“พี่ขอโทษที่ไม่ได้บอกตั้งแต่แรก พี่ก็เพิ่งจะรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของอาเคนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้เอง” มาร์ติน พยายามอธิบายให้หญิงสาวฟัง
“แต่คุณมีว่าที่คู่หมั้นแล้ว”
“ใช่ แล้วยังไง” สีหน้าที่ไร้ความรู้สึกผิดของเขา ทำให้เธอยิ่งโมโหมากกว่าเดิม รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองมีว่าที่คู่หมั้นแล้วแต่ยังจะพยายามเข้าหาเธออีก
“แล้วยังไง? คุณก็ต้องหมั้นกับว่าที่คู่หมั้นของคุณน่ะสิ”
“ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เพราะว่าที่คู่หมั้นของพี่ยังไม่ได้ตกลงจะหมั้นกับพี่เลย” บริเวณริมฝีปากของมาร์ตินปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าหญิงสาวกำลังโกรธเรื่องที่เขามีว่าที่คู่หมั้น
“...”
“ถ้าเธอไม่สบายใจ พี่จะโทรถามว่าที่คู่หมั้นเดี๋ยวนี้เลย”
“เรื่องของคุณ” คะนิ้งสะบัดแขนที่ถูกเขาจับไว้ และรีบเดินออกมาก่อนที่โทรศัพท์มือถือของเธอจะดังขึ้น โชว์ชื่อของคนปลายสายบนหน้าจอ
“เล่นอะไรของคุณเนี่ย”
“ก็โทรหาว่าที่คู่หมั้นไง” หญิงสาวมองกลับไปที่เขาอย่างไม่เข้าใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร
“เธอไง ว่าที่คู่หมั้นของพี่”
“หมายความว่ายังไง”
“หลังจากที่รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของอาเคน พี่ก็ให้คุณพ่อคุณแม่ไปคุยกับอาเคนอาฤทัยแล้ว”
“ห้ะ...” คะนิ้งยืนนิ่งงันราวกับถูกสะกดเอาไว้ ก่อนจะประมวลผลเรื่องราวทั้งหมดอย่างช้าๆ
“อาฤทัยบอกให้พี่มาถามเธอเอง ว่าเธอจะยอมหมั้นกับพี่ไหม”
“เล่นบ้าอะไรของคุณเนี่ย” ว่าแล้วหญิงสาวก็พุ่งเข้ามาตีที่อกของเขาด้วยความโมโห
“ก็อธิบายให้ฟังแล้วไง”
“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกเล่า”
“แล้วเธอฟังพี่หรือไง พอมาถึงก็โมโหใส่พี่เนี่ย”
“ความผิดพี่นั่นแหละ” มาร์ตินจำยอมรับความผิดเอาไว้เพียงคนเดียว เพราะตอนนี้ดูเหมือนคะนิ้งจะรู้สึกอายกับเรื่องที่ตัวเองโกรธเขาเป็นตุเป็นตะทั้งที่ไม่รู้ว่าว่าที่คู่หมั้นคนนั้นคือตัวเอง
“ถ้างั้นก็หายงอนแล้วใช่ไหม”
“อืม”
“พี่คิดถึงเธอนะ” เขาดึงหญิงสาวเข้ามากอดพลางลูบศีรษะของเธอเบาๆ
คะนิ้งกอดตอบเขาโดยไม่พูดอะไร พลางเอาใบหน้าซุกเข้าที่อกแกร่งของเขาด้วยความเขินอาย ก่อนที่เธอจะลอยขึ้นจากพื้นด้วยฝีมือของมาร์ติน
“ถ้าหายงอนแล้ว ก็มารื้อฟื้นความทรงจำกันเถอะ” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน ดวงตากลมโตเป็นประกายจับจ้องไปที่คนตรงหน้า พลันหวนนึกถึงเรื่องเมื่อสามเดือนก่อนที่เธอได้ตกลงปลงใจมอบร่างกายที่แสนหวงแหนให้กับเขา
ทั้งน้ำเสียง คำพูด และการกระทำทุกอย่างในคืนนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในหัวของเธอ ใบหน้าหวานเห่อแดงขึ้นมาทันควัน จนเขาอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากของคนตัวเล็กเบาๆ
“อื้อ~”
“ยัยเด็กขี้งอน”
“เปล่าสักหน่อย...” คะนิ้งปฏิเสธ ขณะเดียวกันใบหน้าหล่อก็ก้มลงมาใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นที่รดอยู่บนใบหน้าของเธอ...
