ตอนที่ 4
บนโต๊ะอาหารตัวเก่าเพราะการใช้งานหนักมาหลายปี วันนี้เป็นการรวมตัวของครอบครัวเนตรวรากุล อาจเป็นเพราะปกติแล้วสิมิลันต้องรีบออกไปทำงานตั้งแต่เช้ามืด จนไม่มีโอกาสได้ร่วมรับประทานอาหารกับทุกคน โซดากอดลำคอระหงไว้แนบแน่น ซุกหน้ากับทรวงอกอวบและหลบสายตาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อของขวัญชนก
มือเรียวยกขึ้นลูบผมบนศีรษะทุได้รูป ให้กำลังเด็กน้อยที่นั่งลีบแบนอยู่บนตัก สองมือเล็กเย็นจับมือเรียวไว้แน่น ไม่ยอมแม้จะเงยหน้ามองทุกๆ คนที่นั่งล้อมวงกันอยู่
“ไม่เป็นไรค่ะโซดาคนเก่ง พี่ขวัญเขาไม่ได้ทำอะไรหนูสักหน่อย ไม่ต้องกลัวนะคะลูก” หญิงสาวเอ่ยปากปลอบลูกสาวตัวน้อย แต่สายตากลับมองไปที่ขวัญชนกอย่างกำราบ พร้อมกำชับให้พูดจากับโซดาอย่างอ่อนหวานอ่อนโยนบ้าง
คุณพรทิพย์ได้แต่นั่งมองลูกเลี้ยงกับลูกแท้ๆ ถกเถียงกัน ในขณะที่สิมิลันนั่งยิ้มหวานไม่ทุกข์ไม่ร้อนในสิ่งที่ได้ยิน แต่ขวัญชนกกลับมีสีหน้าดำคร่ำเครียด ดวงตากลมโตเบิกกว้างและแดงก่ำ
“จ้า จ้า พี่ลันต้องการให้หนูทำอะไรก็บอกมาเลย ไม่ต้องมาใช้สายตาแบบนั้นหรอก ทำอย่างกับว่าหนูจะกลัวจนหัวหดหรือไงกัน” ขวัญชนกถลึงตาใส่โซดาที่แอบเงยหน้าขึ้นมามองนิดหนึ่งอย่างได้ใจ ใบหน้าสวยบูดและบึ้งตึงใจเต้นแรงเร็วเหมือนกับลังถูกบีบคั้นอย่างแรง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ได้แต่เก็บความโกรธแค้นเคียดแค้นชิงชัง รอการชำระไว้ในใจเพียงอย่างเดียวเท่านั้นเอง
“พี่แค่ต้องการให้เธอพูดและแสดงท่าทางกริยามารยากับโซดาอย่างที่เธอทำกับคนอื่นบ้าง ไม่ตวาดและขึ้นเสียง ห้ามทำร้ายหรืออะไรก็ตามที่ทำให้ลูกของพี่ตกใจและหวาดกลัว” สิมิลันพูดน้ำเสียงหวานนุ่มแต่เด็ดขาด ใบหน้าเรียวรูปไข่ก้มลงมอบรอยยิ้มหวานๆ ให้โซดาที่เงยหน้าขึ้นมองอย่างรู้ความ
“ใช่ไหมค่ะคนเก่ง”
ขวัญชนกยักไหล่อย่างไม่สนใจ มือตักข้าวต้มในถ้วยใบเล็กทานหน้าตาเรียบเฉย มีเพียงดวงตาที่แดงจัดขึ้นมาแว่บหนึ่งด้วยความโกรธและแค้นเคือง อีกทั้งยังปรายสายตามองหน้าผู้เป็นแม่ที่นั่งนิ่งเฉยปล่อยให้พี่สาวนอกไส้สั่งความต่อไปอย่างไม่ห้ามปราม ใบหน้าอวบท้วมตวัดสายตามองสิมิลันนิดหนึ่ง ก่อนตักข้าวต้มกุ้งทานสีหน้าเป็นปกติ
“พี่รู้ว่าเธอไม่พอใจคำขอของพี่ แต่ถ้าเธอไม่ทำตาม พี่ก็ไม่ว่าอะไรนะขวัญ แต่พี่คงจะต้องคิดหนักสักหน่อยเวลาที่เธอขอเงินไปเที่ยว พี่คงทำได้เพียงแค่....” ขวัญชนกเงยหน้าขึ้นมองพี่สาวอย่างเต็มตาเผื่อแผ่สายตาไม่ชอบใจไปให้โซดาด้วย “ไม่ให้เธอไปเที่ยวกับพี่ และก็ไม่ให้เงินเธอใช้เท่านั้นเอง”
เพล๊ง!
ขวัญชนกวางช้อนในมืออย่างแรง “พี่ลันทำแบบนี้ไม่ได้นะ พี่ก็รู้ว่าหนูยังไม่มีงานทำ ถ้าพี่ไม่ให้เงินแล้วหนูจะทำไงล่ะ จะเอาเงินที่ไหนใช้จ่าย พี่ทำอย่างนี้เท่ากับบังคับกันนี่” ขวัญชนกหน้าแดงก่ำตาวาวโรจน์ขึ้นอย่างน่ากลัว ริมฝีปากเม้มเข้าหากัน ตาจ้องตาพี่สาวอย่างไม่ยอมแพ้ ก่อนจะตวัดสายตาโกรธเกรี้ยวโกรธแค้นไปให้โซดา
คอยดูนะนังโซดา กูเอามึงตายแน่อีเด็กเปรต เพราะมึง...เพราะมึงคนเดียวนังโซดา นังตัวมาร
“จะตัดสินใจยังไงมันก็แล้วแต่เธอนะขวัญว่า พี่ก็ไม่คิดจะสนใจ” สิมิลันพูดเสียงเรียบเฉย มือยังป้อนข้าวต้มกุ้งในจานให้โซดาอย่างใจเย็น ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มหวานเชื่อม มีแต่ดวงตาเท่านั้นที่เปล่งประกายแข็งกร้าวขึ้น กาลเวลาได้ทำให้สาวน้อยอ่อนแอคนหนึ่งแปลเปลี่ยนเป็นเข้มแข็ง แม้ดูภายนอกจะโอนอ่อนผ่อนตาม แต่ภายในซุกซ่อนความแข็งแกร่งประดุจเหล็กกล้าที่ต้องโดนเผาด้วยไฟเท่านั้นถึงจะจัดเปลี่ยนรูปได้
“ก็ได้ ก็ได้ ยังไงหนูก็ต้องทำตามคำสั่งพี่อยู่แล้วนี่ คนไม่มีงานไม่มีเงินจะไปขัดขืนอะไรได้ล่ะ” ขวัญชนกกัดฟันพูด “โว้ย!! ไม่กงไม่กินมันแล้วเสียอารมณ์ชะมัด คนจะกินข้าวดันพูดเรื่องไร้สาระอะไรก็ไม่รู้ กินไม่ลง!” ใบหน้าแดงเป็นไฟผุดลุกจากเก้าอี้สองมือเท้าโต๊ะ หันหลังเดินออกไปในทันที
“นั่นเธอจะไปไหนขวัญ นั่งลงก่อนซิ พี่ยังพูดกับเธอไม่จบเลย”
ขวัญชนกหยุดชะงักทำเสียงจิ๊กจั๊กในลำคอ ก่อนจะหันหลังกลับเมื่อได้ยินน้ำเสียงเยียบเย็นราวกับน้ำแข็งดังจากด้านหลังอีกครั้ง
“เธอจะทำนิสัยอย่างนี้ใส่คุณป้าพี่ไม่ว่านะขวัญ แต่อย่ามาทำใส่พี่แบบนี้ พี่ไม่ชอบ” ปากสั่งสอนขวัญชนก มือป้อนข้าวต้มให้โซดาอย่างไม่สนใจจะมองหน้าสวยแต่บึ้งตึงของผู้เป็นน้องคนล่ะแม่
“พอเถอะหนูลัน ถือว่าป้าขอล่ะกันนะ ยังไงก็สงสารยายขวัญมันบ้าง มันเคยเป็นที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงร่าเริง แจ่มใสแต่ตอนนี้ต้องกลายมาเป็นเด็กสาวขี้โรค สามวันดีสี่วันไข้ต้องอยู่กับบ้านวันๆ ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหนน้องมันคงเบื่อนะ เลยระบายกับยายโซดาบ้าง” คุณพรทิพย์เอ่ยปากปกป้องผู้เป็นลูก จนลืมคิดไปว่าเด็กหญิงตัวน้อยที่ถูกระบายอารมณ์ใส่นั้นก็คือหลานคนหนึ่งเหมือนกัน
สิมิลันปรายตาสีดำสนิทจ้องคุณพรทิพย์อย่างไม่พอใจที่เห็นแม่เลี้ยงเข้าข้างลูกสาวอย่างผิดๆ “ถ้ามีใครทำกับขวัญอย่างที่ขวัญทำกับโซดาบ้าง คุณป้าจะทนอยู่เฉยๆ ได้หรือคะ”
คุณพรทิพย์หน้าจ๋อยกับคำพูดโต้ตอบของลูกเลี้ยงสาวที่นานๆ ถึงจะเอ่ยปากพูดสักครั้ง แล้วนางก็ต้องให้ความเกรงใจ เพราะหญิงสาวเป็นคนทำงานหาเลี้ยงครอบครัว
สิมิลันทำสีหน้าเบื่อหน่าย ทุกครั้งที่เธอเริ่มต้นอบรมสั่งสองขวัญชนก คุณพรทิพย์จะต้องยกเรื่องสุขภาพมาอ้างเป็นประจำ จนเธอเองนั้นแหละที่ต้องยอมแพ้ปล่อยให้หน้าที่อบรมสั่งสอนขวัญชนกกลายเป็นของคุณพรทิพย์ ที่ไม่เคยเอาผู้เป็นลูกอยู่สักครั้ง
“แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าป้ายอมรับได้ หนูยอมก็ได้เหมือนกัน แต่เรื่องที่หนูขอ หนูก็หวังว่าขวัญคงจะทำให้เหมือนกัน เพราะไม่เช่นนั้นหนูคงจะ...”
“ค้า...หนูเข้าใจแล้วค้า หนูจะทำตามที่พี่ลันขอแล้วกัน” ขวัญชนกตัดบท ก่อนที่จะโดนสิมิลันจะหาเรื่องลงโทษมากไปกว่าการตัดเงินค่าใช้จ่ายประจำวัน
“พี่ลันมีอะไรกับหนูอีกหรือเปล่าละคะ หนูจะได้ไปนอนต่อ” ขวัญชนกใช้นิ้วชี้ม้วนผมยาวๆ อย่างไม่รู้จะทำอะไรดีระหว่างรอคำตอบจากพี่สาว
“ป้าคะหนูอยากจะถามป้าว่าป้าอยากไปเที่ยวที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า” สิมิลันถามยื่นเอกสารการท่องเที่ยวที่หาได้ให้ผู้เป็นป้าดู
“ป้ายังไงก็ได้ แล้วแต่หนูลันเถอะ” คุณพรทิพย์โยนให้ไปสิมิลันตัดสินใจ เพราะถึงเลือกไปที่ไหนถ้าไม่มีความเห็นชอบหรือยินยอมจากสิมิลันก็ไปไม่ได้อยู่ดี สู้ให้คนที่ออกเงินเป็นคนตัดสินใจเองดีที่สุด
“เธอล่ะยายขวัญอยากไปที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า” สิมิลันหันไปถามผู้เป็นน้องที่นั่งหูผึ่ง ตาโต ยิ้มปากกว้างจนช้างแทบจะเดินเข้าไปขุดคุ้ยหาอาหารที่อยู่ภายในได้
“จริงหรือพี่ลัน พี่ลันจะให้หนูเลือกได้ด้วยเหรอ” ขวัญชนกถามผู้เป็นพี่อย่างดีอกดีใจ ลุ้นว่าที่เธอเลือกจะไปพี่สาวจะตัดสินใจพาเธอไปหรือไม่