บทที่​ 4​ ต้นเหตุสยอง

2271 คำ
“เดียวก่อน... สิครับ” เสียงหวานหู..ดังขึ้นขณะวรรณิศาพยายามเร่งก้าวผ่านร่างที่เธอไม่ต้องการที่จะเสวนาด้วย “…ทำไมค่ะ..” น้ำเสียงแข็งกระด้างกล่าวขึ้นในขณะที่หญิงสาวหยุดเดินแล้วหันไปเข้าจ้องแว่นกันแดดสีดำของผู้ที่เรียก “น้องวรรณิศา เป็นเพื่อนกับน้องปลาใช่ไหมครับ” “ก็รู้อยู่นี่คะ...ว่าใช่” วรรณิศาคิดฉงนในเรื่องที่ชายหนุ่มรู้จักชื่อของเธอขณะตอบสั้น “พี่รู้จากน้องปลา..นะเรื่องชื่อ..” เขาตอบก่อน เหมือนเขารู้ว่าหญิงสาวกำลังคิดอะไร.และนั้นเองทำหญิงสาวคิดว่าดีแล้ว เธอจะได้กระจ่างในเรื่องนั้น..ก่อนที่นิสิตสาวจะยิงคำถามกลับ ด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียด เพื่อที่เธอจะได้ไปจากที่นั่นเสียที “แล้วทำไม..ค่ะ? ..” “เออ... พอดีตอนเที่ยงน้องปลาลืมของไว้นะ พี่จึงอยากวานฝากไปส่งคืนให้ด้วย...” ชายหนุ่มส่งถุงกระดาษไปให้ ก่อนที่มือเล็กจะยื่นมารับ “พี่ชื่ออัคคี...มีอะไรให้ช่วยเหลือก็บอก.พี่ได้นะ” วรรณิศาคิดถึงการช่วยเหลือ ด้วยการให้ผู้หญิงยืมเงินที่ดอกเบี้ยสูง จนไม่สามารถจ่ายคืนได้ แล้วก็ให้ไปร่วมหลับนอนเพื่อชดใช้หนี้ เหมือนดังที่เพื่อนสาวของเธอโดนเมื่อตอนเที่ยง. “พี่...การทำมาหากินของพี่ แบบนั้นมันไม่ได้เป็นการช่วยเหลือหรอกนะคะ แต่มันเป็นการเอาเปรียบกันชัดๆ” อัคคี มองตาคมเข้มที่ดุดันของผู้พูด... ก็รู้ว่าหญิงสาวเอาจริง.. “ถ้าหมายถึงเรื่องของน้องปลาตอนเที่ยง.นั่นมันเป็นเรื่องของธุรกิจ แต่เรื่องช่วยเหลือก็คือช่วยเหลือครับ” “คนจิตใจอย่างนั้น จะหวังไปช่วยใครได้..ก็เห็นแก่ตัวกันขนาดนั้น ปากก็เรียกน้องๆ ..แต่ในใจหวังเพียงเพื่อจะให้ไปตอบสนองตัณหาให้แก่ตัวเอง...” แววตาเยือกเย็นมองผ่านแว่นกันแดดสีดำ จึงทำให้เห็นใบหน้าสวยที่พูดแบบไม่คิดจะไว้หน้าใครชัด จนมันทำให้ชายหนุ่มอยากจะรู้ว่าหญิงสาวเบื้องหน้าของเขา จะเก่งกล้าเพียงใดกับคำถามที่เขาถามออกไปนี้ “แล้วน้องคิดค่าสนองตัณหาครั้งละเท่าไร?” แววตาตาหญิงสาวลุกโซนด้วยไฟโกธรกับคำกล่าวเมื่อครู่ “แปดแสน” คำตอบเสียงตะว้าด ขณะที่นิสิตสาวพยายามสงบสติอารมณ์ ก่อนจะเห็นชายหนุ่มยื่นสิ่งหนึ่งมาให้ เธอจึงรับเอา “น้องไปหาพี่เย็นนี้และกรุณาอาบน้ำให้สะอาด... และแต่งตัวให้สวยๆ แต่ไม่ต้องใส่น้ำหอมมาพี่ไม่ชอบ” หญิงสาวกล่าวประชดถึงจำนวนเงินมหาศาล ที่ไม่ใช่เจตนาจะขายตัวแต่อย่างไร และสิ่งนั้นชายหนุ่มก็รู้ดี เขาจึงยื่นนามบัตรให้ พร้อมกล่าวยั่วนิสิตสาว จนเขาเห็นใบหน้าสวยโกธรจนแดง ก่อนที่ร่างบางจะรีบหันหลังกลับแล้วก้าวไปยังรถของเธอในทันที “ไอ้มนุษย์หื่นกาม...