“อือ มะ...ไม่ไหวแล้ว...ฉันไม่ไหวแล้ว ให้ฉันกลับเถอะนะ” หน้าสวยชื้นเหงื่อเซซบอกแข็งแรงของเขา สองมือเล็กจับเอวหนาของเขาไว้แน่นเพื่อไม่ให้ตนเองล้มลงกับพื้น
“อ่า เป็นเมียผมต้องอดทน ไม่ว่าเหนื่อยแค่ไหนถ้าผมยังไม่อิ่มคุณก็ต้องอ้าขาให้ผมนะทิมมี่” เขาผลักร่างน้อยออกห่างแล้วกดไหล่เล็กให้ย่อตัวคุกเข่ากับพื้น ชญาดาย่อตัวตามแรงกดของมือใหญ่อย่างอ่อนแรง พอได้นั่งคุกเข่าระดับการมองเห็นของหล่อนก็อย่ากับแก่นกายแข็งร้อนที่ชูชันของเขา หล่อนถึงกลับก้มหน้าแดงซ่านเขินอาย
“ฉันไม่ใช่เมียคนบาปอย่างคุณ ฉันไม่ใช่” หล่อนบอกปฏิเสะทั้งๆ ที่มันคือความจริงว่าตอนนี้ลหล่อนตกเป้นของเขา และหัวใจดวงน้อยๆ ก็เริ่มมีคนบาปแทรกแซงเข้ามาทีละน้อยๆ แล้วเช่นกัน
“ชูว์ คุณกล้าบอกพวกข้างนอกไหมล่ะว่าเราไม่ได้เมคเลิฟกันในนี้ เสียงของคุณครางเสียวดังขนาดนั้นแล้วคุณจะกล้าหน้าด้านบอกพวกเขาอีกเหรอว่าไม่ใช่เมียคนบาป” เขาเน้นย้ำทุกคำพูดในประโยคแล้วโน้มลงมาเชยคางมนคนที่นั่งคุกเข่ากับพื้นให้แหงนเงยขึ้นรับจูบร้อนอ่อนโยนของตน
“ปากของคุณเป็นขอผมคนเดียวเท่านั้นทิมมี่” ผละจูบอ่อนโยนออกมาเอ่ยยิ้มมุมปากให้คนตัวเล็กที่นั่งคุกเข่าตัวสั่นตรงหน้าตน มือใหญ่ปัดปอยผมที่ติดข้างแก้มชื้นเหงื่อและเปียกของชญาดาออกมาทัดหูให้หญิงสาวด้วยความเผลอไผก่อนจะโมลงไปดึงปลายผมสีดำยาวสลวยมาสูดดม
“อ่า หอมเหลือเกินทิมมี่ จำไว้ไม่ว่าจะวันนี้หรืออนาคตคุณเป็นของคนบาปคนนี้คนเดียวเท่านั้นที่รัก อ่า ทำให้ผมสิ ผมต้องการปากน้อยๆ ที่บอกว่าเกลียดผมดูดกลืนผมทูนหัว” บีบไหล่มนเพื่อกระตุ้นให้หล่อนทำตาม
ชญาดาจ้องมองสิ่งใหญ่โตของคนบาปตรงหน้าที่มใหญ่โตอลังการของชายหนุ่ม แล้วกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบากเมื่อคิดว่าต้องทำสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำในชีวิต
“ไม่นะไทรีส ฉันไม่ทำแน่น” หล่อนส่ายหน้าปฏิเสธ
“แต่เธอต้องทำ ถ้าเธอไม่ทำฉันจะบังคับยัดมันเข้าปากเธอเอง เลือกเอาต้องการแบบนุ่มนวลอ่อนโยนหรือดุดันคนสวย” น้ำเสียงแข็งแรงเอ่ยอออกมาอย่างคนมำอนาจ ดวงตาสีเขียวมรกตก็จ้องมองดวงหน้าสวยที่แหงนเงยขึ้นมาสบตาตนเอง