ตอนที่ 1
“บอกแล้วยังไงล่ะเพียงว่าอย่ามาพูดเรื่องนี้กับพี่อีก เรื่องที่จะให้พี่มีเมียอีกคนแล้วแถมจะให้ผู้หญิงคนนั้นมีลูกกับพี่ด้วย ถึงเพียงจะพูดอีกสักกี่หนพี่ก็ไม่อยากฟัง”
น้ำสิงห์ฉุนเฉียวของ จเด็จ เจ้าของปางไม้ชื่อดังสิงหอัครวัฒน์ดังขึ้นในบ้านไม้สักหลังใหญ่ในป่าภายในปางไม้ที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางหลายร้อยไร่โอบล้อมด้วยป่าใหญ่เขียวขจีดังขึ้นและแสดงความไม่พอใจนั้นทำให้เพียงกมลภรรยาสาววัย 26 ปีวางแก้วน้ำส้มที่จิบไปเพียงเล็กน้อยลงบนโต๊ะที่หน้าระเบียงห้องนอนซึ่งในขณะนั้นมีเธอและผู้เป็นสามีอยู่เพียงลำพังสองคนในยามย่ำค่ำ มองออกไปด้านนอกเป็นแสงไฟสปอร์ตไลท์ที่ส่องสว่างอยู่ทั่วไปภายในปางไม้อันกว้างใหญ่
“คนที่พี่เด็จว่าเป็นคนอื่นนั่นเป็นน้องสาวของเพียงนะคะถึงแม้ว่าจะเป็นน้องสาวต่างแม่ก็ตามเถอะค่ะ แต่นิ่มเขาก็เป็นน้องสาวคนนึงที่เพียงรักและก็ส่งเสียให้เขาเรียนจนจบมหาวิทยาลัยปีนี้แล้วด้วย”
จเด็จ เจ้าของปางไม้หนุ่มวัย 30 ปีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนผู้ชายชาวยุโรปหันกลับมา ใบหน้าหล่อเหลาจับจิตจับใจนั้นแสดงความเครียดขึ้ง เขาเอ่ยว่า
“ก็นั่นล่ะ...ยิ่งเป็นญาติสนิท ยิ่งมีสายเลือดใกล้ชิดกันมันก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจแล้วถ้าคนทั่วไปรู้เขาจะคิดยังไงเขาจะมองว่าพี่เป็นคนยังไงที่ได้ทั้งพี่ทั้งน้องมาเป็นเมียทีเดียวพร้อมกัน 2 คน”
“นี่เป็นคำขอร้องจากเพียงนะคะ เพียงรู้ค่ะว่าพี่เด็จก็คงจะลำบากใจกับเรื่องนี้ แต่พี่เด็จก็รู้อยู่แล้วนะคะว่าระหว่างเราสองคนมันเป็นยังไง พี่เด็จก็รู้ว่าเพียงมีลูกไม่ได้แล้วเราก็แต่งงานกันมาก็เกือบ 2 ปีแล้ว”
“มีไม่ได้ก็ไม่ต้องมีสิ แล้วทำไมเพียงจะต้องคิดมากกับเรื่องนี้ด้วย”
เขากล่าวและนั่งลงเคียงข้างภรรยาขณะดึงมือบอบบางแต่ว่าซีดเซียวมากุมไว้ขณะนั้นเขาจ้องใบหน้ารูปไข่ เป็นใบหน้าที่งดงามทว่าก็ดูซูบซีดเหลือเกินของเพียงกมล ภรรยาสาวที่เขาแต่งงานอยู่กินกับเธอมาเป็นเวลาเกือบสองปีและนับตั้งแต่แต่งงานก็เริ่มเกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของเพียงกมลซึ่งมันไม่ได้เพิ่งเกิดเมื่อปี 2 ปีหลังจากที่เธอแต่งงานกับเขา แต่จเด็จรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าภรรยาสาวมีปัญหาในเรื่องสุขภาพเพราะขณะนี้เธอเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดซึ่งก็อยู่ในระยะท้ายๆ เพียงกมลต้องต่อสู้กับโรคที่เป็นอยู่และเธอก็มักตำหนิตัวเองเสมอเรื่องที่แต่งงานอยู่กินกับเขาแต่ก็ไม่สามารถมีลูกให้เขาได้เป็นปมที่ติดค้างอยู่ในใจหากแต่นั่นกลับไม่ใช่เรื่องที่ทำให้จเด็จลำบากใจได้มากเท่ากับการที่เพียงกมลเสนอจะให้เขารับผู้หญิงมาเป็นภรรยาอีกคนเพื่อที่จะมีลูกให้เขา
และผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นน้องสาวต่างมารดาที่เพียงกมลส่งเสียให้เรียนจนจบระดับมหาวิทยาลัย ภรรยาของเขาอ้างว่าได้ทำความตกลงกับนภัสรีย์ซึ่งเป็นน้องสาวต่างแม่อย่างดีแล้ว ตอนแรกที่เพียงกมลบอกเรื่องนี้ทำให้จเด็จโกรธเคืองมากเขาไม่ได้โกรธจนกระทั่งเกลียดเพียงกมล เพียงแต่เขาไม่ต้องการที่จะรับผู้หญิงคนอื่นเข้ามาอยู่ในในฐานะเมียอีกคนเพราะเขาถือว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดปกติสำหรับตัวเอง ในเมื่อเขามีเมียอยู่แล้วและเขาก็เป็นผู้ชายที่ถือในเรื่องของความรักเดียวใจเดียว ที่เขาไม่ชอบการมีเมียหลายคนนั้นเพราะในอดีตพ่อของเขาเคยทำให้แม่ของเขาเสียใจกับการมีผู้หญิงหลายบ้านและเขาเองก็มีปมด้อยมาตั้งแต่เด็กกับการที่พ่อของเขาเป็นคนเจ้าชู้ เขาจึงไม่อยากทำตัวเหมือนพ่อของเขา ไม่อยากทำตัวเป็นผู้ชายร้อยเล่ห์หลายใจมีเมียหลายคนอย่างที่พ่อของเขาเป็น หากแต่เมื่อเขาปฏิเสธ เพียงกมลก็พยายามรบเร้าเขาอยู่เสมอและนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาลำบากใจแต่จเด็จเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรในเมื่อคำร้องขอนั้นมันมาจากความต้องการของคนที่เขารักและรู้ว่าเธอจะอยู่กับเขาได้อีกไม่นาน
“พี่เด็จคะ ที่เพียงอยากจะให้พี่เด็จมีลูกกับนิ่มมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติอะไรเลยนะคะ เพียงอยากจะเห็นพี่เด็จมีความสุขเพราะเมื่อก่อนนี้ตอนที่เราคบกันใหม่ๆ พี่เด็จเคยบอกกับเพียงว่าอยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบและความสมบูรณ์แบบนั้นก็คือการที่เราจะต้องมีลูก”
“แต่มันก็ไม่ได้มีความจำเป็นถึงขนาดนั้น ก็ในเมื่อเรารู้ว่าเราไม่มีความพร้อมแล้วทำไมจะต้องขวนขวายเพื่อหาสิ่งที่สมบูรณ์แบบด้วยล่ะ สำหรับพี่แล้วความสมบูรณ์แบบคือชีวิตของพี่ก็คือการที่ได้ได้อยู่กับคนที่พี่รักแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว”
“แต่เพียงไม่ได้คิดแบบนั้นค่ะ พี่เด็จก็รู้ดีนะคะว่าเราสองคนอยู่กันยังไง ตั้งแต่เราแต่งงานกันใหม่ๆ เพียงก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพมาโดยตลอดที่สำคัญที่เด็จก็รู้อยู่แล้วว่าเพียงน่ะเป็นโรคร้ายแรงยังไงชีวิตของเพียงอาจจะไม่ยืนยาว ข้อนี้พี่เดชก็รู้ เพียงขอแค่ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ได้เห็นคนที่เพียงรักมากที่สุดมีความสุขแค่นี้เพียงก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วจริงๆค่ะ”
“แต่สิ่งที่เพียงขอร้องพี่มันจะทำให้พี่ทุกข์ใจมากกว่านะ”
“พี่เด็จคะ”
เพียงกมลจับมือของเขาตอบและบีบมือหนาหนักนั้นไว้แน่นเธอซบหน้าลงกับไหล่กว้างและจเด็จรู้สึกได้ถึงร่างกายของภรรยาที่สั่นสะท้านพร้อมด้วยเสียงกระซิก