แขไขตื่นแต่เช้ามาอาบน้ำเพื่อไปท่องเที่ยวในวันนี้ เธอยังไม่ได้เตรียมแพลนเที่ยวเอาไว้ ตั้งใจว่าจะไปเรื่อยๆ เจอที่ไหนถูกใจก็แวะ วันนี้เธอเลือกที่จะใส่กางเกงขากระบอกสีดำยาวคลุมถึงตาตุ่มกับเสื้อแขนยาวเอวลอยสีขาวเอวลอยนิดๆ เพื่อความคล่องตัว ริมฝีปากสวยยังคงสีแดงสดเฉกเช่นทุกครั้ง
“อรุณสวัสดิ์ครับผม”
ปึง!
เธอปิดประตูห้องอีกรอบแล้วขยี้ตาตัวเอง ต้องตาฝาดไปแน่ๆ เช้าขนาดนี้ทำไมเธอถึงเห็นเขายืนยิ้มแป้นอยู่ที่หน้าห้องกันล่ะ เมื่อตั้งสติได้แล้ว หญิงสาวก็เปิดประตูห้องอีกครั้ง เดชาธรโบกมือหยอยๆ ยิ้มรับเธอ แขไขถอนหายใจเฮือกใหญ่ มือข้างหนึ่งยกขึ้นกุมศีรษะ ก่อกวนกันแต่เช้าเลยหรือ?!
“มีอะไรคะ” เธอถามไปตามมารยาท ก่อนจะเดินออกจากห้องมาพร้อมกระเป๋าเป้ใบเล็กที่ด้านหลัง
“ผมจะเป็นไกด์นำเที่ยวให้คุณในหนึ่งอาทิตย์นี้เอง”
“ใครขอร้องไม่ทราบ” เธอสวนกลับ
“ผมเต็มใจเอง ยังไงคุณก็ไม่ใช่คนในพื้นที่ การจะหาที่เที่ยวสวยๆ แล้วเที่ยวอย่างสบายใจคงยากนะครับ ให้ผมไปด้วยเถอะนะ นะๆๆ” เขาออดอ้อนเป็นเด็กๆ เข้ามาเขย่าแขนเธอและเอนหัวซบเหมือนลูกแมว
ไม่สิ กรณีเขาต้องเป็นลูกเสือเสียมากกว่า เพราะเขี้ยวเล็บยังติดตัวอยู่เสมอ
“ไม่” เธอยืนกรานปฏิเสธ ขืนให้เขาไปด้วยได้อันตรายกว่าเดิมกันพอดี
“ให้ผมไปด้วยเถอะน่า เที่ยวคนเดียวจะไปสนุกอะไรล่ะครับ ผมรับรองเลยว่าจะไม่ทำอะไรคุณเด็ดขาด จะไม่แตะต้อง จะไม่สัมผัส ถ้าคุณไม่อนุญาต”
เขายกมือขึ้นชูสามนิ้วสาบาน ทว่ามืออีกข้างกลับเอานิ้วไขว้กันแอบไว้ด้านหลัง เขาทนคิดถึงเธอแทบตายมาสามเดือน ถ้ามีโอกาสได้อยู่กันสองต่อสองมีหรือจะไม่ย้อนความหลัง เขาจะทำให้เธอรับรู้ถึงความทรมานในการคิดถึงเธอให้ได้
“แน่ใจหรือคะ” เธอถามย้ำอีกครั้ง
“แน่ใจครับ ถ้าผมผิดคำพูดให้คุณตีผมได้เลย”
“แต่หน้าตาคุณดูไม่น่าไว้ใจเลยนะ” แขไขยังคงไม่ไว้ใจเขา ผู้ชายที่ทะเล้นทะลึ่งตลอดเวลาอย่างนี้จะทำตามคำพูดได้จริงน่ะหรือ เธอสงสัยไม่น้อย
“มาครับ ผมช่วยถือกระเป๋าให้ เราสองคนไปผ่อนคลายกันดีกว่า”
เดชาธรมัดมือชกเธอเสร็จสรรพ เขาถอดกระเป๋าเป้จากด้านหลังเธอมาถือไว้แล้วเอาไปใส่ในรถ แขไขส่ายหน้าระอา แต่ก็ยอมตามเขาไปแต่โดยดี อย่างน้อยการท่องเที่ยวในครั้งนี้ของเธอก็คงไม่ต้องเหงาอยู่คนเดียวแล้ว หรืออาจจะวุ่นวายกว่าเดิมกันแน่นะ
ระหว่างทาง เดชาธรเปิดเพลงสนุกสนานบนรถและเปิดหน้าต่างเอาไว้เพื่อให้เธอได้รับกลิ่นอายของธรรมชาติ หญิงสาวสูดเอาบรรยากาศสดชื่นเหล่านี้เข้าปอด เธอทอดมองไปยังท้องฟ้าไกล สองข้างทางเป็นไร่องุ่นนับไม่ถ้วนจากทั้งไร่ของนนท์นธี และไร่ของชาวบ้านคนอื่นๆ
นานแค่ไหนแล้วนะ ที่เธอไม่เคยได้รับความสงบสุขแบบนี้...
“อากาศดีไหมครับ” เขาเอ่ยถาม แขไขที่กำลังหลับตารับลมเย็นๆ พยักหน้ารับ
หลายครั้งที่เธอดูเหมือนจะเปิดใจให้แก่เขา แต่ไปมาๆ ก็กลับมาปิดกั้นเหมือนปกติ เดชาธรอยากจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้หญิงสาวที่ทั้งสวยและเก่งคนนี้กลายเป็นคนปิดกั้นตัวเองจากความสุข เขาอยากจะค้นหาคำตอบนั้นให้เธอเพื่อปลดปล่อยเธอจากมัน
“สามเดือนที่ผ่านมา คุณเป็นยังไงบ้างเหรอครับ คือผมหมายถึง สบายดีใช่ไหม”
“ก็อย่างที่คุณเห็นค่ะ ฉันไม่ได้ทุกข์ใจอะไรและใช้ชีวิตปกติดีทุกอย่าง” เธอตอบด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“ผมสงสัยจัง ว่าใบหน้าของคุณในตอนที่ยิ้ม...จะสวยแค่ไหน”
คำถามของเขาทำเอาคนถูกถามต้องหันหน้ามาสบตา นัยน์ตาหวานเยิ้มที่บ่งบอกถึงความรู้สึกในจิตใจทำให้เธอต้องหลบตาด้วยไม่อยากรับรู้ถึงมัน
“เลิกพูดบ้าๆ แล้วตั้งใจขับรถไปเถอะค่ะ”
“แค่มีคุณมานั่งอยู่ข้างๆ ผมก็เสียสมาธิหมดแล้ว ยิ่งเป็นรถคันนี้ด้วย ผมยิ่ง...”
เขาเว้นช่องไฟเอาไว้ ภาพค่ำคืนอันเร่าร้อนระหว่างทั้งคู่แวบเข้ามาในความคิดของหญิงสาว แขไขรู้ได้ในทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร
“นี่คุณ...!”
“ฮะๆๆ ผมล้อเล่นๆ อย่าโกรธเลยน่า”
เขาใช้มือข้างหนึ่งรับแขนเธอที่กำลังกระหน่ำตีเขาไม่หยุดเอาไว้ นอกจากมุมเงียบขรึม เห็นทีจะมีแต่มุมโกรธจนควันออกหูของเธอนี่แหละมั้งที่เขาได้สัมผัส ตราบใดที่เธอยังไม่คิดเปิดใจให้ใครแบบนี้
“แล้วนี่คุณจะพาฉันไปไหนเหรอคะ”
“หมู่บ้านติดดาวครับ อยู่บนภูเขาสูง ที่นั่นบรรยากาศดีมากๆ แล้วก็มีวิถีชาวบ้านที่น่าสนใจด้วย ผมเคยไปมานานแล้วตั้งแต่สมัยเด็กๆ ตอนกลางคืนคุณจะได้เห็นดาวชัดเจนราวกับจะเอื้อมมือไปหยิบมาได้เลยล่ะครับ”
“จริงเหรอคะ ฉันชอบดาวนะ อยากเห็นเร็วๆ จัง” สีหน้าของแขไขดูดีใจอย่างชัดเจน
เดชาธรโล่งอกที่เธอชอบดวงดาวเหมือนเขา เขารู้มาว่าที่ผ่านมาเธอต้องทำงานอย่างหนักจนแทบไม่มีเวลาพัก เขาหวังว่าการไปเที่ยวในครั้งนี้จะทำให้เธอผ่อนคลายได้มากที่สุด อย่างน้อยขอแค่เจ็ดวันที่เธอไม่ต้องเอาเรื่องงานมาใส่ในหัวให้รกสมอง
“สวยจังเลย” ชายหนุ่มลืมตัวเผลอยื่นมือไปลูบหัวหล่อนแล้วเอ่ยชม
แขไขนั่งนิ่งตกใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนี้ หัวใจของหล่อนเต้นไม่เป็นจังหวะแม้จะพยายามระงับมันเพียงใดก็ตาม เธอกำมือแน่น
“ขะ...ขอโทษครับ ผมเผลอ” ร่างสูงชักมือกลับแล้วหันมาตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อ ร่างบางค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกเพื่อระงับอาการใจเต้นจนทำอะไรไม่ถูกของตัวเอง พลันเสียงของเขาในค่ำคืนนั้นก็ดังเข้ามาในหัว
‘คุณก็สวยเหมือนนางฟ้าเช่นกัน นางฟ้าของผม’
ตายๆๆๆ คิดอะไรของเธอกันแขไข หยุดคิดเรื่องลามกเดี๋ยวนี้เลยนะ เธอเอ็ดตัวเองแน่ใจ ทำไมในหัวถึงได้มีแต่ภาพของเขาตอนกำลังสุขสมกันล่ะ เธอกลายเป็นคนหมกมุ่นเรื่องพวกนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่!
ขณะเดียวกันทางด้านเดชาธรเองก็มีแต่เรื่องในคืนนั้นอยู่ในหัว เบาะที่เขานั่งในรถคันนี้ คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ทุกอย่างคือส่วนประกอบของคืนนั้นทั้งหมด แค่มองหน้าเธอเขาก็เหมือนจะมองทะลุเสื้อผ้า เห็นทุกสัดส่วนแสนสวยที่ซ่อนอยู่ภายใน ลมหายใจของเขาเริ่มไม่คงที่
‘คุณเหมือนเทวดาเลย หล่อจัง’
คำพูดของหล่อนฉายซ้ำในหัวเขาไม่หยุด นิ้วมือที่ลูบไล้เขา สายตาที่จ้องเขาตาไม่กะพริบคู่นั้น
พรึ่บ...!
เอี๊ยด!
เดชาธรเบรกรถกะทันหันด้วยตกใจที่มังกรของตัวเองผงาดขึ้นมาเพียงแค่จินตนาการถึงหญิงสาวข้างตัวเท่านั้น ความโป่งนูนของกางเกงกลายเป็นที่สังเกตเห็นของแขไข หญิงสาวตกใจตาโตที่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังมีอารมณ์ทางเพศ เธอตวัดสายตาคมกริบมองเขา
“นี่คุณ...!” ร่างบางชี้หน้าชายหนุ่ม เดชาธรส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัน
“ไม่...ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ”
“อีตาโรคจิต!”
เพี๊ยะ!
แขไขตบหน้าเขาไปเต็มๆ ฝ่ามือ ก่อนจะยกแขนขึ้นกอดตัวเองเอาไว้แล้วเขยิบตัวหนีจนชิดประตูอีกฝั่ง เดชาธรเบ้หน้า แบบนี้มันผิดจากที่เขาจินตนาการไว้ลิบลับ ตั้งใจจะเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวผู้แสนดีในชีวิตของเธอแท้ๆ ไหงแค่วันแรกก็กลายเป็น อีตาโรคจิตสำหรับเธอแบบนี้ล่ะ
ไม่แฟร์สำหรับเขาเลยสักนิด!
สามชั่วโมงต่อมา
ณ หมู่บ้านติดดาว
ในที่สุดก็มาถึงที่หมาย แก้มซ้ายของเดชาธรมีรอยแดงรูปฝ่ามือประดับอยู่ หลังจากถูกไล่ให้จอดรถลงไปสงบสติเจ้ามังกรของตัวเองจนมันยอมกลับไปจำศีลตามเดิม ตลอดทางหญิงสาวไม่มองหน้าเขาเลย เธอเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่าง ซ้ำยังเอากระเป๋าเป้ของตัวเองมาคั่นกลางระหว่างเธอกับเขาไว้อีกด้วย
ชายหนุ่มช้ำใจยิ่งนัก...
“สวัสดีครับๆ มาแล้วเหรอครับ”
‘ผู้เฒ่าเซียน’ ชายแก่ที่ได้รับความเคารพจากคนในหมู่บ้านออกมาต้อนรับ เขาเดินค้ำไม้เท้าเข้ามาหาทั้งคู่ เดชาธรยกมือไหว้ แขไขจึงยกมือไหว้เช่นกัน
“ผู้เฒ่าเซียนใช่ไหมครับ ผมเดชาธรที่โทรมาจองที่พักไว้นะครับ”
“ครับๆ ผมให้คนเตรียมไว้ให้แล้ว ยินดีต้อนรับนะครับคุณหมอกับคุณภรรยา”
“เอ่อ ไม่ใช่...” แขไขตั้งท่าจะปฏิเสธ แต่เดชาธรกลับโอบเธอมากอดเอาไว้
“ขอบคุณมากครับ ที่นี่ยังสวยเหมือนเดิมเลย ชวนให้คิดถึงจริงๆ”
“เดี๋ยวผมพาไปที่ห้องพักนะครับ จัดไว้ให้แถวๆ ผาชมดาวเลย รับรองว่ากลางคืนจะต้องโรแมนติกมากแน่นอน ตามมาครับๆ เอ้า ถือกระเป๋าให้คุณหมอกับภรรยาด้วย”
“คือว่าฉันไม่ใช่...” แขไขตั้งใจจะแย้งอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้กลับถูกเขาปิดปากเอาไว้เลยพูดไม่ได้
ทั้งสองเดินตามผู้เฒ่าเซียนมาจนถึงห้องพักที่ทำจากไม้และฟาง ตั้งอยู่ห่างจากผาชมดาวไม่ถึงร้อยเมตร บริเวณรอบๆ ห้อมล้อมไปด้วยดอกไม้หลากหลายสีสัน ไม่ไกลมีแปลงผักที่คนในหมู่บ้านปลูกเอาไว้ทำอาหาร อากาศบนนี้ค่อนข้างเย็นไปจนถึงหนาวจัด
“ขอให้สนุกนะครับคุณหมอ นี่ห้องพักของคุณหมอกับภรรยา ขาดเหลืออะไรบอกผมได้เลย ผมจะให้คนเตรียมมาให้” ผู้เฒ่าเซียนบอกพร้อมกับเปิดประตูห้องพักที่เตรียมไว้ให้ทั้งคู่ดู ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในหมู่บ้านอีกครั้ง
แขไขมองเข้าไปด้านในก็พบว่าเป็นที่นอนแบบเตียงเดี่ยวสำหรับนอนด้วยกันเท่านั้น เธอหันขวับมามองหน้าเดชาธรที่ทำผิวปากไม่รู้ไม่ชี้ทันที การที่มีห้องให้นอนได้เพียงห้องเดียวแบบนี้ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ ดูเหมือนเธอจะติดกับแผนการ เจ้าเล่ห์ของเขาเข้าอย่างจัง
“อย่าบอกนะว่าห้องนี้...”
“ใช่ครับ แค่คุณกับผม... ห้องของเราสองคน” คนเจ้าเล่ห์ยิ้มกว้างอย่างมีแผน