4

1702 คำ
 “ปิ่นเป็นผู้หญิงนะคะ เขายังไม่ได้เอ่ยปากอะไรจะให้ปิ่นคิดไปเอง ได้ยังไงคะว่าเขามาชอบมาจีบ” “มองอาการก็รู้แล้ว” ตรีเคาะนิ้วไปมากับโต๊ะตรงหน้าน้องสาว “แล้วถ้าเขามาจีบจริงๆ พี่เอก พี่โท พี่ตรีจะว่ายังไงคะ” คนเอ่ยถามหน้าแดงน้อยๆ ยอมรับว่าลึกๆ เธอชอบตฤณอยู่มาก เพราะเขาอ่อนโยนน่ารักและใจดี “คนนี้เหรอ” เอกทำท่าคิดก่อนหันไปมองหน้าน้องชายทั้งสอง “ดีกว่าไอ้ณัฐเป็นไหนๆ” โทหมายถึงแฟนเก่าที่น้องสาวคบตอนมัธยม หมอนั่นนอกใจคบซ้อนแล้วคนที่คบก็เป็นเพื่อนสนิทกับน้องสาวของเขา คิดแล้วก็อยากจะตะโกนออกมาดังๆ ว่ามันโคตรเลวแค่ไหน แต่พอมาคิดอีกทีก็ดีใจที่น้องสาวเลิกกับมันได้เพราะถ้ายังขืนคบกับมันต่อไป คงช้ำใจน้ำตาเช็ดหัวเข่า “น้องพี่เข้มแข็งที่ตัดใจจากมันได้” ตรีโยกศีรษะน้องสาวไปมา พอปิ่นแก้วจับได้ว่าณัฐนอกใจก็ตัดขาดไม่ใจอ่อนอีก เขาชื่นชมในความใจเด็ดของน้องสาวนัก ผู้หญิงบางคนตัดไม่ขาดกลับไปคบอีกทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเลวแค่ไหน “คนนี้พี่รู้จักเขาในฐานะที่เขาเป็นลูกค้าของโรงพยาบาลเป็นคนใจบุญชอบช่วยเหลือสัตว์ แต่นิสัยส่วนตัวพี่ไม่รู้ น้องโตแล้ว เรียนจบแล้วลองเปิดใจคบดูสิ ถ้าเขามาชอบเราจริงๆ มีอะไรปรึกษาพวกพี่ได้เสมอ” เอกลงความเห็นหลังจากขบคิดอยู่ครู่หนึ่งซึ่งพี่น้องคนอื่นๆ ก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง “พูดถึงก็มาโน่นแล้ว” ตรีบุ้ยใบ้ไปทางประตูทางเข้าของโรงพยาบาล “สวัสดีครับ” ตฤณยกมือไหว้พี่ชายทั้งสามของปิ่นแก้วอย่างเป็นทางการ “สวัสดีครับ มาเยี่ยมเจ้าดำเหรอครับ” เอกทักทาย “ใช่ครับ” “เชิญตามสบายครับ” สัตวแพทย์หนุ่มทั้งสามยิ้มให้อย่างใจดี ก่อนจะเอ่ยขอตัว “พี่ชายของน้องปิ่นใจดีจังเลยนะครับ ถ้าจะมาฝากตัวเป็นน้องเขย จะโดนยิงกบาลไหมครับ” จู่ๆ เขาก็เอ่ยถามออกมา ปิ่นแก้วถึงกับตาโตกับประโยคของคนตรงหน้า ก่อนจะรีบเดินหนี “ก็ไม่รู้สิคะ” เธอไม่คิดว่าจู่ๆ เขาจะโพล่งถามออกมาแบบนี้น่ะสิ “รอพี่ด้วยครับ” ตฤณวิ่งตามมาเยี่ยมเจ้าดำที่มันอาการดีขึ้นมากแล้ว มันเห็นตฤณเข้าก็มีท่าทีดีใจ ตฤณดึงมันมากอด มองขาที่เข้าเผือกของมัน อย่างห่วงใย สัตว์มันรู้ว่าใครดีใครไม่ดี ท่าทางของมันเหมือนไม่อยากจากตฤณไปไหนเลย “ไม่กี่วันก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วค่ะ” ปิ่นแก้วลูบศีรษะของเจ้าดำไปมา มันตวัดลิ้นเลียใบหน้าของตฤณอย่างประจบประแจง “ดีจังเลยครับ” “ท่าทางมันจะดีใจมากๆ เลยนะคะที่เห็นพี่สอง” “มันคงจำได้ว่าพี่ช่วยมันเอาไว้ มันเป็นสุนัขจรจัดที่พี่ให้อาหารเป็นประจำครับ วันนั้นโดนรถชน ดีที่พี่ไปช่วยเอาไว้ทัน ไม่งั้นคงอาการหนักกว่านี้แน่ๆ เลย” “มันโชคดีมากเลยนะคะที่เจอคนใจดีๆ อย่างพี่สอง” “น้องปิ่นครับ คือพี่หนึ่งชวนไปรับประทานอาหารเย็นด้วยกันวันนี้น่ะครับ” เขาเอ่ยชวนหญิงสาวตรงหน้า “ได้สิคะ” เธอรับคำยิ้มหวานให้เขา “งั้นเลิกงานแล้วพี่มารับนะครับ” “สักหกโมงเย็นนะคะ วันนี้พี่ชายของปิ่นอยู่กันครบเลย ออกจากโรงพยาบาลก่อนเวลาได้ค่ะ” ส่วนใหญ่จะออกเวรตอนทุ่มหนึ่ง แต่หากมีเคสด่วนๆ ก็อาจจะเลทเป็นสองถึงสามทุ่ม เพราะเวลานั้นลูกค้าเลิกงานก็จะ พาสัตว์มารักษาหรือฉีดวัคซีน หมอสัตว์ก็เหมือนหมอคน ถ้ามีอะไรร้ายแรง ก็ต้องรีบมาดูเหมือนกัน “ชิมเค้กช็อกโกแลตของพี่หรือยังครับ” เขาเอ่ยถาม “ยังเลยค่ะ ชิมแล้วจะบอกนะคะว่าอร่อยหรือเปล่า” เธอดักคอเพราะเขาต้องถามว่าอร่อยไหม “ถ้าอร่อยอย่าลืมคิดถึงคนทำนะครับ” “ค่ะ” ปิ่นแก้วรับคำอย่างขวยเขิน ตฤณยิ้มให้หญิงสาวก่อนจะเอ่ยขอตัว พอเธอเดินเข้าห้องทำงานก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น “เข้ามาเลยค่ะ” เธอเอ่ยอนุญาตก่อนจะเห็นตฤณหิ้วของเข้ามาในห้อง “มีอะไรหรือคะพี่สอง” “คือพี่ทำข้าวกล่องมาให้น่ะครับ” เขายื่นข้าวกล่องให้หญิงสาวตรงหน้า ยิ้มหวานให้เธอตลอดเวลา “ขอบคุณค่ะ” “พี่ทำเองกับมือเลยนะครับ ต้องรับประทานให้หมดด้วยนะครับ” คนพูดยิ้มหวานแล้วเอ่ยขอตัวเพราะต้องไปส่งดอกไม้ให้ลูกค้าต่อ ปิ่นแก้วหน้าแดงเมื่อได้สบสายตาหวานเชื่อมคู่นั้น พอเขาออกไปจากห้องแล้วเธอก็เปิดข้าวกล่องของเขาออกดู ด้านในเป็นข้าวไรซ์เบอรี่ที่เธอชอบรับประทาน มีผักที่ตกแต่งอยู่บนข้าวเรียงกันเป็นคำว่า LOVE คนมองถึงกับยิ้มเขินกับข้าวกล่องน่ากินนั้น เธอมองกับข้าวเป็นอกไก่อบน้ำผึ้งกลิ่นหอมกรุ่น มีไข่ดาวรูปหัวใจและผลไม้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำอยู่อีกด้าน “น่ากินจัง” เธอร้องเบาๆ เสียงไลน์ดังขึ้นกดอ่านข้อความก็มาจากคนที่นำข้าวกล่องมาฝากเธอ -รับประทานให้อร่อยนะครับ อย่าลืมที่นัดกันไว้เย็นนี้นะครับ- -ค่ะ- เธอตอบกลับไปก่อนจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ความรู้สึกซู่ซ่าในหัวใจกลับมาอีกครั้ง ตอนเย็นตฤณมารับหญิงสาวไปรับประทานอาหารเย็นที่บ้าน เขายกมือไหว้สัตวแพทย์หนุ่มทั้งสามซึ่งเป็นพี่ชายของปิ่นแก้ว คล้ายจะขออนุญาตพาน้องสาวของอีกฝ่ายไปรับประทานอาหาร “พี่หนึ่งอยากเจอปิ่นครับ” “อยากเจอปิ่นเหรอคะ” “ครับ วันก่อนบอกพี่ว่ายังคุยกับปิ่นไม่จุใจเลย ลงครัวเร่งมือทำอาหาร ไว้รอแล้วครับ” “พี่สองไปส่งดอกไม้มาเหรอคะ” “ครับ วันนี้มีคนสั่งดอกไม้เยอะเป็นพิเศษ เพราะว่าเป็นวันดีครับมี งานแต่งหลายงาน พี่กับพี่หนึ่งเลยไปจัดดอกไม้ให้ตั้งแต่เมื่อวาน บางงานเขาก็มีคนจัดอยู่แล้วแต่มาสั่งดอกไม้กับเราครับ” “เหนื่อยไหมคะ” เธอเอ่ยถามสีหน้าของตฤณยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เขาดูมีความสุขกับการทำงาน “ไม่เลยครับ เห็นคนรับดอกไม้มีความสุข พี่ก็มีความสุขตามไปด้วย” เธอเหลือบมองผู้ชายตัวโตท่าทีอบอุ่นที่ขับรถส่งดอกไม้ไปทั่ว แล้วเผลอยิ้ม ตฤณเป็นผู้ชายตัวสูงกระฉับกระเฉง