“ฮือ เหนื่อยมากรู้งี้เชื่อนายแล้วกลับตั้งแต่แรกก็ดี”ร่างบางบ่นไปไขกุญแจเข้าบ้านไปด้วยทำให้วาโยส่ายหัวพร้อมกับมองของในมือตัวเอง
เดินตัวปลิวขนาดนี้ยังกล้าบ่นอีก!
นัยน์ตาคมมองบรรยากาศหมู่บ้านจัดสรรที่เดียน่าพาเขามาระหว่างทางเธอก็บอกเล่ารายละเอียดว่าตัวเองพึ่งมาจากนครราชสีมาเพื่อมาเรียนที่มหาลัยคิงเวลล์แบบกะทันหันและมาอยู่ที่นี่แค่คนเดียว
ที่นี่ก็ดูน่าอยู่ดีเป็นหมู่บ้านจัดสรรที่มีเวรยามดูแลบ้านแต่ละหลังก็สงบไม่วุ่นวายเพียงแต่เธอบอกว่ามีบางหลังจากมาวุ่นวายกับเธอ
“วาโย เข้ามาเร็วเหม่ออะไร”
“อืม”
เขาเดินตามร่างบางเข้าไปในบ้านภายนอกดูโทรมเล็กน้อยแตกต่างจากข้างในที่ดูดีมากเลยทีเดียวจนแอบสงสัยว่าทำไมปล่อยให้ภายนอกโทรมแบบนั้น
“วางของก่อน”
“นึกว่าจะปล่อยให้ฉันถือจนถึงพรุ่งนี้แล้วซะอีก” มุมปากยกยิ้มเมื่อเห็นริมฝีปากเล็กบ่นอุบอิบใส่เขา
“เว่อร์” เธอถลึงตาใส่ก่อนจะเดินนำไปยังห้องนอนฝั่งซ้ายที่ตกแต่งอย่างดีมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน
“นี่ห้องนาย..ส่วนนี้ห้องของฉัน”เธอบอกก่อนจะหลบออกจากหน้าประตูและชี้ไปที่ห้องนอนฝั่งขวาที่เป็นของตัวเองเขาเพียงพยักหน้ารับเท่านั้น
“ส่วนห้องน้ำของนายใช้ห้องน้ำข้างนอก..บ้านหลังนี้เป็นแบบชั้นเดียวสองห้องนอนสองห้องน้ำแต่ของฉันมีห้องน้ำในตัวแต่ของนายห้องน้ำอยู่นอกห้องนอน
“อืม” ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
“งั้นของพวกนั้นก็เก็บเข้าห้องเองนะฉันขอเข้าไปพักผ่อนก่อนส่วนมื้อเย็น..”
“ค่อยว่ากัน”
“อ่า โอเค”
เขาเห็นร่างบางขมวดคิ้วอย่างใช้ความคิดเลยตัดบทให้เธอไปพักผ่อนเพราะเขาก็อยากพักเหมือนกันวันนี้มีเหตุการณ์มากมายและภาพทุกอย่างในหัวทำให้เขาต้องกลับไปทบทวนตัวเอง
ร่างสูงทิ้งตัวลงบนเตียงกว้างมองห้องนอนสีขาวสะอาดตาแล้วมีความรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะกับเขาเท่าไหร่แต่เอาเถอะดีกว่าไม่มีที่จะอยู่
เดียน่าบอกว่าเรียนที่เดียวกันกับเขาและอาทิตย์หน้ามหาลัยก็จะเปิดเทอมแล้วเขาคิดว่าที่นั่นต้องทำให้เขาฟื้นความทรงจำได้แน่ตอนนี้ก็แค่นับวันรอเท่านั้น
อีกด้านคนตัวเล็กเดินวนไปมาในห้องนอนเหมือนหนูติดจั่นเพราะเธอไม่สามารถติดต่อคนที่บ้านได้เลยราวกับว่าโดนตัดขาด
ไม่ใช่สิ เธอต่างหากที่โดนตัดขาด!
เดียน่าทิ้งตัวลงบนเตียงนอนมือบางยกขึ้นมาก่ายบนหน้าผากอย่างปลงตกนึกไปถึงเรื่องตอนอยู่ร้านเสื้อผ้าที่บัตรเครดิตไม่สามารถรูดได้ตอนนี้คุณพ่อมีปัญหาอะไรกันแน่ทำไมถึงไม่บอกให้เธอรู้บ้างจะได้เตรียมรับมือ
เพราะเลี้ยงดูเธอมาประดุจเจ้าหญิงเธอถึงใช้ชีวิตด้วยตัวเองลำบากขนาดนี้ขนาดวาโยที่ความจำเสื่อมยังดูใช้ชีวิตเก่งกว่าเธออีก
เธอไม่ได้กลัวที่จะลำบากนะแต่อยากให้คุณพ่อเล่าหรือบอกอะไรกับเธอบ้างไม่ใช่เกิดปัญหาก็ส่งเธอมาในที่ที่คนอื่นหาไม่เจอยอมใช้อำนาจในการยัดเธอมาเรียนที่มหาลัยเอกชนสุดหรูหราทั้งที่จะไปมหาลัยธรรมดาก็ได้แต่ท่านคงไม่อยากให้กระทบเรื่องเรียนถึงเลือกที่นี่
อีกอาทิตย์กว่าก็จะเปิดเทอมแล้วเธอลุกออกจากเตียงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่มีชุดนักศึกษาเตรียมไว้ให้แต่ที่แตกต่างคือเข็มกลัดติดเสื้อบ่งบอกถึงสถาบัน กระดุมเสื้อ และเข็มขัด ทุกอย่างเตรียมไว้ทั้งหมด 5 ชุด เธอไล่สายตามองก่อนจะหยิบบัตรนักศึกษาออกมาดู
ณปภัส ถาปกรณ์ คณะบริหาร ปี 3
“ทำไม..”
ฉันยกมือขึ้นมาขยี้ตาตัวเองอีกครั้งแต่ข้อมูลในบัตรก็ยังเหมือนเดิมเพียงแต่นามสกุลของฉันไม่ใช่น่ะสิ
นี่ถึงกับเปลี่ยนนามสกุลเลยหรอแล้วนี่นามสกุลของใครกันยิ่งคิดฉันยิ่งไม่เข้าใจ
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย คุณพ่อก็ติดต่อไม่ได้โทรเข้าที่บ้านก็ติดต่อไม่ได้..เอ๊ะหรือว่าจะลองเช็กข่าวดู”
คิดได้ดังนั้นฉันก็คว้าไอแพดขึ้นมากดเสิร์ชหาข่าวเกี่ยวกับเขื่อนทางภาคอีสานไม่นานเว็บไซต์ข่าวก็โชว์หราเต็มหน้าจอไปหมดแต่ละข่าวพาดหัวแรงมากฉันกดเข้าเว็บไซต์แรกด้วยมือสั่นเทา
ด่วน! ทางผู้ว่าราชการกำลังเร่งตัวสอบผู้รับเหมาในโครงการนี้คาดว่านักการเมืองหลายคนมีเอี่ยว!
“นักการเมืองที่ว่า..คงไม่ใช่คุณพ่อหรอกใช่ไหม” ฉันอ่านเนื้อหาก่อนจะส่ายหัวเพราะแต่ละข่าวมีแต่น้ำไม่มีเนื้อเลยเพราะตอนนี้ทางผู้ว่าราชการยังไม่มีแถลงอะไรนักข่าวก็เอาแต่การคาดเดามาพาดหัวข่าวเท่านั้น
“ถ้ามันไม่มีอะไรทำไมคุณพ่อต้องทำถึงขนาดนี้แค่คนเขาด่าว่าท่านมีเอี่ยวถ้าไม่ได้มีส่วนจริงทำไมถึงส่งฉันมาเรียนที่อื่นไหนจะขาดการติดต่อทุกอย่างมันผิดปกติไปหมด…หวังว่าคุณพ่อจะไม่ได้มีส่วนนะ” ฉันถอนหายใจก่อนจะวางไอแพดลงส่วนตัวฉันขอพักผ่อนก่อนแล้วกันตอนนี้คิดอะไรไม่ออกเลย
ร่างบางผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจไม่ต่างกับเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกคนที่หลับไปเช่นกัน
หนึ่งคนที่ไม่รู้ที่มาไม่รู้เรื่องราวของตัวเองและความทรงจำใดกับหนึ่งคนที่ไม่เคยใช้ชีวิตด้วยตัวเองในโลกภายนอกไม่รู้จักโลกไม่รู้จักคนแต่พยายามที่จะเรียนรู้ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันภายใต้โชคชะตาและความบังเอิญที่ทำให้ทั้งสองต่างต้องพึ่งพิงกันและกัน
อัพครบ 100% นะคะจะได้ไม่ขาดตอน ?