ตอนที่ 8

1059 คำ
                เจ้าของรองเท้าผ้าใบสีชมพูบอบบางค่อยๆ ก้าวเท้าลงที่บันไดอย่างเบาที่สุด เพราะตลอดทางเดินออกจากห้องนอนมาจนถึงบันไดด้านหน้า เจ้าตัวก็ทั้งหมอบคลานทั้งเดินย่องเพื่อไม่ให้เกิดเสียงซึ่งอาจทำให้คนที่คิดว่าหลับอยู่ตื่นขึ้นมาเห็นได้ ในมือประคองกระเป๋าสะพายใบย่อม ใบหน้านวลหันรีหันขวางก่อนจะค่อยๆ กระเถิดลงบันไดทีละขั้นๆ                 “ยายจ๋า ลิลขอโทษนะจ๊ะ ลิลอยากไปดูให้แน่ใจว่าแม่.. ยังอยู่ดีหรือเปล่า ลิลขอโทษ”                 ใบหน้าแหงนมองขึ้นไปบนเรือนที่ยังมืดมิดไร้แสงไฟ สองมือพนมไหว้ ดวงตาหวานสั่นเครือไปด้วยหยาดน้ำตา ลลิลถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะตัดใจมุ่งสู่ทางออก สองเท้าพาก้าวไปแต่หัวใจกลับรู้สึกเบาโหวง เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่จะจากบ้านไปไหนไกลๆ แม้สมุทรปราการจะไม่ไกลเท่าใดนัก ทว่าก็ไม่เคยคิดว่าจะไปไหนห่างบ้านเกินกว่า 3 วัน เว้นเสียแต่เวลาโรงเรียนพาไปเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารีเท่านั้น แต่สถานที่ที่คิดจะไปอยู่นั้นอาจต้องใช้เวลากว่า 4 เดือน และก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่าคนที่จะไปหานั้นจะเต็มใจที่จะรับผิดชอบลูกที่เหมือนจะทิ้งขว้างนี้หรือไม่ ลลิลหยุดเดินพลางหันมองเรือนไม้อีกครั้ง แสงไฟที่ถูกตามขึ้นในห้องทำให้รู้ว่าคนบนเรือนนั้นคงตื่นแล้ว แม้น้ำตาจะรินไหลแต่ก็เลือกแล้วที่จะไป                   ...กริ๊งงงงง...กริ๊งงงงง...                 เสียงโทรศัพท์ที่แผดเสียงร้องตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางทำให้ลินลดาสะดุ้งตัวตื่นในทันที ดวงตาหวานทว่าแฝงไว้ด้วยความอิดโรยมีแววขุ่นเคืองชั่วครู่ แต่แล้วก็รีบปรับเป็นปกติโดยเร็ว คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากัน                 “ใครจะโทรมาแต่เช้า.. ในเมื่อก็รู้อยู่ว่าเรา..ทำงานกลางคืน” คำสุดท้ายนั้นเพียงคิดไว้ในใจ ก่อนที่ร่างอวบอัดจะรีบเคลื่อนกายลงจากเตียงเพื่อไปรับเสียงที่ยังแผดลั่นอย่างคนต้นสายนั้นร้อนรนเสียกว่าใคร “สวัสดีค่ะ..” เสียงที่เปล่งออกมาตามสายนั้นมีผลทำให้มือไม้อ่อนแรง  ลินลดาปล่อยเนื้อกายให้ลู่ลงสู่พื้นอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองไว้ได้ ดวงตาหวานเบิกโพลงพลางละล่ำละลักกรอกเสียงพูดลงไปทั้งที่ตัวเองก็แทบจะหัวใจแตกสลายอยู่แล้ว “แม่..ใจเย็นๆ ไว้ หนูจะจัดการเองจ้ะ.. ไม่ต้องห่วง หนูจะไม่ปล่อยให้ลูกต้องลำบาก แม่ไม่ต้องห่วง จ้ะ.. จ้ะ..” น้ำตาที่ปริ่มจะไหลต้องรีบสะกดทิ้งก่อนจะรีบจัดการตัวเองให้พร้อมที่จะรับสถานการณ์ที่คงมาถึงไม่เกิน 7 โมงเช้าของวันนี้ เธอต้องรีบเตรียมตัวเองให้พร้อมก่อนที่ลูกจะมาเห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น                   “ลินลดาคาเฟ่” ป้ายชื่อที่บ่งบอกเหมือนกับสิ่งที่เขียนอยู่ในกระดาษ ดวงตาหวานที่ทอประกายสีเขียวหม่นจ้องมองป้ายชื่อนั้นนิ่ง ไอร้อนผะผ่าวที่เกิดขึ้นเหมือนจะรู้สึกได้ที่ดวงตาและปลายจมูกรั้น ลลิลหลับตาชั่วครู่เรียกแรงฮึดให้กับตัวเองเมื่อความรู้สึกต่างๆ เหล่านั้นมันปะปนไปด้วยความประหม่าและไม่แน่ใจว่าเจ้าของสถานที่แห่งนี้จะยินดีต้อนรับเธอหรือไม่                 “สู้! ไอ้ลิล สู้! อุตส่าห์นั่งรถมาถึงนี่แล้วจะกลัวอะไรอีก ลองสักตั้ง คิดซะว่าจะได้ไม่เสียเที่ยวรถ”                 ลลิลทำท่าสู้ๆ เรียกกำลังใจให้ตัวเอง ก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะเดินสำรวจรอบๆ บริเวณหน้าร้าน ประตูทางเข้าที่ปิดมิดชิดพร้อมทั้งเขียนกำกับเวลาปิด-เปิดเอาไว้ทำให้ลลิลเกิดความไม่แน่ใจว่าจะมีใครอยู่ที่นี่หรือเปล่า ร้านอาหารกึ่งสปาในความคิดของเธอช่างแตกต่างไปจากสิ่งที่เห็นอย่างสิ้นเชิง สภาพด้านนอกที่ปลูกต้นไม้ประดับไว้ตามรั้วพร้อมติดไฟสีต่างๆ ที่เห็นนั้น ทุกๆ ที่เต็มไปด้วยฝุ่นจับจนหนาเตอะ รวมทั้งแผ่นป้ายไฟนีออนที่ประดิษฐ์อักษรไว้เป็นคำอ่านชวนวาบหวามนั้นด้วย มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ กับสิ่งที่แม่และยายบ่งบอกว่าเป็น “ร้านอาหาร”                 “สาว สวย ขาว อึ๋ม sexy” ลลิลย้อนกลับมาที่ประตูด้านหน้าอีกครั้ง เมื่อสำรวจดูทุกทางก็ไม่เห็นว่าจะมีช่องทางใดที่จะเข้าไปข้างในได้นอกเสียจากประตูทางเข้านี้เท่านั้นก่อนที่จะแนบสายตากับบานประตูใหญ่ที่แม้จะมืดแต่ก็ยังมองเห็นสภาพด้านในได้อย่างรางเลือน โต๊ะเก้าอี้เข้าชุดตามมุมต่างๆ รวมทั้งเวทีเล็กๆ ด้านใน ทำให้ลลิลต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “ร้านอาหารจริงๆ” ความกังวลใจกับสภาพภายนอกแทบจะหมดไปในทันทีถ้าไม่เพราะ..                 “โอ๊ะ! ว๊าย!..”                 บานประตูที่ถูกดึงจากด้านในทำให้ลลิลเสียหลักเอนไปข้างหน้าด้วยความตกใจแต่ก็ไม่เท่าที่ร่างบางนั้นกลับเอนไปซบแผงอกกว้างของใครบางคนที่กำลังรวบร่างของเธอไว้ทั้งตัว ทันทีที่เรียกสติกลับมาได้ใบหน้าจึงแหงนขึ้นมองโดยอัตโนมัติ ทว่าสิ่งที่เห็นกลับทำให้เธอตื่นตะลึงเสียยิ่งกว่า แก้มนวลเหมือนจะมีสีระเรื่อขึ้นในทันทีเพราะเจ้าของดวงตาคมเข้มนั้นอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบจนสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่กรุ่นไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ นั้น                 ภคินถึงกับชะงักไปชั่วครู่กับสิ่งที่เห็น เด็กสาวที่ล้มหน้าคะมำลงมาที่อกของเขา ความรีบทำให้เขากระชากบานประตูเปิดเร็วเพราะไม่คิดว่าจะมีใครกำลังแนบร่างอยู่กับบานประตูนี้ แต่จากสภาพของเธอก็คงจะปฏิเสธไม่ได้จริงๆ เพราะเล่นถลามาตามแรงกระชากถึงขนาดนั้น ทว่าดวงตากลมโตที่นัยน์ตานั้นให้สีเขียวหม่นๆ ที่มองเห็นอยู่ห่างไม่ถึงคืบนี้กลับทำให้เขาต้องขอบคุณความเพลียที่ทำให้เขาเผลอหลับไปจนเช้า ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้มีโอกาสได้เห็นของสวยๆ งามๆ ยามเช้าแบบนี้  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม