bc

โซ่เสน่หาชีคทมิฬ

book_age18+
334
ติดตาม
1.7K
อ่าน
เศรษฐี
จบสุข
หนีตอนตั้งครรภ์
แม่เลี้ยงเดี่ยว
ชายจีบหญิง
สาสมใจ
like
intro-logo
คำนิยม

“ปากเธอทั้งหวานทั้งหอมเลย” ฟาฎิลปล่อยปากสาวให้เป็นอิสระเพื่อให้อนัญญาได้หายใจ ทั้งที่ไม่อยากทำสักเท่าไหร่

“คอยดูนะ ถ้าฉันขึ้นไปจากสระได้เมื่อไหร่ ฉันจะชกหน้าคุณ จะชกเป็นร้อยทีเลย”

อนัญญาอยากทำตามปากว่าตอนนี้เลย แต่ก็ทำไม่ได้เพราะหล่อนอยู่ในน้ำ กลัวจมน้ำก็กลัว อยากอัดหมัดใส่หน้าฟาฎิลก็อยากทำ และที่สำคัญหญิงสาวเขินอายที่ถูกชีคหนุ่มขโมยจูบแรกไปแบบไม่ทันตั้งตัว พวงแก้มขึ้นเลือดฝาดส่งผลให้ใบหน้าหล่อนชวนมองมากขึ้น

“จูบหนึ่งครั้งถูกชกหนึ่งทีก็คุ้มนะ งั้นฉันต้องจูบเธอบ่อยๆ ซะแล้ว” ฟาฎิลพูดไปยิ้มไป

“จะบ้าเหรอ ฉันไม่ให้คุณจูบหรอก ถ้าคุณจูบฉันอีกล่ะก็ฉันจะชกหน้าคุณให้ดั้งหักเลยคอยดู” หล่อนขู่ “แล้วก็จะกัดลิ้นคุณให้ขาดด้วย”

“เธอไม่มีวันได้กัดลิ้นฉันหรอก” อนัญญาใจชื้นเพราะคิดว่าเขากลัวคำขู่ตน ทว่าคำพูดประโยคต่อมา ทำให้หล่อนถึงกับตกใจ “เพราะครั้งหน้าฉันจะจูบเธอแบบไม่สอดลิ้น”

