บทที่​ 3​ อัคคีและวรรณิษา

2793 คำ
เสียงร้องแผ่วเบาจากการถูกเร่งเร่าให้เพลิงเสน่หาปะทุ จนมันทำให้หญิงสาวต้องใช้มือเล็กเข้าไปกุมมือใหญ่กดลงบนนูนเนื้อที่มีเพียงกระโปรง และ บราเซียร์ตัวจิ๋วข้างในขว้างกั้นอยู่... อย่างลืมตัว ร่างใหญ่พลิกนักศึกษาสาวกลับ...แล้วใช้ปากหนาประกบริมฝีปากสวยเอาไว้ ก่อนที่ดวงตาดำคมของเธอต้องลุกวาวขึ้นด้วยความตกใจ “พี่วิชิต!! ” หญิงสาวรีบถอนปากออกในทันทีเมื่อเห็นความผิดปกติของผู้กระทำ และสิ่งนั้นมันทำให้เธอหลงผิด คิดไปว่าชายคนนี้คืออัคคี ชายที่เธอพึ่งปรารถนา “อ้าวก็พี่นะสิ... ไอ้อัคคีไม่ได้บอกน้องปลาหรอกรึ” นิสิตสาวใช้มือปิดปากส่ายหน้าไปมา ขณะดวงตาลุกโพงเหมือนเห็นผี... แต่หุ้นส่วนเงินกู้ของอัคคีก็รีบดันร่างหญิงสาวจนเธอต้องเสียหลักล้มหงายลงบนเตียงนุ่ม ก่อนชายที่ชื่อวิชิตจะรีบขึ้นไปนอนทับทาบอยู่บนร่างเล็ก “ใครก็เหมือนกันไม่ใช่หรอ... ก็นี้มันเป็นการทำธุรกิจ... ใช่ไหม?จ๊ะ...น้องปลา” ใช่ปาจารีณ์ทราบเรื่องนั้นดี แต่ที่เธอยินยอมพร้อมใจในครั้งนี้ เพราะเธอเองคิดว่า ผู้ที่เธอต้องร่วมรักด้วย คือชายที่เธอหลงคลั่งไคล้อย่างอัคคี... แต่ถึงแม้ว่าเหตุการณ์มันกลับตาละปัดแบบนี้ มันก็คงจะยากที่เธอจะถอนตัว... เพราะชายผู้แข็งแกร่งกว่าได้อยู่ในห้องกับนักศึกษาสาวสองต่อสอง ขณะที่เสื้อผ้าของเธอตอนนี้หลุดลุ่ย รวมทั้งผู้เป็นเจ้าหนี้ก็คงจะไม่ยอมปล่อยให้เธอหนีไปโดยไม่ชำระเงินกู้อย่างแน่นอน และ ตอนนี้เขาก็เริ่มทำธุรกิจของเขาต่อแล้ว “อย่าค่ะ... พี่วิชิตอูย...” เสียงกล่าวห้ามปรามของหญิงสาวต้องหยุดลงกะทันหัน...ก่อนที่จะตามด้วยเสียงครางที่นิสิตสาวไม่ได้บังคับให้มันดังออกมา แต่มันเกิดขึ้นเพราะปากของชายหนุ่มก้มลงไปคาบเม้นที่ปลายปทุมถันสีชมพู...ที่ชูชันตามสัญชาตญาณแห่งความต้องการทางเพศของเธอ..จนหญิงสาวอย่างเช่นปาจารีณ์ต้องร้องครางออกมาแบบไม่รู้ตัว “อูย์..อ่า...” ใจหนึ่งอยากผลักไสชายหนุ่มให้ออกไป แต่ร่างกายของหญิงสาวกลับตอบสนองเขาอย่างร้อนรนจนน่าอาย... "พี่..พิชิต..อืม..อูย์" ตอนนี้นิสิตสาวยังไม่รู้ตัวว่า เธอกำลังติดบ่วงมายาแห่งกิเลส จนยากที่จะขัดขืนใจตนเองได้ซะแล้ว และ ในจังหวะนี้ ผู้รุกล้ำก็ไม่คิดรอโอกาสให้มันหลุดไป เขาจึงรีบเลือนใบหน้าลงต่ำ ในขณะกระโปรงและกางเกงในตัวจิ๋วที่ปกปิดส่วนล่างทั้งสองชิ้นได้ถูกเขาก็ใช้มือจับรูดลงให้พ้นออกจากขาเรียว ก่อนจะโยนมันลงกองรวมกันอยู่ที่พื้น โดยที่นักศึกษาสาวไม่มี โอกาสที่จะขัดขื่นได้แม้แต่เพียงนิดเดียว “โอย... อย่าค่ะ... พี่วิชิต...