“เดี๋ยวก่อน” คะนิ้งร้องห้าม ก่อนจะรีบผลักเขาให้ออกห่าง
“มีอะไร”
“ฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลย”
“งั้น... อาบด้วยกันดีไหม” สายตาของเสือร้ายกำลังหาหนทางเพื่อไม่ให้เธอหลุดรอดไปจากแผนการหลักของเขา
คะนิ้งยืนอ้ำอึ้งไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดยังไง หากแต่ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ปล่อยให้เธอได้คิดนานนัก พลันช้อนตัวของเธอตรงมายังห้องน้ำทันที
“คราวนี้หาข้ออ้างไม่ได้แล้วนะ”
“รู้ทันตลอดเลยนะ” หญิงสาวบ่นกับตัวเอง แต่เขาก็ได้ยินเต็มสองหู ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์เยาะเย้ยเธอไปอีกหนึ่งที
เขาปล่อยคนตัวเล็กให้ยืนกับพื้น ก่อนจะดันอีกฝ่ายจนแผ่นหลังของเธอติดกับผนัง แล้วจึงก้มลงไปชิมริมฝีปากนิ่มอีกครั้ง
ลิ้นอุ่นสอดลึกในโพรงปากหวาน พลางหยอกล้ออีกฝ่ายด้วยรสจูบอันหวาบหวามจนร่างเล็กอ่อนระทวย ฝ่ามือหนาลูบไล้ผิวเนียนตั้งแต่เอวคอดกิ่วไปยังสะโพกผาย พลันรุกล้ำไปใต้กระโปรงสั้นอย่างถือวิสาสะ
นิ้วเรียวยาวสัมผัสกับผ้าผืนบางที่ปกปิดส่วนอ่อนไหวของหญิงสาวเอาไว้ ปลายนิ้วแหวกผ้าเบี่ยงไปข้างก่อนจะสัมผัสกับแพรไหมนุ่มที่ปกคลุมเนินอวบแล้วจึงเลื่อนมาสัมผัสปุ่มกระสันที่เพียงแค่แตะนิดเดียว คนตัวเล็กก็สั่นสะท้านไปทั่วร่างกาย
มือเล็กยกขึ้นมาผลักอกของเขา หวังจะให้เขาเบาแรงกับเธอ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เขาเลือกที่จะต่อต้านเธอและเป็นฝ่ายคุมเกมด้วยตัวเอง
กวางน้อยตัวแสบตกอยู่ในภวังค์ลึกจมไปกับสัมผัสมากมายที่ทำให้เธออ่อนระทวยจนต่อต้านเขาไม่ไหว
“อือ~” เสียงต่อต้านในลำคอของเธอ ทำให้เขายอมผละริมฝีปากออก ก่อนจะก้มลงไปกัดริมฝีปากบางอีกครั้ง
“อ๊ะ เจ็บ”
“จะเริ่มเอาจริงแล้วนะ” เขาไม่ได้พูดเพื่อให้เธอปฏิเสธ แต่บอกให้เธอเตรียมตัวต่างหาก
“มาร์ติน~” เสียงหวานดังขึ้น ก่อนที่คนตัวเล็กจะยกแขนขึ้นมาคล้องคอของเขาเอาไว้เพื่อพยุงตัวเอง
นิ้วยาวกำลังหยอกล้อกับส่วนอ่อนไหวหวังจะแกล้งหญิงสาว ก่อนจะสอดลึกเข้าไปอย่างเชื่องช้าจนสุดโคนนิ้ว แล้วจึงงอนิ้วและดึงออกมาซ้ำอยู่หลายครั้ง โพรงนิ่มตอดรัดแน่นทุกครั้งที่นิ้วเรียวสอดเข้าออก
“อร๊ายยย” คะนิ้งแตะขอบสวรรค์ในเวลาไม่ถึงห้านาที ยังไม่ทันทีจะได้พักหายใจ ร่างหนาก็แทรกกายเข้ามาในร่องเล็กของเธอทันที
“อึก แน่นเหมือนครั้งแรกเลย”
“เบาๆ จุก” สะโพกสอบบดเบียดเข้าร่องเล็กจนกระทั่งแท่งร้อนสอดใส่เข้าไปจนมิดลำ ความอุ่นแทรกอยู่ในกายของหญิงสาวที่กำลังถูกต้อนให้หลงอยู่ในภวังค์หวาบหวามที่ยากจะถอนตัว