เอ๊ย...อย่าให้ถึงที่ฉันบ้างก็แล้วไป” วรรณิศาบ่นออกมาขณะที่เข้าไปนั่งในรถเก๋งคันเล็กของเธอ ก่อนสายตาจะมองไปเห็น นักศึกษาสาวสวยคนหนึ่งและเธอจำได้ดีว่านั้นก็คือรุ่นพี่ปีสองของเธอ ที่เดินไปหยุดคุยกับชายที่เธอเกียดแสนเกียดที่สุดในขณะนี้..และแล้ว มันก็มีอะไรแวบขึ้นมาในสมองของนักศึกษาสาว เธอจึงเปิดประตูรถออก “พี่ค่ะ เรื่องนี้หนูต่อรองให้พี่เองค่ะ” หญิงสาวในชุดนิสิต ที่กำลังยืนคุยอยู่กับอัคคี หันหน้ามามองหน้าวรรณิศาด้วยใบหน้าที่แสดงออกถึงความสงสัย “คุณอัคคีค่ะ..สำหรับเงินที่ค้างจ่ายของพี่เขา ดิฉันจะจ่ายแทนเองค่ะ” “น้องวรรณิศาจะจ่ายแทน รู้ไหมว่ามันเท่าไร” “เท่าไหร่ก็หักจากเงิน แปดแสนนั้นได้เลยค่ะ.คุณพี่อัคคี” ชายหนุ่มยิ้มเมื่อได้ยินคำคำ นี้ ในขณะที่นิสิตสาวอีกคนไม่รอสิ่งที่ไม่เข้าใจอีกต่อไป.. “เออน้องจะจ่ายอะไรแทนพี่ ค่ะ” “ก็เงินที่พี่ยืม แล้วกำลังถูกตามทวงหนี้อยู่นี้ไงคะ..” “เงินๆ ยืมอะไร?” หญิงสาวกล่าวขณะคิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน..จน วรรณิศา ต้องอธิบายเพิ่ม “ก็ตอนนี้ ผู้ชายคนนี้มาทวงเงินพี่ใช่ไหมละคะ..” “ไม่...นี่ค่ะน้อง อัคคีแฟนพี่.เขามารับพี่กลับ แล้วอะไร? ใครยืมเงินใคร” หญิงสาวยืนอ้าปากหวอ เพราะความรู้สึกว่าหน้าเธอแตกละเอียด เมื่อได้ทราบถึงความจริงเรื่องนี้. “เมย์น้องเขาคงจำคนผิดนะ.ดูหน้าน้องเขาสิไม่ค่อยฉลาดเท่าไร...ปะเรา ไปกันเถอะ” อัคคีเดินอ้อมรถไปยังตำแหน่งคนขับที่ต้องผ่านร่างหญิงสาวที่ยืนตัวแข็งทื่อ จากความเขินอาย ก่อนที่ชายหนุ่มก้มจะเข้าไปกระซิบเบาที่ข้างหูของวรรณิศา “แฟนพี่ จะไปนอนกับพี่คืนนี้ และ ถ้า...จะไปนอนแทนก็ไปหาพี่ตามที่อยู่ในนานบัตรที่ให้นะ... เด็กโง่” ………………………………………………………… “คนบ้ากาม วันๆ ไม่ทำอะไร จะทำแต่เรื่องเดียว” วรรณิศาร้องออกมาเสียงดังเมื่อกลับเข้าไปอยู่ในรถเก๋งคันเล็กของเธอ ก่อนที่มือจะไปสัมผัสถูกถุงกระดาษที่ชายหนุ่มฝากไปให้ปราจารีณ์เพื่อนของเธอ หญิงสาวจึงล้วงเอาของฝากนั้นออกมาจากถุงขึ้นมาดู “คนบ้ากาม... บ้า...บ้า...บ้า...” เสียงร้องจนสุดเสียง เมื่อวรรณิศาเห็นของฝาก เพราะว่ามันคือกางเกงชั้นในของผู้หญิง และมันคงจะเป็นของปาจารีณ์ เพื่อนของเธอ ที่คงจะลืมเอาไว้ที่บ้านของอัคคีเมื่อตอนเที่ยงนั่นเอง ………………………………………………………. . มือที่ลูบไล้เบาๆ ไปตามโคนขาอ่อนของหญิงสาว แล้วไปหยุดนิ่งบนผ้าบางที่ใช้ใส่ปกปิดโหนกเนื้อระหว่างขาเรียวทั้งสองข้าง ก่อนที่เรียวนิ้วจะกดลงไปในรอยแยก จนเจ้าของร่องเนื้อต้องขับน้ำออกมาบรรเทาความฝืดเคืองให้กับผิวหนังอันแสนบอบบาง ที่กำลังถูกปลายนิ้วกดลงบริเวณกางเกงชั้นในลายฉลุรูปดอกไม้ จนมันทำให้น้ำเมือกเหนียว ซึมเปียกผ้าผืนบางนั้นจนเต็มไปตลอดแนวร่อง นิ้วกลางลูบและคลำหาส่วนที่เป็นปากโพงอยู่นาน ก่อนที่เจ้าของโพงเนื้อจะขยับก้นยกขึ้นเล็กน้อย มันจึงทำให้ปลายนิ้วค้นพบปากถ้ำ ก่อนที่เจ้าของนิ้วจะเพิ่มแรงกด เพื่อจะให้ปลายนิ้วเล็ดลอดเข้าไปในโพงที่ชุ่มเมือก... “พอกันเสียที่เอม... พี่เอกมานั่นแล้ว” เสียงวรรณิศา กล่าวเตือนเบาให้ชาตรีกับเอมอรหยุดพฤติกรรมที่ทั้งคู่ไม่สนว่าเธอนั่งอยู่ด้วย อีกทั้งที่นี่มันยังเป็นสถานที่ อโคจร ที่มีคนมาใช้บริการอยู่มากมาย และ แม้ว่าในผับดังข้างมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มันจะมืดสลัวเพียงใด และมีเพลงเปิดเสียงดังกลบเสียงของทั้งคู่เอาไว้ แต่ในขณะนี้ ผู้ที่พวกเขานัดเอาไว้กำลังเดินตรงมาแล้ว “สวัสดีพี่เอก” วรรณิศากล่าวสวัสดีหนุ่มรุ่นพี่ ที่กำลังใช้ความสามารถจีบเธอให้มาเป็นแฟนให้ได้ในตอนนี้ ที่เดิมเข้ามาใกล้ ก่อนที่เอมอรเพื่อนสาวกับชาตรีแฟนหนุ่ม ที่เพิ่งแยกออกจากกันเมื่อครู่ก็กล่าวเช่นเดียวกับเธอ “สวัสดีพี่เอก” “สวัสดีทุกคน วันนี้วันเกิดพี่ อยากกินอะไรก็สั่งได้เลยตามสบายนะ” สุราพร้อมเครื่องผสม ได้ถูกสั่งมาตั้งบนโต๊ะเพื่อฉลองวันเกิดเอก ผู้ที่ชวนให้ทุกคนมาเที่ยวกินฉลองในครั้งนี้เต็มโต๊ะ ก่อนการดื่มกินจะเริ่ม ในขณะที่เอมมรอารมณ์กำลังได้ที่จึงลุกขึ้นร่ายลีลาด้วยการขยับเต้น อ่อนช้อยเย้ยยั่วต่อสายตาทุกๆ คู่ ที่นั่งอยู่ตามโต๊ะต่างๆ ในผับดังที่มองมา ในขณะที่เอกพยายามนั่งเบียดชิดกับ วรรณิศา พร้อมกับ ขยันขะยอ ให้เธอดื่มอยู่ตลอดเวลา “ณิศาเอาดื่มให้พี่... อีกแก้ว เอาเร็วทุกๆ คนยก” วรรณิศา ยกแบบไม่มีหลีกเลี่ยง... จนดีกรีในตัวเธอสูงปรี๊ดแล้วในขณะนี้ “ลุกขึ้นเต้นหน่อย สิวะ ศา.นั่งเฉยอยู่ได้” เอมอรดึงแขนเพื่อนรักก่อนที่ร่างบางจะทำตาม... ด้วยการลุกขึ้นโยกตามเพลงที่ทางผับจัดมาเหมือนกับหลายๆ โต๊ะ จนสร้างบรรยากาศในผับให้คึกคั่กเป็นที่สุดในช่วงเวลานี้. . กลุ่มควันคลุ้งกระจายจากบุหรี่ของผู้มาเที่ยว แต่ก็ไม่สามารถบดบังร่างชายหนุ่มที่นั่งนิ่ง ขณะที่ข้างกายของเขามีหญิงสาว ที่วรรณิศาจำได้ว่าคือสาวรุ่นพี่ปีสองที่ชื่อเมย์ กำลังนั่งซบอยู่ที่อก บริเวณโต๊ะที่วรรณิศาสามารถมองเห็นได้ถนัด “สวัสดีครับพี่อัคคี...” เอกยกมือไหว้ ขณะกล่าวเสียงที่ไม่ทราบว่าผู้ที่เขากำลังไหว้จะได้ยินหรือไม่ เพราะเสียงเพลงที่เปิดในผับขณะนี้มันดังมาก..แต่มือรับไหว้ที่ยกขึ้นให้แก่เจ้าภาพโต๊ะของวรรณิศา เป็นสิ่งยืนยันว่าเขารับทราบ สายตาของอัคคีตอนนี้ไม่มีแว่นดำมาบดบัง ได้ชำเลืองไปทางวรรณิศาแล้วหันหน้ากลับ เหมือนกับว่าเขาไม่เคยรู้จักคนที่เขาหันไปพบเมื่อครู่แม้แต่น้อย.. “เออ... จำไม่ได้ก็แล้วไป...” หญิงสาวคิดขณะยกเหล้าเพียวๆ .ขึ้นกระดกลงคอก่อนที่จะขอตัวไปห้องน้ำ.. “พี่เอก..ศาไปห้องน้ำก่อน..นะ..” “..เราไปด้วยศา” ชาตรีและเอมอร..เดินตามติด วรรณิศาไป ก่อนเธอจะก้าวผ่านประตูห้องน้ำเข้าไป.ทำให้นิสิตสาวพบว่า ตรงบริเวณเคาน์เตอร์อ่างล้างมือหน้ากระจกบานใหญ่ ตอนนี้ไม่มีคน จะมีก็เพียงประตูห้องน้ำหนึ่งในสามถูกปิด และนั่นก็แสดงว่าตอนนี้กำลังมีคนใช้มันอยู่ “เอ๊ยไม่มีคนเข้ามาเลยพี่ชาตรี..” วรรณิศามองพร้อมส่ายหัวไปมา เมื่อเพื่อนสาวของเธอดึงมือแฟนหนุ่ม เข้ามาในห้องน้ำหญิงแบบลุกลี้ลุกลน “ศา... ดูต้นทางให้ด้วย..เพื่อนรัก” เอมอรสั่งเสร็จเธอก็หายเข้าไปในห้องน้ำ หนึ่งในสองที่ว่างอยู่พร้อมแฟนหนุ่มในทันที. ในขณะเพื่อนที่ไม่เคยว่ากล่าวและเตือนเอมอร ก็ปล่อยให้เพื่อนสาวทำตามใจชอบอีกครั้ง “เอีอด...” วรรณิศา เข้าห้องน้ำข้างๆ ห้องที่เพื่อนและแฟนเข้าไปเพื่อทั้งคู่จะทำสิ่งใดเธอรู้ดี... และในตอนนี้เสียงที่เธอได้ยินประจำเมื่อคู่นี้อยู่ด้วย..ก็เริ่มขึ้น. “อูย...