ตอนที่หนึ่ง... ผู้ชายอันตราย
10.30 นาฬิกา ณ โรงแรมกาสิโนในเครือปีเตอร์สัน
ประตูห้องทำงานของ อัครวินธ์ นิโคลาส พงษ์ภวเมธากุล ปีเตอร์สัน ประธานกรรมการโรงแรมกาสิโนในเครือปีเตอร์สันถูกกดออดและเปิดเข้ามาจากการสั่งการทางรีโมตของเจ้าของห้อง... ชายร่างสูงผู้เพิ่งรับคำสั่งไปนั้นย้อนกลับเข้ามาในเวลาเพียงไม่กี่นาทีจึงไม่แปลกที่คนเป็นเจ้านายเงยหน้ามามองเขาด้วยสายตาเต็มไปด้วยคำถาม...
“นิค... ลิลลี่ไม่ยอมย้ายออกจากโรงแรม เธอขอเจรจากับนายก่อน นายจะเอาไง”
ไมเคิล โดโนแวน รายงานเจ้านายเกี่ยวกับหญิงสาวที่เจ้านายของเขาเชิญชวนให้หล่อนมาร่วมสนุกด้วยกันในค่ำคืนก่อนแล้วผ่านพ้นไปเพียงค่ำคืนเดียวเจ้านายของเขาก็ให้เงินและของกำนัลไปเพื่ออัญเชิญหล่อนออกไปจากห้องชุดเพราะไม่อยากใช้ผู้หญิงซ้ำ... แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่ยอมเยื้องย่างออกจากห้องไป ซ้ำยังร่ำร้องหาชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่หล่อนโชคดีได้นอนกกกอดมาตั้งหลายชั่วโมงจนไมเคิลต้องรีบกลับขึ้นมารายงานเจ้านายเพราะรับมือกับผู้หญิงมากมารยาไม่ไหว...
อัครวินธ์ นิโคลาส พงษ์ภวเมธากุล ปีเตอร์สัน ปิดแฟ้มเอกสารเกี่ยวกับการจัดการโรงแรมกาสิโนที่เขาเพิ่งเปิดเป็นแห่งที่สองในย่านลาสเวกัส สตริป ด้วยสีหน้าเอือมๆ เลขาคนโปรดเล็กน้อย...
ไมเคิลโดโนแวน เก่งทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเดียวคือเรื่องผู้หญิงที่ไอ้หมอนี่ซื่อจนโง่มากในสายตาเขา ใช้ไปจัดการเรื่องผู้หญิงเมื่อไหร่เป็นต้องหน้าซีดกลับมาให้เขาไปจัดการเองทุกครั้ง... เดาว่าตอนที่หมอนี่ไปอัญเชิญลิลลี่ ออกจากห้องส่วนตัวของเขา แม่สาวไฟแรงสูงนั่นคงโยนชุดชั้นในสีแดงเข้มมาอยู่ต่อหน้าเพื่อไล่ไมเคิลจนหมอนี่ต้องหน้าแดงวิ่งแจ้นมารายงานเขาแทบไม่ทัน...
มือหน้าล้วงเข้าไปในเสื้อสูทอาร์มานี่แพงระยับของตัวเอง หยิบสมุดเช็คและปากกาออกมาเซ็นแกรกๆ ไปเพียงครู่เดียว เงินสดแสนดอลลาร์สหรัฐก็ปรากฏในเช็คเงินสด...
“เอานี่ไปให้สตีเฟ่น ให้หมอนั่นเอาไปให้ผู้หญิงคนนั้น บอกหล่อนว่าให้หล่อนเลิกคิดจับฉันซะเพราะไม่มีวันที่ฉันจะไปยุ่งกับหล่อนอีกซ้ำสอง... ถ้าหล่อนยังดื้อด้าน จะไม่ได้อะไรจากฉันเลย เผลอๆ ฉันรำคาญมากฉันอาจจะใจร้ายกับหล่อนได้มากกว่าที่หล่อนจะคาดคิด”
“แต่สตีเฟ่นเตรียมการรับรองเจ้าชายอับดุลอยู่นะ” ไมเคิลเอ่ยถึงเลขาอีกคนของอัครวินธ์ที่ทำงานมาก่อนและถนัดกับการจัดการผู้หญิงที่ใช้แล้วต้องการทิ้งของเจ้านายมากกว่าเขา ที่อัครวินธ์ให้เขาไปเชิญหล่อนออกจากห้องที่ใช้เป็นรังรักในวันนี้เพราะว่าสตีเฟ่นไปรับรองลูกค้าคนสำคัญของโรงแรมของพวกเขาเอง...
“ฉันจะไปทำหน้าที่แทนสตีเฟ่นเอง... ส่วนนาย อ่านเอกสารพวกนี้แล้วสรุปให้ฉันอีกรอบ... เบื่อจะอ่านชะมัด” เจ้าพ่อกาสิโนหนุ่มกวาดแฟ้มงานทั้งหมดไปหาไมเคิลก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ถอนหายใจหนักๆ เมื่อคิดว่าตัวเองต้องไปรับรองลูกค้าด้วยตัวเอง...
เขาไม่ค่อยชอบทำเช่นนี้นักแม้ว่าลูกค้าจะเป็นคนสำคัญระดับชาติของประเทศร่ำรวยมาจากไหนก็ตาม... ขึ้นชื่อว่าเป็นผีพนันแล้วยังมาเพลิดเพลินที่ลาสเวกัส เชื่อว่าไม่นานก็ต้องหมดตัวแล้วสุดท้ายคนพวกนั้นก็จะอ้างความสนิทขอเข้าพบเขาเพื่อหยิบยืมเงินไปเล่นต่อในกาสิโนพอเล่นเสียอีกก็ไม่มีอะไรจะจ่ายให้และหนีไปดื้อๆ เพราะเป็นเช่นนี้เขาจึงส่งแค่เลขาไปดูแลแขก แต่วันนี้คงหลีกเลี่ยงไม่ได้
“แต่นายมีนัดกับน้องชายและน้องสะใภ้นายตอนเที่ยงนี้นะ” ไมเคิลไม่ลืมเตือนตารางนัดของเจ้านายหนุ่ม...
“ฉันรู้แล้ว... คิดว่าคงไม่ต้องรับรองแขกของฉันมากเท่าไหร่หรอกมั้ง... แค่รอต้อนรับที่หน้าโรงแรมแล้วพาเดินเข้าไปโซนกาสิโนแบบไฮคลาสจากนั้นเขาคงไม่สนใจการต้อนรับจากฉันมากกว่าไพ่ หรือลูกเต๋าแล้ว ตอนนั้นฉันจะปลีกตัวมาทานข้าวกับน้องชายและน้องสะใภ้ตามนัดเอง... นายตามสตีเฟ่นกลับมาได้เลย ฉันจะไปแสตนด์บายรอที่หน้าโรงแรมแทน”
“โอเค” ไมเคิล หยิบโทรศัพท์สมาร์ตโฟนมาติดต่อเรียกสตีเฟ่นมาทำหน้าที่ถนัด แล้วจากนั้นก็หยิบแฟ้มงานที่เขาถนัดทำมากกว่ากลับออกไปจากห้องเจ้านายจอมเจ้าชู้ที่ชอบคั่วผู้หญิงแล้วทิ้งง่ายจนพวกหล่อนทำใจไม่ทันแล้วปล่อยให้เป็นงานหนักของพวกเขาแทน...
“พี่พฤกษ์ พริกไปทำงานนอกเวลานะ... วันนี้เห็นว่ามีคนสำคัญมาที่กาสิโนแต่คนขาด พริกต้องไปช่วยเพื่อนรับรองลูกค้า” สาวหน้าคมร่างเล็ก วางสายโทรศัพท์เรียกตัวด่วนจากที่ทำงานแล้วพูดกับพี่ชาย...
พฤกษ์วางมีดที่เขากำลังใช้สับซี่โครงหมูสำหรับทำซี่โครงหมูตุ๋นไข่พะโล้แบบไทยๆ ด้วยความไม่สบอารมณ์
“อะไรกันยัยพริก... นี่ทำงานทำการไม่มีวันหยุดเลยหรือ... พี่อุตส่าห์มาหาที่นี่ แต่ก็ไม่ได้อยู่ทานข้าวด้วยกันสักวันเลย ที่ทำงานใหม่เราเขาใช้งานเราหนักมากเกินไปหรือเปล่า” เขาเอ่ยกับน้องสาวด้วยความจริงจัง
“ไม่หรอกค่ะ... พริกไปขอรับงานเอง พริกอยากซื้อบ้านเร็วๆ เลยของานไว้เยอะถ้ามีทำนอกเวลาก็ให้เรียก ช่วงนี้โรงแรมเปิดใหม่เขาต้องการให้แขกประทับใจมาก ๆ พนักงานเลยต้องทำงานหนักนิดหน่อย... พี่พฤกษ์อย่าโกรธเลยนะที่พริกไม่ค่อยมีเวลาว่างเที่ยวด้วยในวันหยุด... เดี๋ยวอาทิตย์หน้าพี่พฤกษ์ก็ย้ายมาทำงานที่นี่แล้ว เราคงมีเวลาว่างอยู่ทานข้าวด้วยกันมากขึ้นแน่นอนค่ะ พริกไปแต่งตัวไปทำงานก่อนนะคะ” หญิงสาวเดินเข้ามากอดพี่ชายร่างสูงอย่างเอาอกเอาใจมิวายเตือนพี่ชายน้ำเสียงจริงจัง
“ทำกับข้าวแล้วอย่าลืมเหลือไว้ให้พริกบ้างนะ”
“ยัยขี้งก ห่วงทั้งจะทำงาน ห่วงทั้งจะกิน จะเก็บเงินอะไรกันนักกันหนา”
“โห... ก็เค้าอยากสบายตอนแก่นี่นา... เค้าอยากซื้อบ้านตากอากาศสักหลังที่เมืองไทย เอาริมทะเลสวยๆ ไว้อยู่ตอนแก่ แต่ละหลังก็สามสิบสี่ลิบล้านทั้งนั้น... หาอีกกี่ปีไม่รู้ถึงจะได้ตามฝัน ทำงานหนักแค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำค่ะ” ฟังความฝันของน้องสาวแล้วพฤกษ์ก็เข้าใจในความมุ่งมั่นของน้องสาว เขารู้ดีว่าน้องต้องการอะไรและเขาก็ตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อช่วยสนับสนุนตรงนั้นเช่นกัน แต่ก็มีบางครั้งที่อดเป็นห่วงไม่ได้ที่เห็นพริมาทำงานหนัก
“จ้ะ... ตั้งใจทำงานก็ดีแล้ว แต่อย่าหักโหมมากนัก เราไปเปลี่ยนชุดเถอะไปเดี๋ยวพี่เดินไปส่ง”
“ค้า คุณพี่ชาย”