“ฉันไม่กินมื้อเช้า สำคัญไม่สำคัญฉันไม่สนใจ”
“แต่...”
“ยุ่งน่า นายมาอยู่ในบ้านหลังนี้ก็อยู่ไปอย่ามายุ่งเรื่องของฉัน” พูดพร้อมกับสะบัดอารมณ์กรุ่นใส่อีกฝ่ายจนอีกฝ่ายปิดปากที่จะอ้าปากพูดไว้
นิ้งกับป้าทิพย์ต่างมองหน้ากันแล้วเดินออกจากห้องรับประทานอาหารออกไปเงียบๆ เมื่อเห็นว่าตอนนี้นายหนุ่มของตนเองกำลังอารมณ์ไม่ดี
“ขอโทษฮะที่ยุ่งมากเกินไป ผมแค่อยากสนิทกับพี่ไว้เพราะผมต้องเรียนที่นี่สี่ปี และอยู่บ้านนี้จนเรียนจบฮะ ”
หึ!
“ยังคิดจะอยู่บ้านหลังนี้จนเรียนจบอีกเหรอ ไม่คิดว่าในอนาคตนายจะย้ายออกไปอยู่กับเพื่อนกับแฟนเหรอ”
“พี่บิ๊กไม่เต็มใจที่ผมมาอยู่ด้วยเหรอครับ” ถามอย่างตัดพ้อแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น และท่าทางแสดงออกมาของควอนก็ทำให้แสงโสมมองตามแบบไม่เชื่อสายตาก็ท่าทางแบบนี้มันผู้หญิงชัดๆ
“แน่อยู่แล้ว ฉันไม่ชอบอยู่กับคนแปลกหน้า อีกอย่างอยู่บ้านนี้ก็ต่างคนต่างอยู่ล่ะ ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องเสนอหน้าหวานๆ มาให้ฉันเห็น ฉันไม่ชอบ”
ใช่เขาไม่ชอบเด็กจุ้นจ้านคนนี้เลย ให้ตายสิ ขนาดเนี่ยเพิ่งจะเจอกันเองนะ ทำไมเขาไม่ชอบทุกอย่างโดยเฉพาะท่าทางกิริยาของอีกฝ่ายที่แสดงออกเหมือนผู้หญิงจนเขาแยกไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิงกันแน่ ยิ่งหน้าหวานอมชมพูอีกยิ่งทำให้เขาหงุดหงิด
“ฮะ แต่วันนี้ไปเรียนวันแรกผมยังไม่รู้เลยว่าต้องไปยังไง ผมขอติดรถพี่....”
“ไม่ หาวิธีไปเองสิ โตแล้ว” แสงโสมรีบเอ่ยดักทันทีเมื่อรู้ว่าคนหน้าหวานจะขอติดรถตัวเองไปยังมหาลัยด้วย ใช่ มันเป็นทางผ่านไปบริษัทของเขาก็จริง แต่เรื่องอะไรจะให้ติดรถไปด้วยล่ะ
“ครับ” ตอบรับเสียงเศร้า แล้วมองเจ้าของบ้านที่หน้าไม่รับแขกลุกเดินจากไป ก่อนจะหันกลับมามองอาหารตรงหน้าของตัวเองแล้วก็ดื่มน้ำเปล่าแล้วลุกขึ้นเดินออกไปเมื่อตอนนี้จุกจนทานอะไรไม่ลงแล้ว
“คุณควอนให้ลุงเอกไปส่งก็ได้นะจ๊ะ” ป้าทิพย์เดินเข้ามาบอกเจ้านายอีกคน แม้จะมาเป็นผู้อาศัยแต่ก็เป็นเจ้านายของตนเอง
“ขอบคุณครับป้าทิพย์ ดีเหมือนกันลุงเอกไปส่งผมและจะได้บอกผมด้วยว่าขากลับต้องนั่งรถอะไรมา ดีนะเมื่อวานผมเอาที่อยู่ให้รถรับส่งดูเลยมาถูก แต่จะไปมหาลัยวันนี้ผมกลับงงไปไม่เป็นเลยครับ เพราะตอนมาสอบสัมภาษณ์ผมมากับพ่อและแม่ พวกท่านจัดการให้ทุกอย่าง” คุณหนูของเจ้าของโรมแรมหรูใจกลางเมืองกรุงเทพฯ เอ่ยเล่า
“ไม่เป็นไรค่ะ ให้ลุงเอกไปส่งทุกวันก็ได้ รถที่บ้านมีตั้งหลายคัน ปกติลุงเอกไม่ได้ไปส่งใครอยู่แล้ว เพราะคุณบิ๊กเขาขับรถไปทำงานเอง เขาไม่ชอบให้ใครไปวุ่นวายด้วยน่ะค่ะ” ป้าทิพย์บอกต่ออีก
“ครับ ไม่บอกผมก็รู้ครับ และเหมือนพี่เขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ผมมาอยู่ที่นี่กับเขา”
“อย่าคิดมากเลยค่ะ คุณควอนน่ารักแบบนี้ อีกอย่างดูสดใสทำให้บ้านเงียบขรึมของเราดูมีชีวิตชีวาค่ะ และไม่ป้าก็ไม่คิดว่าคุณควอนจะทำกับข้าวเป็นด้วย ทั้งๆ ที่เป็นงานผู้หญิง” ป้าทิพย์เอ่ยอย่างเอ็นดูหนุ่มน้อยลูกครึ่งหน้าหวาน
“พอดีผมชอบช่วยคุณแม่ที่บ้านทำกับข้าวครับ ผมเป็นลูกชายคนเล็กติดแม่ครับป้าทิพย์”
“น่ารัก หายากค่ะเด็กผู้ชายติดแม่ นิ้งไปบอกลุงเอกเตรียมรถให้คุณควอนเถอะ เดี๋ยวสายรถติด” ท้ายประโยคก็ร้องสั่งนิ้งที่ยืนอยู่ทางหน้าห้องรับประทานอาหาร
“จ้าป้าทิพย์” นิ้งร้องขานรับคำก่อนจะเดินไปตามลุงเอกไปเตรียมรถพาคุณควอนไปส่งที่มหาลัย
“ขอบคุณนะครับป้าทิพย์ เดี๋ยวผมออกไปรอลุงเอกที่หน้าบ้านเลยครับ”
“ค่ะคุณควอน แล้ววันนี้กลับกี่โมงคะป้าจะได้เตรียมมื้อเย็นไว้รอ หรือกลับเที่ยงคะ”
“วันนี้มีรับน้องด้วยครับ น่าจะสักหกโมงเย็นครับ”
“เดี๋ยวป้าจะเตรียมกับข้าวรอนะคะคุณควอน ว่าแต่อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ”
“ควอนทานอะไรก็ได้ครับ ว่าแต่พี่บิ๊กเขา....”
“รายนั้นจะทานมาจากข้างนอกค่ะ ไม่เคยทานข้าวที่บ้านหรอก เนี่ยรู้ไหมคุณควอนมาอยู่ป้าละดีใจที่จะได้ทำกับข้าวโชว์ฝีมือ เพราะคุณบิ๊กบอกว่าไม่อยากให้ป้าทำอาหารให้เหนื่อยเพราะเขาอยู่แค่คนเดียวเขาเลยจะทานจากข้างนอกทุกวันก่อนกลับค่ะ” นางบอกเล่า
“เหรอครับ” พยักหน้ารับรู้ก่อนจะเดินถือกระเป๋าเป้สะพายหลังใบเล็กของตนออกไปยืนรอลุงเอกเอารถออกมารับพาไปส่งที่มหาลัย
หนึ่งสัปดาห์แทบจะนับครั้งได้ที่ได้เจอหน้าของเจ้าของบ้านหน้าขรึม และวันนี้ควอนกลับมาจากกิจกรรมของมหาลัยตอนดึกเห็นไฟในห้องนั่งเล่นเปิดอยู่จึงเดินไปดูเผื่อว่าพี่นิ้งอาจลืมปิดไฟ เพราะเวลานี้ทุกคนนอนพักผ่อนแล้ว แต่พอเข้าไปยังไม่ทันได้ถึงห้องนั่งเล่นก็ได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกดังแว่วออกมาให้ได้ยิน
“ใครกัน ดึกแล้ว แล้วเสียงผู้หญิงที่ไหน” ควอนเอ่ยกับตัวเองขณะเดินย่องไปยังห้องนั่งเล่น แล้วก็แอบอยู่หน้าประตูมองไปดูข้างในห้องนั่งเล่น