อย่า.ทำอย่างนั้น...” เสียงกล่าวห้ามขณะแอ่นหน้าอกขึ้นก่อนร่างจะบิดเกร็ง รวมทั้งสองมือของนิสิตสาวขยำบีบผ้าปูที่นอนจนเต็มกำมือเล็ก เมื่อใบหน้าผู้ทำธุรกิจร่วมกับเธอ ลงคลึงเคล้าอยู่กับสินค้าระหว่างชอกขา ที่ตอนนี้มันใช้แลกเปลี่ยนให้เป็นเงินตราในครั้งนี้ จนนิสิตสาวรู้สึกและสัมผัสได้ถึงการกระทำที่แสนแผ่วเบาของลิ้นที่กำลังลากขึ้นลง จนมันทำให้ร่างเล็กต้องเกร็งกระตุก... คล้ายจะบรรลุถึงความสุดยอด..ก่อนจะเริ่มเกร็งเพิ่มจากการเลียเน้นไม่หยุดของผู้อยู่เหนือร่าง จนหญิงสาวต้องร่างกระตุก... “อ่า...หือ...” ปาจารีณ์หายใจรวยรินขณะชายหนุ่ม..ลากร่างเล็กเปลี่ยนที่ จนก้นขาวอวบไปพาดอยู่ตรงขอบเตียงใหญ่ ก่อนที่ขาทั้งสองข้างของเธอจะถูกจับยกขึ้นด้วยมือชายคู่เสพ ที่เดินก้าวไปยืนชิดขอบเตียง และจากมุมนั้นมันทำให้นิสิตสาวมองเห็นสิ่งที่ทำให้ดวงตาของเธอต้องเหลือกโพลง เมื่อมองไปเห็นอาวุธประจำกายของบุรุษหนุ่ม ที่ตอนนี้แข็งโด่ขนานกับพื้นโลก โดยนักศึกษาสาวได้กะขนาดแล้ว มันคงจะสร้างความบอกซ้ำ เมื่อมันล่วงล้ำเข้าไปในโพงเนื้อของเธออย่างแน่นอน และ ..สิ่งนั้นมันทำให้เธอเกร็งตัวเพื่อรอสิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อรู้สึกถึงส่วนปลายของมันได้เลื่อนมาจ่ออยู่ตรงบริเวณปากโพง... ก่อนที่นิสิตสาวจะเตือนผู้ที่กำลังจะปฏิบัติกามกิจกับเธอด้วยเสียงอันสั่นเครือ... “พี่วิ...ชิต ...ปา.ปลา...กลัว...เจ็บ....” “ไม่เป็นไรหรอกน้อง.ปลา...ตรงนั้นมันชื้นพอ...” หญิงสาวสะดุ้งเฮือก..เมื่อปลายอวัยวะสืบพันธุ์จากคู่เสพ ถูกใช้จับเคล้าคลึงไปมากับกลีบเนื้ออันแสนบอกบางตรง บริเวณปากถ้ำช้าๆ จนมันทำให้หญิงสาวมั่นใจว่าให้มันเข้ามาเถอะ.. จะเท่าไร… จะมากแค่ไหน... เธอก็ทนได้แล้ว...ในช่วงเวลาเช่นนี้ “โอ๊ย...” นิสิตสาวร้องออกมาเสียงค่อนข้างดัง..เมื่อส่วนปลายถูกดันให้ขยับเข้าไปเพียงเล็กน้อย..ก่อนที่มันจะเลื่อนไหลเข้าไปอีกเนื่องจากแรงส่งครั้งที่สอง โดย...ในครั้งนี้หญิงสาวหลับตาปี๋หูเกิดแรงดัน ก่อนที่นิสิตสาวจะกัดริมฝีปากของเธอเองอย่างแรง ในขณะที่ร่างเล็กเริ่มจะเกร็ง. “โอ๊ย... ...พี่วิชิต...ไม่ไหวแล้ว.ปลาจะเสร็จแล้ว...” เสียงเล็กแหลมแสดงออกถึงความรู้สึก..ขณะร่างหนาที่ยืนอยู่ขอบเตียงเหนือร่างเปลือยที่นอนแยกขาเรียวให้ชายร่างใหญ่ แทรกอวัยวะสืบพันธุ์เข้าไปในตัวเธอ... "น้องปลาเสร็จเลย..ครับ" พิชิตดันร่างของเขาเข้าไปในตัวนิสิตสาวทีละนิดในช่วงแรก ก่อนที่จะได้ตัดสินใจส่งแรงกระถั่นในครั้งสุดท้าย... ส่งส่วนปลายของท่อนเนื้อที่ลุกล้ำ จะไหลเข้าไปจนพุงไปกระแทกผนังเนื้อปลายอุโมงค์... ด้วยความเร็วและแรงจนร่างผู้รองรับผวาขึ้นกอดมารัดร่างหนาเอาไว้ “โอ๊ย...” ผู้ยืนรู้สึกได้ถึงความคับแน่น ก่อนที่จะโน้นตัวลงทาบทับร่างบางเอาไว้พร้อมเริ่มขยับเอวขึ้นลง “อ้า...” วิชิตขยับขึ้นลงอยู่นาน ก่อนที่จะเพิ่มความเร่งกับความรุนแรงไปขึ้นอีก จนในไม่ช้าร่างใหญ่ก็ต้องกระตุกเกร็งเพราะเขาประมาณความคับแน่นของโพลงเนื้อเกินไป ก่อนที่จะจำใจทิ้งน้ำหนักตัวลงทับร่างบางข้างล่างที่รู้สึกเป็นสุข... ที่ยากเกินกว่าที่หญิงสาวจะอธิบายได้.... ................................................................ เอก นักศึกษาหนุ่มปีที่สาม ละสายตาจากวรรณิศา ที่เขาชวนกันมานั่งกินกาแฟเย็น ที่ร้านใต้อาคารเรียนของคณะ ที่หันไปมองจ้องรถเก๋งที่วิ่งเข้ามาจอดบนลานจอดรถหน้าตึกคณะ ก่อนที่นักศึกษาสาวของคณะคนหนึ่งก้าวลงมา “ไอ้ปลามันทำไม..? .มาพร้อมพี่อัคคี..” “อ้าว...พี่เอกรู้จักพี่คนนั้นด้วยหรือ...ค่ะ...” วรรณิศา มองคนที่เอกพูดถึง..ก่อนจะเอ่ยถามรุ่นพี่ที่นั่งด้วย น้ำเสียงต้องการรู้คำตอบ “รู้สิ พี่อัคคีคนดัง มีอะไรให้แกช่วย...ถ้าแกช่วยได้แกช่วยหมด...” ใช่สิ... ช่วยแบบมีประสงค์ซ่อนเร้น วรรณิศาคิดถึงเพื่อนสาวที่ต้องสังเวยความสาวให้แก่ผู้ชายที่กำลังกล่าวขวัญถึงเมื่อครู่ด้วยความรู้สึกเกียดชัง “ช่วยอะไร...ผู้ชายบ้ากามแบบนั้น...” “อะไรนะ ศา.ว่าอะไรเมื่อครู่พี่ฟังไม่ถนัด...” “ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่เอก... ศาว่า ช่วยอะไรได้มากมายแบบนั้น....” เอกเกาหัว แบบงงๆ เพราะเขาคิดว่าไม่ได้ยินหญิงสาวกล่าวเช่นนั้น.เมื่อครู่ “พี่เอก..เรื่องตำนานที่อาจารย์ให้ไปทำรายงาน แต่ละเรื่อง โคตรน่ากลัวเลย... ดูสิพี่เอกผมไปเซิดร์จากไอ้กู.. (กูเกิ้น) มา สองสามเรื่อง แต่ละเรื่องอ่านแล้วขนหัวลุกสุดๆ ไม่รู้จะเลือกเรื่องไหนดี” “โอ้โห้ ขยันจริงนะ นิกส์ กับ แน็ก...อาจารย์พึ่งจะสั่งทำ...ก็พากันไปค้นหากันแล้ว...” วรรณิศากล่าวด้วยสายตาพองโต ในขณะที่เพื่อนนักศึกษาชายสองคนที่เรียนห้องเดียวกันกับเธอ เดินเข้ามาในร้าน แล้วมานั่งโต๊ะที่เธอนั่งกับเอกอยู่ก่อน “พี่เอก...เรียนมาแล้ว แนะนำพวกเราหน่อย...ครับ...” เอกเคยเรียนวิชานี้มาก่อน...คำแนะนำดีๆ จึงเกิดขึ้น “นั่นมัน...ตำนานทั่วไป เดียวพี่จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงที่คนยังไม่รู้ของมหาวิทยาลัยของเราอีกเรื่อง...ที่ถูกปกปิดมาช้านาน..ให้ฟัง.” “ดี...ดี...ครับพี่....เล่าเลยเดียวผมเลี้ยงน้ำครับพี่...” “หนูฟังด้วย...สิพี่เอก” “หนูก็ด้วย...” เอมอร..รีบวิ่งมานั่งลงบนโต๊ะด้วยหน้าตาตื่น ในขณะที่ปาจารีณ์ที่เพิ่งถูกนำตัวมาส่งเมื่อครู่..ก็เข้ามาร่วมสมทบอีกคน จนขณะนี้มีผู้นั่งรอฟังเอกเล่า เรื่องตำนานที่เชื่อว่ามันคือเรื่องจริง ที่ได้เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ แล้วห้าคน “มันเป็นคืนพระจันทร์อับแสง... ที่นักศึกษาหนุ่มได้พานักศึกษาสาวไปพลอดรักกันใน... ป่ารกริมทาง...” “พี่ เอก...ขา.แค่เริ่มก็..น่ากลัว...จังเลยค่ะ...” “นังเอม...เพิ่งเริ่ม ยังไม่มีอะไรเลยแกก็กลัวแล้วหรอ...” “เอ๊ย...เดียวพี่เอกก็เสียสมาธิหรอก...หยุดกันได้แล้ว...เอาล่ะครับพี่เอกเล่าต่อเถอะครับ...” รุ่นน้องของเอกคนหนึ่งว่าเอมอรที่ทำตัวกลัวเกินเหตุ..ขณะนักศึกษาหนุ่มอีกคนตัดบท...การเล่าจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง “มันเริ่มต้นจาก ฝ่ายชายเริ่มลวนลามนักศึกษาหญิงในขณะที่เธอไม่ยินยอมพอใจ...มันจึงทำให้ฝ่ายชายพยายามจะทำทุกวิถีทางเพื่อจะร่วมรักกับเพื่อนนักศึกษาสาว ณ.ที่ตรงนั้น” เอกยกแก้วน้ำขึ้นดูดขณะดวงตาทุกคู่จ้องมองเขาเป็นตาเดียว.. “สุดท้าย... ฝ่ายชายก็ทราบว่าหญิงสาวไม่ยินยอมพร้อมใจแน่นอน...เขาจึงใช้ไม้ตายสุดท้ายโดยขอร้องให้ผู้หญิงช่วยสำเร็จความใคร่ให้แก่เขา...ด้วยการใช้ปากกับอวัยวะเพศที่แข็งตัวเต็มที่ของเขา...แล้วสัญญาว่าจะพาเธอกลับหอพักโดยสวัสดิภาพในทันที” “ยี้...จะอ้วก...” ทุกสายตามองไปยังเอมอร..ที่กล่าวขัดการเล่าของเอกอีกครั้ง..ก่อนที่เธอ จะยกมือขึ้นปิดปากเพื่อบอกทุกคนว่าเธอจะไม่พูดอะไรขึ้นมาอีก จึงทำให้ผู้เล่าๆ ต่อ “แล้วหญิงสาวจำใจต้องกะทำ เพราะ...กลัวฝ่ายชายจะกะทำรุนแรงต่อเธอถ้าเขาไม่ได้ดังใจ...ดังนั้นทั้งคู่จึงลงจากรถแล้วเดินไปยังต้นไม้ใหญ่ ก่อนที่ฝ่ายนิสิตหนุ่มจะรูดซิปลงแล้วควักอวัยวะสืบพันธุ์ที่แข็งโด่ของเขา.ออกมา...” ผู้รับฟังทำหน้า จินตนาการไปตามแต่ที่จะคิดไปของแต่ละบุคคล.