ตอนที่ 2

1072 คำ
“แล้วไงครับ วันนี้แขกคนสำคัญของดาไม่มาเหรอ ดาถึงได้เจียดเวลามาคุยกับผมได้” คำพูดเหมือนจะงอนๆ ทว่าน้ำเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยความหยอกเย้า                 “เอ..ผู้กำกับไปราชการต่างจังหวัดคะ ส่วนเฮียกรยังไม่เห็น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่มานะคะ”                 เสียงตอบรวนๆ ปนงอน เมื่อคนถามไม่ได้แสดงความหึงหวงแถมยังมาหยอกเย้าถึงแขกขาประจำของเธอเสียอีก แขกประจำของเธอ รู้กันดีว่ามีเพียง 3 คน เพราะนอกนั้นลินลดาลาขาดที่จะรับคนอื่นเพิ่มด้วยเหตุผลที่ว่าเธอแก่แล้ว ทว่าก็ยังมีแขกขาจรและขาประจำอีกมากที่ยินดีจะทุ่มให้ถ้าเธอยอม แต่ก็อีกนั่นแหละ ใครๆ ก็คงสู้แรงทุ่มของภควัฒน์ไม่ไหว สุดท้ายแขกขาประจำของเธอก็คงเหลือ 3 คนเหมือนเดิม สำหรับผู้กำกับบัญชาและเสี่ยพงศกรเป็นแขกที่เธอขอไม่ให้ภควัฒน์เข้ามาก้าวก่าย เพราะว่ากิจการของเธอต้องการคนมีสีมาคุ้มครอง และเสี่ยพงศกรก็ยังเป็นคนที่ช่วยเหลือทางด้านการเงินจนทำให้เธอมีทุกวันนี้ ซึ่งภควัฒน์ก็เข้าใจและจะไม่ยุ่งหาก 1 ตำรวจและ 1 เสี่ยนี้จะมา แต่จะว่าไม่ยุ่งก็ไม่ได้เพราะหาก 2 หนุ่มเหลือน้อยทั้งสองคนนั้นเปิดศึกชิงเธอกันเมื่อไร สุดท้ายแล้วภควัฒน์ก็จะได้ไปทุกครั้ง “งั้น.. คืนนี้ ดาไปกับผมนะ” ดวงตาคมเข้มที่บอกเคล้าความหล่อเหลาเมื่อครั้งยังหนุ่มทอดมองมาที่เธออย่างแสนรัก สายตาที่ทำให้ใบหน้าเหมือนจะมีเลือดฝาดขึ้นครามครัน ทว่า..เธอยังอยากที่จะหลีกไกลความเจ็บปวดที่มีแต่จะทวีเพิ่มมากขึ้นๆ ทุกวัน “ถ้าปฏิเสธ..” “ไม่รักก็ได้ แต่อย่าปฏิเสธเลยนะ” ฝ่ามือบีบกระชับมากขึ้นอย่างขอร้องให้เธอยอม “และถ้ารักจะปฏิเสธได้ไหมคะ” “ยิ่งรักก็ยิ่งไม่ควรปฏิเสธ” “โธ่! อย่างนี้ ดาก็เสียเปรียบทั้งขึ้นทั้งล่องซิคะ” “ดาก็รู้ ผมไม่มีวันยอมให้ดาเสียเปรียบหรอก จะยอมให้ได้เปรียบอยู่ร่ำไป” ความจริงใจที่สื่อออกมาจากดวงตาคู่นั้น มันทำให้ลินลดาถึงกับพูดไม่ออก เพราะอย่างนี้ไงที่เรียกว่า “ความเจ็บปวดที่อยากหลีกไกล” ยิ่งใกล้ก็ยิ่งรู้สึกเจ็บ ยิ่งรู้สึกรักก็ยิ่งเจ็บ เธอรู้ว่าภควัฒน์จะมีความสุขถ้าเธอยอมตามใจเขา แต่ครอบครัวของเขาล่ะจะยอมได้หรือที่ต้องเกี่ยวดองเป็นครอบครัวเดียวกับแม่เล้าอย่างเธอ ตระกูลเก่าแก่ “บริรักษ์” คนรวยในย่านนี้และเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเขต ครอบครัวของเขาจะยอมรับเธอหรือ โดยเฉพาะแม่เล้าเปื้อนคาวที่มีเรือพ่วงลำโตอย่างเธอ   “ที่เดิมครับ” คิ้วดกเข้มเลิกขึ้นเพียงนิด ทว่าใบหน้าหล่อเหลายังไม่ละจากเอกสารในมือ คำรายงานของนุติเหมือนเป็นเพียงสิ่งที่ผ่านมาและผ่านไป เพราะสิ่งที่เขาต้องจัดการอย่างเร่งด่วน! คือเอกสารในมือมากกว่า คนที่นุติส่งไปให้เป็นคนขับรถของบิดาก็เหมือนจะเป็นแหล่งข่าวที่สามารถติดตามได้ตลอดเวลาว่าบิดาทำอะไร ที่ไหน กับใคร และอย่างไร ซึ่งสิ่งที่ทำนี้ไม่ใช่การจับผิดแต่เป็นเพียงการเฝ้าระวังความปลอดภัยก็เท่านั้น ดวงตาคมเข้มละจากเอกสารมองตรงไปยังโน๊ตบุ๊คตรงหน้า ภาพสกีนเซเวอร์ปรากฏเป็นภาพครอบครัวของเขาตั้งแต่เด็กจนโตเป็นหนุ่มและจนถึงก่อนที่เขาจะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ภาพความสุขของสามคนพ่อแม่ลูก สิ่งที่สามารถรักษาไว้ได้มีเพียงภาพบันทึกความทรงจำเหล่านี้เท่านั้น เพราะนับตั้งแต่ 5 ปีที่แล้วที่มารดาของเขาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ ครอบครัวก็ไม่เคยได้พร้อมหน้าอีกเลย พ่อ..คนสำคัญเพียงคนเดียวที่ต้องดูแลอย่างดี แม้ว่าท่านจะออกเที่ยวบ้างตามประสาผู้ชายเขาก็ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องแปลกอะไร แต่ระยะ 3 ปีที่ผ่านมานี้ สถานที่ที่ท่านจะไปในค่ำคืนกลับกลายเป็น “ลินลดาคาเฟ่” สถานที่นั้นเพียงแห่งเดียว และเรื่องราวความพึงพอใจที่ท่านมีต่อ “ลินลดา” แม่เล้าคนสวยจึงไม่กลายเป็นความลับสำหรับเขาอีกต่อไป ทว่าความพึงพอใจกับความสุขเพียงชั่วคราวของบิดาดูจะไม่ใช่ประเด็นหากท่านจะไม่คิดที่จะ..แต่งงานใหม่ ..ปิ๊ก.. ดินสอในมือหักเป็นสองท่อนตามแรงอารมณ์ของคนถือ ทำเอานุติรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ดวงตาภายใต้กรอบแว่นบางเหลือบมองนาฬิกาติดฝาผนังไม่กล้าแม้แต่จะขยับมองนาฬิกาบนข้อมือตัวเอง “4 ทุ่มครึ่ง” ท้องที่ร้องประท้วงเพราะเลยเวลาอาหารมานานทำให้ดวงตานั้นต้องหลุบต่ำอย่างสำรวมกิริยา ทว่าก็ยังไม่พ้นสายตาเข้มๆ ที่มองมาอยู่ดี “เฮ้อ! ขอโทษทีนุ ลืมเวลาไปเลย หิวล่ะซิ” “โธ่! คุณคินไม่น่าถามเลยนะครับ ไส้จะขาดอยู่แล้ว” “อืม..จะขาดก็แปลว่ายังไม่ขาดน่ะซิ งั้นหิ้วท้องไปอีกสักครึ่งชั่วโมงละกัน วันนี้ฉันอยากจะไปกินไก่ในเล้าเสียหน่อย” คิ้วเข้มเลิกสูงดูเชิงแต่เมื่อเห็นเลขาหนุ่มยังคงยืนเฉย ริมฝีปากรั้นๆ นั้นจึงคลี่ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี “หรือว่านายไม่อยากไปก็ตามใจ ชวนไปกินไก่ไม่ไป อยากจะกลับไปกินอาหารญี่ปุ่นที่บ้านก็ตามใจ” ภคินลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวเดินออกไปโดยไม่สนใจที่จะปิดอุปกรณ์ใดๆ ที่เปิดค้างอยู่ ราวกับว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่จะทำ “คุณคิน! คุณคิน! รอเดี๋ยวซิครับ รอผมปิดคอมก่อน โธ่!” นุติถลาเข้ามาปิดโน๊ตบุ๊คของบอร์ดบริหารสูงสุดอย่างรวดเร็ว สายตามองลอดแว่นแยกแยะเอกสารที่จะสามารถเก็บเป็นหมวดหมู่ได้เร็วที่สุด เสียงเจ้านายที่เร่งเร้าอยู่ด้านนอกทำให้ยิ่งละล้าละลัง “เฮ้ย! นุ เร็วๆ เข้า ทำอะไรชักช้า ฉันจะรีบ” “คุณคินนะคุณคิน ไม่รู้จะแกล้งกันไปถึงไหน เฮ้อ!” ปากบ่นพึมพำแต่สายตาและมือทั้งสองข้างทำงานประสานกันเต็มที่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม