ปวรปรัชญ์สบตาคนรักที่กำลังยืนตรงหน้าเขา หลายวันมานี้เธอแทบไม่คุยด้วย อาจโกรธเรื่องที่ทะเลาะกัน หลายข้อความส่งไป เธออ่านแต่กลับไร้การตอบรับ เรื่องไม่เข้าใจกันกลับไม่ปรับ ทำไมถึงได้เย็นชากับเขาขนาดนี้
“พี่อาจจะผิด แต่ตรีจะไม่ให้อภัยพี่เลยเหรอ” เขาตัดพ้อเสียเครีอ
ไม่ใช่ไม่ให้อภัย แต่เธอไม่มีทางเลือกต่างหาก ชัยอาการแย่ลงมาก และเธอต้องใช้เงินเพื่อให้หมอจ่ายยาที่ดีขึ้น เลือดที่ต้องให้แทบทุกวันก็ราคาไม่ใช่น้อย มันสุดทางแล้วจริงๆ
“ตรีไม่ได้โกรธพี่แล้วค่ะ”
“ถ้าไม่ได้โกรธแล้วทำไมไม่รับสาย หรือตอบไลน์พี่บ้างล่ะตรี”
หญิงสาวนิ่งงัน ช้อนสายตามอง เธอรักเขา แต่หน้าที่ความรับผิดชอบก็มีมากเหลือเกิน พี่ปรัชเป็นถึงลูกชายประธานบริษัทยายักษ์ใหญ่ เธอไม่คู่ควรแม้แต่น้อย เขาควรได้รักกับผู้หญิงที่มีฐานะทัดเทียม ต่อให้ตอนนี้เรารักกันดี ภายภาคหน้า ก็ต้องเจอกับอุปสรรคมากมายอีก
“เพราะตรีไม่อยากคุยกับพี่อีกแล้วค่ะ” น้ำตามันเริ่มไหลออกมา แม้พยายามเก็บกลั้นมันมากแค่ไหน ตลอดระยะเวลาสามปีที่คบกันมา เขาดีกับเธอมากเหลือเกิน
“ทำไม เพราะอะไร บอกเหตุผลพี่หน่อยได้ไหม!”
“เพราะตรีไม่ได้รักพี่อีกแล้ว” เธอพูดคำที่สวนทางกับหัวใจออกไป คนฟังนิ่งอึ้ง แววตาเจ็บปวด
“อะไรนะตรี..” เขาย้อนถามเสียงสั่น
“ตรีไม่ได้รักพี่ปรัชอีกแล้วค่ะ ตรีขอโทษนะคะ!”
ไหล่บางถูกจับไว้มั่น แววตาปวดร้าวส่งผ่าน ทำไมเธอถึงพูดแบบนี้ออกมา
“หมายความว่ายังไงพี่ไม่เข้าใจ ทำไมต้องขอโทษพี่ด้วย ตรีมีคนอื่นใช่ไหม ใช่ไหม!” เขาตะโกนลั่น แล้วเขย่าร่างบางจนหัวสั่นหัวคลอน
“พี่ปรัชปล่อยตรีนะ ตรีเจ็บ!” หญิงสาวร้องประท้วง
“ตอบพี่มา มีคนอื่นใช่ไหมตรี!”
มือบางสองข้างยกผลักดันสุดแรง จนคนถูกผลักหงะถอยหลัง เขายังคงจ้องมองแฟนตนเอง
“ใช่ ตรีมีคนอื่น พี่พอใจหรือยัง!” รมิตาตะโกนลั่น น้ำตาอาบแก้ม มือกำข้างตัวแน่น “ต่อไปนี้พี่ไม่ต้องมายุ่งกับตรีอีก เราเลิกกัน!”
ปวรปรัชญ์ชะงักดวงตาเบิกกว้าง กับคำสารภาพแบบกระทันหัน เธอทำให้เขาเจ็บปวดมากเหลือเกิน
“ทำไมตรี ทำไมทำกับพี่แบบนี้!”
“เลิกตั้งคำถามกับตรีสักที เราสองคนไม่ควรคบกันตั้งแต่แรก พี่ก็น่าจะรู้...”
ชายหนุ่มนิ่งงัน “แต่พี่รักตรีนะ”
คนฟังสะท้านในอก รักแล้วยังไง ทำอะไรได้งั้นเหรอ ถ้ามีทางเลือก เธอก็ไม่อยากให้มันจบแบบนี้หรอก
“ตรีขอให้พี่โชคดีค่ะ” หญิงสาวตัดบทแล้วเดินหนีไป
ปวรปรัชญ์หลับตาลงเพื่อข่มความรวดร้าว ต้องทำยังไง ความรักที่กำลังจะเสียไป ถึงย้อนกลับมาได้อีก มันทรมานมากเหลือเกิน
เสียงมือถือดังขึ้น เจ้าของเครื่องกดรับสาย
“ว่าไงไอ้ภูมิ!” เขากรอกเสียง
“ทำไมวันนี้ไม่มาทำงาน แกเป็นอะไรหรือเปล่า” ภูมิถามเสียงเครียด
“ไม่มีอะไร”
ภูมิระบายลมหายใจ อย่าบอกนะเรื่องที่เขาได้ยินมาเป็นความจริง
“แกมีปัญหาอะไรกับน้องตรีหรือเปล่า”
ปลายสายเงียบชั่วครู่
“ตกลงมีอะไรกันแน่”
“ทำไมแกถึงถาม ปกติแกไม่เห็นยุ่งเรื่องฉันเลย!” ปวรปรัชญ์ย้อนเพื่อนเสียงแข็ง
“ที่ฉันถาม เพราะฉันเห็นพ่อของแกตามสืบเรื่องของน้องตรีอยู่”
ปวรปรัชญ์ชะงักดวงตาเบิกกว้างสีหน้าตระหนก
“อะไรนะ แกว่าอะไรนะ!”
“คนที่แผนกเขาลือกัน แกไม่ได้ข่าวเลยหรือไง!”
“ไม่ ฉันไม่รู้เรื่องเลย!”
“ฉันโทรมาถามเพราะเห็นแกไม่มาทำงาน แถมน้องตรีก็ดูท่าทางเหม่อลอยชอบกล เลยคิดว่าแกคงมีปัญหากัน ที่ไหนได้เป็นอย่างที่ฉันคิดจริงๆ ด้วย!”
ดวงตาคนฟังทอประกาย ถ้าหากเป็นเพราะพ่อเขาก็พอมีหวัง เขาไม่อยากเสียงเธอไปจริงๆ เรื่องนี้คงต้องคุยกับพ่อให้รู้เรื่อง
รถบีเอ็มถูกเคลื่อนออกจากตัวบ้าน เขาไม่เคยคิดใช้มันเพื่อมาทำงาน และไม่ต้องการให้ใครล่วงรู้ว่าตนเองเป็นใคร มีเพียงพนักงานร่วมแผนกไม่กี่คนที่รู้ความจริงในข้อนี้ รถยนต์จอดสนิท เจ้าของมันรีบเปิดประตูลงแล้วสาวเท้าไปยังห้องประธานอย่างรวดเร็ว เลขาหน้าห้องรีบขัดขวาง
“คุณปรัชคะ เข้าไม่ได้นะคะ!” มะลิวัลย์ยืนขวาง
“ผมมีธุระต้องคุยกับท่านประธาน!”
“ท่านประธานมีแขกค่ะคุณปรัช!”
ทว่าชายหนุ่มไม่ฟังเสียง เปิดประตูเข้าด้านใน ก่อนชะงักยกมือกระพุ่มไหว้ ชายรุ่นราวคราวเดียวกับบิดา
“สวัสดีครับคุณอาวิทิต”
“สวัสดีปรัช”
ปรินทรเหลือบมองบุตรชาย วิทิตเลยหันมามองเพื่อน
“ถ้าอย่างนั้นฉันกลับเลยก็แล้วกัน ส่วนเรื่องที่แกบอก ไว้ฉันจะปรึกษายัยวีอีกทีก็แล้วกัน”
“ได้”
ไหล่หนาถูกบีบเบาๆ พร้อมรอยยิ้มของเพื่อนบิดา
“อากลับก่อนนะปรัช ไว้เจอกัน”
“ครับ”
ปวรปรัชญ์มองเพื่อนบิดาที่ก้าวออกจากห้อง เมื่อประตูปิดลง เขายืนสบตาบิดาแวตาวาววับ
“มีอะไรก็ว่ามา!” คนเป็นพ่อออกปากก่อน
“พ่อรู้แล้วใช่ไหมว่าผมมีแฟน!”
ชายผู้อาบน้ำร้อนมาก่อน ตวัดสายตามองบุตรชาย
“รู้! แล้วยังไง!”
“พ่อพูดอะไรกับตรี” เขาถามเสียงเครียด
“คนอย่างฉันต้องลดตัวไปพูดอะไรกับแฟนแกด้วยเหรอไอ้ปรัช!” เขาย้อนบุตรชายสีหน้าเครียด
“ถ้าพ่อไม่พูดอะไร ตรีจะขอเลิกกับผมเหรอ!” ปวรปรัชญ์ตะโกนลั่นแววตาเจ็บปวด
คนเป็นพ่อหัวเราะในลำคอ แล้วจ้องมองบุตรชาย
“ตกลง แฟนแกมันขอเลิกกับแกงั้นเหรอ! ไม่อยากเชื่อเลย ตกลงผู้หญิงคนนั้นมันยอมรับเงินฉันเพื่อเลิกกับแก!”
“อะไรนะพ่อ!”