ก่อนที่จะกลับมาตั้งหน้าตั้งตาฟังต่อ “หญิงสาวใช้ปากอยู่นานก่อนที่ อสุจิของฝ่ายชายจะพุงเข้าไปในลำคอในขณะที่ นักศึกษาสาวไม่รู้ตัว...มันจึงส่งผลทำให้เธอต้องรีบวิ่งออกจากบริเวณนั้นไปเพื่ออ้วก จากความพะอืดพะอม และเมื่อเธออ้วกเสร็จหญิงสาวก็รีบเดินกลับมาเพื่อหาแฟนหนุ่ม แต่ทว่า...” เอกกลอกตามองทุกคนที่กำลังตั้งใจฟัง ก่อนจะเล่าต่อ “แฟนหนุ่มของเธอไม่รู้หายไปไหน? และเหตุนั้น มันทำให้นักศึกษาสาวต้องออกตามหาแฟนหนุ่มไปทั่วทั้งชายป่า แต่ก็ไม่พบ เธอจึงรีบกลับไปหาบริเวณที่รถจอด แต่ก็ไม่พบชายหนุ่มแม้แต่เงา. ดังนั้นหญิงสาวจึงทำได้เพียงขึ้นไปนั่งรอแฟนของเธออยู่บนรถ ด้วย จิตใจที่แสนจะหวาดกลัว และ สับสน” เอกหยุดนิดหนึ่ง แล้วยิ้มให้กับสายตาทุกคู่ที่จ้องมองดูเขาสายตาเขม็งด้วยความพอใจ...ก่อนที่จะเล่าต่อ “และ ไม่นานหญิงสาวก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อเธอมองไปเห็นชายทาแป้งจนหน้าขาวเหมือนพวกเล่นละครใบ้ แบบไม่มีผิดเพี้ยน กำลังมุ่งเดินตรงมาหาเธอที่นั่งอยู่บนรถคนเดียวลักษณะประสงค์ร้าย และสิ่งนั้นเองที่ทำให้หญิงสาวตัดสินใจขยับไปที่นั่งของคนขับก่อนที่จะสต๊าตเครื่องยนต์รถ แล้วรีบขับรถหนีออกไปจากบริเวณนั้นในทันที..” “แล้วเธอทิ้งแฟนเอาไว้ยังงั้นเหรอคะ..พี่เอก” “เอ้ย แกก็ฟังพี่เขาเล่าสิเอม.. จะถามทำไหม? นี่” นิกส์รีบต่อว่าเอมอรที่ขัดจังหวะจนทำให้การเล่าไม่ต่อเนื่องก่อนจะหันหน้าไปเพื่อฟังเอกที่เริ่มเล่าต่อ . “และเมื่อนิสิตสาวขับรถห่างบริเวณนั้นออกไปไกลกว่าห้ากิโลเมตร เธอจึงได้รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มันผิดปกติ นิสิตสาวจึงจอดรถ แล้วลงไปดูว่ามันคืออะไรกันแน่ ..และ..และ.. สิ่งที่เห็น..มันทำให้เธอต้องตกใจสุดขีด เมื่อนิสิตสาวได้รู้ว่า...เธอขับรถลากเอาร่างแฟนหนุ่มที่หายไป ที่ไม่รู้ว่าใครก็ไม่รู้? นำเขามาผูกติดกับรถคันที่เธอขับหนีชายหน้าขาวเมื่อสักครู่.จนแฟนหนุ่มของเธอต้องจบชีวิตลงเพราะน้ำมือของเธอนั่นเอง..” “ยี้...ถ้าเป็นเรื่องจริง..เธอ คงซ๊อก..น่าดู” “ใครว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง แต่มันเป็นเรื่องจริงที่ถูกปกปิดเอาไว้ไม่ให้ใครรับรู้มานานแล้วรู้ไหม?” เอมอรผู้พูดขึ้นครั้งแรก..ทำหน้าหวาดหวั่นเมื่อนิสิตหนุ่มรุ่นพี่ ยืนยันถึงเรื่องที่เขาเล่าว่ามันคือเรื่องจริง.. “เอ๊ย...พวกเราถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว ไปกันเถอะ และ ขอบคุณครับพี่เอกนะครับที่เล่าเรื่องตำนานมันๆ ให้พวกเราฟังอีกเรื่อง” เอกยิ้ม..เมื่อสิ้นเสียงของแน้ก..นักศึกษาหนุ่มรุ่นน้องที่กล่าวขอบคุณ ในขณะที่ทุกคนที่นั่งฟังเอกเล่าเมื่อครู่ต่างพากันยกมือไหว้นิสิตหนุ่ม พร้อมต่างพากันรีบลุกเก็บข้าวของเพื่อเตรียมไปเข้าเรียนวิชาที่พวกเขามานั่งรอ. …………………………………………………….. “ณิศา...ฉันไปก่อนนะ...เจอกันที่หอนะเพื่อน...” เอมอรกล่าวขณะกำลังเก็บเอาตำราเรียนยัดใส่กระเป๋าหลังจากคาบสุดท้ายของการเรียนในวันนี้สิ้นสุดลงเมื่อครู่ “อ้าว..แกไม่กลับพร้อมฉันเหรอ..เอม” “ไม่ละ..ฉันมีธุระ..” วรรณิศามองดูเพื่อนรักที่รีบวิ่งตรงไปหาชาตรีที่มารอรับ ก่อนที่เธอจะรีบขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของแฟนหนุ่มแล้ววิ่งออกไปจนลับสายตา วรรณิศา “อีกแล้ว..เอม..” วรรณิศากล่าวเสียงเบื่อก่อนจะเร่งเดินไปยังบริเวณลานจอดรถ ที่รถเก๋งขนาดมินิที่ทางครอบครัวของเธอให้มาใช้เป็นพาหนะเพื่อเดินทางในขณะที่เล่าเรียนอยู่ที่นี่จอดอยู่ ขณะวรรณิศาเดินไปถึงลานจอดรถใต้อาคารเรียน..หญิงสาวต้องหน้ายุ่งในทันที เมื่อสายตามองไปเห็นชายหนุ่มที่เธอจำได้แม่นว่า เป็นคนที่มาตามทวงหนี้กับปาจารีณ์ เพื่อนของเธอตอนเที่ยง ที่ร่างเท่กำลังยืนกอดอก อยู่ข้างรถคันงามเหมือนดังเช่นครั้งที่หญิงสาวพบกับเขาเป็นครั้งแรกแบบไม่มีผิดเพี้ยน “เดียวก่อน... สิครับ” เสียงหวานหู..ดังขึ้นขณะวรรณิศาพยายามเร่งก้าวผ่านร่างที่เธอไม่ต้องการที่จะเสวนาด้วย “…ทำไมค่ะ..” น้ำเสียงแข็งกระด้างกล่าวขึ้นในขณะที่หญิงสาวหยุดเดินแล้วหันไปจ้องเข้าไปในแว่นกันแดดสีดำของผู้ที่เรียกด้วยสายตาเคลือง ...............ตามต่อนะครับ................. อัคคีตัวเอกฝ่ายชาย ผู้ทำธุรกิจเงินกู้ และ ยังผู้กว้างขว้างอยู่รอบเขตรั้วของมหาลัยดัง ที่ได้มาเจอ นักศึกษาสาวเข้าใหม่ปีหนึ่งอย่างวรรณิศตัวเอกฝ่ายหญิง และเธอก็ไม่คิดจะยอมคน แล้วมันจะเป็นยังไงตอนหน้ารู้กันนะครับ และสำหรับนิยายเรื่อง"สืบพิศวาส" มันเป็นเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่อง ที่ลึกลับซับซ้อนมากๆ และ ไรท์ก็ขอสปอยหน่อยว่า กว่าจะรู้ว่าใครก็ต้องอ่านถึงหน้าสุดท้ายเลยที่เดียว ถึงจะรู้ว่าฆาตกรจริงๆคือใคร?กันแน่ และ ในบทหน้าแล้วนะครับที่ มันจะเริ่มออกล่าเหยี่อ..ตามไรท์มานะครับ.... ..กระซิบแผ่ว..
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม