ร่างของปาจารีณ์ กระตุกพร้อมร้องครางไม่เป็นศัพท์ ..มันทำให้ วรรณิศารู้ว่าตอนนี้ เพื่อนสาวของเธอได้สำเร็จความใคร่ไปแล้วเมื่อครู่ เพราะอัปติกิริยาที่วรรณิศาเอง..ก็เคยเป็น
“จ๊วบ..จ๊วบ..”
เสียงปากต่อปากประกบจูบกัน เมื่อชายที่ชื่อวิชิตละปากออกจากโนนเนื้อระหว่างขา แล้วยืนขึ้นไปใช้ริมฝีปากที่เต็มไปด้วยเมือกสวาทของปาจารีณ์ แล้วประกบเข้าไปที่ปากของหญิงสาวโดยเธอก็มิไม่ได้แสดงอาการรังเกียจมันแต่อย่างไร เพราะนิสิตสาวอ้าปากขึ้นรับจูบปากที่เต็มไปด้วยเมือกของเธอ แถมยังดูดแลกปากกับชายร่างใหญ่เบื้องหน้า...แบบไม่คิดจะถอยแม้แต่เพียงนิด
“จ๊วบ..จ๊วบ..”
วรรณิศารู้สึกได้ถึงความชื้นใต้หว่างขา...ก่อนมือเรียวเล็กจะเริ่มลูบไปบนเป้ากางเกงยีนตัวหนาที่เธอสวมใส่ ก่อนที่จะหญิงสาวจะใช้นิ้วกดให้ความหยาบหนาของเนื้อผ้า เบียดไปกระทบติ่งเนื้อเล็กที่ซ่อนอยู่ภายใน จนร่างเล็กต้องกระตุกเล็กน้อย เมื่อบริเวณติ่งเนื้อถูกกดเน้นถูกจุด โดยเจ้าของมันเอง แบบไม่พลาดเป้าเพราะคุ้นเคย
“ซีดล์”
หญิงสาวซีดปากเบา ขณะสายตาจ้องมองดูร่างใหญ่ที่ถอนปากออกจากเพื่อนสาว ก่อนเธอจะเห็นบุรุษหนุ่มใช้มือทั้งสองข้างไปปลดกระดุมกางเกง แล้วรูดมันลงทั้งชั้นนอกและชั้นใน...และ นั้นเองที่ทำให้เขาชายหนุ่มได้อวดแท่งเนื้อสีดำ ที่หัวบักของมันได้แหวกออกมาจากปลายหนังหุ้มเล็กน้อย จนมันทำให้วรรณิศาสามารถที่จะมองเห็นเนื้อชั้นในที่โผล่ออกมาเป็นสีเนื้อชมพูคำเข้ม
“น้องปลา..ช่วยพี่หน่อย..”
ชายหนุ่มจับมือปาจารีณ์เพื่อนสาวของวรรณิศาไปจับตรงกลางลำแท่งเนื้อกลม ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่น่าจะน้อยไปกว่าสามนิ้ว ใน ขณะความยาวของมันคงน่าจะไม่น้อยไปกว่าหกนิ้วเป็นอย่างต่ำ ก่อนหญิงสาวคู่สวาทจะเอื้อมมือเล็กไปกำท่อนเนื้อแข็งแล้วรูดเบา จนมันทำให้เนื้อหุ้มตรงส่วนปลายของท่อนเนื้อ โผล่พ้นออกมาตามโครงสร้างของมนุษย์เพศชายจนหมดสิ้น
“โอ๊ย... น้องปลา..แรงอีกนิดครับ...อูย..”
สิ้นเสียงของวิชิต...มือเรียวเล็กก็เริ่มขยับรูดแท่งเนื้อแรงขึ้น ตามคำขอ และภาพนั้นมันทำให้วรรณิศาตื่นตา ตื่นใจ ในขณะที่จ้องเขม็งไปยังส่วนปลายเนื้อ ที่ซ่อนอยู่ในหนังหุ้ม ที่มันผลุบเข้าผลุบออก อันเนื่องมาจากคู่เสพสาวใช้มือกำแล้วรูดให้หนังหุ้มขององคชาตให้ถอยเข้า... ถอยออกจากปลายอวัยวะเพศของฝ่ายชายอย่างต่อเนื่อง
“อูย..ปลา...อูย..โอ๊ย..”
ชายหนุ่มยืนหลับตา..ขณะปากร้องเสียงเริ่มดังขึ้น..ขณะที่มือเล็กนั้นเร่งรูดแท่งเนื้อเข้าออกเร็ว และ เพิ่มความแรงขึ้น ก่อนที่ปาจารีณ์จะรุกคืบด้วยการขยับตัวเข้าไปแล้วใช้ปากเรียวประกบปากหนาของร่างใหญ่ที่ยืนเด่นอยู่เบื้องหน้า ขณะที่มือเล็กก็ยังคงทำหน้าที่กำรูดอวัยวะเพศของคู่สวาทฝ่ายชาย เข้าออกด้วยความเร็วสม่ำเสมอ
“จ๊วบ...จ๊วบ..”
วรรณิศาเสียวจิ๊ดก่อนที่โพงสวาทของเธอจะบีบรัดแล้วขมิบ... เมื่อปลายนิ้วที่กดเน้นถูกจุดแล้วคาเอาไว้.แล้วบิดบี้ นิ้วให้เน้นลงไปบนติ่งเนื้อเล็กสุดแรง เมื่อเห็นภาพชายหญิงเบื้องหน้าประกบปากจูบกัน.
“อะ...อะ...”
ร่างหญิงสาวสั่นสะท้าน..ขณะกำลังจะครางออกมาเนื่องจากเธอสำเร็จความใคร่ จากการเดินทางไปจนถึงจุดสุดยอด วรรณิศาก็รู้สึกว่ามีมือใหญ่มาจากทางด้านหลังมาปิดปากเธอเอาไว้ ก่อนที่หญิงสาวจะเผลอครางเสียงที่เธอไม่สามารถควบคุมได้ออกมา
“อุบ...หือ...”
“ระวังหน่อยสิ...เดียวสองคนนั้นก็ได้ยินหรอก”
วรรณิศาตาเหลือกโพง ก่อนที่หน้าสวยจะเริ่มแดง เมื่อทราบว่าเจ้าของเสียงทุ้มข้างหูคือใคร? ..เธอจึงพยายามจะขยับตัวหนี.. แต่ร่างเล็กกับถูกกอดรัดให้แนบชิดกับผู้ที่ปิดปากของเธอจากทางเบื้องหลังไว้แน่น
“อย่าดิ้น...ณิศา เดียวพี่ปล่อย”
ร่างบางนิ่ง...ขณะอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรง..ขณะที่สายตาก็คงยังมอง.ไปยังคู่ชายหญิงที่ที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นฝ่ายชายยืนให้ฝ่ายหญิงนั่งลงคลุกเข่ากับพื้น ก่อนที่เธอจะใช้ปากอมส่วนยื่นที่ยาวจากระหว่างขาของชายหนุ่ม จนท่อนเนื้อเข้าไปอยู่เต็มปากเล็ก ที่อ้าออกจนเกือบสุด เพื่อที่จะอมแท่งที่มันผงาดแสดงความเป็นชาย ก่อนที่เจ้าของของ มันจะจับหัวของนิสิตสาวให้อมท่อนสวาทจนมันหายเข้าไปในปากเล็กจนสุดลำ
“อาก...อ๊าก..อาก..”
หญิงสาวควรจะดึงหน้าออกเมื่อรู้สึกว่าส่วนปลายของอวัยวะเพศหนุ่มใหญ่ อัดเข้าไปจุกที่ลำคอจนเธอต้องส่งเสียงออกมาเหมือนต้องการจะสำรอกของที่กลืนเข้าไปออกมา..แต่นั่นมันไม่ใช่?
เพราะเมื่อแท่งเนื้อความยาวหกนิ้วถอยออกจากปากของหญิงสาวออกมาได้เพียงครึ่งเดียว นักศึกษาสาวก็กลับตามไปอมมันกลับเข้าไปในปากจนสุดแท่งรักอีกครั้ง จนชายผู้ถูกกระทำต้องแสดงหน้าเย้เก พร้อมครางเสียงแห่งความกระสันออกมา..
“อูย...อ่า...น้องปลา...ดีครับ...ดี..อูย...”
ร่างบางถูกผู้ที่ถูกกอดแนบจากทางด้านหลัง ถูกดึงให้เดินถอยหลังกลับเมื่อทั้งคู่แอบดูการสมสู่มาถึงตรงนี้
........................................................
อัคคีนั่งขับรถไปข้างหน้าไม่พูดไม่จา...ในขณะที่ร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างใบหน้าแสดงออกถึงว่า... ตอนนี้แม้ใครมาบอกบุญเธอก็จะไม่รับ ก่อนที่เธอจะกล่าวขึ้นด้วยเสียงกระด้าง
“ก็ศา...เดินลงมาเห็นสองคนเขา..? ...”
“ไม่ได้ถาม..”
วรรณิศาอึดอัดทำลายความเงียบ เพื่อจะกลบเกลื่อนความกระดากอายในเรื่องที่เกิดขึ้น ..แต่คำพูดตอบของชายหนุ่มนั้นทำให้หญิงสาวต้องขุ่นเคืองใจยิ่ง แต่เธอก็ต้องจำต้องถามสิ่งที่เธอไม่เข้าใจ.
“ก็..ก็..ศา..ไม่ได้ให้พี่อัคคีตอบ... แต่เพื่อนศาครั้งก่อนมันเคยไปจ่ายหนี้พี่แล้วนี่.. แล้วๆ ...ทำไมวันนี้ ปลามัน จึงมาทำยังงี้กับพี่วิชิตในบ้านพี่อีก...”
“ทำไมรู้...ว่าเพื่อนพี่ มันชื่อวิชิต”
อัคคีอมยิ้มขณะที่ถามกลับโดย ยังไม่ตอบคำถามของ วรรณิศา จนมันทำให้หญิงสาวหวนคิดถึงเสียงเพ้อของปาจารีณ์จนทำให้รู้ว่าผู้ชายที่กำลังร่วมรักกับเพื่อนสาวของเธอชื่อวิชิต..
“ดูได้ละเอียด...จริงๆ เลยนะน้องวรรณิศา”
ถึงแม้อัคคีจะพูดความจริง แต่มันก็คือการกล่าวกระทบกระทั่ง มันจึง ทำให้วรรณิศาพูดลอยขึ้นแบบกระเง้ากระงอนตามประสาผู้หญิง
“ใช่...ก็ศามันไม่ดี..ชอบดู.”
ชายหนุ่มยิ้ม..ก่อนจะตัดบทไปตอบในสิ่งที่หญิงสาวถาม
“ออกเงินกู้...มันเป็นธุรกิจร่วมกันของพี่กับไอ้ชิต...และ การที่น้องปาจารีณ์ต้องจ่ายด้วยการใช้ตัวเข้าแลกวันนั้นมันเป็นความต้องการส่วนตัวของไอ้ชิตมัน...ที่มันยอมเอาเงินส่วนของมัน...มาจ่ายในธุรกิจทั้งเงินต้นเงินดอกนี้แทน.และครั้งก่อนพี่ก็พาน้องปลาไปหาไอ้ชิตไง...ทั้งคู่จึงเคยขากัน...”
วรรณิศานั่งนิ่งฟัง..จนรู้ว่าครั้งที่อัคคีพาปาจารีณ์ไปก็เอาเธอไปหาพิชิต และสิ่งนั้นทำให้เธอมองชายผู้ที่กำลังขับรถในแง่ดีขึ้น...
“พี่กับไอ้ชิตพักอยู่บ้านหลังนี้ด้วยกันและ ถ้าน้องปาจารีณ์มาหามัน อย่างเมื่อตอนเช้านั่น มันก็แปลว่าน้องเขาคงต้องการใช้เงินอีก...มันจึงเกิดสิ่งที่น้องศา ไปแอบดูอยู่ตั้งนาน สองนานเมื่อครู่นี้ไง”
ใบหน้าแดงระเรื่อ จากคำกล่าวกระแนะกระแนของฝ่ายชายก่อนเธอจะโต้กลับ
“ยังไงก็ช่าง...พี่อัคคีก็ไม่ควรจะมากอดศา..”
“ก็พี่เห็น..น้องณิศาจะร้อง..เออ...ร้อง...คา...”
อัคคีพูดติดขัดเพราะยังสรรหาคำใดมากล่าวยังไม่ได้ เพราะตอนนั้นมันเป็นตอนที่ วรรณิศากำลังจะร้องครางออกมาเนื่องจากเธอได้สำเร็จความใคร่ให้กับตัวเอง มันจึงทำให้คำกล่าวของชายหนุ่มหยุดค้างไว้ในคำอธิบาย...เพราะไม่ทราบว่าจะใช้คำพูดไหนดี...
“ก็ช่าง...จะเพราะอะไรก็ช่าง...ต่อไปนี้พี่อัคคีห้าม..มาถูกตัวศา..”
“เออ..ใช่สิพี่ลืมว่า..ค่าตัวน้องณิศา..แปดแสน?”
“ใช่..แปดแสนบาทขาดตัว”
“งั้น..ถ้าพี่จับมือ..”
“หมื่นบาท..”
“จับไหล่...”
“สองหมื่น..”
“กอด..”
“ห้าหมื่น...”
“อก..”
“แสนหนึ่ง..”
“หอมแก้ม...”
“หมื่นหนึ่ง..”
วรรณิศาตอบคำต่อคำ..จนมาถึงคำถามล่าสุดที่หญิงสาวจึงรู้สึกว่าแก้มนวลของเธอถูกหอมเข้าเต็มๆ
“พี่... พี่อัคคีทำอะไร...”
หญิงสาวใช้มือลูบแก้มขณะที่รีบต่อว่าชายผู้ขับรถ ที่พุงหน้ามาหอมแก้มของเธอเมื่อครู่..ก่อนจะพบว่าเขาได้ล้วง
เอาธนบัตรใบละพันหลายใบใส่มือของเธอ..
“จ่ายสด งดเชื่อ..หมื่นหนึ่ง..”
ชายหนุ่มจ่ายค่าหอมแก้ม หญิงสาวได้รับทราบเช่นนั้น แต่เธอไม่ยินยอมเพราะสิ่งที่เธอพูดออกไปนั้นมันเพียงเป็นการประชดประชันเท่านั้น และถ้ายอมรับเงินที่จ่ายมา หญิงสาวคงถูกหยามเกียรติจนไม่มีที่สิ้นสุดอย่างแน่นอน
“พี่อัคคี...อย่าทำแบบนี้กับศาอีก...”
หญิงสาวเอาเงินคืนยัดใส่กระเป๋าเสื้อเจ้าของรถที่กำลังพาเธอไปส่ง พร้อมกล่าวเสียงกระเง้ากระงอนตามประสาผู้หญิง ในขณะที่หน้าสวยแสดงความบึ้งตึง เพื่อบอกถึงความไม่พอใจ จนมันทำให้ชายหนุ่มต้องรู้สึกผิดในการกระทำของเขาในครั้งนี้
“ตืด...ตืด....”
โทรศัพท์มือถือของอัคคีสั่นก่อนที่เขาจะยกขึ้นรับสาย
“สวัสดีครับ....ครับท่านอธิการ.....ครับ..ครับ..ได้ครับ เราจะไปครับ.”
อัคคีคุยอยู่หลายประโยค ก่อนจะวางสาย แล้วหันหน้ามากล่าวกับหญิงสาวที่มาด้วย
“น้อง ศา...อธิการมหาลัย...ต้องการพบเราสองคนตอนบ่ายวันนี้...”
“เรื่องอะไร? คะพี่อัคคี”
“เดียวไปก็รู้เอง..”
..................................................................
อธิการบดีของมหาวิทยาลัย ที่วรรณิศาเรียนอยู่เป็นหญิงสูงวัย นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ประจำตำแหน่งอยู่ภายในห้องทำงานหรู กำลังใช้สายตามองไปยังนักศึกษาสาวที่ชื่อวรรณิศา ก่อนจะมองต่อไปยังอดีตนักศึกษาที่ได้จบการศึกษาไปแล้วหลายปี ที่ตอนนี้เขาได้นั่งอยู่ต่อหน้าของเธอ และบริเวณด้านข้างโต๊ะใหญ่ ยังมีอาจารย์ที่สอนวิชาประวัติศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยที่วรรณิศารู้จักดีอยู่ข้างหนึ่ง รวมทั้ง ร้อยตำรวจหนุ่มผู้เป็นเจ้าของคดีที่หญิงสาวไปแจ้งความเอาไว้เมื่อคืนที่นั่งนิ่งอยู่อีกข้างหนึ่ง
“หมวดเชิญ..ค่ะ”
อธิการผู้มีตำแหน่งสูงสุดของมหาวิทยาลัยเริ่ม ทำให้นายตำรวจหนุ่มได้อธิบาย
“น้องวรรณิศาครับผมได้ไปตรวจสถานที่...ที่คุณอัคคีไปแจ้งความว่ามีการฆาตกรรมเกิดขึ้นเมื่อคืนอีกครั้งแล้ว... แต่ว่าเราไม่พบอะไรเลยแม้กระทั่งรอยของล้อรถ”
“แต่...เรื่องมันเกิดขึ้นจริงๆ ..นะคะ..”
วรรณิศา..ทนไม่ได้กับข้อมูลที่ทำให้เธอกลายเป็นตัวตลก เธอจึงรีบกล่าวยืนยัน..
“ฟังหมวด..อธิบายจบก่อนสิหนู..”
เสียงกล่าวช้าแต่มันแสดงถึงความน่าเกรงขามของหญิงผู้มีตำแหน่งสูงสุดในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ทำให้วรรณิศาต้องนิ่งเงียบอีกครั้งใน ขณะที่นายตำรวจหนุ่มเริ่มอธิบายต่อ
“เมื่อช่วงเช้า ผมไปสอบถามหานายศักดิ์สิทธิ์...หรือเอก ที่หนูว่าโดนฆาตกรรม จนได้ทราบข้อมูลจากการสอบถามเพื่อนร่วมห้องของนายเอกว่า...วันนี้และวันอาทิตย์คือวันพรุ่งนี้ เขาจะกลับบ้านเพื่อไปฉลองวันเกิดของเขาที่นั่น”
“แต่...หนู..เห็นเขาตายไปแล้วจริงๆ ...นะคะ ท่านอธิการ...”
“ฉันทราบ...และเชื่อเธอ..แต่เรื่องที่เธอเล่ามา...มันเป็นเหมือนดังเช่นตำนานที่ได้ถูกเล่าขานกันมา...จนทำให้อาจเชื่อได้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องล้อเล่นกัน อย่างที่นักศึกษามักชอบเล่นและอำกันในมหาวิทยาลัยของเรา...ใช่ไหมคะอาจารย์คมสัน..”
อธิการกล่าวเสร็จก็ใช้สายตาเหลือบไปมองชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างโต๊ะก่อนที่ชายดังกล่าวจะกล่าวเสริม
“เรื่องหญิงสาวกับชายหนุ่มที่ไปพลอดรักกันในป่า...ก่อนที่ฝ่ายชายจะหายไปโดยทิ้งหญิงสาวนั่งหวาดระแวงอยู่คนเดียวในรถ แล้วมีชายหน้าขาวโผล่มาจนหญิงสาวตัดสินใจขับรถหนีออกไปจากบริเวณนั้น จนเธอมารู้ที่หลังว่ารถที่เธอขับหนีไปอย่างรวดเร็วนั้น...ได้ผูกติดกชายคนรักของเธอไปด้วย และนั่นมันเป็นเพียงแค่เรื่องเล่า เพราะยังไม่มีหลักฐานใดๆ มาพิสูตรได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง”
อาจารย์ผู้ที่สอนเกี่ยวกับตำนานมหาลัยกล่าวจบ ก่อนที่จะหันไปมองนักศึกษาสาวที่อ้างว่าเธอได้ประสบเหตุเหมือนดังเช่นตำนาน...ก่อนที่อาจารย์หนุ่มใหญ่จะกล่าวต่อ
“นายเอกเป็นนักศึกษารุ่นพี่ของเธอ และเป็นคนที่ชอบเล่นอะไร พิเรนทร์ๆ ดังนั้นเรื่องนี้อาจเป็นเพียงการล้อเล่นสนุกๆ ของเขา...และ ในเวลานี้นายเอกอาจจะกำลังฉลองวันเกิดอย่างสนุกสนานอยู่ที่บ้านของเขาที่ต่างจังหวัดก็อาจเป็นได้”
“ไม่จริง...หรอกค่ะอาจารย์...นี่มันเป็นเรื่องจริง...หนูสาบานได้..”
“ถ้าหนูยังไม่เชื่อการล้อเล่นจนเลยเถิดในมหาลัยของเรา...ก็ถามนายอัคคีศิษย์เก่าของมหาลัยเราดูสิ เพราะเขาก็ตัวร้ายเลยนะสมัยนั้นสำหรับเรื่องนี้”
อธิการหญิงกล่าวจบก็หันหน้าไปทางวรรณิศา เหมือนจะบอกว่าให้หญิงสาวถามชายหนุ่มที่มาพร้อมกับเธอในเรื่องนี้
.............ติดตามต่อนะครับ...............
ศพเอกหายไป?แล้วจริงๆศพอยู่ไหน?รอยล้อรถบริเวณที่เกิดเหตุที่วรรณิศาบอกก็ไม่มี ?อัคคีแท้จริงเขาคือศิษย์เก่าของมหาลัยแห่งนี้ ?แถมในอดีตเขายังชอบล้อเล่นเรื่องตำนาน? ทุกๆเรื่องมันเริ่มจะซับซ้อนขึ้นมากเรื่อยๆแล้ว...แต่ไรท์ขอบอกว่านี่มันแค่พึ่งเริ่มต้นเท่านั้นเองนะครับ ยังไงตามนิยายเรื่องนี้มาติดๆนะ
...กระซิบแผ่ว...