สิ่งที่พ่อพูดหมายความว่ายังไงกัน ตรีรับเงินจากพ่อเพื่อเลิกกับเขางั้นเหรอ มันไม่จริงใช่ไหม
“ฉันให้แฟนแกล้านนึง เพื่อเลิกกับแก ฉันให้แฟนแกเลือกแล้ว ถ้าไม่รับเงินฉันก็ให้คบกันต่อได้ ฉันไม่คิดแยกพวกแกออกจากกันแบบไม่เต็มใจสักนิด” เขาตอบข้อสงสัยบุตรชาย
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ร่างกายมันชาไปหมด ทุกอย่างที่ผ่านมามันเป็นแค่เพียงภาพลวงตางั้นเหรอ เธอเคยรักเขาบ้างหรือเปล่า หรือเพราะต้องการเงินเท่านั้น
“แฟนแกมันก็ไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นหรอกปรัช เห็นแก่เงินเหมือนกันหมด!”
เขาส่ายหน้า เพราะไม่อยากเชื่อ นิสัยตรีเป็นยังไงคบกันพอรู้ แต่นี้มันไม่ใช่แล้ว
“ผมไม่เชื่อ พ่อโกหกผมใช่ไหม อยากให้ผมเลิกกับตรี ถึงได้สร้างเรื่องขึ้นมา!”
“ฉันเอาเช็คที่แฟนแกเอาไปขึ้นให้ดูก็ได้นะ ยอดยังอยู่เลย”
ไม่รู้ควรทำอย่างไรดีแล้ว หมดหนทาง ถ้าเธอเลือกเงินมากกว่าเขาจะทำอะไรได้ ร่างสูงใหญ่หันหลังกลับราวกับคนไร้เรี่ยวแรง สองเท้าก้าวเดิน แววตาเหม่อลอย
“เฮ้ย! ไอ้ปรัช!” ภูมิร้องเรียกแล้วพยุงเพื่อนไว้
“ภูมิ” เขาเรียกชื่อเพื่อนราวกับละเมอ
“แกเป็นอะไรไปวะ ทำไมเป็นแบบนี้!”
เขาหันมาสบตาเพื่อน ขอบตาแดงก่ำ
“ฉันเลิกกับตรีแล้ว ตรีขอเลิกกับฉัน ตรีเลือกเงินของพ่อฉัน ไม่เลือกฉัน!”
ภูมิหันรีหันขวาง รีบดึงเพื่อนให้ก้าวตาม เพราะไม่อยากให้ถูกจับตามองอีก
“ไปคุยกับเงียบๆ ดีกว่า คนของพ่อแกยิ่งเยอะอยู่”
ปวรปรัชญ์นั่งลงบนโซฟา โดยมีเพื่อนอย่างภูมิคอยดูแลไม่ห่าง แก้วน้ำถูกวางตรงหน้า เขาทอดสายตามอง
“ฉันไม่อยากกินน้ำ ไปกินเหล้าแทนได้ไหม”
ภูมิกอดอกแล้วระบายลมหายใจ
“ไปได้ แต่ต้องรอฉันเลิกงานก่อน เดี๋ยวพ่อมาบีบคอเอา เป็นหุ้นส่วนกัน ฉันมาทำงานแทนพ่อ ให้หนีงานแบบแกคงไม่ได้หรอก” เขาอธิบาย
“งั้นก็ทำไป ฉันขอนอนรอ” ไม่พูดเปล่า เขาทรุดกายลงนอน
ภูมินั่งประจำที่เพื่อทำงานต่อ ปล่อยให้เพื่อนได้พักใจสักครู่ บางทีการอยู่กับตัวเองอาจช่วยให้คิดอะไรออกมาได้บ้าง มือหนายกขึ้นปาดน้ำตา ยกท่อนแขนกอดอกด้วยความเจ็บปวด เขาไม่น่าเริ่มความรักนี่เลย
ผับชื่อดังของทองหล่อ รมิตามองตัวหน้ากระจก ชุดเกาะอกกางเกงยีนส์ที่ใส่ทำเอาหัวใจหวาดหวั่น ยิ่งนานวันเธอยิ่งต้องโชว์สัดส่วนให้ลูกค้าเห็นมากขึ้น ยิ่งยอมเปลืองตัวมากเท่าไหร่ ทิปที่เข้ามาก็ยิ่งหนักขึ้นเท่านั้น ร่างบางก้าวขึ้นเวทีออกไปวาดลวดลายโชว์ความสามารถอันแสนคุ้นเคยเช่นเดิม ท่ามกลางแสงไฟจากมือถือ ที่พากันถ่ายคลิป และถ่ายรูปเธอ
ภูมิพาเพื่อนเดินเข้ามาด้านใน แล้วยึดที่นั่งในห้องวีไอพี ซึ่งอยู่ด้านบน มองมาเห็นเวทีชัดถนัดตา ไร้ซึ่งการรบกวนจากแขกภายนอก ร้านนี้เป็นร้านที่เพื่อนแนะนำมาอีกที โดยให้มันช่วยจองที่เสร็จสรรพ เห็นบอกว่าโคโยตี้ เด็กนั่งดริงก์งานดีแทบทุกคน ยิ่งดาวเด่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งสวย ทั้งเซกซี่ หุ่นขยี้ใจชาย เครื่องดื่มสีอำพันถูกวางตรงหน้า ภูมิอาสาทำหน้าที่ชงแล้วส่งให้เพื่อน เขารับมากระดกดื่มจนหมด แล้วรอให้เพื่อนชงต่อ
“ค่อยๆ จิบไม่ได้เหรอ แบบนี้เสียบรรยากาศหมด!”
“ชงมาเถอะไอ้ภูมิอย่าเรื่องมาก”
“ดูของสวยๆ งามๆ ซะบ้าง จะได้มีชีวิตชีวา”
ปวรปรัชญ์หัวเราะในลำคอ
“จะมีใครสวยกว่าตรีอีกเหรอ!” เขาย้อนถามเพื่อน
“ทำไมจะไม่มี แต่แกรักแค่น้องตรีเลยมองคนอื่นไม่สวยไปหมดไงไอ้ปรัช!”
“วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์สนใจใครทั้งนั้น ฉันขอแค่เหล้าเข้าใจไหม!” ปวรปรัชญ์ตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด
“เอ่อ ก็ได้!” ภูมิจำต้องตบปากรับคำ
ปวรปรัชญ์ยังคงกระดกน้ำสีอำพันเข้าปาก ดวงตาทอดมองไปยังเวทีเบื้องหน้า โคโยตี้แต่งชุดวาบหวิวกำลังโยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างสนุกสนาน ก่อนที่ร่างอรชรในชุดเดรสเกาะอกสีม่วงสั้นแค่คืบจะก้าวขึ้นมา แล้ววาดลวดลายยั่วยวนลูกค้าในทันที คนมองชะงักคิ้วขมวดเข้าหากันแน่น ดวงตาคมจ้องมองอย่างไม่วางตา
ภูมิไม่ได้รับรู้ว่าเพื่อนกำลังคิดอะไร นอกจากตบไหล่แผ่วเบา
“ฉันปวดห้องน้ำเดี๋ยวมานะปรัช” บอกเพื่อนเรียบร้อยแล้ว ลุกยืนเดินออกจากห้องไป
ปวรปรัชญ์ไม่ได้ยินเสียง เขาวางแก้วลง แล้วลุกยืนจ้องมองภาพเบื้องหน้าเพื่อให้แน่ใจ ประตูห้องวีไอพีเปิดออก เจ๊เชอรี่ชะงัก เมื่อเห็นแขกไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อย นอกจากจ้องมองบนเวทีเท่านั้น
“เอ่อ ขอประทานโทษนะคะ มีอะไรขาดตกบกพร่องไหมคะ!” เจ๊เชอรี่ตะโกนออกไป
ชายหนุ่มชะงัก หันมองผู้มาเยือน
“ขอโทษด้วยนะคะที่มาขัดจังหวะ เจ๊ชื่อเชอรี่ค่ะ เป็นเจ้าของร้าน เพื่อนคุณนาวินใช่ไหมคะ”
“ครับ”
“ขาดเหลืออะไรไหมคะ เจ๊จะได้บอกเด็กให้มาดูแล”
ชายหนุ่มสบตาเจ้าของร้าน แววตาเยือกเย็น
“ผู้หญิงที่ใส่ชุดเกาะอกสีแดงเต้นอยู่บนเวทีคนนั้น เธอรับแขกไหมครับ” เขาถามเสียงเย็น
“ไม่รับนะคะ น้องแค่นั่งดื่มด้วยได้แค่นั้นค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น เชิญน้องมานั่งดื่มอะไรกับผมหน่อยได้ไหมครับ”
เจ๊เชอรี่ยกยิ้มพึงพอใจ “ได้สิคะ ทำไมจะไม่ได้ แต่คนนี้จ่ายหนักหน่อยนะคะ ดาวเด่นค่ะ”
“ผมมีจ่ายครับไม่ต้องห่วง อย่าลืมสิครับว่าผมเป็นเพื่อนของนาวิน”
“โอ้ย! ถ้าอย่างนั้นไม่มีปัญหาค่ะ เดี๋ยวจบเพลงเจ๊ไปตามน้องมาให้นะคะ” เจ๊เชอรี่รับคำแล้วเดินออกจากห้องไป
รมิตาลงจากเวทีแล้วหยิบน้ำกระดกดื่ม เจ๊เชอรี่ยังคงมายืนคอยเช่นเดิม
“แขกเรียกอีกเหรอคะ”
“ใช่แล้วจ้ะ วันนี้แขกหล่อมากเลยจ้ะ เจ๊บอกเลย”
หญิงสาวยิ้มบางๆ หล่อแค่ไหน เธอก็ไม่สนใจหรอก เพราะคนในหัวใจมีเพียงคนเดียว และเธอไม่อาจเอื้อมถึงคนผู้นี้ได้อีกแล้ว
“ตรีไม่สนความหล่อหรอกค่ะ ถ้าเงินหนาคงพอคุยกันได้” หญิงสาวแสร้งเย้า
“เงินหนาแน่นอนจ้ะเจ๊รับประกัน เพราะเจ๊รู้จักลูกค้ากลุ่มนี้ดี”
“ถ้าอย่างนั้นตรีไปก่อนนะคะ เดี๋ยวแขกรอนาน”