“มาร์ติน~” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น ขณะที่ส่วนล่างกำลังเริ่มขยับอย่างเชื่องช้า แต่กลับเน้นหนักทุกครั้งที่กระแทกเข้าหาร่องเล็ก กลีบบางยู่ยี่ไปตามแรง
“ชอบไหม” เขาก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของคนตัวเล็กที่พยายามกลั้นเสียงครางของตัวเองเอาไว้สุดชีวิต
“ทำไมไม่ตอบ หืม~”
“ยะ อย่า”
“อย่าอะไร? แบบนี้เหรอ” เขาบดเบียดส่วนล่างเข้าหาร่องเล็กเน้นย้ำอยู่หลายครั้ง
เสียงครางกระเส่าดังกึกก้องไปทั่วห้อง หากไม่ติดว่าที่นี่ถูกออกแบบและสร้างให้เก็บเสียง ป่านนี้ห้องข้างๆ ก็คงจะรู้ว่าภายในห้องนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น
“อื้อ! พี่ติน อย่าทำแบบนั้น”
“ทำไมล่ะ ไม่ชอบเหรอ”
“ปะ เปล่า อร๊าย~” แขนแกร่งประคองเรียวขาข้างหนึ่งของคะนิ้งขึ้นมาเกี่ยวเอวของเขาเอาไว้ ในขณะที่แก่นกายบดลึกเข้าไปจนสุดทาง ใบหน้าหวานแดงก่ำไปหมด อีกทั้งหยาดเหงื่อยังอาบทั่วร่าง
“พี่ว่า... เธออาจจะชอบแบบนี้” เขาเอ่ยก่อนจะปรากฏรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากอีกครั้ง
คนตัวเล็กประคองตัวแทบจะไม่ไหว ทุกครั้งที่ส่วนนั้นของเขากระแทกกระทั้นเข้าใส่กลางกายของเธอ เนื้อตัวก็สั่นระรัวเหนือการควบคุม
ครั้นอยากจะหลีกหนี ร่างกายกลับไม่เชื่อฟังเลยสักนิด เธอบดเบียดกายเข้าหาเขาพลางรับแรงกระแทกนั้นอย่างจงใจ ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่มีท่าทีว่าจะหยุด
ลมหายใจของเธอกับเขารวมกันเป็นหนึ่งเดียว ริมฝีปากหนาพรมจูบทั่วใบหน้าพลางซุกไซร้ลำคอระหง และไม่ลืมที่จะทิ้งรอยสีกุหลาบเอาไว้เล็กน้อย
หญิงสาวเริ่มเห็นฝั่งฝันอยู่รำไรตรงหน้า เช่นเดียวกับเขาที่รับรู้ถึงแรงบีบรัดของร่องเล็กที่ตอบโต้กลับมา จึงโถมกายเข้าหาเธออีกหลายครั้ง กระทั่งคนตัวเล็กโผเข้ากอดเขาแน่น
คะนิ้งรู้สึกเบาไปหมดทั้งตัวราวกับร่างกายถูกสูบพลังงานไปหมด ท้องน้อยหวิวจนเธอแทบจะยืนไม่ไหวจนต้องเอนไปซบมาร์ตินแทน
“อาบน้ำต่อกันเถอะ” ร่างสูงเอื้อมมือไปเปิดฝักบัว ทันทีที่น้ำอุ่นไหลผ่านร่างกาย คะนิ้งก็เริ่มรู้สึกถึงความแสบบริเวณใจกลางกาย ก่อนจะเงยหน้ามองเขาตาเขียวปั้ด
“เจ็บเหรอ”
“เพราะพี่นั่นแหละ” มาร์ตินยิ้มออกมากับท่าทางของเด็กขี้งอนที่เอาแต่งอนเขาไม่หยุดตั้งแต่เจอหน้ากันในรอบหลายเดือน
“เดี๋ยวพรุ่งนี้จะชดเชยให้”
“ยังไง?”
“ตามใจเธอ 1 วัน”
“งั้น... ก็ได้” เธอตอบตกลงอย่างไม่ลังเล เพราะตอนนี้เธอมีแผนที่คิดจะเอาคืนคนอย่างมาร์ตินไว้แล้ว และแน่นอนว่าครั้งนี้เธอจะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อของเขาเช่นกัน