ความเหนื่อยล้าจากเมื่อวานและฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปเหมือนทั้งสองอย่างรวมพลังกันรุมเธอ
พราวมุกยกหัวแทบไม่ขึ้นหลังจากที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัว เวียนหัว และปวดขาด้วย ใบหน้าของเธอโทรมลงไปอย่างเห็นได้ชัด ใต้ตาคล้ำเล็กน้อย และมีสิวขึ้นมาหลายจุด
“เห้อ หมดกันที่ฉันทะนุถนอมมา” เธอบ่นกับตัวเองหน้ากระจกเมื่อสภาพของเธอไม่ต่างอะไรจากซอมบี้เดินได้
เครื่องสำอาง สกินแคร์ เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว เธอไม่มีอะไรเลยสักอย่าง สงสัยวันนี้เธอคงจะต้องใช้เงินที่เหลืออยู่แล้วจริงๆ
“เป็นอะไร แฮงค์เหรอ”
“อืม เวียนหัว แล้วก็สภาพอย่างที่คุณเห็นนี่ไง” พราวมุกเอ่ยพลางดึงผมของตัวเองมาปิดหน้าที่เต็มไปด้วยสิวและริ้วรอย
“วันนี้พี่จะพาเธอไปซื้อของใช้แล้วกันนะ”
“ฉันขอยืมโทรศัพท์โทรหายัยคะนิ้งหน่อยได้ไหม”
“ได้สิ” คณินส่งโทรศัพท์มือถือของเขาให้กับพราวมุกทันที ก่อนที่จะหันไปรินน้ำผลไม้แล้วส่งให้กับหญิงสาว
“ขอบคุณนะ” เธอเอ่ยขอบคุณเพียงสั้นๆ ก่อนจะเดินออกมาคุยกับเพื่อนสนิทที่ระเบียงพร้อมกับน้ำผลไม้
(ว่าไง พี่คณิน)
“ยัยนิ้ง นี่ฉันเอง”
(ยัยมุก นี่แกมาอยู่พี่คณินได้ยังไง) คะนิ้งโพล่งออกมาเสียงดัง จนหญิงสาวยกโทรศัพท์ออกห่างจากหูเกือบไม่ทัน
“เรื่องมันยาวน่ะ”
(จะยาวจะสั้นก็ต้องเล่าอยู่ดี)
“แกจะกลับมาเมื่อไหร่เหรอ”
(ยังไม่รู้เลยอะ แกมีเรื่องอะไรหรือเปล่า)
“ก็นิดหน่อย” เธอพยายามบ่ายเบี่ยง
(เสียงแบบนี้ ไม่น่าจะนิดหน่อยแล้วมั้ง) คะนิ้งจับผิดเพื่อนสนิทได้ทันที ส่วนเธอก็ได้แต่หน้าหงอยก่อนจะเล่าทุกอย่างให้คะนิ้งฟัง
“ก็น้าอุ่นกับอิฐพยายามจะขังฉันเอาไว้ ตอนที่ฉันโมโหแล้วบอกกับเขาไปว่าฉันจะไม่อยู่ที่บ้านและไม่ยอมทนให้พวกเขาเกาะฉันกินน่ะสิ”
(แล้วพี่คณินเป็นคนไปช่วยแกเหรอ)
“เปล่า ฉันหนีออกมาเอง แต่เขาเป็นคนไปตามหาฉันและพาออกมา”
(ถ้างั้นแกต้องระวังตัวแล้วล่ะ สองแม่ลูกนั่นคงไม่ยอมปล่อยแกไปง่ายๆ หรอก เดี๋ยวฉันจะรีบกลับไปหาแล้วกันนะ)
“ไม่ต้องรีบก็ได้ เดี๋ยวจะเสียงานเพราะฉันเปล่าๆ”
(ไม่เลย ฉันเคลียร์เรื่องนั้นได้ แล้วเจอกันนะ) คนอย่างคะนิ้งไม่ว่าใครก็ห้ามไม่ได้ ยกเว้นเสียแต่พ่อกับแม่เท่านั้น
“อืมๆ” พราวมุกตอบรับก่อนที่สายจะตัดไป
เธอเกรงใจคะนิ้งมาก เพราะทุกครั้งไม่ว่าเธอจะมีเรื่องอะไรจะอยู่ที่ไหน คะนิ้งก็จะรีบมาหาเธอเสมอ โดยไม่เคยปฏิเสธหรือบ่นเลยสักครั้ง อีกทั้งยังจับผิดเธอเก่งกว่าใครๆ และเข้าข้างเธออยู่เสมอ
“โทรศัพท์ของคุณ”
“วางไว้ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวอีกสักพักออกไปข้างนอกกัน” เธอวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะตามที่เขาบอก ก่อนจะย้ายไปนั่งที่โซฟา
“อืม คุณไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวฉันล้างจานเองก็ได้”
“ถ้างั้นก็ฝากด้วยแล้วกันนะ” คณินเอ่ยก่อนจะเดินไปในห้อง
พราวมุกมองดูข้าวต้มที่เขาทำไว้ให้พร้อมกับน้ำผลไม้ที่เธอเพิ่งดื่มไปจนหมดแก้ว ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไป นิสัยของเขาก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน แล้วแบบนี้เธอควรจะกลับไปหาเขาหรือเปล่า?
@ห้างสรรพสินค้า
“คุณไม่ต้องคอยเดินตามฉันก็ได้นะ” พราวมุกเอ็ดขึ้น เมื่อชายหนุ่มเอาแต่เดินตัวติดเธอตลอดเวลา จนเธอไม่กล้าที่จะเข้าร้านบางร้านเลย
“ทำไมล่ะ”
“ก็คุณไม่ซื้อของอะไรเลยเหรอ ฉันซื้อเองได้ ไม่ต้องคอยตามหรอก”
“ไม่มี พี่แค่อยากมาช่วยเธอถือของ” คณินยังคงดื้อดึง
“ฉันอยากไปซื้อของใช้ของผู้หญิง คุณจะไปด้วยไหมล่ะ”
“อ๋อ งั้นพี่รออยู่ข้างนอกแล้วกัน” เขาเกาหัวตัวเองแก้เขิน แล้วจึงปล่อยให้พราวมุกได้เลือกซื้อของใช้ส่วนตัวเอง โดยไม่มีเขาคอยเกะกะ
กระทั่งผ่านไปเกือบชั่วโมง พราวมุกก็ได้ของใช้ที่จำเป็นมาเกือบครบ เธอเอาเท่าที่พอจะไหวก่อน หลังจากที่ทำงานได้เงินแล้วค่อยมาซื้อเพิ่มทีหลัง
“ทำไมมีของแค่นี้ล่ะ” คณินบ่นเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าของที่เธอซื้อมามีเพียงไม่กี่อย่าง
“เดี๋ยวค่อยซื้อเพิ่มทีหลัง” เธอบอกกับคณิน
“ถ้างั้นเดี๋ยวบอกคะนิ้งให้ซื้อมาเพิ่มให้แล้วกัน”
“ไม่ต้องหรอก”
“แล้วโทรศัพท์ล่ะ เธอยังไม่มีโทรศัพท์เลย”
“ช่างมันเถอะ ฉันคงไม่ได้ใช้อะไรหรอก ทำงานแล้ว เดือนหน้าค่อยซื้อก็ได้” พอเขาทักขึ้นมาแบบนี้ เธอก็รู้สึกว่าของที่ต้องใช้ขาดไปหลายอย่างเหมือนกัน แต่เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เธอไม่อยากเป็นภาระให้ใครเพิ่มอีก
“ตามใจ” คณินเลือกที่จะไม่เซ้าซี้ต่อ และพาหญิงสาวไปยังไนต์คลับเพื่อให้เธอได้เตรียมตัวก่อนเริ่มงาน
@ไนต์คลับ
ไนต์คลับที่ตั้งอยู่ในเขตรุ่งเรืองใจกลางเมือง รอบๆ มีธุรกิจประเภทเดียวกันอยู่เรียงรายเต็มไปหมด
คณินพาเธอเข้าไปด้านในจากด้านหลังของไนต์คลับ เมื่อเข้ามาด้านในก็พบกับพนักงานแต่ละฝ่ายที่กำลังเตรียมตัวเปิดร้านในคืนนี้
“สวัสดีครับคุณคณิน”
“สวัสดีครับ นี่คือ พราวมุก ที่ผมบอกกับคุณไว้เมื่อคืน” ชายหนุ่มรับไหว้ ก่อนจะรีบแนะนำหญิงสาวข้างกายให้กับผู้จัดการร้าน
“ครับ ถ้างั้นก็ตามมาเลย”
“ไปสิ เดี๋ยวพี่รอที่ห้องทำงาน”
“อืม” พราวมุกรีบเดินตามผู้จัดการร้านไป โดยที่คณินเองก็แอบมองด้วยความเป็นห่วงแต่ก็รีบขึ้นไปเคลียร์งานด้านบนด้วยเช่นกัน
“บาร์เทนเดอร์ของที่นี่ มีทั้งหมดห้าคนรวมเธอด้วย”
“เธอจะต้องประจำอยู่ที่นี่ ตรวจเช็กสินค้าภายในร้าน ชงเครื่องดื่มตามสูตรของร้าน แล้วก็พูดคุยกับลูกค้า ถ้าเกิดเรื่องหรือต้องการความช่วยเหลือให้เรียกบอร์ดี้การ์ดที่ยืนอยู่รอบๆ และห้ามทะเลาะวิวาทกับพนักงานด้วยกันเด็ดขาด!”
“ค่ะ” เธอพยักหน้ารับอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“เข้างานตั้งแต่หกโมงเย็นและเลิกงานตอนตีสอง ห้ามสาย ถ้าจะลาต้องบอกล่วงหน้า แล้วก็อย่าคิดว่าเป็นคนของคุณคณินแล้วจะได้สิทธิพิเศษด้วยล่ะ” ประโยคทิ้งท้ายทำให้เธอขนลุกซุ่ไปทั้งตัว แค่เริ่มต้นผู้จัดการก็ดูจะไม่ชอบเด็กเส้นแบบเธอแล้ว มีหวังเธอได้ถูกจับตามองตลอดเวลาแน่
“ค่ะ แต่ฉันไม่ใช่คนของคุณคณินหรอกนะคะ”
“ก็ดี แล้วก็อย่าทำตัวมีปัญหาล่ะ ถ้ามีอะไรเสียหาย ฉันจะหักเงินเดือนเธอ”
“ค่ะ” ผู้จัดการร้านที่ดูเหมือนผู้ชายในตอนแรก ตอนนี้ได้กลายเปิดเผยตัวตนอย่างเป็นที่ประจักษ์แล้ว เมื่อกี้ก็แค่ภาพลักษณ์ในตอนที่คุยกับเจ้านายเพียงเท่านั้น
“พรุ่งนี้เริ่มงานได้ ส่วนวันนี้ก็เดินดูร้านไปก่อน แล้วอย่าไปสะดุดขาหมาที่ไหนล่ะ” ผู้จัดการร้านเตือนราวกับรู้อะไรบางอย่าง และกำลังบอกเป็นนัยๆว่าให้เธอระวังตัวเองเอาไว้
“ค่ะผู้จัดการ”
“เรียกฉันว่า คุณซิน”
“ค่ะคุณซิน” หลังจากที่ผู้จัดการร้านที่ชื่อ คุณซิน ออกไป พราวมุกก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ตลอดเวลาที่เธอยืนคุยอยู่กับอีกฝ่ายนั้น เหงื่อของเธอตกจนหลังเปียกไปหมดแล้ว ผู้จัดการร้านคนนี้สีหน้า ท่าทาง และคำพูดร้ายเอาเรื่อง แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าอาจจะเจอพนักงานที่ชอบสร้างความเดือดร้อนมาเยอะ ก็เลยกลัวว่าเธอจะสร้างความเดือดร้อนให้
“ดุชะมัด” พราวมุกบ่นพลางบุยปากเล็กน้อย
“เธอเป็นพนักงานใหม่เหรอ” เสียงแหลมและสูงเสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลังของเธอ พราวมุกจึงต้องหันไปมองด้วยความสงสัย
“อืม ใช่ แล้วเธอล่ะ”
“ฉันชื่อ จัสมิน เป็นเด็กของคุณคณิน” หญิงสาวเอ่ยด้วยความมั่นอกมั่นใจ เพราะเธอก็เคยใกล้ชิดกับคณินอยู่หลายครั้งและได้ยินว่าเขาเพิ่งจะกลับมาจากต่างประเทศ
“เหรอ? แล้วทำงานที่นี่ด้วยเหรอ”
“ใช่ ฉันเป็นทำงานบัญชีอยู่ที่นี่”
“อืม ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อพราวมุก”
“เสียใจ ฉันไม่ลดตัวไปรู้จักกับคนอย่างเธอหรอก อย่าคิดว่ามากับคุณคณินแล้วจะถือว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นนะ”
“เหอะ คิดไปเองกันเก่งชะมัด” เธอได้บ่นพึมพำอยู่กับตัวเอง เวรกรรมอะไรทำให้เธอต้องมาเจอคนแบบนี้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำงานด้วยเนี่ย
“พูดอะไรของเธอ ด่าฉันเหรอ”
“เปล่า ฉันจะด่าเธอทำไมกัน”
“แล้วไป แล้วก็อย่าคิดที่จะใกล้ชิดกับคุณคณินด้วย ฉันไม่ยอมหรอกนะ”
“ไปบอกเขาให้เลิกยุ่งกับฉันสิ ถ้าเธอทำได้ เรื่องก็จบแล้ว”
“มั่นหน้า! คนอย่างคณินไม่รสนิยมต่ำไปมองคนอย่างเธอหรอก” จัสมินไม่พอใจที่ถูกหญิงสาวตอกกลับ แต่ก็ไม่กล้าที่จะลงไม้ลงมือ เพราะไม่รู้เลยว่าหญิงสาวตรงหน้าสนิทกับคณินมากแค่ไหน
“ฉันไปล่ะนะ ขี้เกียจเถียง ฉันเหนื่อย”
“นี่! จะไปไหน กลับมาเดี๋ยวนี้นะ” เสียงร้องโวยวายของผู้หญิงคนนั้นยังคงดังตามหลังมา
พราวมุกรีบขึ้นไปที่ห้องทำงานของคณิน ถ้าหากอยู่ข้างล่างต่อไปนานอีกนิด ก็คงจะเกิดเรื่องตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน พลอยเป็นภาระให้กับคณินเปล่าๆ