ไทรีสนอนตะแคงมองหน้าของสาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มที่นอนหมดสติจากฝีมือคนของตนเอง นิโคบอกว่าหล่อนจะหมดสติครึ่งชั่วโมง แล้วตอนนี้ก็ผ่านมายี่สิบกว่านาทีแล้ว อีกไม่นานหล่อนคงตื่นได้สติ ตอนนี้เขาจัดการปลดชุดตัวใหญ่ที่หล่อนตั้งใจปลอมตัวให้เหมือนผู้ชายแต่ด้วยสรีระที่เล็กของหล่อนทำยังไงก็ไม่เหมือนผู้ชายอยู่ดี วิคผมที่หล่อนใส่เขาก็ดึงออกปล่อยให้ผมยาวสลวยสยายเต็มหมอนหนุนของเขา
ดวงหน้าเล็ก สองแก้มนวลอมชมพู ริมฝีปากชมพูระเรื่อทำให้ไทรีสไม่อาจละสายตาออกจากดวงหน้าของสาวเอเชียตัวเล็กไปได้เลย หล่อนตัวเล็กกว่าที่เขาคิด และไม่คิดว่าจะหน้าตามีเสน่ห์ดึงดูดเขาได้ถึงเพียงนี้ หากหล่อนยิ้มให้เขาเหมือนที่ยิ้มให้กล้องเหมือนรูปที่เขาได้มาจะเป็นยังไงนะ หัวใจของเขาจะเต้นแรงผิดจังหวะกว่าเดิมหรือเปล่า
“อือ” ชญาดาขยับพลิกตัวเพื่อไล่ความเมื่อยล้าโดยไม่ยอมลืมตาขึ้น ทำให้ไทรีสที่นอนตะแคงมองสำรวจหน้าของหล่อนต้องขยับตัวถอยห่าง แต่ก็ต้องหยุดนิ่งเมื่อคนตัวเล็กนั้นพลิกตัวนอนตะแคงมาทางตน แล้วเรียวแขนเล็กตวัดพาดเกี่ยวเอวหนาของเขาไว้ พร้อมกับเคลื่อนตัวไปซุกซบอกกว้างของเขา
“ทิมมี่” เขาครางชื่อหล่อนอย่างอดทน เมื่อตอนนี้เจ้าหล่อนกำลังซุกซบอกของเขาและแนบถูหน้าไปกับหน้าอกของเขาอยู่ หล่อนช่างยั่วเขาเหลือเกิน แม้จะไม่ใช่สเปคแต่เพียงแค่หล่อนแตะต้องเสียดสีเนื้อตัวกับร่างกายของเขาแล้วมันช่างให้อารมณ์ร้อนรุ่มดีเหลือเกิน
“อือ หนาวจังเลย” หล่อนบ่นอุบอิบในลำคอแล้วซุกหน้าแนบกับอกหนาชิดกว่าเดิม พร้อมเพิ่มแรงรัดของมือที่พาดเกี่ยวเอวหนาแน่นกว่าเดิม เหมือนตอนนี้ชญาดาจะลืมไปเสียแล้วว่าก่อนหน้านี้ตัวเองอยู่ที่ไหนและเกิดอะไรขึ้น
“ทิมมี่!” ไทรีสเรียกชื่อหล่อนอีกครั้งและดังกว่าเดิม และดังพอจะทำให้หล่อนปรือตาขึ้นมามองหน้าเขา หล่อนขมวดคิ้วมุ่นชนกันแล้วแหงนมองคางสากที่มีเคราประดับล้อมกรอบหน้าแล้วกะพริบตาถี่ๆ พร้อมกับสมองน้อยๆ ของหล่อนประมวลผลว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนและเป็นความจริงหรือเป็นความฝันกันแน่
ว้าย!
เมื่อพิสูจน์และประมวลผลแล้วว่าคือความจริงไม่ใช่ในความฝันหล่อนร้องกรี๊ดตกใจผลักร่างตัวเองถอยห่างคนแปลกหน้าทันที
“นะ...นายเป็นใคร” หล่อนดีดตัวลุกขึ้นนั่งมองสำรวจไปทั่วห้องที่มีโต๊ะทำงาน และตอนนี้หล่อนนอนบนเตียงของชายแปลกหน้า แล้วก็ต้องขมวดคิ้วผูกเป็นปมอีกครั้ง พร้อมอ้าปากกว้างเมื่อได้เห็นหน้าของอีกฝ่ายชัดๆ
“ทะ....ไทรีส.....” เรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยเสียงสั่นเทา และมองไปรอบๆ ห้องเพื่อหาทางเอาตัวรอด
“ใช่ ผมไทรีส ยินดีที่ได้รู้จักทิมมี่ลูกบุญธรรมมอร์แกน” เขายื่นมือไปทักทายทำความรู้จักกับคนตัวเล็กที่นั่งตัวสั่นตรงหน้า
“ยะ...ยินดีค่ะ” หล่อนยื่นมือไปจับมือทักทายเขาตอบ แต่แล้วก็ต้องเสียหลักพุ่งไปปะทะแผงอกของเขา เมื่อเขากระตุกมือที่กุมมือหล่อนดึงเข้าไปหาเขา
ว้าย!
“อือ ปล่อยฉันนะไทรีส”
หล่อนดิ้นขัดขืน พร้อมดันตัวเองออกห่างจากอกแน่นของคนตัวโต แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกคนบาปรัดแน่นกว่าเดิม จนต้องหยุดดิ้นแหงนเงยขึ้นจ้องตาเอาเรื่องตอบ แต่สิ่งที่ทำให้ชญาดารู้สึกร้อนวูบไหว หนาวในอกเมื่อปะทะกับดวงตาสีเขียวมรกตของบุรุษหนุ่มที่กอดรัดตนแน่นจนต้องก้มหน้าซุกกับอกของเขาต่อเมื่อรับรู้ถึงอันตรายที่สื่อออกมาจากดวงตาสีสวยคู่นั้นของเขา
“กล้าจะเดินเข้ามาในแดนคนบาปก็ต้องกล้าจะสู้กับฉันสิทิมมี่” เขาพูดเหมือนตลกแต่สีหน้าสีดวงตามรกตของเขาไม่ได้แสดงให้เห็นว่ายินดีที่เจ้าหล่อนเข้ามาอยู่ในคาสิโของตนเอง
“ไม่นะ ฉันแค่มา....”
“คิดจะมาดูล่ะสิว่าทำไมคาสิโนฉันถึงได้ร่ำรวยเอาร่ำรวยเอา ต่างจากของพ่อบุญธรรมของเธอที่เธอพยายามเท่าไหร่ลูกค้าก็ไม่ติด เพราะทุกคนที่ไปสุดท้ายก็กลับมาซบคาสิโนสกายอยู่ดี” เขาเอ่ยเสียงห้าวแล้วผลักร่างน้อยที่กอดรัดแน่นออกห่าง แล้วผละตัวถอยห่าง ลุกขึ้นล้วงกระเป๋ากางเกงสแลคเดินไปยังโต๊ะทำงานแล้วหยิบขวดบรั่นดีขึ้นพร้อมถามคนตัวเล็กที่มองตามตนเองตลอดการก้าวเดิน
“เอาสักหน่อยไหม ถือว่าเป็นน้ำใจจากคนบาปอย่างฉัน” ชูขวดบรั่นดีในมือขึ้นพร้อมกับรินใส่แก้วของตนเองและอีกแก้วเพื่อจะให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญอย่างชญาดา
หล่อนเม้มปากแน่นแล้วรับแก้วบรั่นดีสีอำพันที่ไทรีสยื่นมาให้ตน จะไม่รับก็ไม่ได้เมื่อเขามีน้ำใจ หล่อนรับมาแล้วมองหน้าของเขาก็ต้องหลบตาเมื่อเผลอสบตากับคนตัวโต
หึหึ
“ฉันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอกแม่สาวเอเชีย คิดจะมาสู่กับฉันก็ต้องกล้าๆ หน่อยคนสวย”
ยอมรับว่าหล่อนสวย สวยแตกต่างจากผู้หญิงที่เคยเจอ เขาเจอแต่สาวผมทองปากแดงทรงโต แต่ผู้หญิงตรงหน้าที่เจออยู่ตอนนี้กลับตรงกันข้าม หน้าอกก็แฟบ แต่ดวงหน้ากลับขาวนวลเนียน ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อธรรมชาติน่าเคล้าคลึงคลอเคลียเหลือเกิน