ร่างเปลือยแข็งแรงลุกขึ้นเดินไวๆ ไปที่โต๊ะทำงานเพื่อคว้าโทรศัพท์ต่อสายหาบอดี้การ์ดคนสนิท ส่วนชญาดาเมื่อได้รับอิสระหล่อนก็ลุกขึ้นนั่งชันเข่าพิงหัวเตียง เม้มปากแน่น เช็ดคราบน้ำตาที่แห้งเหือดของตนออกจากแก้มและฟังบทสนทนาของคนบาปว่าเขาพูดอะไรกับบอดี้การ์ดของเขา และยิ่งได้ยินก็ยิ่งเจ็บแค้น ยิ่งเกลียดชายที่ชื่อ “ไทรีส” มากกว่าเดิม
“ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันไม่ให้เลือดคนบาปอย่างคุณมาเกิดหรอก ถ้าเขามาเกิดฉันจะเอาเขาออกเอง เพราะฉันก็ไม่ต้องการมีเลือดชั่วๆ ของคุณในท้องของฉันเหมือนกัน”
ไม่รู้ว่าอะไรทำให้หล่อนพูดออกมาแบบนี้ น้อยใจหรือว่าเกลียดเขามากกันแน่ แต่ที่แน่ๆ หล่อนเสียใจที่เขาไม่ต้องการตนเอง ทำไมหัวใจของเธอถึงได้ดื้อทั้งๆ เขาทำไม่ดีและชั่วช้ากับตนถึงเพียงนี้ หล่อนไม่รู้ว่ามันคือความรู้สึกอะไร รู้แต่ว่าหล่อนเจ็บที่ได้ยินเขาพูดแบบนั้นกับคนของเขา
“ดีมากคุณหนูทิมมี่ ฉันเองก็ไม่ต้องการจะมีลูก เพราะฉันไม่ต้องการเด็กที่เกิดมาจากความใคร่ความอยากของฉันเหมือนกัน” เอ่ยเสียงทุ้ม เดินมาเก็บเสื้อผ้าของชญาดาแล้วโยนใส่หน้าของหญิงสาวพร้อมกับพูดต่อ
“แต่งตัวซะ เอเดนกับนิโคจะพาเธอไปหาบอดี้การ์ดของเธอ และเธอจะได้กลับบ้านไปฟ้องแด๊ดของเธอ บอกด้วยล่ะว่าฉันเอาเธอมันแค่ไหน” ยิ้มหยันเดินกลับไปโต๊ะทำงานแล้วหยิบขวดบรั่นดีขึ้นมาเปิดฝาแล้วกระดกดื่มทั้งขวด
“อ่า ดีเป็นบ้า แต่ก็ไม่ดีเท่ารสคุณหนูคาลีย์หรอกว่าไหม อยากรู้นักถ้าไอ้มอร์แกนมันรู้ว่าลูกสาวที่มันรักเป็นเมียของคนบาปอย่างไทรีสแล้วมันจะจุกแค่ไหนกัน หึหึ”
ใจจริงเขาไม่อยากปล่อยให้หล่อนกลับ แต่เมื่อคิดว่านี่เป็นการแก้แค้นและสั่งสอนหล่อนเขาจึงหยุดทุกอย่างเท่านี้ ทั้งๆ ที่อยากจะเชยชมร่างเล็กขาวนวลเนียนอีกหลายๆ ครั้ง แต่ก็ต้องหยุดเพราะเมื่อกี้การได้ครอบครองร่างเล็กทำให้เขาเผลอลืมป้องกันตัวเอง ทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉะนั้นเขาจึงต้องส่งหล่อนกลับ เพราะยังมีเวลาอีกเยอะที่เขาจะครอบครองหล่อน
ยิ่งได้ยินคำพูดของเขาก็ยิ่งทำให้หล่อนเกลียดคนตัวโตจนอยากลุกไปบีบคอเขาแต่หล่อนทำไม่ได้ ตอนนี้เรี่ยวแรงจะลุกยืนหรือจะแต่งตัวเองก็ยังไม่ไหว หล่อนเจ็บร้าวไปทั้งตัว และที่สำคัญเพียงแค่ขยับเคลื่อนไหวกลางร่างตรงจุดสงวนของหล่อนยิ่งเจ็บแสบทุกครั้งที่ขยับตัว
“อูว์” หล่อนร้องเจ็บพร้อมกับกุมกุหลาบงามอวบอูมกลางร่างแล้วสูดปากแรงๆ กำเสื้อผ้าในมือแน่น
“อ่า ฉันว่าฉันเบามือแล้วนะสาวเอเชีย แต่ก็อย่างว่าแหละเธอเล็กจริงๆ เดี๋ยวผัวแต่งตัวให้สาวน้อย และจำไว้ล่ะของอะไรที่ไทรีสได้ครอบครองแล้วอย่าคิดเอาไปให้คนอื่น เพราะตอนนี้ทิมมี่เป็นเมียฉัน และต้องเป็นของฉันคนเดียว” พูดจบก็โน้มไปกัดปลายจมูกแดงๆ ของคนตัวเล็ก
“อือ” หล่อนเบี่ยงหน้าหนีพร้อมเม้มปากแน่น ปล่อยให้คนบาปช่วยแต่งตัว และไม่นานเขาก็แต่งตัวให้เธอเสร็จ
ไทรีสจัดการแต่งตัวให้ชญาดาเสร็จเขาก็ให้รางวัลตัวเองด้วยการตวัดมือโอบรั้งท้ายทอยเล็กแล้วกระตุกผมของหล่อนบังคับให้เธอแหงนเงยขึ้น พร้อมกับปากหนานาบลงไปบดขยี้กลีบปากสีชมพูระเรื่อ
“อ่ะ อือ” เพียงแค่ได้สัมผัสและเรียวลิ้นของคนบาปที่สอดแทรกเข้ามาในโพรงปาก หล่อนก็พยายามดันลิ้นของเขาออกจากปากตนเอง แต่ก็ต้องพ่ายแพ้เมื่อเขาปล้ำจูบสอดเกี่ยวลิ้นสากกับลิ้นของหล่อนดูดคลึงคลี่เฟ้นในโพรงปากเล็กจนพอใจก่อนจะผละออกมา
“อ่า ปากหวานนะเนี่ยเมียฉัน อ่า”
ตวัดลิ้นเลียคางเล็กแล้วปล่อยเธอออกห่างเมื่อเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น แต่ก่อนจะอนุญาตให้บอดี้การ์ดเข้ามาก็ไม่ลืมดูความเรียบร้อยของคนตัวเล็กว่าแต่งตัวเรียบร้อยดีไหม หากเป็นคนอื่นเขาจะไม่หวง แต่ทำไมกับคนตัวเล็กคนนี้เขากลับหวงไม่อยากให้ใครเห็น แม้แต่ลำคอระหงเขาก็ไม่ต้องการให้ใครเห็น ยิ่งลำคอของหล่อนมีร่องรอยเขี้ยวฟันของเขาที่ขบเม้มอยู่ยิ่งไม่อยากให้ใครเห็น
“กินยาคุมเสร็จก็กลับบ้านไปพักได้แล้ว ออ อย่าลืมผัวล่ะ เพราะเป็นเมียคนบาปแล้วยังไงก็ต้องเป็นไปตลอดชีวิต” พูดจบก็เดินไปเปิดประตูห้องทำงานของตนทั้งๆ ที่ไม่ใส่เสื้อผ้าหรือนุ่งผ้าเช็ดตัว
‘ฝันไปเถอะ ฉันจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก ฉันเกลียดคนบาปอย่างแก ขอให้แกมีชีวิตในแต่ละวันทุกข์ทรมานและขอให้แกอยู่อย่างคนไร้ค่า ไปไหนก็มีแต่คนเกลียดชัง’ หล่อนสาปแช่งเขาขณะมองร่างเปลือยเปล่าของเขายืนคุยกับบอดี้การ์ดที่หน้าห้องของเขา
ไทรีสเดินยิ้มกลับมาพร้อมกับยาคุมฉุกเฉินและน้ำเปล่าหนึ่งขวดที่อยู่ในมือ เหมือนบอดี้การ์ดของเขาจะพร้อมเสียทุกอย่าง ซื้อยาและน้ำมาด้วยกัน
“กินซะจะได้ไม่ต้องมีมารหัวขนมาให้รำคาญ”
ชญาดารับน้ำและยามาอ่านวิธีใช้ก่อนจะจัดการกิน
“ดีมาก ว่าง่ายๆ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย ออ ที่บอกว่าจะบอกเคล็ดลับน่ะก็ไม่มีอะไรมาก แค่ฉลาดแค่นี้แหละคุณหนู” โน้มลงมากระซิบท้ายประโยคให้คนตัวเล็กเจ็บใจ
“เลว....”
“รู้ตัวอยู่แล้ว ไปได้แล้ว คนของฉันรออยู่ข้างนอก เขาจะพาไปหาบอดี้การ์ดเธอเอง ถ้าไม่อายก็โวยวายและบอกทุกคนก็ได้นะว่าเป็นเมียคนบาปแล้ว หรือจะไปบอกพ่อของเธอก็ได้นะ ได้ยินว่าเป็นโรคหัวใจด้วยไม่ใช่เหรอ” เขาบอกพร้อมกับกระชากร่างเล็กลุกขึ้นจากเตียงของตนแล้วผลักให้เดินออกไปจากห้อง ส่วนตัวเองก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยท่าทางสบาย เรื่องป่วยของมอร์แกนเขาเพิ่งรู้จากเอเดนเมื่อกี้ตอนเดินไปเอายาคุมฉุกเฉินมาให้ชญาดากิน
ยิ่งเห็นหน้ายิ่งเกลียด ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งแค้น หล่อนฝืนความเจ็บร้าวกลางร่างเดินไปยังประตูห้องแล้วผลักออกก็เห็นคนของเขาสองคนยืนรออยู่ ทั้งสองคนโค้งคำนับหล่อนแล้วผายมือให้เดินนำหน้าเหมือนกับว่าเธอเป็นแขกคนสำคัญของไทรีสก็มิปาน
“ลูอิสล่ะ บอดี้การ์ดของฉันอยู่ไหน”
“คุณหนูทิมมี่ไม่ต้องเป็นห่วงมันหรอก พวกเราไม่ได้ทำอะไรเขา ห่วงตัวเองเถอะครับ เดินไหวรึเปล่า หรือให้เราอุ้มไหม” นิโคเอ่ยเมื่อเห็นท่าทางเดินที่ไม่มั่นคงของคุณหนูคนสวย และไม่ต้องบอกก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เจอสัตว์ป่าอย่างไทรีสนายของพวกเขาแผลงฤทธิ์ใส่
“อย่ามาเรียกฉันแบบนี้ เลวพอกันทั้งนายทั้งลูกน้อง”
หล่อนหันมาตวัดสายตาใส่บอดี้การ์ดของไทรีสจนทั้งสองต้องหุบปากเงียบเมื่อได้รับสายตาเอาเรื่องของหญิงสาว ไม่อยากเชื่อว่าตัวเล็กแค่นี้เวลาโกรธเอาเรื่องเหมือนกัน แบบนี้สิถึงจะเหมาะสมกับไทรีสนายของพวกเขา สองหนุ่มหันสบตากันอย่างอ่านสายตากันออกโดยไม่พูดอะไรอีกขณะเดินตามชญาดาไปยังลิฟต์โดยสาร