ซีดส์...” หญิงสาวปลดกระดุมกางเกงยีนที่เธอสวมใส่มาในวันนี้ออกช้าๆ แล้วรูดซิบตรงเป้ากางเกงลงช้า จึงค่อยรูดกางเกงยีนตัวคับให้ลงไปกองอยู่ที่หน้าแข้ง ก่อนจะมองสำรวจกางเกงในตัวจิ๋วที่เปียกน้ำเป็นวงเนื่องจากโพงสวาทของหญิงสาวได้ขับเมือกธรรมชาติออกมา เมื่อครั้งที่เพื่อนสาวกับแฟนหนุ่ม พลอดรักกันอยู่ที่โต๊ะ และตอนนี้ทั้งสองคนก็ทำให้ วรรณิศารู้สึกแฉะเพิ่มตรงบริเวณนั้นอีกครั้ง ด้วยเสียงครางที่มันทำให้ นิสิตสาวที่ขาดประสบการณ์จริงเรื่องกามรมณ์ ตลอดระยะเวลายี่สิบปี ของอายุ ให้เริ่มหวั่นไหวอีกครั้ง.. “จ๊วบ..จ๊วบ...” หญิงสาวไม่เดาก็รู้ว่ามันคือเสียงจูบปากระหว่างชายกับหญิงข้างห้อง ก่อนที่วรรณิศา จะเริ่มปล่อยตัวตามความรู้สึกเหลิงจนใกล้จะกู่ไม่กลับของอารมณ์ที่มันได้กระเจิดกระเจิงไปในตอนนี้ “อืม...” มือเรียวเล็กของนิสิตสาวรูดกางเกงในตัวเล็กลงไปกองรวมกับกางเกงยีนข้างล่าง จนทำให้เผยร่องเนื้อที่ยังไม่เปิดอ้าของโหนกนูนเนื้อ ที่มีบรรดาเหล่าไหมอ่อนดำละมัย ขึ้นแซมอยู่แบบไม่เต็มพื้น มันจึงมันมองดูไม่รกรุงรังมากนัก.. วรรณิศาอ้าขาออกเท่าที่จะทำได้แต่ร่องเนื้อนั้นก็ไม่ยอมแยกออกจากกันอยู่ดี หญิงสาวจึงใช้มือเรียวเล็กวางทาบลงไปก่อนจะกดนิ้วกลางดันลูบผ่าเข้าไปในส่วนที่เธอประสงค์ “อัก... จ๊วบ... จ๊วบ... อักจ๊วบ...” เสียงที่เกิดขึ้น..ทำให้หญิงสาวหยุดนิ้วที่กดลงลึก..เพราะว่านั่นเป็นเสียงที่เธอไม่คุ้นเคย..ทำให้วรรณิศาก้มลงไปมองลอดผนังที่ลอยเหนือพื้นที่ใช้กั้นระหว่างทั้งสองห้อง ที่มันลอยจากพื้นประมาณคืบกว่าๆ จึงทำให้หญิงสาวพบขาของเอมอรนั่งอยู่บนโถส้วมชักโครก ในขณะ ชาตรียืนหันหน้าเข้าหาเพื่อนสาวของเธอ และภาพนั้นเองที่ทำให้จินตนาการของนิสิตสาว มองเห็นปากของเอมอรกำลังคาบอมอาวุธประจำกายของชาตรีเอาไว้ ก่อนที่แฟนหนุ่มของเธอจะขยับให้มันผลุบ ........................ตามต่อนะครับ....................... อัคคี และ วรรณิศา เริ่มรู้จักมักคุ้นกันแล้ว แต่ตอนนี้ทั้งคู่ยังไม่รู้เลยว่า..คืนนี้โชคชะตามันจะนำพาให้เขากับเธอต้องร่วมชะตากรรมไปด้วยกัน ชนิดแทบจะเอาชีวิตไม่รอด จนเหตุดังกล่าวมันจะเปลี่ยนแปลงความรู้สึกที่ทั้งคู่มีต่อกันไปตลอดกาล.. ตามความเข้มข้นของนิยายอีโรติกแนวสืบสวนเรื่องนี้มานะครับ... ...กระซิบแผ่ว...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม