยอมเลิกนี่สิ ถ้ามันเลิกง่ายๆ ก็คงดี ชีวิตนิวคงมีความสุข ไม่ต้องทุกข์อย่างนี้” ยิ่งได้ฟังเรื่องราวของจรรยา อิลฮัมก็ยิ่งสงสาร ความอดทนของจรรยาสูงมาก อดทนเพื่อไม่ให้ครอบครัวตัวเองถูกทำร้าย เก็บความทุกข์ไว้ในใจจนถึงวันที่ปกปิดต่อไปไม่ไหว เขามีความคิดว่า อยากช่วยจรรยาให้หลุดพ้นจากคำรณแบบถาวร ไม่ใช่หนีและถูกตบตีเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
“เรื่องมัน ผมจะจัดการเอง รับรองว่ามันไม่มีทางมาทำร้ายนิวได้อีก”
“คุณจะทำอะไรมันคะ “ อนัญญาถามกลับ “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ คุณจะมายุ่งให้ตัวเองเดือดร้อนทำไมคะ”
หล่อนสงสัยในข้อนี้ไม่น้อย แค่อิลฮัมออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดของจรรยาก็มากพอแล้ว ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเป็นแสน
“เพราะผมทนไม่ได้ที่เห็นผู้หญิงถูกทำร้าย ทำให้ผมนึกถึงน้องสาวที่ถูกสามีทำร้ายจนช้ำในตาย ผมถึงได้ให้นิวพักดูอาการที่นี่ไงล่ะ ถ้าเป็นอะไรจะได้รักษาทัน เหตุผลแค่นี้พอไหมครับที่ผมอยากช่วยนิว” เหมือนปมในใจอิลฮัม เขายังจำสภาพน้องสาวถูกสามีทำร้ายได้ดี เป็นภาพที่เขาไม่มีวันลืม อิลฮัมจัดการกับสามีน้องสาวจนสะบักสะบอมหามเข้าโรงพยาบาล แต่ยังน้อยกว่าน้องสาวของเขาที่จากโลกนี้ไปในอีกสามวันต่อมา อิลฮัมไม่ปล่อยให้สามีจอมชั่วลอยนวล เขาจัดการให้มันหายสาบสูญไปจากโลกนี้โดยไม่มีใครสงสัย
“ฉันขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้ว่าคุณมีปมในใจ” อนัญญารู้สึกผิดขึ้นมาทันใด รีบกล่าวขอโทษอิลฮัม
“ไม่เป็นไรครับ เรื่องมันผ่านมาหลายปีแล้ว ผมทำใจได้แล้ว” อิลฮัมยิ้มบาง “เรื่องที่ฉันอยากรู้มีแค่นี้แหละ นายจะพูดอะไรกับคุณเปรี้ยวก็เชิญเลย”
“ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากคุยแล้ว ฉันง่วง” เสียงอนัญญาดังขึ้น หล่อนไม่พูดเปล่า แกล้งหาวเพื่อความสมจริง “ฉันไปนอนก่อนนะ นอนดึกไม่ดีเดี๋ยวตื่นมาไม่สวย ไปล่ะ”
อนัญญารีบเดินไปยังห้องรับรองทันที ไม่ใช่ว่ารีบไปนอนตามที่บอกสองหนุ่ม แต่เป็นเพราะหล่อนไม่ต้องการพูดคุยกับฟาฎิล เพราะรู้ดีว่ามีเรื่องเดียวที่เขาจะพูดกับตน เรื่องนั้นคือ การตรวจดีเอ็นเออานัสกับอานีส หล่อนยังไม่พร้อมคุยเรื่องนี้และไม่มีวันพร้อมด้วย
“สงสัยจะเลี่ยงพูดกับนาย” อิลฮัมพูดอย่างรู้ทันอนัญญา
“เลี่ยงให้ได้ตลอดล่ะกัน ถึงยังไงฉันก็ต้องพูดเรื่องนี้จนได้แหละ”
“ถ้าผลออกมาว่าอานัสกับอานีสเป็นลูกนายจริงๆ นายก็ต้องพาลูกกลับซาเมียร์ คุณเปรี้ยวคงไม่อยากเสียหลานไปน่ะ เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดย่อมรักและผูกพันกัน นายก็ต้องเข้าใจคุณเปรี้ยวด้วย ให้เวลาเธอสักหน่อยแล้วค่อยพูดเรื่องนี้ดีกว่านะ” อิลฮัมเสนอแนะ
“อืมก็ได้” ฟาฎิลเห็นด้วยตามคำแนะนำของเพื่อนรัก “กลับกันดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยใหม่”
ก่อนกลับอิลฮัมแวะเข้าไปในห้องที่จรรยานอนพักอยู่ เขายืนมองใบหน้าคนหลับใหลด้วยรอยยิ้มบางๆ เมื่อมองคนถูกทำร้ายร่างกายก็นึกถึงคนกระทำ อิลฮัมเกิดความแค้นขึ้นมาทันใด เขาเกลียดผู้ชายหน้าตัวเมียทำร้ายผู้หญิงที่สุด เหตุเกิดต่อหน้าต่อตาแบบนี้อิลฮัมไม่ปล่อยคำรณไว้แน่ เขาจะทำให้จรรยาหลุดพ้นจากสามีสุดชั่วแบบถาวร แต่อิลฮัมลืมคิดไปว่า เขาเองก็กำลังทำร้ายผู้หญิงอีกคนหนึ่งเช่นกัน