“อุ๊ย!” น้ำอิงอุทานหน้าแดง
“หิว” เขาพูดสั้นๆ ได้ใจความ คนฟังหน้าแดงก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“ส่ายหน้าทำไม” เขาเหลือบมองก่อนจะเอ่ยถาม
“คุณพูดลามก”
“ตรงไหนเรียกลามก”
“ก็คุณบอกว่าหิว” เธอตอบเสียงสั่นๆ ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด
“ก็ใช่ ฉันหิว ไม่ได้กินฝีมือการทำอาหารของเธอกี่วันแล้ว จำได้ไหมว่าเคยสัญญาเอาไว้ว่ายังไง” น้ำอิงอ้าปากค้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น
“หิวกับข้าวฝีมือน้ำอิงเหรอคะ” เอ่ยถามเสียงอ่อย
“แล้วคิดว่าหิวอะไรล่ะ” เขาถามอย่างอารมณ์ดีขึ้น ไม่อยากพูดเรื่องที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ ทั้งๆ ที่ใจของเขาคุกรุ่นอยากจะฆ่า ไอ้หมอนั่นเพียงใด ถ้าไม่ติดว่าฆ่าคนต้องติดคุก แล้วจะไม่ได้เห็นหน้าเธออีก เขาคงทำไปแล้ว กล้าดียังไงมาแต๊ะอั๋งผู้หญิงของเขา
“เปล่าค่ะ”
“ทำไมเด็กแบบเธอถึงชอบโกหกนักนะ”
“หนูเปล่าค่ะ”
“ผู้ร้ายปากแข็ง” เขาเลี้ยวรถเข้าไปจอดที่คอนโดมิเนียมหรูกลางกรุง อันเป็นที่พำนักอีกที่หนึ่งของเขา ซึ่งค่อนข้างเป็นส่วนตัว
“ลงมาสิ” เขาเปิดประตูรถเรียกให้เธอลงมา เธอยังนิ่งเฉย ไม่อยากก้าวลงจากรถ
“ว้าย! คุณสิง คนป่าเถื่อน” เธอร้องเสียงหลงเมื่อเขาจับแบกขึ้นบ่า
“ปล่อยหนูนะคะ โอ๊ย! ตีก้นหนูทำไม” เธอร้องขึ้นเมื่อโดนฟาดก้นเข้าไปเต็มๆ
“ก็อยากดื้อทำไม”
“เจ็บนะคะ” เธอร้องด้วยความมึนงงที่ต้องโดนจับพาดบ่าห้อยหัวอยู่แบบนี้ ก่อนที่เขาจะวางเธอลงหน้าลิฟต์
“ฉันไม่เคยพาใครมาที่คอนโดฯ นี้เลย เธอเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวด้วย” เขาบอกเธอ ขณะดึงเธอเข้าไปในลิฟต์ น้ำอิงหัวใจเต้นสั่นรัวเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอถอยหนีไปอีกด้าน ในขณะที่เขาแกล้งเดินเข้ามาหาท่าทีคุกคาม แต่ยกยิ้มมุมปาก พอเธอขยับจะหนีไปอีกด้าน เขาก็ค้ำมือไปกับผนังกั้นเอาไว้ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นสีหน้ายียวนกวนอารมณ์นิดๆ ทำให้เธอก้มงุด
“ถึงแล้ว” ประตูลิฟต์เปิดออก เขาก็ดึงเธอออกจากลิฟต์เข้าห้องพัก
“หิว” เขาเดินเข้าหาหลังจากล็อกประตูเรียบร้อยแล้ว น้ำอิงถอยหนี เขาก็รั้งมากกกอดเอาไว้
“คุณสิงปล่อยก่อนค่ะ”
“หลบหน้าฉันทำไม”
“หนูเปล่านะคะ แค่อยากหารายได้เสริมตอนปิดเทอมเท่านั้น”
“ฉันหิว” เขาก้มลงงับใบหูหอมกรุ่นของเธอ
“เดี๋ยวหนูจะไปทำกับข้าวให้คุณนะคะ”
“หิวเธอ” สิงหลก้มลงกระซิบที่ริมหู คนฟังหน้าแดงตาโต
“ไหนคุณสิงบอกว่าหิวข้าวไงคะ”
“ตอนไหนเหรอ” เขาถามหน้ามึน
“ว้าย!” น้ำอิงร้องอุทานเมื่อโดนตวัดอุ้มร่างขึ้นสู่อ้อมแขน เขาพาเธอ เข้าห้อง พร้อมด้วยร่างหนาที่กดกายทาบทับลงมาหา
“อยากทำงานพิเศษช่วงปิดเทอมเหรอ ฉันมีงานให้เธอช่วยทำเอาไหม”
“อะ... อะไรคะ” เธอหลุดเสียงถามออกมา สิงหลดึงถุงยางอนามัยออกมาจากกล่อง สิ่งที่เขาถืออยู่ในมือทำให้เธอหน้าแดงมิน้อย
“ฉันกำลังจะผลิตรุ่นใหม่ออกมา ช่วยคิดสโลแกนให้หน่อยสิ”
“หนูไม่รู้หรอกค่ะ ไม่เคยใช้” เธอพูดอย่างอายๆ หน้าแดงซ่าน
“นั่นสิ ต้องลองก่อน อันนี้แบบบาง ใส่เหมือนไม่ใส่”
“คุณก็รู้ คุณก็คิดสโลแกนเองสิคะ”
“เธอก็ช่วยคิดด้วยสิ เวลาฉันใส่แล้วมุดเข้าไปในตัวเธอมันรู้สึกเสียว มากไหม เหมือนฉันไม่ได้ใส่หรือเปล่า เวลาที่เราเสียดสีตรงนั้นเข้าหากันแรงๆ ตอนใกล้จะถึง” เขาช่างลามกเสียจริง น้ำอิงหน้าแดงแล้วหน้าแดงอีก
“เด็กน้อย ถ้าเธอช่วยคิดสโลแกนให้ฉันแจ่มๆ ฉันจะตอบแทนเธออย่างงาม ได้เยอะกว่าไปทำงานเสิร์ฟงกๆ ที่ร้านอาหารให้ลูกค้าชีกอลวนลามอีกนะ”
“หนูไม่สนใจค่ะ” เธอรีบปฏิเสธปากคอสั่น
“แต่ฉันสนใจ ฉันเป็นเจ้าของบริษัทก็ต้องทดลองใช้ก่อน ไม่งั้นผู้บริโภคจะด่าได้ว่าผลิตของไม่มีคุณภาพออกสู่ตลาด” เหตุผลของเขามันทำให้เธอ สยิวกิ้วเหลือเกิน จะเถียงก็เถียงได้ไม่เต็มปากเต็มคำนัก
“ก็ไปลองกับคนอื่นสิคะ”
“ตั้งแต่ได้เธอ ฉันก็ไม่คิดจะลองกับใครอีก” เขาบดจูบปากน้อยช่างเจรจานั้นเสีย
“โคตรน้อยใจเลย เมียไล่ให้ไปเอากับคนอื่น”
“หนูเปล่านะคะ”
“ฉันจะถือว่านั่นเป็นความจริงใจของเธอ ที่พูดไปก่อนหน้าแค่พูดเล่น”
เขายกยิ้มมุมปาก น้ำอิงดิ้นไปมา ไม่นานเสื้อผ้าก็หลุดลุ่ย เขาขยับนิ้ว ไปเขี่ยติ่งไตของเธอเพื่อหยั่งน้ำหวาน
“อื้อ...” เธอร้องครางเมื่อเขาเขี่ยนิ้วกับติ่งเสียวของเธอ ความหยาดเยิ้ม ที่ไหลซึมออกมาต้อนรับการปรนเปรอของนิ้ว ทำให้เขาก้มลงกระซิบเสียง แหบพร่าตรงริมหูของเธอเบาๆ
“เธอมีอารมณ์แล้วใช่ไหม” มันไม่น่าให้อภัยตัวเองจริงๆ ที่เธอตื่นตัว สั่นระริกหยาดเยิ้มเพียงแค่เขาสัมผัสแตะต้อง เขาจ้วงนิ้วเข้าไปภายในทำเอาเธอร้องครางเสียงหลง ที่ร้ายไปกว่านั้นเขาเริ่มซอย มันเลยทำให้เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเอาเสียเลย กล้ามเนื้อสาวอ่อนหวานตอดรัดเขาตุ๊บๆ ด้วยความรัญจวนใจ เธอตอบสนองเขาอย่างยินดีปรีดา
“รอบหน้าฉันจะให้เธอสวมให้ด้วยปากดีไหม” เขาแกะห่อถุงยางอนามัยด้วยปาก ก่อนจะดึงมือเธอไปสวมครอบแก่นกายชาย เธอตาโตกับการขยายตัวของเขา เบือนหน้าหนี แต่อุ้งมือนิ่มยังรับรู้ถึงตัวตนของเขาที่กำลังเต้นเร่า เป็นลำอยู่กับมือน้อย
“เธอพร้อมแล้วล่ะ”
“หนูไม่เต็มใจ”
“ใครบอกกันล่ะ แบบนี้เรียกสมยอม” เขายิ้มใส่ตา นั่งทับส้นเท้า ก่อนจะแทรกกายเข้ามากลางร่างของเธอ เขาเขี่ยส่วนปลายของความแข็งแกร่ง กับปากถ้ำสวาท ไม่นานก็กดเข้ามาหาอย่างเชื่องช้า เธอกัดปากสลับกับการร้องครางด้วยความเสียวซ่าน และไม่นานเธอก็ต้องร้องออกมาเสียงหลงเมื่อเขากดเข้ามาหาอย่างล้ำลึกมิดเม้น
“อ๊า...” เธอจิกมือกับผ้าปูเตียงแน่น ในขณะที่เขาช้อนสะโพกเธอขึ้นไปหา ใบหน้าของเขาเหยเก ตามฝังตัวเข้ามาให้เธอโอบอุ้มเรือนกายจนหมดสิ้น
สิงหลครางยาว ใบหน้าของเขาเหยเกกระตุกเล็กน้อยจากการโดน ตอดรัดของเรือนร่างสาว
“เธอว่าไง รุ่นใหม่ของบริษัทฉันโอเคไหม” เขาเอ่ยถามก่อนจะเริ่มขยับ น้ำอิงส่ายหน้าไปมาด้วยความเสียวซ่านเมื่อเขาเริ่มโยกกาย เธอพูดไม่ออก บอกไม่ถูก ในเวลานี้รับรู้แค่เพียงความกระสันที่เขาบดบี้ลงมาหายัดเยียดมาให้เธอรับมันเข้าไปเต็มๆ
ร่างน้อยสั่นคลอนไปตามแรงโยก เขากดเธอแทบจมหายไปกับเตียงนอนกว้าง มือหนาไม่ห่างหายไปจากสะโพกงอนงามที่เขาทั้งลูบไล้ทั้งฟอนเฟ้น และช้อนขึ้นให้รองรับการกระแทกกระทั้นของเขา
ลาวาร้อนๆ พวยพุ่งเมื่อยามที่เธอหวีดร้องตอดรัดเขาถนัดถนี่ มันถูกกักเอาไว้ในถุงยางอนามัยแบบบางเฉียบ ให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่ แต่ป้องกันได้ทุกอณูของหยาดหยดน้ำรักที่จะก่อกำเนิดชีวิตน้อยๆ ในครรภ์
“อ๊า...” ใบหน้าของสิงหลเหยเกยามที่ปลดปล่อยหมดสิ้น เขาจุมพิต กลีบปากแสนหวานที่เผยออ้าหอบถี่ๆ ก่อนจะเลื่อนไปจุมพิตขมับชื้นเหงื่อ และใบหน้าหวานละมุนของเธอ
“เป็นไงสินค้าตัวใหม่ของฉัน วิจารณ์หน่อยสิ เธอได้ลองใช้คนแรกเลยนะกับฉัน” เขาเอ่ยถามยิ้มขำคนที่ตาโตอยู่ในอ้อมแขน
“หนูจะไปทำกับข้าวให้คุณกินค่ะ” เธอหันรีหันขวางจะลุกหนีออกจากเตียง
“เดี๋ยวสิ ตกลงว่าดีหรือไม่ดี ตอบฉันมาก่อน” เขาดึงเธอมากอดรัด กดร่างน้อยให้นั่งตัก หอมแก้มสาวอย่างเอ็นดูระคนหยอกเย้า
“ดีค่ะ” เธอหลับตาบอกเขาด้วยความอาย
“จริงๆ เหรอ ฉันคิดว่าไม่ใส่ดีกว่านะ” เขาแกล้งแหย่
“หนูไม่คุยกับคุณแล้วค่ะ”
“จะไปทำกับข้าวให้ฉันกินเหรอ”
“ก็คุณอยากกินไม่ใช่เหรอคะ”
“ใช่ คิดถึงฝีมือทำอาหารของเธอจัง ต่อจากนี้ไปห้ามไปทำงานที่อื่น อีกนะ เธอต้องทำอาหารให้ฉันกินคนเดียวเท่านั้น” เขาหอมแก้มเธอฟอดๆ หวงแหนและอยากเก็บเธอเอาไว้ใกล้ๆ ตัวไม่อยากให้หนีหายไปไหน