“กระเป๋าครับ” เมื่อกลับเข้ามาในงานเจโม่ก็รีบเดินมาหาต้นหลิวแล้วยื่นกระเป๋าให้เธอ ต้นหลิวเองก็ฉีกยิ้มหวานให้เจโม่จนปากจะฉีกถึงใบหูอยู่ล่ะ เห็นแล้วมันน่าหงุดหงิดชะมัด ทีกับผมทำเป็นไม่อยากเข้าใกล้ ผมไม่ได้หึงหรอกนะ แต่ต้นหลิวทำให้ผมนึกถึงอดีตสมัยเด็กที่ผมเคยแพ้เจโม่เพียงครั้งเดียว มีแค่ยัยนั่นคนเดียวจริงๆ ที่ผมแพ้ ผมปล่อยผ่านเรื่องของเจโม่กับต้นหลิวแล้วหันไปโฟกัสบนเวทีแทน ไม่อยากคิดอะไรให้มันรกสมอง ยังไงซะเจโม่มันก็เป็นทั้งญาติและเพื่อนของผม พรีเซนเตอร์สินค้าตัวนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ดีดี๊ นั่นเอง ผมรู้อยู่แล้วว่าเป็นเธอ แต่ผมก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน เพราะงานนี้จัดขึ้นที่ห้างฯ ของผม “คุณเลโอคะ เชิญบนเวทีค่ะ” ผมต้องหยุดอารมณ์หงุดหงิดเอาไว้แล้วหันไปทำหน้าที่ของตัวเองก่อน เมื่อผมเดินขึ้นมาบนเวทีแสงแฟลชจากกล้องต่างยิงรัวๆ ใส่จนแสบตา ผมกะพริบตาอยู่สองสามครั้งและนั่นก็ทำให้สื่อมวลชนเลิกยิงแฟลช