มาเฟียอิตาลีสั่งให้ลูกน้องเก็บภาพและบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงเอาไว้ทุกมุมอย่างละเอียด ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดีอยู่ๆ ก็มีบางอย่างเข้ามาบดบังจนไม่สามารถเก็บภาพต่อได้
"นั่นมันเด็กไอ้ครินต์นี่หว่า" เซทท์จำไหมแก้วได้ เธอควรจะอยู่ในห้องจัดเลี้ยง
"แต่นั่นไม่ใช่คุณครินต์นะครับ"
ภากรดีใจที่ได้เจอไหมแก้วที่นี่ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาภากรร่วมกับเพื่อนออกตามหาไหมแก้วทุกหนแห่งที่คิดว่าจะเจอ แต่การค้นหาก็ต้องค่อยๆ ลดกำลังลงเพราะไร้วี่แววว่าจะเจอ หลักฐานจากกล้องวงจรปิดในคืนเกิดเหตุก็ถูกทำลาย ไม่มีพยานคนไหนให้ความร่วมมือ เหมือนมีคนพยายามทำให้เธอหายสาบสูญ แต่ภากรก็เฝ้ารอว่าจะได้เจอน้องสาวคนนี้อีกครั้ง
แล้ววันนี้โชคก็เข้าข้างเขา
"สบายดีมั้ย เป็นยังไงบ้าง" เพราะอากาศข้างนอกสามารถฆ่าคนตัวเล็กๆ ที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงอย่างไหมแก้วได้ภากรจึงชวนเธอเข้ามาดื่มชาในร้านเล็กๆตรงหัวมุมที่ยังมีแสงไฟเปิดให้บริการอยู่ ไหมแก้วไม่ได้ปฏิเสธสำหรับภากรแล้วเธอรู้สึกเคารพและรักผู้ชายคนนี้มากกว่าคนในครอบครัวเสียอีก ภากรคือพี่ชายที่มีแต่ความหวังดีไม่เคยคิดร้ายกับเธอเลยสักครั้ง
"สบายดีค่ะ พี่ภีมมาทำอะไรที่ญี่ปุ่นคะ"
"มาธุระนิดหน่อยหน่ะ อย่าคิดว่าพี่ให้คนสะกดรอยตามไหมมาเลยนะ" ไหมแก้วระบายยิ้มบางๆ พลางยกถ้วยชาชั้นดีขึ้นดื่มเพื่อคลายความหนาวที่ติดกายเข้ามาออกไปเสียให้หมด
"ไม่หรอกค่ะ ถ้าพี่ภีมทำแบบนั้นจริงๆ คงเจอไหมนานแล้ว" ครินต์เคลียร์ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอทิ้ง หลักฐาน ร่องรอยที่คิดว่าจะตามเจอ สมแล้วกับที่เป็นมาเฟีย งานเนี้ยบทุกระเบียบนิ้ว ขนาดภากรมีเพื่อนเป็นตำรวจยศใหญ่กว้างขวางก็ยังหาเบาะแสสำคัญที่เกี่ยวกับน้องสาวคนนี้ได้เลย
"ทำไมไม่บอกพี่ มีปัญหาอะไรทำไมเราไม่คุยกัน " ภากรเข้าเรื่องเพราะเวลาของเขามีไม่มากนัก
"เรื่องในครอบครัวพูดไปใครจะเชื่อล่ะคะ ถ้าไหมบอกพี่ภีมว่า ไหมถูกพ่อบังคับให้หมั้นกับลูกชายท่านรัฐมนตรีตั้งแต่อายุสิบห้า พี่ภีมจะเชื่อมั้ยคะ ไหมถูกบังคับจิตใจ ถูกตีกรอบสารพัดจากคนในครอบครัวจนไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แล้ว พอไหมรู้สึกแบบนั้นพวกเขาก็พาไหมไปหาหมอ แล้วทำดีกับไหมจากหน้ามือเป็นหลังมือ พอไหมดีขึ้นพวกเขาก็เป็นเหมือนเดิม " เธอระบายความอัดอั้นตันใจที่สะสมมาตลอดหลายปีให้ภากรได้รับรู้
ชีวิตของคุณหนูไหมแก้วไม่ได้สวยงามอย่างที่คนภายนอกคิด มันยากจะอธิบายให้คนทั่วไปรับรู้ พูดไปใครจะเชื่อว่าความรุนแรงจากคนในครอบครัวทำร้ายเธอจนอาการสาหัส
"แต่ไหมคุยกับพี่ได้ทุกเรื่องนี่ครับ ขอแค่ไหมเอ่ยปาก"
"ไหมไม่คิดว่าวันนั้นมันจะเกิดเรื่องเลวร้ายกับไหมแล้วก็ลูกในท้อง ไหมเลือกตัดความสัมพันธ์กับผู้ชายที่ตัวเองรักมากที่สุดเพราะอยากให้เขาปลอดภัย แต่ไหมก็ทำใจยอมรับไม่ได้" เหตุการณ์วันนั้นมันเลวร้ายจนกว่าสมองของเธอจะรับไหว ไม่คิดว่าจะถูกรถชน ไม่คิดว่าตัวเองท้อง และไม่คิดว่าครินต์จะกลับมาหา
"พี่เสียใจด้วยครับ" ภากรพูดออกมาจากความรู้สึกข้างในจริงๆ
"ไหมคิดว่าถ้าเลือกแต่งงานกับพี่ภีมไหมจะหลุดพ้นจากครอบครัวและทำให้พี่ครินต์ปลอดภัยจากคนของพ่อ ขอโทษที่เห็นแก่ตัวนะคะ"
"พี่เข้าใจครับ แค่รู้ว่าน้องสาวของพี่ปลอดภัยและสบายดีพี่ก็เบาใจมากแล้วครับ" ผู้ชายคนนั้นคงดูแลน้องสาวคนนี้เป็นอย่างดี จากนี้ภากรคงเฝ้ามองอยู่ห่างๆ และพร้อมยื่นมือมาช่วยเสมอหากน้องคนนี้ต้องการ
"ขอบคุณนะคะพี่ภีม" ภากรขอตัวกลับที่พักเพราะมีงานสำคัญที่ต้องรีบจัดการแต่เช้าตรู่
ไหมแก้วยังคงไม่ไปไหน นั่งจิบชามองวิวผ่านกระจกใสในยามค่ำคืนอยู่แบบนั้นโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังขัดขวางการทำภารกิจบางอย่างของใครบางคนอยู่
"ให้ผมเดินเข้าไปกระชากเธอหลบดีมั้ยครับ"
"นั่นเมียเพื่อนกู" เซทท์ตอบกลับแล้วสั่งให้ลูกน้องแยกย้าย วันนี้โชคอาจไม่ได้เข้าข้างเขา วันหน้าเขาไม่ปล่อยไว้แน่ ว่าแต่ผู้หญิงของครินต์ทำไมมานั่งอยู่ตรงนั้น หรือเป็นเพราะ......
เมื่อรู้สึกดีขึ้นไหมแก้วจึงพาตัวเองออกจากร้านชาที่แสนอบอุ่นนั้นเพื่อกลับไปยังโรงแรมที่มีแฟนหนุ่มรออยู่ เธอรู้ว่าอาชาแอบติดตามมาด้วยห่างๆ หากออกมาช้าอาชาก็อาจหนาวตายได้ เดินออกมาได้ไม่กี่ก้าวเธอก็ต้องหยุดเพราะมีใครบางคนมายืนขวางทาง
"ขอโทษที่พูดแบบนั้นออกไป"
"คะ" ดวงหน้าหวานเอียงคอสงสัย เธอจำได้ว่าคนตรงหน้าคือใคร เขาคือเพื่อนของครินต์
"พี่ชื่อเซทท์ "
"ไม่เป็นไรค่ะ ไหมดีขึ้นแล้ว"
"แค่นั่งจิบชาก็ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น? เจ๋งดี"
"ใช่ค่ะ แล้วพี่เซทท์มาทำอะไรข้างนอกคะ"
"งานเลิกแล้วไม่รู้เหรอ" ไหมแก้วเผลออ้าปากตกใจ เธอออกมานานขนาดนั้นเชียวเหรอ หากงานเลิกแล้วป่านนี้พี่ครินต์คงกำลังตามหาเธอให้ทั่ว แต่คงไม่ เพราะอาชาตามติดขนาดนี้ คงรายงานให้เจ้านายรู้อยู่ตลอด
"อากาศข้างนอกเย็นชะมัด อยู่ไปได้ยังไง" เทรย์เดินตามหลังมาติดๆ แล้วเอ่ยประโยคก่อนหน้าพร้อมกับใช้สายตามองไปที่เธอ
"ถามไหมเหรอคะ"
"ฉันมองใครอยู่ล่ะ"
"อ่อ ก็เย็นค่ะ แต่ก็กำลังจะกลับแล้วค่ะ "
"ไอ้นี่ชื่อเทรย์ ตั้งใจมาขอโทษเหมือนกัน" เซทท์แนะนำเทรย์ให้ไหมแก้วรู้จัก หลังจากมีปากเสียงกันดุเดือด บรรดาเพื่อนๆก็รู้สึกผิดเพราะครินต์เล่าเรื่องผู้หญิงตรงหน้าให้ทุกคนฟังอย่างละเอียด วาตะกับเทรย์ถึงกับซึมกรอกเหล้าเข้าปากไม่ยั้งจนครินต์ต้องเข้าไปห้าม
มาเฟียกลุ่มนี้ตระหนักถึงความรุนแรงในครอบครัวและซีเรียสกับเรื่องแบบนี้เอามากๆ
"เธอชอบ ของหวานมั้ย อย่างเช่น ขนม ไอศกรีม อะไรแบบนี้" เทรย์เงอะงะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี แต่ก็พอนึกได้เพราะเขาเองก็มีน้องสาวขี้งอนอยู่คนหนึ่ง
"ชอบหมดเลยค่ะ พี่เทรย์จะขอโทษไหมด้วยของพวกนี้ใช่มั้ยคะ " เพราะคำขอโทษสำหรับเทรย์มันยากมากๆ ที่จะเอ่ยออกมาแล้วทำให้คนฟังรู้สึกว่าเขาจริงใจ แบบนี้น่าจะดีกว่า
"ของหวานแล้วก็ต่อด้วยสวนสนุกดีมั้ย "
"พี่คนนี้ ?" ไหมแก้วมองหน้าเซทท์เป็นเชิงอยากรู้ชื่อของผู้มาใหม่ แต่คนมาใหม่ก็ชิงแนะนำตัวเสียก่อน
"พี่ชื่อวาตะครับ ดีกันนะ" คำขอโทษของแต่ละคนทำให้ไหมแก้วยิ้มกว้างและสุขใจอย่าบอกไม่ถูก ทุกคนพยายามจะแสดงความจริงใจด้วยวิธีต่างๆ อย่างน่ารัก กลายเป็นพี่ชายตัวเล็กตัวน้อยไปเลย ครินต์ที่ยืนมองห่างๆ ก็รู้สึกดีไปด้วย
"ดีกันก็ได้ค่ะ แต่ว่าไหมไม่ได้โกรธทุกคนเลยนะคะ ไม่เห็นจะต้องดีกับไหมขนาดนี้เลย"
"พวกเราผิดจริงๆ ได้โปรดยอมรับข้อเสนอเพื่อเป็นการไถ่โทษเถอะนะ"
"ไหมต้องถามพี่ครินต์ก่อนค่ะ"
"มันนั่นแหละที่เป็นคนเอาปืนจ่อหัวให้พวกพี่มาขอโทษไหม" ครินต์ยืนหัวเราะในความโอเว่อของวาตะพลอยทำให้ไหมแก้วตาโตตกใจไปด้วย
"โอเคก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้ไปกินขนมหวานกับพี่เทรย์เสร็จก็ไปสวนสนุกกับพี่วาตะเลยนะคะ " ไหมแก้วถูกรุมล้อมยื่นข้อเสนอหลายอย่างให้จนรับแทบไม่ไหว บางคนเสนอที่ดินราคาหลายล้านให้พร้อมคฤหาสน์สุดหรู เธอลอบถอนหายใจให้กับวิถีคนรวย แบบนี้มันเว่อเกิน เธอจะเอาของพวกนั้นมาทำอะไร
"อยากได้อะไรอีกมั้ย " คราวนี้เป็นพ่อหนุ่มพูดน้อยเอ่ยขึ้นมาบ้าง
"หมูกระทะได้มั้ยคะ"
"อะไรนะ"
"หมูกระทะ "
"คืออะไรวะ มึงเปิดอากู๋ซิ " เทรย์ทำหน้างงแล้วสะกิดแขนวาตะให้หาข้อมูลของ หมูกระทะ เซทท์เองก็งงเหมือนกันว่าหมูกระทะที่ไหมแก้วต้องการมันมีหน้าตาเป็นอย่างไร
____________________