คุณชายฉู่เอ่ยอ้อนวอนบิดาให้หมั้นหมายคุณหนูชุนให้ตนเอง ท่านแม่ทัพฉู่เหล่ดวงตาใส่ออกไปและทำทีมิสนใจคน สุดท้ายคุณชายนั้นเกรงว่าท่านพ่อนั้นจะไขว่คว้านำสตรีน่าเบื่อหน่ายมาให้ตนอีก เช่นนั้นจึงลงทุนคุกเข่าลงไปกอดต้นขาของบิดาเสีย
“ท่านพ่อขอรับ ในชีวิตนี้ลูกนั้นมิเคยขอสิ่งใดต่อท่านพ่อ หากท่านพ่อตามใจข้าในครานี้ ต่อไปท่านจะให้ข้านั้นทำตนอย่างไร ข้าก็จะยินยอมท่านพ่อไปทุกสิ่ง ข้านั้นอายุมากแล้วทั้งยังสอบเจ้ากองทัพยังมิได้ อีกทั้งยังมิเคยลิ้มรสสตรีข้างห้องมาก่อนเลย เช่นนี้ท่านพ่อนั้นมิสงสารข้าหรอกหรือขอรับ นางน่ากินเช่นนั้น นางโง่งมเช่นนั้น ท่านพ่อจะให้ข้าไปค้นหาสตรีที่ควบคุมได้ง่ายเช่นนั้นที่ใดได้อีกกัน ที่สำคัญนั้น ท่านพ่อก็รู้อาหารของนางล้ำเลิศกว่าผู้ใด ท่านพ่อจะให้ข้ายอมเสียนางไปให้บุรุษรอบจวนของเราหรือ สกุลอู๋ที่ท่านพ่อนั้นเกลียดชังนักหนาก็ยังมีสามบุรุษออกมาจ้องมองนางดั่งจิ้งจอกจะกลืนเนื้อหงส์ขาวไปทุกวัน ท่านพ่อจะให้ข้าพ่ายแพ้สกุลอู๋หรือขอรับ เจ้าพวกสุนัขสกุลอู๋นั้นมีวาจาเยี่ยงสุนัข จะให้พวกมันมีสตรีที่ดีและอาหารล้ำเลิศอยู่ในจวนได้อย่างไร “
แม่ทัพฉู่คิ้วกระตุก หมดคำที่จะคัดค้านบุตรออกไป แล้วการเกลียดชังสกุลอู๋นั้นก็มีมาก ความมิพอใจจึงบังตาของแม่ทัพฉู่ขึ้นมาจนตบโต๊ะขึ้นมาดังปังและตวาดเรียกพ่อบ้านของตนเองออกมาเสีย
“พ่อบ้านใหญ่เจ้าไปส่งนัดหมายขอเข้าพบที่สกุลชุนเสีย ข้าจะนำแม่สื่อออกไปส่งหนังสือหมั้นหมายเจรจาต่อนายท่านของสกุลชุน “
“โอว นายท่าน นี่ช่างน่ายินดีมาก ต้องเรียกผู้คนที่ลักษณะดีมารวมตัวกันให้สิ้น คุณชายนั้นจะน้อยหน้าผู้ใดไปมิได้ “
“อย่าทำเรื่องราวให้ใหญ่โตนัก นำคนไปเสียเพียงห้าสิบคนก็เพียงพอ”
“ขอรับนายท่าน ผู้น้อยจะเร่งไป “
พ่อบ้านใหญ่ดีใจมากเร่งรีบเดินลนลานอย่างทำสิ่งใดมิถูกนัก ด้วยคุณชายนั้นคล้ายกับเป็นสิ่งสำคัญในสกุลฉู่ เมื่อคุณชายจะได้แต่งงานแล้ว บ่าวในเรือนเก่าแก่เช่นพ่อบ้านใหญ่นั้นจะพลาดเรื่องนี้ไปได้อย่างไรกันเล่า ลนลานหันซ้ายขวาไปมา สุดท้ายหยิบขนมในถาดขึ้นมากัดในปากหนึ่งคำ เมื่อพบว่าอร่อยมากที่สุดท้าย พ่อบ้านใหญ่เหลือบดวงตามองลงไปแล้วตะโกนลั่นในทันที
“ไปนำพวกที่หน้าตาดีมาเสียห้าสิบคน ให้สวมใส่ชุดแดงมงคลแล้วสำรวมท่วงท่าเสีย “
เอ่ยจบเช่นนั้นก็มิเอ่ยมากไปกว่านั้น จนถึงยามที่ขบวนนั้นเคลื่อนไปแล้วในรถม้ามีคุณชายใหญ่และนายท่านสกุลฉู่อีกทั้งนายหญิงสามออกไปด้วยกันพร้อมสิ่งของมากมายติดมือไป ยามถึงที่สกุลชุนที่วุ่นวายกับการกำกับข้ารับใช้ให้ก่อสร้างเรือนใหม่ขึ้นมา แม่ทัพฉู่ยกรอยยิ้มขึ้นมาอย่างยินดีในทันที
“ที่แท้แล้วสกุลชุนนั้นก็มีความสามารถอยู่มิน้อยเลย “
“ใช่แล้วขอรับท่านพ่อ นอกจากสินที่บ้านเดิมของนางนั้น สิ่งใดๆสกุลชุนก็มิไดัติดมือมาแต่ทว่าในที่สุดเพียงสามเดือนเท่านั้น นายท่านชุนนั้นสามารถใช้ทักษะในการนำทางเรือออกไปพายุครั้งใหญ่ได้ เช่นนั้นจึงได้รับค่าว่าจ้างจำนวนมากพอที่จะซื้อที่ดินผืนใหญ่ได้ ยามนี้ก็กำลังก่อสร้างเรือนขนาดใหญ่ขึ้นมาแล้ว ในอีกมิช้านั้น ข้าก็จะมิน้อยหน้าผู้ใดแล้วขอรับ “
ฉู่อ้าวเหิงยกพัดขึ้นมาพัดเบาๆ และอมยิ้มขึ้นมาน้อยๆดวงตานั้นเป็นประกายขึ้นมาอย่างซุกซนที่สุด จนแม่ทัพฉู่นั้นส่งสายตาดุดันสาดใส่ออกไป ใบหน้าคมอมยิ้มออกมามากขึ้นไปอีกและแสร้งหันออกไปที่นอกหน้าต่างเสีย เพราะเพียงแค่คิดถึงนางขึ้นมาในยามใด ร่างกายนั้นก็ร้อนขึ้นมาไปทุกที คุณชายฉู่กระแอมขึ้นมาปิดบังความอายน้อยๆ ยามที่ลงไปจากรถม้าแล้ว อาเป่ยนำหน้าผู้คนของสกุลฉู่เดินไปเคาะห่วงบนประตูไม้ดังๆและไปยืนค้อมกายรอคอยคนรับใช้ของสกุลชุนให้ออกมาพบ อาเป่ยเงยหน้าขึ้นมาและแย้มรอยยิ้มจางๆขึ้นมา เอ่ยเบาออกไปในทันที
“พี่ชายขอรับ ท่านช่วยไปรายงานนายท่านชุนด้วยเถิดขอรับ ท่านแม่ทัพฉู่และคุณชายใหญ่นั้นจะมาขอเข้าพบในเรื่องส่งหนังสือหมั้นหมายคุณหนูชุนขอรับ “
บ่าวชายของสกุลชุนนั้นดวงตาโตขึ้นมา ผายมือเชื้อเชิญท่านแม่ทัพฉู่เข้าไปรอที่ห้องรับแขกก่อน และเร่งรีบเข้าไปรายงานนายของตนในทันที
“นายท่านขอรับ ท่านแม่ทัพฉู่และคุณชายสกุลฉู่นั้นมาขอพบท่านด้วยเรื่องสำคัญขอรับ “
“โอว เร่งเชิญท่านแม่ทัพเสีย ไปนำของว่างมาเสีย ข้าจะเร่งไปแล้ว “
นายท่านชุนเอ่ยอย่างตื่นเต้นดีใจขึ้นมา ยามที่ได้พบกับท่านแม่ฉู่ผู้สง่างามนายท่านชุนก็มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มขึ้นมา บุรุษเร่งเชื้อเชิญกันและสตรีนั้นก็ถูกแม่สื่อเชิญออกไปสนทนากัน มาถึงยามนี้สกุลชุนก็รู้แล้วว่าแม่ทัพฉู่นั้นมาด้วยเรื่องอันใด
“อ้าวเหิงเจ้าออกไปเดินชมที่ภายนอกก่อนเถิด ข้านั้นมีเรื่องสนทนากับนายท่านชุนเสียหน่อย “
“ขอรับท่านพ่อ”
ฉู่อ้าวเหิงเดินออกมาที่ภายนอกและเดินต่อไปยังร้านอาหารของสกุลชุนที่ภายนอกนั้น และให้คนของตนเองทั้งหมดนั้นไปนั่งรอจนเต็มร้านอาหารของสกุลชุนจนเต็มไปหมด คุณชายฉู่มีคนรอบกายปรนนิบัติพัดวีให้อย่างดี ยามที่นั่งอยู่นั้นก็มีสตรีเข้ามาพบมิขาด หนึ่งในนั้นก็คือเซิงหร่านชิงและญาติผู้น้องสกุลจางของนางนั่นเอง ใบหน้าคมยิ้มจางๆและสนทนาอย่างไว้ตัว โดยที่มีอาเป่ยนั้นบีบนวดและโบกลมให้นายของตนอย่างเอาใจ สตรีหน้าแดงสนทนาไปวาดฝันไปว่า หากได้คุณชายฉู่มาครอบครองนั้นย่อมที่จะได้สิ่งที่ปรารถนาแทบทั้งนั้น
“นี่อ้าวเหิงเจ้าหน่ะเหตุใดจึงมานั่งในร้านอาหารที่คับแคบนี้กันนะ คุณชายของจวนฉู่ที่จะได้มีอนาคตเป็นถึงซื่อจื่อในภายหน้านั้นอื่นใดในจวนนั้นเจ้าก็พร้อมจนสิ้นแล้ว เหตุใดเจ้านั้นจึงออกมานั่งในสถานที่เช่นนี้กันเล่า “
ใบหน้าคมเหลือบดวงตาเย็นชาขึ้นมาและเอ่ยขึ้นมาเบาๆ
“คุณหนูเซิงโปรดให้เกียรติของสกุลชุนด้วย ในวันนี้สกุลชุนและสกุลฉู่ของข้านั้นได้เริ่มต้นสนทนาเรื่องหมั้นหมายกันแล้ว ขอเพียงเริ่มต้นแลกสมุดดวงชะตากัน อีกมินานในอนาคตคุณหนูชุนของที่นี่นั้นก็จะเป็นคู่หมายของข้าแล้ว “
ฟังจบเท่านั้นเซิงหร่านชิงเจ็บแปลบขึ้นมาในอกในทันที จางลี่ลี่นั้นก็นิ่งเงียบตกใจเงยหน้าขึ้นมามองหน้าคุณชายฉู่แล้วน้ำตาคลอขึ้นมาในทันที ใบหน้าคมทำหน้ามิใส่ใจพวกนางอีก และเอนกายอย่างผ่อนคลายดื่มชาและขนมที่อาเป่ยนั้นป้อนให้กินอย่างเจ้าสำราญนัก ผู้ใดพบเห็นย่อมมองและคิดว่าช่างชั่วร้ายนัก เหล่าสตรีต่างหน้าแดงและอยากเป็นข้ารับใช้ชายผู้นั้นเสียจริงๆ เซิงหร่านชิงแทบทานทนมิได้นางเร่งจับมือน้องสาวจางของนางออกไปในทันที ตลอดทางจางลี่ลี่ร้องไห้ออกมามิหยุด นางเร่งส่งคนออกไปเสีย จนเมื่อนางนั้นอยู่ผู้เดียวแล้วนั้น ร่างของนางก็สั่นไหวน้ำตารินลงมามิหยุดยั้งเฉกเช่นกัน
“อ้าวเหิงตลอดมาข้านั้นคิดว่าเจ้ามิเคยชอบพอสตรีใด และมิคิดว่าเจ้านั้นจะสนใจสตรีใดจริงจังนอกจากข้า ที่แท้นั้นเจ้านั้นมีสตรีในใจแล้ว ฮือ “
เซิงหร่านชิงร่ำไห้ออกมามิหยุด นางคิดว่ามาตลอดว่าขอเพียงพี่น้องของพวกนางนั้นแต่งงานเข้าไปในสกุลฉู่ได้ นางนั้นก็ย่อมติดตามเข้าไปได้เช่นกัน ยามนี้กลับมีสตรีต้อยต่ำจากบ้านนอกผู้หนึ่งโผล่ขึ้นมาได้อย่างไรกัน
“ฮึ่ก อ้าวเหิง ฮรือ “
เซิงหร่านชิงร่ำไห้จนกายนั้นสั่นไหวขึ้นมามิหยุดแล้ว นางร่ำไห้จนไปถึงที่จวนของนางและเก็บตัวเงียบไปในทันที