Chapter 8 ขย่มข้างหน้าต่าง
“อะ...อาห์ อาห์ อาห์”
ซ่านลี่ครางลั่นเมื่อถูกเขาเอาอย่างแรงเร็ว เขากอดรัดนางจากทางด้านหลัง ปากจูบจ้วง มือบี้ขยี้ขยำสองเต้าจนเป็นรอยนิ้วมือสีแดง
ยิ่งบีบแรงก็ยิ่งเมามัน ยิ่งเอาแรงเท่าไหร่นางก็ยิ่งเสียว จนครางแทบไม่เป็นภาษา
“ซะ...ซี๊ด อาห์”
ตับ! ตับ! ตับ!
เอ็นอุ่นยาวใหญ่แทงเข้าแทงออกซ้ำๆ จนกลีบดอกไม้เผยอบวมจากแรงเสียดทาน กระนั้นเขากลับยิ่งกระแทกแรงขึ้น แรงขึ้น แรงขึ้น!
“ขะ...ข้า อื้อ...”
ซ่านลี่ครางเสียงแผ่ว แหงนเงยใบหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่บัดนี้พระอาทิตย์เคลื่อนตัวไปแตะที่ยอดไม้ ทว่านางกลับมิอาจชื่นชมความงามของดวงอาทิตย์ยามเช้า เพราะเวลานี้เส้าเหิงได้จูงนางขึ้นไปยังหน้าผาสูงอีกครั้ง
“รอข้าก่อน อีกนิด”
เขากระซิบที่ข้างหูแล้วรีบซอยเอวสอบกระเด้าถี่ๆ โดยเน้นให้ปลายหัวหยักเสียดสีกับปากทางรักให้มากที่สุด
“ข้าไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว ซี๊ด...”
ซ่านลี่ส่ายหน้าแรงๆ เขาจึงกระชากผมให้นางแหงนเงยใบหน้าแล้วบดจูบลงไปก่อนที่ทั้งสองจะกระโดดลงมาจากหน้าผาสูงชันพร้อมๆ กัน
“อาห์!”
ความเสียวซ่านแล่นปราดเข้ากอดรัดคนทั้งคู่เอาไว้แนบแน่น ซ่านลี่หายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อมไหว ตั้งแต่มีชีวิตผ่านมาถึงสิบแปดหนาวนางไม่เคยรู้เลยว่าวันหนึ่งนางจะชื่นชอบเกมกามได้ถึงเพียงนี้
นางขยับตัวน้อยๆ หมายจะให้เขาดึงแกนกายที่เสียบคาอยู่ในรูสวาทของนางออก โดยไม่กล้าเอื้อนเอ่ยสิ่งใด เส้าเหิงค่อยๆ ดึงเอ็นอุ่นออกมาอย่างช้าๆ ในขณะที่สายตาคมจับจ้องใบหน้าหวานแดงระเรื่ออยู่ตลอดเวลา
เขาจับให้นางหันหน้ากลับมา ใช้ปลายนิ้วเชยปลายคางขึ้นแล้วมองลึกเข้าไปในดวงตาที่สุกสกาวราวกับดวงดาวในความมืดมิดของนาง
“เจ้ายังไหวอีกหรือไม่”
คำถามของคนตัวโตทำให้เลือดฝาดพลุ่งพล่านจนใบหน้าแดงระเรื่อ นางมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราของเขาอย่างครุ่นคิด
นางควรจะปฏิเสธออกไป เพราะเวลานี้ขาของนางสั่นจนแทบหยัดกายยืนไม่ไหวอยู่แล้ว ทว่านางกลับพยักหน้าช้าๆ อย่างไร้ยางอาย
นี่นางกำลังเสพติดกามที่เขาชายป่าเถื่อนผู้นี้มอบให้อย่างนั้นหรือ!
“เด็กดี”
เขายิ้มน้อยๆ แล้วอุ้มนางขึ้นนั่งที่ขอบหน้าต่าง จากนั้นจึงคุกเข่าลงบนพื้น จับสองขาเรียวให้อ้ากว้างแล้วซุกหน้าเข้าไปที่กลางแกนกายของภรรยาสาวทันที
“ซี๊ด!”
นางรีบใช้มือจับขอบหน้าต่างเอาไว้แน่น ไม่เช่นนั้นคงหงายหลังตกลงไปเพราะทนความเสียวที่เขากำลังละเลงปลายลิ้นไม่ไหว
“อะ อาห์ ซะ...ซี๊ด”
นางหอบหายใจแรงซ้ำๆ เขาละเลงลิ้น เลีย ดูด ดุนปลายลิ้นเข้าไปในร่องแคบชื้น ก่อนจะใช้ริมฝีปากขบเม้มที่เมล็ดสวาทโดยไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาจากหว่างขาของนางเลยสักนิด จนกระทั่งนางกระตุกเกร็งสั่นไปหมดทั้งตัวด้วยความสุขสมเขาจึงหยัดกายยืนขึ้นแล้วใช้มือจับเอ็นอุ่นรูดไปมาเร็วๆ แล้วแหย่เข้ามาในรูสวาทของนางอย่างไม่อารัมภบท
“อาห์!”
ซ่านลี่ครางเสียงดังลั่นเมื่อเขาแทงเข้ามาอย่างเร็ว ก่อนจะเริ่มกระหน่ำกระเด้านางอย่างไม่ออมแรง
ตับ! ตับ! ตับ!
“สะ...เสียวเหลือเกิน อื้อ อื้อ”
ตับ! ตับ! ตับ!
“ขะ...ข้าจะไม่ไหวแล้ว ซี๊ด...”
เสียงครวญครางจากภายในห้องหอของคู่บ่าวสาวทำให้หญิงสูงวัยที่ยืนแนบหูอยู่ที่บานประตูถึงกับฉีกยิ้มกว้างแล้วหันไปมองสาวใช้ที่ถือถาดอาหารอยู่ด้านหลัง
“อีกสักครึ่งชั่วยาม เจ้าค่อยนำสำรับเข้าไปให้ลูกชายและลูกสะใภ้ของข้า”
“จะ...เจ้าค่ะฮูหยินหลิว”
สาวใช้วัยละอ่อนรับคำราวกับติดอ่าง ใบหน้าแดงระเรื่อ มือสั่นจนแทบประคองถาดสำรับอาหารเอาไว้ไม่อยู่
“เห็นหรือไม่เล่าว่าข้าเลือกสะใภ้ไม่ผิด เส้าเหิงจะต้องชอบนาง หลงนาง จนทำให้ข้าได้อุ้มหลานในเร็ววันอย่างแน่นอน”
หลิวเจียเสียหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวขึ้นมาแสร้งเช็ดที่มุมปากอย่างมีจริตมารยา แล้วเดินออกไปทิ้งให้คู่บ่าวสาวร้องครางเสียงหลงด้วยความสุขสมครั้งแล้วครั้งเล่า
นวลแก้มระเรื่อแดงยามเมื่อกระทบแสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านร่มไม้น้อยใหญ่ลงมา จูซ่านลี่เดินทอดอารมณ์อยู่ในสวนสวยร่มรื่น พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อจู่ๆ ภาพร่วมรักอย่างเร่าร้อนรุนแรงเมื่อเช้าก็พุ่งปราดเข้ามาในห้วงแห่งความคิด ชวนให้หัวใจดวงน้อยกระตุกหวามจนเผลอทำตะกร้าไม้ร่วงหลุดจากมือกลิ้งลงบนพื้นดิน
“บ้าจริง!”
หญิงสาวสะบัดหน้าแรงๆ ขับไล่ความรู้สึกระทวยอ่อนที่เกาะกุมออกไปจนหมดสิ้น แค่คิดถึงอ้อมกอดและรสสวาทเร่าร้อนของผู้เป็นสามี นางก็รู้สึกเสียววูบวาบที่หว่างขาอย่างไม่อาจควบคุม
นางก้มลงคว้าตะกร้าสานแล้วจัดการเด็ดดอกไม้หมายจะนำไปประดับในแจกัน เดินลึกเข้าไป ลึกเข้าไป สวนของตระกูลหลิวนั้นมีขนาดใหญ่ด้วยผู้เป็นประมุขของตระกูลชื่นชอบต้นไม้จึงรวบรวมพันธุ์ไม้หายากจากเทือกเขาคุนเหม่ยมาไว้บนเกาะหมิงหนวนให้มากที่สุด สวนสวยจึงแน่นขนัดราวกับป่าย่อมๆ เลยทีเดียว
ดวงตาคู่สวยพิศมองต้นไม้ใบหญ้าด้วยความเพลิดเพลินกว่าจะรู้ตัวเมฆดำทะมึนก็ลอยต่ำแทบระยอดไม้สูง บ่งชัดว่าพายุร้ายได้ย่างกลายเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว
“แย่แล้ว ต้องรีบกลับเข้าไปในเรือนก่อนฝนจะตก”
ซ่านลี่รีบสาวเท้าก้าวยาวๆ ด้วยความเร่งรีบ ทว่าลมพายุกลับพัดแรงเสียจนนางแทบตั้งตัวยืนตรงไม่ไหว เซถอยหลังจนแผ่นหลังปะทะกับต้นไม้