เขาเป็นคนแข็งแรง สดชื่น สดใส  ยิ้มง่าย ใจดี อบอุ่น ใบหน้าของเขาอ่อนโยน ผิวของเขาเป็นสีแทนแต่เรียบตึงสะอาดสะอ้านสุขภาพดี ใบหน้าเรียว ปากกว้างหยักหนา คิ้วเข้ม จมูกโด่ง   เป็นสัน หน้าผากกว้างและผมของเขาดกหนาสีดำสนิท “พี่สองรู้ได้ยังไงคะว่าปิ่นชอบดอกกุหลาบสีขาว” จู่ๆ เธอก็ถามขึ้น “น้องปิ่นเคยได้ยินไหมครับว่าเราจะรู้ทุกเรื่องของคนที่เราแอบชอบ” เขาพูดอ้อมๆ แต่คนฟังใจเต้นแรง “เอ่อ... ค่ะ” คราวนี้ปิ่นแก้วอึกอักหน้าแดงเสออกไปมองนอกรถ ตฤณเหลือบไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะยิ้มตามแล้วตั้งใจขับรถ “มากันแล้วเหรอจ๊ะ พี่จัดโต๊ะเสร็จพอดีเลย” ติยากรออกมาต้อนรับ คนทั้งสองด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ “สวัสดีค่ะพี่หนึ่ง” “สวัสดีจ้ะ มาดื่มน้ำเย็นๆ ให้ชื่นใจก่อน” น้ำสมุนไพรเย็นสดชื่นถูกเสิร์ฟมาตรงหน้า ปิ่นแก้วรับมาดื่มแล้วเอ่ยชม “หอมเย็นชื่นใจจังเลยค่ะ ปิ่นชอบรับประทานน้ำอัญชันผสมมะนาว แบบนี้ค่ะ” เธอพูดอย่างแปลกใจไม่น้อย เพราะไม่คิดว่าจะได้ดื่มน้ำสมุนไพรที่ตัวเองชอบ เนื่องจากไม่ค่อยมีใครเขาทำขายกัน ถ้าอยากจะทำก็ทำรับประทานเอง “น้องชายของพี่บอกว่าปิ่นชอบ” “พี่สองน่ะเหรอคะ” เธอหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ใกล้ๆ อย่างแปลกใจ เขายิ้มเขินก่อนจะอาสาเข้าไปหยิบจานชามมาจัดโต๊ะอาหาร “วันนี้มีของโปรดของปิ่นด้วยนะ” “ของโปรดของปิ่นเหรอคะ” เธอมองอาหารบนโต๊ะอย่างแปลกใจเมื่อเห็นซี่โครงหมูทอดกระเทียมพริกไทยดำ “จริงด้วยค่ะ รู้ได้ไงคะว่าปิ่นชอบรับประทานซี่โครงหมูทอดกระเทียมพริกไทยดำ” “คนโน้นเขารู้ได้ไงต้องถามเขานะ” คนที่ถือจานออกมาจากห้องครัวยิ้มไม่หุบ “พี่สองรู้ได้ยังไงคะว่าปิ่นชอบรับประทานเมนูซี่โครงหมูทอดกระเทียมพริกไทยดำ” “พี่บอกไปในรถแล้วนี่ครับ” “เอ่อ... ค่ะ” ปิ่นแก้วรับคำแล้วมีท่าทีขัดเขิน นึกถึงประโยคที่เขาบอกว่า เราจะสนใจและรู้เรื่องของคนที่แอบชอบเกือบทุกอย่าง “กินเยอะๆ นะจ๊ะ สองเขาเข้าครัวปรุงด้วยตัวเองก่อนไปรับปิ่นเลยนะ” “ปิ่นได้กินฝีมือพี่สองแล้ว” ปิ่นแก้วยิ้มให้ชายหนุ่ม เขายิ้มตอบกลับมาก่อนจะเริ่มรับประทานอาหารอย่างออกรส สองพี่น้องคุยสนุก ตลกและเป็นกันเอง ทำให้ปิ่นแก้วรู้สึกอบอุ่นใจยิ่งนัก “ผมไปส่งปิ่นก่อนนะครับพี่หนึ่ง” ตฤณบอกพี่สาวก่อนจะเปิดประตูรถให้หญิงสาว ปิ่นแก้วยกมือไหว้กล่าวลาติยากรก่อนจะขึ้นไปนั่งบนรถ “รัดเข็มขัดนิรภัยด้วยครับ” เขาขยับมารัดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ ปิ่นแก้วมองใบหน้าที่ขยับเข้ามาใกล้ตาปริบๆ ตฤณทำท่าจะถอยห่างก่อนจะรัดเข็มขัดนิรภัยให้เธอเสร็จ แต่ดวงตาหวานใสทำให้เขาหยุดมองนิ่ง ลมหายใจปะทะกันในระยะกระชั้นชิดให้ความรู้สึกวูบวาบหวามไหวอยู่มาก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม