เช้าวันต่อมา
"ทำไมถึงโทรหาไม่ติดนะ" หญิงสาวเดินวนไปวนมาอยู่หน้าบ้านบริเวณสวนดอกไม้ที่เธอเป็นคนปลูกเอาไว้ เธอพยายามติดต่อหาใครบางคนแต่ไม่ว่าจะติดต่อเท่าไหร่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ หรือว่าฝ่ายนั้นจะไม่ว่าง พอคิดได้แบบนั้นเธอก็หยุดกดโทรแล้วกลับมานั่งลงที่เดิม หญิงสาวทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ใต้ต้นไม้ เอาไว้สำหรับนั่งจิบชา ชมนกชมไม้เวลาว่าง
ครืน ครืน
ขณะนั้นเอง.. มือถือที่วางอยู่ก็มีเสียงเรียกเข้า แต่คนที่โทรเข้ามาดันไม่ใช่คนที่เธอโทรหาก่อนหน้านั้น แต่เป็นดินแดน
ติ๊ด!
"ค่ะพี่ดินแดน"
(อยู่ไหน พี่จะถึงหน้าบ้านแล้ว)
"อ้าวพี่ดินแดนกลับมาแล้วเหรอ" เธอนึกว่าเขายังไม่กลับมาจากเที่ยวเสียอีก
(ใช่)
"เดี๋ยวเมย์ออกไปรับ" หญิงสาวดันตัวลุกขึ้นเดินไปรอชายหนุ่มที่หน้าบ้าน ระหว่างที่รอเธอก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ บริเวณบ้านตัวเอง ก่อนไปสะดุดรถคันหนึ่งซึ่งจอดอยู่ไม่ไกล เธอรู้สึกคุ้นรถคันนั้นอย่างบอกไม่ถูก แต่มันนึกไม่ออกว่าเคยเจอที่ไหน
"ไม่มีอะไรหรอกมั้ง" ก่อนจะเบือนสายตาไปมองทางอื่น คงเป็นรถของใครสักคนที่อยู่ในหมู่บ้านนี้แหละ หมู่บ้านเธอค่อนข้างเป็นคนส่วนตัว คนนอกเข้ายากอยู่แล้ว
ไม่นานก็เห็นรถของดินแดนขับเข้ามาในซอยบ้านตัวเอง หญิงสาวโบกไม้โบกมือเพื่อเป็นการทักทายก่อนที่รถยนต์รุ่นธรรมดาจะขับมาจอดตรงหน้าเธอ พร้อมกับกระจกรถถูกกดลดลง เผยให้เห็นใบหน้าชายหนุ่มเจ้าของรถ เมทัลรีบเปิดประตูบ้านให้ดินแดนขับเข้าไปจอดด้านใน
"ทำไมวันนี้มาได้ล่ะคะ" หญิงสาวถามเมื่ออีกคนลงมาจากรถ บ้านเธอกับดินแดนอยู่ห่างกันพอสมควร ใช่ว่าเธอกับเขาจะเจอกันบ่อย นานครั้งถึงจะนัดเจอกันที สงสัยดินแดนจะมาทำงานแถวนี้ถึงได้แวะมาหาเธอได้
"มาส่งเพื่อนน่ะ" นั่นไงว่าละ
"เพื่อนหรือสาวเอาดี ๆ" จะว่าไป ตั้งแต่รู้จักกันยังไม่เคยเห็นดินแดนคุยกับผู้หญิงคนไหนเลย หรือว่าเขาไม่ชอบผู้หญิง คนตัวเล็กหรี่ตามองอย่างจับผิด ก่อนที่ดินแดนจะเลื่อนนิ้วมาดีดลงหน้าผากมนเบา ๆ
เป๊าะ
"อ๊ะ เมย์เจ็บนะ" พลางทำหน้ายู่ใส่ ความจริงมันไม่เจ็บเลยสักนิด
"พูดเหมือนพี่มีแฟน" เขาสนใจใครที่ไหนล่ะ เบื่อชีวิตที่มีพันธะ
"เข้าบ้านกันเถอะค่ะ"
"ให้กูขับเข้าบ้านไหม" เพลิงกัลป์ปลายตามองไอ้ฟลินต์เล็กน้อย มันนี่ขยันจี้ปมจังเลยนะ อุตส่าห์ไม่คิดอะไรแล้ว ยังเสือกมาจอดหน้าบ้านเธอจนได้ ไอ้เพื่อนเวร
"ไปเถอะกูหิวข้าว" ทั้งที่กลืนแทบจะไม่ลง แต่เขาก็เลือกพูดไปแบบนั้น ในเมื่อเธอเองก็ดูมีความสุขกับชีวิตในตอนนี้ แล้วทำไมตัวเองยังเอาแต่เศร้าอยู่ล่ะ เขาเองก็ควรมีความสุขแล้วไม่ใช่เหรอ แม้ว่ายังมีคำถามอีกมากมายที่อยากรู้คำตอบ แต่ดูแล้วมันคงไม่จำเป็นแล้วล่ะ
"กูให้โอกาสพูดใหม่อีกที"
"กูอยากนอน"
"แต่กูหิว"
"แล้วมึงจะให้กูพูดทำเหี้บอะไรไอ้ฟลินต์"
"เห็นมึงด่าได้กูก็ดีใจ แต่อย่าคิดว่ากูจะยอม ไอ้สันขวาน"
"มึงนี่มันเป็นเพื่อนที่ระยำจริง ๆ"
"ผีเห็นผีจ่ะน้อง"
"น้องกับพ่อมึงสิ"
"มึงด่าพ่อกู?"
"กูด่าแม่มึงมั้ง"
"นี่มึงด่าแม่กูเหรอ"
"ไอ้สัสฟลินต์!" ภายในรถเกิดสงครามขนาดย่อมขึ้น หลังจากที่ทะเลาะกันเสร็จ ฟลินต์ก็เคลื่อนรถออกจากหน้าบ้านหญิงสาวตรงไปยังโรงแรมที่จองเอาไว้
“คืนนี้เจอกัน” ผมพยักหน้าให้ไอ้ฟลินต์แล้วปิดประตูใส่หน้ามัน รำคาญไอ้เวรนี่ มันบอกจะพาผมมาเที่ยวให้ลืมเธอ เสือกพาไปจอดรถนั่งดูเขามีความสุขกับผู้ชายคนอื่นถึงหน้าบ้าน ระยำมากไอ้เวรเอ๊ย
หลังจากที่ไล่มันไปแล้ว ผมก็เดินมาทิ้งตัวนอนบนเตียง เหนื่อยชะมัด ในขณะที่นอนเล่นเพลิน ๆ ผมก็นึกขึ้นว่าตัวเองยังไม่ได้โทรหาเลขา
“ครับคุณนิชา” ก่อนหน้านั้นคุณนิชาโทรมาแต่ผมไม่ได้รับ
(ชาแค่จะโทรบอกบอสเรื่องโบนัสพนักงานค่ะ)
“เรื่องนั้นคุณนิชาจัดการได้เลยครับ เรื่องงานเลี้ยงขาดเกินเท่าไหร่ค่อยมาบอกผม” เพราะตัวผมน่าจะไม่ได้เข้าไป คุณนิชาเป็นเลขาที่ทำงานตั้งแต่บริษัทเริ่มก่อตั้ง ตอนนั้นเธอเป็นแค่พนักงานทั่วไป กระทั่งย่าผมไปเจอเธอเข้า ท่านชอบการทำงานของคุณนิชามาก เลยขอเลื่อนตำแหน่งให้เข้ามาเป็นเลขาตัวเอง ตั้งแต่นั้นมาคุณนิชาก็ทำงานช่วยย่าผมจนท่านเสีย แต่คุณนิชายังคงอยู่ช่วยองค์กรเหมือนเดิม ต้องบอกว่าเป็นคนที่ผมสามารถฝากบริษัทไว้ได้เลย
(บอสไม่เข้ามาเหรอคะ)
“ผมมาทำธุระที่พัทยา อาจกลับไปไม่ทันครับ”
(ได้ค่ะ ชาจะคอยรายงานบอสก็แล้วกันนะคะ)
“ครับผม”
(ถ้าอย่างนั้นชาขอตัวก่อนค่ะ)
ติ๊ด!
“ไปนอนสักงีบดีกว่า” ตอนเย็นมีนัดกับไอ้ฟลินต์อีก ถ้าไม่ไปกับมันเดี๋ยวแม่งตามมาลากอยู่ดี ผมขอตัวไปนอนดูการ์ตูนก่อนนะทุกคน
“....” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันเป็นปมในขณะที่กำลังไล่อ่านคอมเมนต์ของนักอ่าน
“เฮ้ออ” ก่อนจะมีเสียงถอนหายใจดังตามมา
พักหลังมานี้เธอทำงานได้ไม่ดีเสียเลย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มันคิดแต่เรื่องเดิม ๆ จนไม่เป็นอันทำอะไร สมองก็เอาแต่นึกคิดว่าเขาเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม กินข้าวบ้างหรือเปล่า ยาล่ะมีคนเอาให้กินไหม เวลาร้องไห้จะมีคนปลอบไหม หลาย ๆ อย่างที่เธอเอาแต่นึกคิดจนทำให้งานที่ทำอยู่ออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร คอมเมนต์นักอ่านที่รู้สึกผิดหวังในตัวเธอ มันทำให้เธอรู้สึกเสียใจ เสียใจที่ทำให้นักอ่านผิดหวัง
“ฮึก~ เหนื่อยจัง” บางทีการเป็นเธอมันก็ไม่ง่ายเลยสักนิด อยากลองหายไปเหมือนกัน ทุกอย่างมันอาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้ มันบีบให้เธอต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากทำ
“ฮื่ออ” เมทัลนั่งกอดเข่าร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้นตันใจอยู่มุมหนึ่งของห้อง ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่เธอเอาแต่ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบใบหน้าอยู่อย่างนั้น กระทั่งเสียงประตูห้องดังขึ้น
ก๊อก ก๊อก
"อึก~" เมทัลรีบเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าลวก ๆ พร้อมกับปรับเสียงให้เป็นปกติ ก่อนจะถามคนด้านนอก
"ใครคะ"
"แด๊ดเองเมทัล" พอรู้ว่าป็นพ่อตัวเอง หญิงสาวก็ดันตัวลุกขึ้นไปเปิดประตูให้ทันที
แกร็ก!
แอด
"ยูร้องไห้เหรอ"
"^^"
"แด๊ดจะไปสนามยิงปืน ไปด้วยกันไหม"
"เมย์อยากพัก.."
"อยากกอดไหม?" ผู้เป็นพ่ออ้าแขนรอรับกอดจากลูกสาว เทเลอร์รู้ว่าลูกสาวมีเรื่องเครียดอยู่ในใจ เลือกจะไม่ถามว่าเรื่องอะไร แต่จะใช้วิธีปลอบประโลมให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลายมากที่สุด เรื่องบางเรื่องมันก็ยากจะพูดกับใคร หากลูกสาวของเขาพร้อมจะพูดมัน ถึงเวลาเธอคงเดินมาบอกเองนั่นแหละ ตอนนี้เธออาจยังไม่พร้อม ฉะนั้นเราก็ควรให้กำลังใจเธอ และอยู่ข้าง ๆ เธอแบบนี้ดีกว่า
"เมย์เหนื่อยจังเลยแด๊ด"
"แด๊ดอยากรู้เหตุผล" ทั้งที่ลูกสาวของเขาไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับแฟนหนุ่มเลยสักครั้ง ทั้งคู่รักและดูแลกันเป็นอย่างดี แต่แล้ววันหนึ่งเป็นลูกสาวของเขาเองที่เดินเข้ามาบอก บอกว่าตนนั้นเลิกกับแฟนแล้ว วินาทีที่ได้ยิน คนเป็นพ่อแม่ก็ตกใจอยู่ไม่น้อย ทั้งคู่คบกันตั้งแต่สมัยเรียน ฝ่าฟันอุปสรรคมากมายมาด้วยกัน ส่วนเหตุผลที่ทั้งคู่เลิกกัน เขาซึ่งเป็นพ่อก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากถาม แต่รู้ว่าลูกเองก็ลำบากใจที่จะพูดมันออกมา ยังไงเสีย พ่อแม่คนนี้จะอยู่ให้กำลังใจลูกสาวคนเก่งเอง
"...."
"ไปหาพี่เขากับแด๊ดไหม"