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
1
1 จดหมายในมือชีคฟาฎิล อิสบาฮิม ราซิม สุไลลาถูกคลี่ออก จดหมายฉบับนี้ส่งมาจากประเทศไทย ผู้ส่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษระบุชื่อ อภิญญา อินทร์กรรชัย เขาทวนความจำกับบุคคลชื่อนี้ กว่าจะนึกชื่อนี้ได้ก็ใช้เวลาพอสมควรเพราะมันผ่านมากว่าเจ็ดปีแล้ว 7 ปีที่ไม่ได้ติดต่อกับเจ้าของจดหมายฉบับนี้ อภิญญาคือคู่นอนของเขาพักหนึ่ง พักหนึ่งที่ว่าก็ร่วมสองเดือน ตอนนั้นเขาไปเมืองไทยเพื่อติดต่อเรื่องธุรกิจและพักผ่อน อภิญญาเป็นพนักงานทำความสะอาดภายในโรงแรมที่เขาพักอาศัย เจอกันครั้งแรกต่างถูกใจซึ่งกันและกัน สุดท้ายก็จบลงที่เตียง ชีคฟาฎิลตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา และสถานที่แห่งนั้นคือรังเสน่หาระหว่างเขากับอภิญญา จนกระทั่งเขากลับประเทศซาเมียร์ก็ไม่ได้ติดต่อกับอภิญญาอีกเลยชีคหนุ่มจำได้ว่าก่อนกลับได้ให้เงินอภิญญาสามแสนบาทก็ไม่น่ามีเรื่องติดค้างกัน อีกทั้งยังตกลงกันไว้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีการผูกมัดทุกอย่างจบเมื่อเขาบอกให้จบ ซึ่งหล่อนก็ยอมรับในข้อตกลงนี้ แล้วทำไมจดหมายฉบับนี้ถึงมาอยู่ในมือตนได้ ด้วยความอยากรู้ฟาฎิลเปิดจดหมายเพื่ออ่านข้อความในนั้น ฟาฎิลคะ คุณคงจำฉันไม่ได้ คุณเรียกฉันว่า ซาเรีย ฉันมีความลับเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้บอกคุณ ครึ่งเดือนก่อนคุณกลับซาเมียร์ ฉันแอบใช้เข็มเจาะถุงยางอนามัยเพราะฉันอยากมีลูกกับคุณ ฉันรักคุณแต่รู้ดีว่า คุณไม่รักฉันและไม่ต้องการมีพันธะ พอคุณกลับซาเมียร์ได้เกือบเดือนฉันก็ตั้งท้อง ลูกในท้องของฉันคือลูกของคุณ เขาเป็นเด็กฝาแฝดหน้าตาเหมือนคุณไม่มีผิด ลูกของเราชื่ออานัสและอานีส ตอนนี้อายุหกขวบกว่าแล้วค่ะ ที่ฉันเขียนจดหมายมาบอกคุณเพราะฉันกำลังจะตายด้วยโรงมะเร็ง ฉันไม่แน่ใจว่า วันที่คุณได้รับจดหมายฉันยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ฉันไม่อยากทิ้งภาระให้พี่สาวของฉัน พี่สาวฉันลำบากเพราะฉันกับลูกมามากแล้ว เธอทั้งเหนื่อยและทุกข์ใจทุกวันเพราะต้องหาเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาลฉันและเลี้ยงลูกของเรา ฉันจึงอยากให้คุณมารับลูกของเราไปอยู่ด้วย คุณอาจไม่เชื่อเรื่องที่ฉันบอก แต่ทางการแพทย์สามารถยืนยันได้ คุณพาอานัสและอานีสไปตรวจดีเอ็นเอได้ค่ะ ฉันมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่า อานัสกับอานีสเป็นลูกของคุณ ภาพถ่ายสองแฝดฉันส่งมาพร้อมกับจดหมาย หน้าตาเหมือนคุณไม่มีผิดค่ะ ฉันเขียนที่อยู่ไว้ให้ด้วยนะคะ คุณจะได้ไปรับลูกของเราได้ถูกที่ ท้ายนี้ฉันดีใจที่ได้พบคุณ ดีใจที่เรามีความสุขร่วมกันในระยะเวลาสั้นๆ เป็นความสุขและความทรงจำที่ฉันไม่เคยลืม และขอโทษที่สร้างภาระให้กับคุณ คุณไม่รักฉันไม่เป็นไรค่ะ ขอให้คุณรักลูกของเราบ้างแค่เพียงเสี้ยวใจก็ยังดี รักคุณเสมอ ซาเรีย มือฟาฎิลสั่นไปหมด หัวใจเขาก็สั่นตามไปด้วย รู้สึกมึนไปชั่วขณะไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับตน ใครจะไปคิดว่าอภิญญา ผู้หญิงนิสัยเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เขาเคยรู้จักมาจะทำเช่นนี้ ทว่าใจหนึ่งก็ไม่คิดว่าคือเรื่องจริง ฟาฎิลวางจดหมายลงบนโต๊ะ หยิบภาพถ่ายออกมาจากซองจดหมาย หัวใจเขาเต้นแรงอีกครั้งเมื่อได้เห็นหน้าเด็กผู้ชายสองฝาแฝด ใบหน้าตาเหมือนเขาในวัยเดียวกันไม่มีผิด ฟาฎิลเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า ความคิดที่ว่าไม่ใช่เรื่องจริง อาจเป็นจริงก็ได้ ทางเดียวที่จะพิสูจน์ว่าเด็กชายอานัสและอานีสเป็นลูกเขาหรือไม่ คงต้องตรวจดีเอ็นเอตามที่อภิญญาบอกในจดหมาย “ไหน ไหน ลูกหลานใครมาว่าหลานฉันว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ” เสียงชวนหาเรื่องเต็มที่ของอนัญญาดังขึ้น เจ้าตัวยืนเท้าเอวมองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าผู้ใหญ่ อายุรวมๆ กันแล้วเกือบสี่ร้อยปีเรียงคน โต๊ะม้าหินใกล้ๆ มีสาววัยเดียวกับหล่อนนั่งดื่มกาแฟเย็นนั่งอยู่ โดยมีเด็กชายกลุ่มหนึ่งนั่งเล่นอยู่ด้วย ทั้งหมดนั่งอยู่หน้าร้านอาหารตามสั่งประจำซอย “ใครว่าหลานฉันแสดงตัวออกมาซะดีๆ อย่าให้โมโหนะ” เป็นการเตือนครั้งที่หนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีใครยอมรับ “เตือนครั้งที่สองนะ ถ้าไม่แสดงตัวออกมา ที่นี่แหลกแน่” เตือนครั้งนี้เด็กชายรูปร่างอ้วนสุดที่นั่งตรงโต๊ะม้าหินลุกขึ้นมายืนหลบอยู่ด้านหลังวาสนาหรือนาที่นั่งดื่มกาแฟเย็นที่ไม่ได้ช่วยให้จิตใจหล่อนเย็นเลย กลับร้อนๆ หนาวๆ ด้วยซ้ำไป “ไอ้นนท์ แกว่าหลานฉันใช่ไหม” อนัญญาเรียกชื่อเด็กชายเจ้าเนื้อเสียงดังลั่น เจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้งเกาะแขนน้าสาวแน่น “เด็กมันก็คงพูดหยอกกันน่ะเปรี้ยว แกก็อย่าถือสาเด็กมันเลยนะ” วาสนาน้าสาวของนนท์พูดเสียงสั่น รู้สึกแหยๆ กับท่าทางของอนัญญาที่พร้อมตบเต็มที่ “นั่นสิ เอ็งก็อย่าโกรธเป็นฝืนเป็นไฟไปหน่อยเลย เด็กมันพูดไม่คิด พูดตามความจริง” คนพูดคือป้าอิ่ม แม่ของวาสนาและเป็นยายของนนท์ “ความจริงอะไรป้า ฉันถามป้าข้อนึงว่า ใครในโลกนี้เกิดมาโดยไม่มีพ่อบ้าง ไม่ใช่ปลากัดนะที่มองตากันแล้วจะท้องน่ะ ขนาดทำเด็กหลอดแก้ว ทำกิฟฟ์ยังต้องมีเชื้อของคนเป็นพ่อเลยไม่งั้นลูกจะเกิดมาได้ไง” อนัญญาพูดด้วยความไม่พอใจ มองหน้าเอาเรื่อง “อย่ามาแถแทนหลานตัวเองเลย หัดสั่งสอนหลานตัวเองบ้างนะ ถ้าฉันได้ยินอีกครั้งว่า หลานของป้าพูดแบบนี้กับหลานของฉันอีกล่ะก็ แม่จะเอาไม้เผ่นกบาลให้แตกเลยคอยดู” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อนัญญามาอาระวาดผู้ปกครองเด็กในละแวกบ้าน แต่ก็ยังมีเด็กปากไม่ดีพูดล้อเลียนอานัสและอานีส หลานชายฝาแฝดสุดที่รักของหล่อนว่า ‘ไอ้ลูกไม่มีพ่อ’ คนเป็นป้าถึงกับเลือดขึ้นหน้า ไปจัดการเด็กที่พูดประโยคนี้ จนไม่มีใครพูดซ้ำสอง

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook