Chapter 2 หญิงไร้ค่า
ไม่น่าเลย...
ทั้งที่เส้าเหิงสังเกตเห็น แต่กลับไม่ฉุกใจคิด รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากของมารดายามที่ส่งสุรามงคลให้เขาและจูซ่านลี่ดื่มก่อนเข้าห้องหอนั้น...
หาใช่สุรามงคลธรรมดา!
แต่คงเป็นสุราที่หมักจากว่านยั่วเย้าและแก่นรัญจวนอย่างไม่ต้องสงสัย นั่นก็เพราะฮูหยินหลิวต้องการให้บุตรชายคนโตมีทายาทสืบสกุลให้เร็วที่สุด จึงไม่มีวิธีไหนที่จะรวดเร็วทันใจไปกว่ากลโกงเช่นนี้อีกแล้ว
‘มารดาท่านช่างเจ้าแผนการนัก’
ฮูหยินหลิวอยากได้ลูกสะใภ้เป็นบุตรหลานขุนนางชั้นสูงมานานแล้ว ทว่าขุนนางคนก่อนๆ ที่ถูกส่งมาปกครองเกาะหมิงหนวนกลับไม่มีผู้ใดมีบุตรสาวเลยสักคน เมื่อสบโอกาสขุนนางจูเจียเทาถูกส่งมาที่เกาะหมิงหนวนอีกทั้งยังมีบุตรสาวที่เลอโฉมถึงห้านาง ฮูหยินหลิวจึงไม่รอช้าที่จะยื่นข้อเสนอมอบสินสอดเป็นตำลึงทองหลายหีบใหญ่ให้แก่เกาอิ๋งอิ๋งแม่เลี้ยงจอมละโมบ
แน่นอนว่าแม่เลี้ยงไม่ยอมยกบุตรแท้ๆ ของนางให้แต่งงานกับชายชาวประมงในเกาะที่แสนห่างไกล ด้วยหน้าตาทางสังคม ฐานันดร ล้วนแล้วแต่ไม่อาจเชิดหน้าชูตาวงศ์ตระกูล แต่กลับยกบุตรของภรรยาเอกให้อย่างไม่อนาทรร้อนใจด้วยไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตน
งานแต่งงานในวันนี้จึงถูกจัดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในสองวัน เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายกลับคำหรือเปลี่ยนใจเป็นอันขาด
นิสัยแม่ค้า!
ต้องยอมรับว่าที่ตระกูลหลิวมั่งคั่งเช่นทุกวันนี้ได้เป็นเพราะ ‘หลิวเจียเสีย’ มารดาของเส้าเหิงผู้อยู่เบื้องหลังในการค้าขายทั้งหมด ลำพังบิดาของเขานั้นเก่งกาจแต่เรื่องออกเรือหาปลา ไม่สันทัดการเจรจาเจื้อยแจ้วแม้แต่น้อย
เจียเสียเคยให้สามีออกไปเจรจาการค้าที่เมืองฮุยผิง ปรากฏว่าขาดทุนถึงสามในสี่ส่วน แถมแจกเป็นทานให้แก่ชาวบ้านยากจนไปอีกไม่น้อย นับจากนั้นเจียเสียก็ไม่เคยให้สามีจัดการเรื่องเงินทองอีกเลย
ซึ่งเส้าเหิงเป็นบุตรชายที่ได้นิสัยบิดามาทุกกระเบียดนิ้ว รักสันโดษ พูดน้อย ไม่ชอบสุงสิงกับผู้ใด วันๆ ชอบออกเรืออยู่กลางทะเล มีผืนฟ้าและผืนน้ำเป็นสหายที่ไม่เคยคิดคดทรยศ
แล้วจู่ๆ มารดาก็จับ ‘เมีย’ ยัดใส่มือโดยที่เขาไม่อาจปฏิเสธ ทันทีที่เขาก้าวขึ้นจากท้องทะเล มารดาก็จัดแจงยื่นคำขาดให้เข้าพิธีแต่งงาน โดยขู่ว่าหากเขาไม่ยอมแต่งงานมีทายาทสืบสกุลโดยเร็วนางจะผูกคอตาย
“ข้ารู้ตัวดี ว่าข้ามาที่นี่ในฐานะอะไร มีหน้าที่อะไร ได้โปรดวางใจ ท่านจะได้แค่ร่างกายแต่จะไม่มีวันได้หัวใจของข้า”
เสียงหวานเต็มไปด้วยทิฐิมานะอย่างลูกขุนนางชั้นสูงที่ถูกเลี้ยงดูมาราวกับไข่ในหินยังผลให้เส้าเหิงถึงกับเลิกคิ้วขึ้นแล้วหัวเราะ ‘หึ’ อย่างเย้ยหยันในลำคอ ทำให้คนตัวเล็กถึงกับหน้าแดงระเรื่อที่ถูกดูหมิ่นซึ่งหน้า
“หญิงสาวเมืองหลวง จองหอง! ปากดี! เช่นนี้ทุกคนหรือ”
เขาเอ่ยถามเสียงหยัน ผู้หญิงที่ยอมแต่งงานกับชายชาวประมง ไร้ชื่อเสียง ไร้เกียรติยศ จะให้เขามองนางว่าแสนดีหรือเทิดทูนราวกับนางชีในอารามก็คงไม่อาจทำได้
ตำลึงทองซื้อใจสตรีไม่ได้ แต่ซื้อร่างกายของนางได้ เรื่องนี้มารดาได้พิสูจน์ให้เขาเห็นกับตาแล้วว่าเป็นความจริง
“แล้วชายหนุ่มบนเกาะหมิงหนวนไร้ความเป็นสุภาพบุรุษเช่นท่านทุกคนหรือไม่”
นางไม่ตอบแต่กลับย้อนถามด้วยความกรุ่นโกรธ นึกโกรธที่เผลอไผลไปกับจูบป่าเถื่อนของชายผู้นี้ โกรธที่หัวใจเต้นแรงและวูบไหวไปกับเขา
และโกรธที่ตอนนี้ภายในร่างกายนางยังคงร้อนผ่าว ดูเหมือนมันจะทวีความร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนนางถึงกับต้องเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรงเพื่อสะกดข่มความต้องการบางอย่างเอาไว้
“ความเป็นสุภาพบุรุษของข้า ไม่ได้มีไว้เพื่อเจ้า”
“ข้าไม่ได้หวังว่าจะได้จากท่านอยู่แล้ว”
“ปากเก่งนัก”
“ข้าน้อมรับคำชม”
“วาจาเช่นนี้ หัวใจของเจ้าคงมีเจ้าของแล้วสินะ”
“แน่นอน!”
นางโต้ตอบทันควันอย่างต้องการเอาชนะ ซึ่งนั่นทำให้ประกายตาของผู้เป็นสามีถึงกับวาวโรจน์ แต่เพียงแค่วูบเดียวเท่านั้นก่อนที่เขาจะแสยะยิ้มหัวเราะราวกับขบขันเสียเต็มประดา แล้วแกล้งกระชับกอดนางให้แน่นขึ้น
เรือนกายนุ่มนิ่ม กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่อวลอุ่นอยู่รอบกายทำให้เขาเผลอสูดกลิ่นหอมเข้าปอดอย่างเสียไม่ได้ ยิ่งกอดแน่นยิ่งได้รับรู้ว่าทรวงอกของนางนั้นนุ่มหยุ่นบดเบียดลงบนแผงอกของเขาจนแทบจะผสานเป็นเนื้อเดียว
อยากแกล้งนาง แต่กลับเป็นเขาเองที่กำลังทรมาน!
เส้าเหิงกัดฟันกรอดจนสันกรามนูนเป็นแนวยาว กดข่มไม่ให้ด้ามฉมวกร้ายภายใต้กางเกงผงาดออกมาเบียดเสียดเข้าหาความนุ่มชุ่มชื้นชวนหลงใหล
แต่เขาจะควบคุมมันได้อย่างไรเล่า ในเมื่อสุรามงคลกำลังเริ่มออกฤทธิ์ ยังผลให้เขาหายใจแรง ราวกับเลือดในกายกำลังสูบฉีดไปเลี้ยงฉมวกแก่นกลางกายให้มันพองขยายคับเป้ากางเกง
“หัวใจของเจ้าจะคิดถึงใครข้าไม่ห้าม แต่ร่างกายของเจ้าไม่อาจเป็นของชายใดนอกจากข้า ข้าจ่ายค่าตัวของเจ้าด้วยตำลึงทองหลายหีบไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้องเจ้า จำเอาไว้ให้ขึ้นใจ!”
ราวกับถูกตบที่ใบหน้าจนชาวูบ ยิ่งถูกย้ำซ้ำๆ ว่านางถูกขายมาเพื่อเป็นเมียไม่ต่างจากวัวแม่พันธุ์นางก็ยิงเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
ทันทีที่เขากดปลายจมูกลงบนซอกคอขาว หยาดน้ำตาแห่งความอดสูใจก็ไหลรินจนสะอื้นฮัก แต่คนตัวโตหาได้หยุดไม่...
นั่นเพราะเขาคิดว่านางกำลังคิดถึงชายอื่นทั้งที่เวลานี้นางเป็นเจ้าสาว เป็นภรรยาของเขา ความโกรธและความอยากเอาชนะทำให้เขาปล่อยตัวปล่อยใจให้ฤทธิ์สุรามงคลครอบงำ
ตะโบมจูบซุกไซ้ไปตามซอกคอนวลระหง ฝังรอยจูบแดงระเรื่อจนเป็นปื้นแดงเพื่อตีตราประทับความเป็นเจ้าของ ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งยึดศีรษะของนางให้แหงนเงยแล้วจูบจ้วงโดยที่นางไม่อาจเบือนหนี
จูบแรง ป่าเถื่อน บดขยี้จนริมฝีปากสีชาดเห่อบวม
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าชาวประมงต้องเดินเรือครั้งละหลายเดือนโดยปราศจากผู้หญิง ทุกครั้งที่กลับขึ้นบก ชายโสดจะไปที่หอคณิกาเพื่อปลดปล่อยความใคร่ที่อัดแน่น และข้าก็เป็นหนึ่งในชายเหล่านั้น”
เขาเลื่อนริมฝีปากหนาหยักได้รูปไปกระซิบที่ข้างใบหูของเจ้าสาวแสนสวย ก่อนจะพูดต่อไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน