ซึมเศร้า

2156 คำ
"ไอ้เพลิงล่ะครับป้าสวย" ชายหนุ่มใบหน้าเรียบนิ่งลงจากรถเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ เจอกับแม่บ้านเก่าแก่ นั่นก็คือป้าสวยซึ่งท่านเพิ่งออกมาจากห้องครัวพอดี เขาจึงถามหาเพื่อนสนิทของตน ดูเหมือนว่าป้าสวยเองก็กำลังจะออกไปดูว่าใครมาเหมือนกันสินะ "บนห้องค่ะ" เมื่อเช้าก็ไม่ยอมลงมาทานอาหารเช้า บอกว่าต้องการอยู่คนเดียว หญิงชราอดสงสารเพลิงกัลป์ไม่ได้ ไม่รู้จะช่วยยังไง ทำได้แค่ให้กำลังใจอยู่ห่าง ๆ "ผมขอตัวไปหามันก่อนนะครับ" เมื่อรู้ว่าเพื่อนอยู่ไหน เขาก็ขอตัวไปหาเพื่อนทันที "ค่ะ" พยักหน้าตอบ ฟลินต์ เลี่ยงไปยังทางบันไดเพื่อขึ้นไปชั้นสอง เท้าหนักก้าวไปทีละขั้น จนถึงชั้นบนสุด เขาเดินไปหยุดที่หน้าบานประตูห้องหนึ่ง มือหนาเลื่อนขึ้นไปกดรหัสผ่านเข้าห้องพร้อมกับจับลูกบิดก่อนจะหมุนแล้วเปิดประตูเข้าไปยังด้านในอย่างถือวิสาสะ แอ๊ด "ไอ้ลูกหมา" สรรพนามที่มักใช้เรียกเพื่อนเป็นประจำเวลาอยู่ด้วยกันสองคน ฟลินต์ขยับสายตามองไปทั่วห้อง กลับไร้เงาของเพื่อนตัวเอง ไปไหน? "ไปไหนของมันวะ" เขาตัดสินใจเดินไปดูทางห้องน้ำ เมื่อใกล้จะถึงประตูห้องน้ำ เท้าที่กำลังก้าวก็เหยียบเข้ากับอะไรบางอย่าง ฟลินต์ก้มมองที่พื้นทันที คิ้วเข็มขมวดเข้าหากันเป็นปม "น้ำ?" น้ำมาจากไหน เดี๋ยวนะ? ดวงตาคมมองตามเส้นทางน้ำไหลออกมา กระทั่ง.. "ไอ้เพลิงกัลป์!" ฟลินต์วิ่งไปหยุดหน้าประตูห้องน้ำพลางตะโกนเรียกเพื่อนเสียงสั่น ความรู้สึกของเขาตอนนี้มันหวาดกลัวไปหมด กลัวว่าเพื่อนจะกลับไปทำเหมือนเดิม ปัง ๆ (เสียงทุบประตู) “ไอ้เพลิงเปิดประตูสิวะ!” ฟลินต์พยายามตะโกนเรียกเพื่อนอยู่ด้านนอกแต่ไม่ว่าจะเรียกเท่าไหร่ก็ไร้เสียงตอบกลับจากอีกคน ปึงปัง ๆ ตุ๊บ! ตุ๊บ! ทำไมมันถึงไม่รักตัวเองบ้าง ในขณะที่เขากำลังทุบประตูเพื่อจะพังเข้าไป แม่บ้านก็วิ่งหน้าตื่นขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยถาม "เกิดอะไรขึ้นคะคุณฟลินต์" "ไปเอากุญแจห้องนี้มา!" มันต้องมีกุญแจสำรองสิ หลังจากที่สั่งแม่บ้านเสร็จเขาก็หันมาเขย่าประตูแรง ๆ แล้วตะโกนเรียกเพื่อนอีกครั้ง ทั้งที่คนรอบตัวต่างก็เป็นห่วงและรักมันมาก แต่มันเสือกไม่รักตัวเองเลย ต้องอีกกี่ครั้งถึงจะคิดได้ หรือต้องตายถึงจะสาแก่ใจมัน เขาล่ะ ป้าสวยล่ะ มันไม่รักบ้างเหรอ รู้ว่ามันรักผู้หญิงคนนั้นมาก แต่มันก็ควรรักตัวเองด้วยไม่ใช่หรือไง ไม่นานแม่บ้านก็วิ่งขึ้นมาพร้อมกับกุญแจสำรอง ฟลินต์รับกุญแจจากแม่บ้านนำไปไข มือสั่นเทาพยายามไขกุญแจเพื่อเปิดประตูเข้าไป ปัง! เท้าหนักถีบประตูเข้าไปอย่างแรง เผยให้เห็นร่างไร้เรี่ยวแรงนอนจมอยู่ในอ่างโดยมีก๊อกน้ำที่ถูกเปิดทิ้งเอาไว้จนล้นอ่างไหลทะลักออกไปด้านนอก ฟลินต์ปรี่เข้าไปดึงตัวเพื่อนขึ้นจากอ่างน้ำทันที "มึงทำเหี้ยอะไร!!" เสียงตวาดดังลั่นถามร่างไร้สติ "...." มองใบหน้าซีดเผือดของเพื่อน ฟลินต์หันขวับไปมองมุมหนึ่งของห้อง เป็นเตาเล็ก ๆ วางอยู่ แล้วเขาก็รู้ดีว่าเพลิงกัลป์เอามาทำอะไร ฟลินต์จับตัวเพื่อนให้ขึ้นมาอยู่บนหลังตัวเองก่อนจะพาออกจากห้องตรงไปยังรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน ระหว่างที่แบกเพื่อนลงบันได เขาก็คอยระวังกลัวว่าตัวเองจะพาเพื่อนล้มตกบันไดเจ็บทั้งคู่ ทันทีที่ถึงรถก็จับตัวเพลิงกัลป์ยัดเข้าไปด้านใน ให้นั่งข้างตัวเอง พร้อมกับคาดเข็มขัดให้เสร็จสรรพก่อนจะอ้อมไปนั่งที่ตัวเอง สตาร์ตรถได้เขาก็บึ่งตรงไปยังโรงพยาบาลด้วยความรวดเร็ว “แค่ก แค่ก” เสียงไอดังมาจากคนข้าง ๆ ก่อนที่เสียงจะเงียบไป “มึงได้ยินเสียงกูไหม” ฟลินต์คว้ามือเพื่อนมากุมไว้ เขาคอยเรียกเพื่อนตลอดทางไปโรงพยาบาล สายตาลอบมองเป็นระยะ มือหนาออกแรงบีบมือคนไร้สติแรง ๆ เพื่อให้อีกคนจะรู้สึกตัว ณ โรงพยาบาล ขณะที่ฟลินต์เดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน สักพักประตูก็เปิดออก ฟลินต์ตรงดิ่งเข้าไปหาหมอพร้อมกับเอ่ยถามทันที “เพื่อนผมเป็นยังไงบ้างครับ” "คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ" นัยน์ตาฟลินต์เต็มไปด้วยความกังวล เมื่อได้ยินหมอบอกรายละเอียดอาการเพื่อน ร่างสูงถึงกับทรุดตัวลงนั่งพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ครั้งนี้เพลิงกัลป์หนักกว่าที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่สามที่เพลิงกัลป์พยายามฆ่าตัวตาย ไม่เคยบอกให้เพื่อนสู้ เพราะรู้ว่าอีกคนสู้ตลอด สิ่งที่ทำได้คือคอยให้กำลังใจและอยู่ด้วย คอยสร้างรอยยิ้มให้เขา เราควรโอบกอดไม่ใช่เมินเฉย เราต้องทำความเข้าใจคนเป็นโรคนี้ให้มาก ๆ แม้มันจะเหนื่อยหน่อย แต่เชื่อว่าสักวันสิ่งที่เราพยายามกันมาตลอด ผลลัพธ์มันต้องออกมาดีแน่นอน และใช่.. เพลิงกัลป์เป็นซึมเศร้า ไม่ใช่เพิ่งมาเป็น เป็นตั้งแต่ย่าของเขาจากไป แต่ตอนนั้นเพลิงกัลป์มีคนรัก มีเพื่อนคอยอยู่ข้าง ๆ ทำให้เขากลับมาร่าเริงในเร็ววัน อยู่มาวันหนึ่งคนที่เขารักหมดใจเปรียบเสมือนโลกอีกใบกลับมาหายไป จากคนที่เคยสดใสร่าเริง กลายเป็นคนเศร้าหมอง ไม่ยิ้ม ไม่หัวเราะ ไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อน คนเป็นเพื่อนเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้ย่อมเจ็บปวดไม่ต่างกัน “ขอบคุณมากครับ” ขอบคุณด้วยความโล่งใจ “หมอขอตัวก่อนนะครับ” หลังจากที่หมอจากไปแล้ว ฟลินต์จึงดันตัวลุกขึ้นมองเข้าไปในห้องฉุกเฉิน มองเพื่อนด้วยความสงสาร เมื่อไหร่กันนะ เมื่อไหร่มันจะกลับมาสร้างเสียงหัวเราะให้เขาอีก อยากให้มันกลับมายิ้มได้ มากวนประสาทเขาในทุกวัน “กูจะทำให้เธอหายไปเอง” หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป (อีกแล้วเหรอ..) "คุณหนูเพลิงน่าสงสารมากเลยค่ะ" พูดพลางทำหน้าเศร้าสลด เพราะสงสารคุณหนูของตนจับใจ (ของไปถึงหรือยังคะป้าสวย) "ถึงแล้วค่ะ" (ช่วยทำให้เขาทานทุกเช้าหน่อยนะคะ เขาชอบมันมาก) "ได้ค่ะ" (แค่นี้ก่อนนะคะ) หลังจากที่สายถูกตัดไป หญิงวัยวัยกลางคนหมุนตัวเพื่อจะกลับเข้าไปในบ้าน ทว่าต้องพบกับใครบางคนยืนกอดอกนิ่งมองมาที่เธอแววตานิ่งน่ากลัว ป้าสวยรีบเก็บมือถือใส่กระเป๋าพลางก้มหัวให้ฟลินต์เล็กน้อยแล้วเลี่ยงไปอีกทาง ทว่า.. "เดี๋ยวครับ" น้ำเสียงทุ้มเย็นน่ากลัวดังขึ้น ก่อนเจ้าของเสียงจะเดินมาหยุดตรงหน้า "ค่ะ คุณฟลินต์" ยังคงหลบสายตา "ป้าสวยอยากบอกอะไรผมไหมครับ" เขาได้ยินบทสนทนาของแม่บ้านตั้งแต่ต้นยันจบ แล้วเขาก็รู้ว่าคนในสายคือใคร ฟลินต์จ้องหน้าเอาคำตอบจากคนตรงหน้า คิดว่าทำอะไรแล้วไม่มีใครรู้งั้นเหรอ "ไม่มีอะไรนะคะ" "เหรอครับ" "...." "ใครส่งอะไรมา" "....." "ถ้าป้ารักมัน ป้าคงไม่อยากเห็นมันเศร้าหรอกใช่ไหม" เลิกคิ้วถาม ถ้ารักมัน ต้องอยากเห็นมันมีความสุขสิ เขาพูดถูกไหม? "..คุณเมย์ค่ะ" สุดท้ายป้าสวยก็สารภาพว่าตนนั้นคุยสายกับใคร "ของที่ส่งมาก็คือเธอใช่ไหม" "ค่ะ" "งั้นช่วยเอาไปทิ้งได้ไหม?" ถึงมันจะดูใจร้ายไปหน่อย แต่สิ่งที่ผู้หญิงคนนั้นทำกับเพื่อนเขาก็ไม่ต่างกันเลยสักนิด เธอทิ้งให้เพื่อนเขาจมอยู่กับคำถามมากมาย ไม่มีแม้โอกาสจะได้พูดหรืออธิบายอะไรสักอย่าง เหตุผลที่ทิ้งไปยังไม่รู้เลยว่าตัวเองผิดอะไร คนเราต้องเลือดเย็นแค่ไหนถึงเลือกทิ้งคนที่เคยรักไปแบบไม่ไยดีได้ขนาดนี้กัน "คุณฟลินต์.." "ช่วยทำตามที่ผมบอกด้วยนะครับ" เขาจะดึงเพื่อนให้หลุดจากความเศร้านี้เอง เพลิงกัลป์จะไม่รับรู้อะไรเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้อีกต่อไป "แต่ว่า.." ป้าสวยมีสีหน้าหนักใจ เธอเหมือนคนน้ำท่วมปาก พูดอะไรมากไม่ได้ สุดท้ายแม่บ้านก็ตอบรับด้วยความลำบากใจขั้นสุด "..ค่ะ" "อย่าให้มันรู้" ฟลินต์ย้ำก่อนจะจากไป ด้านป้าสวยทำได้แค่มองของที่เมทัลส่งมา "ขอโทษนะคะคุณเมย์" "กลับไปได้แล้วมึงอะ" เสียงแหบบอกกับเพื่อนตัวสูงที่นั่งกดมือถือเล่นอยู่โซฟาในห้องนอนของตน ลืมตาขึ้นมาก็เจอฟลินต์นั่งอยู่ ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ยังคงเป็นฟลินต์ที่อยู่กับเขา ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฟลินต์ไม่ยอมห่างเขาไปไหนเลย คงเพราะเราทั้งสองเป็นเพื่อนกันมานาน คำพูดซึ้ง ๆ เลยไม่มีให้กันเท่าไหร่ "นึกว่าจะนอนไปถึงชาติหน้า" เก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงพลางดันตัวลุกขึ้นเต็มความสูง "ง่วงจังว่ะ" "นอนขนาดนี้มึงยังง่วงอีก" คงเพราะฤทธิ์ยาเลยทำให้เพลิงกัลป์ง่วงอยู่ตลอดเวลา ฟลินต์เดินไปหยิบบางอย่างมาโยนให้เพื่อนตัวเอง ตุบ! "อะไร?" "แหกตาดูสิ" หรือนอกจากซึมเศร้าแล้วก็กลายเป็นคนตาบอดไปด้วย อ่านหนังสือเองไม่ได้เลยว่างั้น "กูป่วยอยู่นะ" "ไม่ได้พิการ" "สัส" "อ่านแล้วตอบมา" เพลิงกัลป์หยิบกระดาษสีขาวขึ้นมาเปิดอ่าน แล้วเขาต้องนิ่งไป ก่อนจะเงยหน้าสบตากับเพื่อนตัวเอง "พัทยา?" "แล้วมันเขียนว่าภูเก็ตไหมล่ะ" "ทำไมต้องที่นั่น" "กูอยากไป" ในเมื่อมันไม่ยอมลืมเธอสักที เขาก็จะพาไป เอาให้มันเจ็บ เจ็บให้ถึงที่สุด แล้วหวังว่ามันจะคิดได้เอง ที่เลือกไปพัทยาเขาเองก็มีเหตุผล ถึงมันจะทำเหมือนไม่อยากไปแต่ลึก ๆ แล้วเขารู้ว่ามันเองอยากไปใจแทบขาด "มึงก็รู้.." "ถ้าครั้งนี้มึงพยายามทำมันอีก ไม่ต้อง เดี๋ยวกูทำให้มึงเอง อยากไปนรกขุมไหนเลือกไว้เลย เดี๋ยวกูจัดให้" "...." เงียบ "มึงไม่จำเป็นต้องทำเพื่อใคร แต่มึงควรทำเพื่อตัวเอง กูรู้ว่ามึงรักเธอมาก เธอคือทุกอย่างสำหรับมึง แล้วกูล่ะ? กูไม่ใช่เพื่อนมึงเหรอ ป้าสวยล่ะ มึงคิดว่าเขาไม่รักมึงเหรอ คิดจะทำอะไรคิดให้มันดี ๆ โตแล้ว ที่พูดเพราะอยากให้คิดได้ กูไม่ใช่คนที่จะมานั่งพูดอะไรแบบนี้หรอกนะ แต่เป็นเพราะมึงคือเพื่อนกู" อยากให้มันหันมารักตัวเองบ้าง มันรักคนอื่นจนมองข้ามตัวเองไป คงลืมไปว่าความสุขเราสามารถสร้างขึ้นเองได้โดยไม่ต้องรอให้ใครมาสร้างให้ รอยยิ้ม มันเองก็สร้างขึ้นมาได้ เขาเข้าใจดีว่าการถูกบอกเลิกโดยที่เราไม่รู้เหตุผลอะไรเลยจากอีกฝ่ายมันเจ็บปวดแค่ไหน แต่ก็นั่นแหละ.. ชีวิตคนเราต้องเดินหน้าต่อ หากมันยังจมปลักอยู่กับอดีตแบบนี้จะเป็นมันนั่นแหละที่ไม่มีความสุขกับชีวิตเลย ทั้งที่ผู้หญิงคนนั้นกลับยิ้มได้ มีความสุขกับคนรอบข้าง มันไม่แฟร์เลยนะแบบนี้ แต่เขาก็เข้าใจเพื่อนดี ถึงพยายามดึงสติมันกลับมาอยู่นี่ไง "กูแค่เหนื่อย" "เออ กูก็เหนื่อย" เหนื่อยที่จะต้องมานั่งสอนมันอยู่แบบนี้ โตเป็นควายแล้วยังต้องให้มานั่งสอนเหมือนเด็กอีก แล้วทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ เพลิงกัลป์จมอยู่กับความคิดของตัวเอง มันคงจริงอย่างที่ฟลินต์พูดมา เราควรรักตัวเองมากกว่านี้ เขารักคนอื่นมากเกินไปจนขาดความเป็นตัวเอง ในขณะที่เขาเศร้า พยายามจบชีวิตอยู่หลายครั้ง เธอกลับกินอิ่มนอนหลับสบาย มีความสุขกับครอบครัว ซึ่งมันเป็นอะไรที่ไม่แฟร์กับเขามาก คนบอกเลิกควรทุกข์สิ ไม่ใช่คนถูกบอกเลิก ได้.. วันนี้เขาจะเศร้าเป็นวันสุดท้าย ต่อจากนี้ไปเขาจะยิ้มเยอะ ๆ มีความสุขกับชีวิตในแต่ละวัน อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปไหนก็ไป โดยไม่ต้องขออนุญาตใครอีก รอพบกับเพลิงกัลป์เวอร์ชั่นใหม่ได้เลย รับรองว่ามันจะดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน สัญญา..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม