หอมแก้มนวลฟอดใหญ่ พร้อมทั้งรั้งร่างบอบบางขึ้นไปบนร่างของเขา
“อุ๊ย! พี่ใหญ่”
นิรดาอุทานซบหน้าที่อกแกร่ง อับอายในการกระทำนั้น
“พี่ทนไม่ไหวแล้วนะ” อภินันท์พูดจบ จึงจับร่างบอบบางให้กลางกายสาวสวมทับไปบนความแข็งแกร่งอย่างเชื่องช้า
นิรดาดิ้นรน เขาจับสะโพกงอนงามไว้แน่น คิดว่าท่านี้จะทำให้เธอเจ็บน้อยที่สุดจากการสอดประสานเพราะความไร้เดียงสาไม่ประสีประสาของเธอ
ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในสมองของเขาว่าเธออาจจะยังไม่เคยต้องมือชายก็เป็นได้ ความคับแน่นรัดรึงโอบอุ้มความใหญ่โตไปเรื่อยๆ ทำให้เขามั่นใจว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่
หญิงสาวกัดริมฝีปากจนเจ็บเมื่อมันเข้าไปได้แค่ครึ่งเดียวเธอก็แทบขาดใจตาย
ชายหนุ่มโน้มใบหน้าขึ้นมาดูดดึงอกอวบเพื่อดึงความสนใจของร่างบอบบาง ให้คลายอาการเกร็งตัวและผ่อนคลาย
มือหนากดสะโพกงอนงามลงมาอีกครั้งจนสุดทางรักผ่านเยื่อบางๆ ที่ขวางกั้นเอาไว้จนสำเร็จ
“พี่ใหญ่...”
นิรดาอุทานตกใจตะเกียกตะกายร่างหนี แต่เมื่อยิ่งตะเกียกตะกายความคับแน่นรัดรึงของดอกไม้งามยิ่งเสียดสีกับความแข็งแกร่งของเขาที่ฝากฝังอยู่ในเรือนกายมากยิ่งขึ้น
อภินันท์รั้งสะโพกผายให้หยุดนิ่ง เขาครางเสียงต่ำลึกด้วยความทรมานในความคับแน่นที่กำลังบีบรัดเขาเป็นจังหวะตุ๊บๆ
“น้องหนูกำลังจะฆ่าพี่ใช่ไหม”
อภินันท์ครางกระเส่าแหบพร่า เขาเริ่มจุมพิตดูดดึงอกอวบอีกครั้ง ใช้มือจับกระชับที่สะโพกผายเพื่อกดขึ้นลงไปเป็นจังหวะ รับรู้ถึงความคุ้นเคยของหญิงสาว
เสียงครวญครางบนร่างของเขาเรียกแรงรักให้เขาสวนขึ้นไปรับดอกไม้งามที่โอบอุ้มเขาลงมาเป็นจังหวะหนักหน่วง
“น้องหนูขยับมาหาพี่สิ”
อภินันท์สั่งเสียงแหบพร่า นิรดาทำตาม ยอมจำนนเพราะสติได้หลุดลอยไปไม่เหลือแล้ว เหลือแต่แรงฤทธิ์พิศวาสที่กำลังสอดประสานกันอย่างไม่ขาดสาย
จังหวะรักเริ่มเร่าร้อนขึ้นทั้งสองร่าง ก่อนถึงจุดแห่งความกระสันที่สุขสม ร่างบอบบางเกร็งกระตุกหมดแรงซุกซบใบหน้านวลลงบนอกแกร่ง
ร่างหนาที่ยังไม่ถึงฝั่งฝันยังคงโยกกายเข้าใส่อีกไม่ยั้งแรงในจังหวะรักอันหนักหน่วงเพื่อติดตามเธอไป
ในที่สุดเสียงคำรามและเสียงกรี๊ดร้องดังประสานพร้อมกันเพราะถึงจุดแห่งความกระสันที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย
“น้องหนูหวานไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว น้องหนูร้ายกาจที่สุด”
อภินันท์ลูบมือบนใบหน้าเนียนใสที่กำลังซุกซบบนอกแกร่งของเขาอย่างหมดแรง
หน้าเนียนสวยหวานมีเหงื่อผุดขึ้นไปทั่วจนเปียกชุ่มไปถึงไรผม มือแกร่งลูบไปทั่วหลังเนียนอย่างเผลอไผล ร่างบอบบางหายใจระรวยหมดเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับ
ชายหนุ่มตวัดผ้าห่มมาห่มกายให้เขาและเธอ ก่อนรั้งร่างบอบบางนอนลงบนที่นอนหนานุ่ม
“ว้ายตาเถร!” คุณอรอุมาและป้าชื่นเปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง เพราะได้ข่าวว่านิรดาไม่สบาย
นางรีบชวนแม่บ้านขึ้นมาดูอาการของลูกสะใภ้ด้วยความห่วงใย คิดว่านิรดาคงกำลังนอนหลับอยู่และคงจะทานข้าวเสร็จแล้ว
เนื่องจากนางเคาะประตูอยู่หลายครั้ง ไม่ได้ยินเสียงตอบรับมีแต่ความเงียบ เมื่อลองขยับประตูห้องดู ปรากฏว่าห้องไม่ได้ล็อก แต่เมื่อเปิดเข้ามา ต้องตกใจมองสบตากันคิดว่าไม่น่าเข้ามาเลย
อภินันท์ตกใจหน้าแดง รีบปิดบังร่างงามโดยการกอดเธอแนบอก นิรดาอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ซุกที่อกกว้างไม่กล้ามองสบตากับใคร
“ใหญ่ คือแม่ขอโทษนะลูก เห็นเคาะประตูไม่มีเสียง เดี๋ยวแม่ลงไปรอด้านล่างก็แล้วกันจ้ะ”
คุณอรอุมาหน้าแดง รีบพูดเสียงรัวเร็ว หันมองแม่บ้านที่กำลังปิดตาอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง จึงรีบไปดึงมือออกจากห้องไป
“น้องหนูทำให้คุณแม่เข้าใจผิด” อภินันท์พูดเสียงคุกคาม ร่างหนายังสอดประสานกับร่างบางไม่ห่างหาย
นิรดาอับอายเหลือจะกล่าว พยายามรั้งร่างของตัวเองออกจากร่างแกร่ง ใจสั่นไหวรุนแรง แต่ไม่สามารถดึงดันออกจากร่างแข็งแกร่งของเขาได้สำเร็จ
“น้องหนูต้องรับผิดชอบ ไปอาบน้ำถูหลังให้พี่ เพื่อรับโทษที่ทำให้คุณแม่เข้าใจผิด” อภินันท์พูดเอาแต่ใจ
“พี่ใหญ่” นิรดาอ้าปากค้างในความบ้าอำนาจและเอาแต่ใจของเขา
ชายหนุ่มยกร่างบอบบางขึ้นจากที่นอน รั้งสะโพกเพรียวแนบกับแก่นกายแข็งแกร่งของเขา
นิรดาดิ้นรนทุบตีเขาเป็นพัลวัน แต่นั่นยิ่งทำให้การสอดประสานแนบแน่นมากขึ้นไปอีก
มือแกร่งจับขาเพรียวทั้งสองข้างของเธอตวัดไปกับเอวสอบ ให้รัดที่เอวของเขาแน่นหนา
นิรดาครางรับท่วงท่าแสนอับอายนั้น ทำไมเขาถึงชอบทำอะไรป่าเถื่อนและน่าอับอายเช่นนี้ หญิงสาวคิดอย่างมึนงงเสมอเบลอสับสนไปหมด
ร่างสูงพาภรรยาสาวลุกจากเตียงนอนหนานุ่ม โดยกอดร่างบอบบางที่ตวัดขาเพรียวรัดที่เอวสอบของเขาแนบแน่น
สายตาคมเหลือบเห็นรอยเลือดที่จางกระจ่างไปทั่วผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด
เขามองใบหน้านวลเนียนที่อยู่ห่างกับเขาแค่คืบในอ้อมแขนด้วยความภาคภูมิใจที่เขาได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ
ร่างสูงพาร่างบางเดินไปเข้าห้องน้ำอย่างเนิบช้า นิรดากอดตอบร่างแกร่ง ยอมแพ้ความเอาแต่ใจของเขา
“ทนไม่ไหวแล้ว น้องหนูรัดพี่แน่นเหลือเกิน น้องหนูร้ายกาจ” อภินันท์พิงร่างกับกำแพง โยกสะโพกผายของหญิงสาวสอดประสานเป็นจังหวะเข้าออกอีกครั้ง
นิรดาเริ่มครวญครางกัดริมฝีปากเสียวซ่าน ความกระสันมาเยือนพร้อมกับเสียงครางทุกครั้งที่เขาโยกกายเข้าใส่เธอและรั้งร่างเธอเข้าหาเขา
นิรดาซุกใบหน้าไปกับลำคอแกร่งที่ปูดโปน กัดไปบนลำคอของเขาเพื่อระบายอารมณ์
ได้ยินด้วยเสียงคำรามตามมาพร้อมกับเสียงร้องของเธอที่กำลังสุขสม ร่างบอบบางกระตุกอีกครั้งรับรู้ถึงความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาในช่อดอกไม้งาม เสียงหอบหายระรวยหอบพร่าประสานกันระงมทั่วห้องกว้าง
อภินันท์กัดฟันพาร่างบอบบางที่ยังสอดประสานเดินไปยังห้องน้ำ เสียงครางประสานกันไปทั่วเพราะความแข็งแกร่งที่เริ่มกลับมาอีกครั้ง
ชายหนุ่มรั้งร่างบอบบาง ขยับจังหวะรักไม่ขาดสาย นิรดากัดต้นคอของเขาเพื่อระบายอารมณ์กว่าจะถึงห้องน้ำ เล่นเอาเขาและเธอแทบขาดใจ
ชายหนุ่มวางร่างบอบบางลงกับพื้นให้หญิงสาวยืนบนพื้นห้องน้ำ มือหนารั้งเรียวขาของภรรยาสาวพาดเอวสอบเอาไว้
นิรดากอดลำคอของเขาอย่างรัญจวนใจ จังหวะรักไม่หยุดหย่อนโหมใส่เร่าร้อนไม่จืดจาง มือแข็งแกร่งของเขารั้งสะโพกผายเข้าหาบีบเคล้นถึงอารมณ์
อภินันท์ลากมือขึ้นไปตามเรือนร่างสมส่วนเพื่อกดศีรษะของเธอให้แนบหน้าไปกับอกแกร่งของเขา
หญิงสาวอ้าปากงับยอดอกสีน้ำตาเข้มของเขาเพื่อระบายอารมณ์ซ่านเสียว
ร่างสูงครางปนกับเสียงคำรามชอบใจ ร่างหนาโหมใส่ร่างบอบบางอีกครั้งไม่ยั้งแรง ก่อนพานพบกับความหฤหรรษ์อันแสนสุขเบื้องหน้า ทั้งสองกอดรัดกันแนบแน่น ซอกทางรักบีบตัวรัดความกำยำของเขาสะท้านไหววาบหวาม
ชายหนุ่มคำรามพร้อมกับเสียงร้องครางของหญิงสาวในอ้อมแขน
“น้องหนูเร่าร้อนเสียจริง” คำกล่าวชมของเขาทำให้เธอหน้าแดงซ่าน ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นอย่างที่เขาชมเลยสักนิด
ชายหนุ่มถอดถอนความแข็งแกร่งออกจากช่อดอกไม้งามที่กำลังบวมช้ำ
ได้ยินเสียงอุทานของนิรดาบ่งบอกถึงความเจ็บปวดและเสียวซ่านปนเปกันไปหมด
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปเปิดฝักบัว ให้สายน้ำรินไหลรดไปทั่วร่างของเขาและเธอ
นิรดาสะดุ้งอีกครั้งในความเย็นของสายน้ำ เขาค่อยๆ ผลักร่างบอบบางไปติดกับผนังกำแพงห้องน้ำกว้าง บดจูบร้อนแรงตามติด