กำพลให้คนออกตามหาลูกสาวที่มีอาการป่วยอย่างบ้าคลั่ง มารู้สึกได้ในวันที่ทุกอย่างสายไปแล้ว อัมราพยายามพูดโน้มน้าวให้สามีตั้งสติแล้วกลับมาบริหารงานต่อ หุ้นบริษัทดิ่งลงเหวจนน่ากลัวเพราะข่าวของทายาทเพียงคนเดียวของกำพลทำให้ทุกอย่างสั่นคลอน
ทางด้านของครินต์ มาเฟียหนุ่มตามใจคนรักแทบจะทุกอย่าง ดูแลอย่างใกล้ชิดไม่เคยปล่อยให้คลาดสายตา ส่วนเรื่องแก้แค้นนั้นปล่อยให้เวรกรรมได้ทำหน้าที่ได้เต็มที่เสียก่อน ตอนนี้เขาขอมีความสุขกับคนรักเพื่อชดเชยเวลาที่หายไปและเยียวยาจิตใจของเธอให้กลับมาเต็มร้อยเหมือนเดิม
ตลอดหลายเดือนที่อยู่ด้วยกันไหมแก้วดีขึ้นมาก ที่จริงเธอดีขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เจอกับเขา ยาที่ดีที่สุดของเธอก็คือเขานั่นเอง
"อยากเรียนอะไร คิดไว้หรือยัง"
"จะส่งไหมเรียนเหรอคะ "
"บอกแล้วไง พี่ไม่ได้จน"
"ไหมอยากมีอาชีพ ทำสิ่งที่ตัวเองชอบมากกว่าทนปวดหัวเรียนกับสิ่งที่ไม่ชอบค่ะ " ไหมแก้วไม่ชอบเรียนบริหาร ไม่ชอบออกงานสังคมและไม่ชอบการถูกบังคับเหมือนกับที่ถูกกระทำมาตลอด
"พี่ไม่ทำร้ายไหม อยากพูดอะไร รู้สึกแบบไหน อยากทำอะไร บอกพี่นะ ทุกเรื่องพี่พร้อมฟังและเป็นที่ปรึกษาให้แบบฟรีๆ เลย"
"พี่ครินต์ใจดีกับไหมตลอดเลย "
"วันนี้พี่มีทุกอย่างแล้ว อย่าเกรงใจ เข้าใจมั้ย"
"เข้าใจแล้วค่ะ"
ไหมแก้วสดใสขึ้นมาก อาการดีขึ้นตามลำดับเป็นน่าพึงพอใจของแพทย์และมาเฟียหนุ่มที่กำลังเตรียมวางแผนชีวิตวันข้างหน้าไว้ให้เธอเป็นสเตป
"นี่คนดูแลไหมครับ เขาจะเป็นเพื่อน ที่ปรึกษา เป็นทุกอย่างให้ไหม "
"สวัสดีค่ะคุณไหม ดิฉันชื่อแป้งนะคะ " ดวงตากลมโตกะพริบถี่ๆ แล้วเงยหน้ามองคนรักที่ยืนอยู่ข้างๆ สิ่งที่ได้กลับมาคือรอยยิ้มอบอุ่นพร้อมกับแววตาที่แสนเอ็นดู ความซุกซนของไหมแก้วทำให้ครินต์ต้องหาตัวช่วยเพื่อมาช่วยดูแลในวันที่เขาต้องออกไปทำงานและทำภารกิจสำคัญ เด็กแป้งคนนี้ไว้ใจได้เพราะถูกคัดกรองมาแล้วอย่างดี
"สวัสดีค่ะ ไม่ต้องยกมือไหว้ไหมก็ได้ค่ะ"
"คุณไหมเป็นผู้หญิงของเจ้านาย ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปดิฉันมีหน้าที่ดูแลคุณไหม สามารถเรียกใช้ ปรึกษา พูดคุยกับดิฉันได้ทุกเรื่องเลยนะคะ "
"ต้องขนาดนี้เลยเหรอคะพี่ครินต์"
"งานพี่เยอะ พี่กลัวว่าไหมจะเหงา อีกอย่างการเป็นผู้หญิงของพี่มีอีกหลายอย่างที่ไหมต้องเรียนรู้" ไหมแก้วระบายยิ้มบางๆ ส่งไปให้พี่เลี้ยงคนใหม่ ครินต์เล่าทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเขาให้เธอฟังจนหมด เปิดเผยทั้งหมดให้ได้รับรู้ว่าเขาเป็นใคร การสารภาพว่าตัวเองคือมาเฟียคือสิ่งที่ยากที่สุด ครินต์มีความกลัวลึกๆ กลัวว่าไหมแก้วจะไม่ยอมรับเพราะงานที่ทำไม่ได้ใสสะอาด เป็นงานสีเทาหม่นแทบจะทุกอย่างก็ว่าได้
"งั้นเหรอคะ แบบนี้ไหมก็ชวนพี่แป้ง ไหมขอเรียกพี่แป้งก็แล้วกันนะคะ ส่วนพี่แป้งก็ไม่ต้องแทนตัวเองว่าดิฉันให้เป็นทางการหรอกค่ะ ไหมอยากให้เราสนิทกันเร็วขึ้น"
"พูดเก่งขึ้นเยอะเลย" มาเฟียหนุ่มออกปากชม นัยย์ตาสีน้ำตาลจ้องมองแฟนสาวตลอดเพื่อเก็บข้อมูลประเมินอาการในแบบของตัวเองทุกครั้ง
"ไหมดีใจค่ะที่จะได้มีเพื่อน"
"เช่นกันค่ะ" แป้งอายุมากกว่าไหมแก้วห้าปี เธอเป็นคนขององค์กรจัดหางานลับแห่งหนึ่ง กว่าจะผ่านโปรออกมาทำงานให้มาเฟียมีชื่อเสียงได้เธอต้องอดทน มุ่งมั่นกับการทดสอบ แป้งดีใจมากที่ได้มาดูแลคนไทย ต่างจากพี่สาวของเธอ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ถูกส่งตัวไปทำงานถึงอังกฤษกับตระกูลเก่าแก่ชื่อดัง ถ้าเป็นไปได้แป้งก็อยากให้พี่สาวได้มาอยู่ด้วยกัน
"มีพี่แป้งเป็นเพื่อนแล้ว พี่ครินต์ไม่ต้องเป็นห่วงไหมแล้วนะคะ ทำงานอย่างสบายใจได้เลยค่ะ"
"โอเคแน่นะ"
"ถ้าจะเลี้ยงไหม พี่ครินต์ก็ต้องไปทำงานสิคะ"
"โอเค ฝากด้วยนะ"
"ได้ค่ะคุณครินต์" มาเฟียหนุ่มคลายกังวลเรื่องไหมแก้วจึงออกทำงานด้วยความสบายใจ
ยังคงอยู่ญี่ปุ่นไม่ได้เดินทางไปไหน งานของเขามีอยู่ทุกที่ สามารถทำได้ตลอดเวลา ส่วนเรื่องคนเลวพวกนั้น เขาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจให้คนคอยตามสืบเก็บรายละเอียดเรื่อยๆ เพราะไม่อยากรีบร้อนจนเกิดข้อผิดพลาด
"เรื่องที่ให้สืบ ถึงไหนแล้ว" อาชาคือลูกน้องคนสนิทที่สามารถทำงานทุกอย่างให้กับครินต์ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
"เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วครับ มีเรื่องใหม่ที่นายต้องรู้ครับ"
"อะไร" มาเฟียหนุ่มชะงักนิ้วที่กำลังเลื่อนหน้าจอมือถือ ถ้าเรื่องใหม่ที่ว่าเกี่ยวกับไหมแก้วล่ะก็ แน่นอนว่าเขาพร้อมตั้งใจฟัง
"หน่วยงานราชการสั่งตำรวจนอกเครื่องแบบออกตามหาคุณไหมครับ ผมตรวจสอบแล้วไม่ใช่ทีมเดียวกับพ่อคุณไหมครับ" ตำรวจพวกนี้เมื่อไหร่จะเลิกวุ่นวายกับเรื่องนี้สักที ผู้หญิงคนหนึ่งแหลกสลายเพราะฝีมือของคนในครอบครัวเคยคิดจะจัดการอะไรได้บ้างนอกจากเห็นแก่เงินแล้วก้มหน้าทำตามคำสั่งแบบไม่ลืมหูลืมตา
"มันเป็นใคร พอรู้มั้ย"
"คู่หมั้นคุณไหมครับ"
"อดีต? พูดให้ถูกเดี๋ยวตกงาน" อาชาก้มหัวขอโทษแล้วตั้งใจขับรถพร้อมกับรายงานเรื่องที่สืบมาทั้งหมดให้เจ้านายฟังอย่างละเอียด
ทางด้านของไหมแก้ว เธอชวนแป้งคุยจนความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มเข้าขากันได้ดี แป้งบ่นคิดถึงเมืองไทยและอาหารไทยมากที่สุด เลี่ยงพูดถึงครอบครัวเพราะไม่อยากให้ไหมแก้วรู้สึกแย่
"พี่แป้งชอบกินอะไรมากที่สุดคะ ถ้าให้ไไหมเดา อืม ต้องเป็นส้มตำแน่ๆ "
"ถูกต้องแล้วค่ะ พี่ชอบกินส้มตำมาก กินคู่กับขนมจีน ต้มแซ่บร้อนๆ ลาบหมูรสชาติจี๊ดจ๊าด แซ่บอย่าบอกใครเชียวค่ะ" แป้งป้องปากรู้สึกน้ำลายสอเมื่อพูดถึงอาหารอีสานที่ใครๆ ก็ต่างหลงใหล
"พูดซะเห็นภาพเลยค่ะ มาอยู่ญี่ปุ่นหลายเดือนแล้ว ไหมก็เริ่มเบื่ออาหารที่นี่แล้วเหมือนกันค่ะ" ผู้หญิงของเจ้านายทำหน้าเบื่อจนเธอเริ่มเห็นใจ แป้งเองก็ไม่ได้กลับไทยนานแล้วเหมือนกันเพราะต้องจากบ้านมาเก็บตัวที่องค์กร
หากมองถึงความลำบากนั้นแป้งเลือกที่จะทำงานนี้เอง แลกกับค่าตอบแทนก้อนใหญ่ทุกเดือน แล้วโชคก็เข้าข้างเธอมากที่ได้รู้จักกับไหมแก้ว ผู้หญิงโชคดีที่มีผู้ชายอย่างเจ้านายของเธอดูแลและอยู่เคียงข้าง แต่ว่า กว่าจะมาถึงวันนี้ไหมแก้วก็ต้องผ่านเรื่องเลวร้ายมามากมาย
"คุณไหมอยากทำอาหารไทยมั้ยคะ"
"ทำได้เหรอคะ แต่ไหมทำอาหารไม่เป็นเลย"
"ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ พี่จะสอนให้ คุณไหมจะได้เอาไว้ทำให้คุณครินต์ทานด้วย สนใจมั้ยคะ"
"สนใจค่ะ"
คฤหาสน์หลังงามของอดีตมาเฟียอาวุโส อาโน
"ลูกชายของคุณอยู่ญี่ปุ่นกับผู้หญิงไทยที่เป็นข่าวใหญ่ จะคว้าผู้หญิงสติไม่ดีมาทำพันธ์ไม่ได้นะคะ" เมียคนที่สองของอาโนร้อนใจถึงกับต้องบุกมาถึงห้องทำงานของสามีเพื่อรายงานพฤติกรรมลูกเลี้ยงที่ไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่ให้คนเป็นพ่อรู้
"รู้ได้ยังไง ข่าวที่ออกคัดกรองดีแล้วหรือยัง" อาโนรับรู้มาตลอดและไม่คิดแทรกแซงความคิดลูก
"คุณคะ "
"ครินต์กำลังทำหน้าที่ได้ดี "
"หน้าที่ก็ส่วนหน้าที่สิคะ ตระกูลของเราไม่ควรมีสะใภ้ที่มีความบกพร่องไม่ใช่เหรอคะ"
ปัง!!
"เธอกำลังจะพูดอะไร" อาโนทุบโต๊ะเสียงดังและกัดฟันกรอด เขาไม่อาจเก็บกลั้นอารมณ์ได้อีกต่อไป หากผู้หญิงตรงหน้าไม่ใช่ผู้ให้กำเนิดลูกสาวฝาแฝดที่อาโนรักนักหนา หล่อนอาจตายไปแล้วก็ได้
"ดิฉันไม่อาจแตะต้องเมียคนแรกคุณได้อยู่แล้วนี่คะ"
"ออกไปซะ ครั้งต่อไปฉันอาจจะฆ่าเธอ ลูกคงไม่ต้องการแม่ที่หาแต่เรื่องมากกว่าหาประโยชน์ให้ตัวเอง"
____________________________