ตอนที่ 9 ชื่อตอน ข้าเป็นบุตรชายของนักรบ

1644 คำ
บิดาของไห่ถังนั้นสนทนากับแม่ทัพฉู่อยู่นาน โดนซักประวัติไต่ถามเรื่องราวของสกุลชุนอยู่มากมาย ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาเบาๆ “อ้าวเหิงนั้นคือบุตรชายคนแรกของข้าและมีอนาคตคือผู้นำสกุลฉู่และกองทัพสกุลฉู่ ในยามนี้อ้าวเหิงยังมิได้สอบเข้ากองทัพแม้มีตำแหน่งถึงซื่อจื่อแต่ทว่าก็ยังต้องผ่านการทดสอบไป เช่นนั้นการหมั้นหมายในครานี้นั้นเพียงเพื่อประกาศให้ผู้อื่นนั้นรู้ว่าบุตรสาวของสกุลชุนนั้จะต้องวางตนให้ดี อีกทั้งหากในยามหน้าทางวังหลวงนั้นมีการจัดวางตำแหน่งใดๆขึ้นมา นางจะต้องรู้ตนว่าควรที่จะหลบหลีกผู้อื่นเช่นใด “ ท่านแม่ทัพฉู่หมายความถึงในยามที่บุรุษนักรบนั้นมีภรรยาเอกอยู่แล้ว แต่ทว่าหากภายหลังทางวังหลวงส่งสตรีที่สูงค่ามาสมรสพระราชทานอีกครั้ง สตรีที่มีฐานะต้อยต่ำกว่าแม้เคยถูกตั้งเป็นภรรยาเอก หากนางมิมีบุตรชายและมิมีฐานะทางบ้านเดิมที่ดี อย่างไรก็ต้องถูกเลื่อนลงไปเป็นรอง อาจจะรักษาแม้แต่บุตรของตนเองไว้มิได้ด้วย บางคราภรรยาและบุตรแรกของนักรบก็จะถูกสังหาร บางคราพวกนางนั้นก็ได้แต่มองดูทารกในอ้อมแขนของสตรีอื่นเลี้ยงดูไป เช่นนี้จึงต้องกล่าวตักเตือนสกุลชุนเอาไว้ให้ดี นายท่านชุนถอนหายใจเบาๆและพยักหน้าขึ้นมาในทันที ในยามนี้สกุลชุนมิมีบุตรชายสายตรงเพื่อที่จะค้ำจุนตนเองได้ บุตรชายของสายรองหากมีมีเครือญาติที่สามารถค้ำจุนได้ การเดินไปในราชสำนักนั้นย่อมมีหนทางที่ยาวไกลแล้ว เพื่อยกฐานะของครอบครัวบ้านนอกขึ้นมา เช่นนั้นนายท่านชุนจึงต้องเลือกส่งบุตรสาวของตนเองไปวางไว้กลางฝ่ามือของคุณชายฉู่ไปเสียแล้ว สนทนากันเนิ่นนานจึงมีการนัดหมายส่งแลกดวงชะตากันอีกครา เท่านี้ท่านแม่ทัพฉู่และผู้คนมากมายก็จากไปแล้ว บิดาของไห่ถังถอนหายใจออกมาดังเฮ่อ มารดาของนางนั้นก็ทรุดกายลงอย่างกลัดกลุ้มในใจขึ้นมาแล้ว “ท่านพี่พวกเราทำเช่นนี้ ไห่ถังจะมีความสุขได้หรือเจ้าคะ “ “เฮ่อ ท่านแม่ทัพฉู่นั้นเราจะมิไว้หน้าปฎิเสธออกไปก็มิได้ พวกเรานั้นมีฐานะที่มิอาจปฎิเสธท่านแม่ทัพฉู่ได้ อีกทั้งเจ้าแฝดนั้นก็ต้องการผู้คนในราชสำนักคอยสนับสนุนผลักดันอยู่ในภายหน้า ไห่ถังเองก็เป็นคุณหนูใหญ่ของสกุลชุน หน้าที่ของนางนั้นก็ยิ่งใหญ่กว่าเด็กสาวผู้ใดในสกุลชุนทั้งนั้น “ “ชีวิตของบุตรสาวของเรานั้นต่อไปหนทางย่อมยากเย็นแล้วนะเจ้าคะ “ “อรืม หวังว่าบุตรชายของแม่ทัพฉู่ผู้นั้นจะถนอมบุตรสาวของพวกเราบ้าง “ สองสามีภรรยาสกุลชุนเอ่ยอย่างกลัดกลุ้มในใจของตนขึ้นมา เมื่อมิอาจจะมีบุตรชายได้ในยามนี้ สกุลชุนมีบุตรสาวเพียงผู้เดียวจึงรักนางและมิอยากให้นางนั้นไปสู่สกุลอื่นว่องไวนัก แต่ทว่าการแต่งงานของสตรีก็รอคอยกันมิได้เฉกเช่นกัน ชุนเกาซุ่นถอนหายใจอีกครั้งในวันนี้และมองไปบนฟ้ากว้างที่หน้าเรือนของตนอย่างปลดปลงขึ้นมา ส่วนที่สกุลฉู่นั้น คุณชายใหญ่เปลี่ยนชุดเจ้าสำราญมาสวมชุดในสีอมโรค แล้วเดินไปที่โรงครัวยืนจ้องมองนางนิ่งๆ ใบหน้าหวานเร่งรีบทำอาหารด้วยจะถึงช่วงเวลาอาหารเย็นแล้ว จึงมิทันเห็นคนตัวโตเดินเข้ามา บุรุษจ้องมองนางแล้วเอนกายทำท่าหัวเราะคิก สุดท้ายในยามที่นางนั้นหันกลับมาก็ทำทีว่าเหนื่อยหอบขึ้นมา “คุณชายในครัวนี้มีกลิ่นและควันมิดีต่อคนป่วยนัก ท่านมิควรมาที่นี่นะเจ้าคะ “ “เอ้อ ข้าเพียงนำของหมั้นมาให้เจ้า ท่านพ่อนั้นได้ไปเจรจากับบิดาของเจ้าแล้วต่อไปจะประกาศออกไปแล้ว อีกทั้งยังจะประกาศว่าเจ้านั้นมาฝึกฝนวิชางานเรือนที่นี่ด้วย ระหว่างที่ยังมิแต่งงานกันนี้จะเอ่ยออกไปมิได้ว่าเจ้านั้นเป็นเพียงสตรีที่อยู่ที่ก้นครัวของจวนฉู่ “ บุรุษเอ่ยสบประมาทนางเล็กน้อยแต่ทว่าใบหน้าหวานก็แดงขึ้นมา มองหยกสีดำสนิทที่ร้อยพู่ไหมสีแดงชาดแล้วอมยิ้มขึ้นมา “หยกชิ้นนี้งดงามมากนักนะเจ้าคะ “ “อืม สิ่งนี้นั้นใช้หมั้นหมายนายหญิงของสกุลฉู่มาหลายชั่วอายุคนแล้ว เจ้าหน่ะต้องรักษามันเอาไว้ให้บุตรชายของพวกเราให้ดี “ พอเอ่ยถึงบุตรชายใบหน้าหวานก็แดงอีก นางหันหลังหนีไปมิกล้าที่จะเอ่ยสิ่งใดออกไปแล้ว นางก่นด่าบุรุษในใจของนางขึ้นมา “อร่า บุตรชายอันใดของคุณชายกัน เพิ่งจะหมั้นหมายวันนี้เท่านั้นเอง ให้ตายเถิด “ บุรุษจ้องมองนางด้วยดวงตาอันหวานเชื่อม ไห่ถังอายแสนอายยกฝ่ามือนุ่มดันออกแกร่งนั้นออกไป แต่ทว่าบุรุษนั้นดึงฝ่ามือของนางขึ้นมาจุมพิตลงไปแล้วดึงนางเข้ากอดในอกตน ไห่ถังหวีดร้องดังขึ้นมาในทันที “อร้า “ “เหม็นกลิ่นอาหารเสียจริง แต่กายเจ้าก็นุ่มนัก “ “อรื้อ ท่านปล่อยข้า น่ามิอายนัก “ “ฮร่า กอดรัดเล็กน้อยก็มิได้ ข้านั้นมิใช่จะอยู่ดีทุกวันได้เช่นไร มิกอดเจ้าวันนี้ วันหน้าอาจมิได้ตื่นมาพบเจ้าในจวนอีกก็เป็นได้ “ คุณชายหมายถึงออกไปที่ค่ายทัพก็มิอาจนำนางไปด้วยได้ ไห่ถังตื่นตกใจขึ้นมา เร่งรั้งฝ่ามือคนเอาไว้ในทันที “คุณชายท่านจะต้องหายดีนะเจ้าคะ ข้าจะสอบถามท่านพ่อถึงท่านหมอที่เก่งกาจทึ่ท่านพ่อเคยพบ “ “อรือ มิต้องรบกวนท่านพ่อของเจ้า เรื่องนี้เป็นความลับมากของสกุลฉู่เปิดเผยออกไปมิได้เลย “ บุรุษล่อลวงนางต่อไปอีก ในใจนั้นดีใจเหลือเกินที่ตนเองนั้นคิดบทเล่นงิ้วให้นางชมได้ลื่นไหลทันท่วงที คิดแล้วก็ดึงนางมากอดอีกครั้ง กดริมฝีปากร้อนๆลงไปที่ลำคอขาวของนางจนร่างบางนั้นดิ้นรน “อรื้อ คุณชาย อรื้อ “ ฉู่อ้าวเหิงขบกัดลำคอของนางจนแดงช้ำ ในที่สุดแล้วก็ผละออกไปอย่างงุ่นง่านร้อนรนขึ้นมาเสียจริงๆ “อร่า นางนุ่มนิ่มเสียจริง ผู้ใดจะอดใจได้อีกกัน ถ้าปีนี้ข้าสอบเข้ากองทัพมิได้ ข้าจะส่งคนไปหักขาผู้เข้าสอบเสียให้สิ่น หากขาแขนหักลงไปแล้ว ดูเอาเถิดว่าผู้ใดนั้นจะมีเก้าหาง เก้าหัว นำตัวมาสอบได้อีกกัน “ ฉู่อ้าวเหิงคิดชั่วร้ายขึ้นมาสารพัด คิดหงุดหงิดใจมากจนทนมิได้ เดินไปที่ลานในสนามฝึกแล้วดึงดาบยาวของตนเองนั้น กระโดดร่ายรำกระบวนท่ามากมายท่ามกลางสายลมหนาว ยามที่แม่ทัพฉู่มาพบเข้าก็ยืนถือถ้วยน้ำชาดื่มมองชมอย่างสบายใจ เอ่ยไต่ถามคนขึ้นมา “ทำไม ก่อนนี้ข้านั้นหาสตรีให้เจ้ามากมายก็เย่อหยิ่งนักนี่นะ ยามนี้เหตุใดจึงกลายเป็นจิ้งจอกฤดูหนาวไปแล้วเล่า เหอะๆ “ “เฮอะ ข้านั้นอยากกินนางมากมายก็เป็นความจริงแท้แล้วท่านพ่อ แต่อย่างไรแล้ว สตรีอันดับหนึ่งของสกุลฉู่จะแปดเปื้อนก่อนเข้าหอได้อย่างไร ถึงข้ามิกินนางก็มิวิธีการลิ้มรสอีกร้อยแปด ท่านอย่าคิดว่าท่านจะสาสมใจไปได้เพียงผู้เดียว “ “เฮอะ เอ่ยวาจามากมายคล้ายบัณฑิต แต่ที่แท้แล้วก็กำลังหิวจนตาลายแล้วมิใช่หรือ เจ้าตัวอวดดี เฮอะ “ สองพ่อลูกปะทะคารมกัน แต่ทว่าคุณชายฉู่ก็ร่ายรำกระบี่อย่างว่องไวตามไปด้วย ผู้เป็นท่านพ่อนั้นเขวี้ยงหิน เขวี้ยงอาวุธลับออกไปนับร้อยแปด คุณชายฉู่หลบเร้นได้จนสิ้น ก่อนที่จะได้ยินเสียงรองเท้าของสตรีเดินมาตามทางเดินแล้ว ฉู่อ้าวเหิงแสร้งทรุดกายลงไปในพื้นหินและร้องครวญครางขึ้นมา “ท่านพ่อ อย่าบังคับลูกอีกเลยขอรับ เพียงนี้ก็มิอาจจะทานทนแล้วขอรับ “ ผู้เป็นบิดาค้อนควับและสะบัดชายเสื้อหนีไปในทันที ร่างบางที่เดินตามอาเป่ยมาในภายหลัง เร่งเข้ามาช่วยพยุงคนตัวโตออกไป นางเดินเซไปตามทางเพราะน้ำหนักกายของคนตัวโตๆ แต่ทว่านางก็ประคองคนไปจนถึงที่ในเรือน ภายในมีน้ำร้อนตั้งวางอยู่กับผ้าผืนหนึ่ง นางเร่งช่วยเช็ดกายให้บุรุษในทันที เอ่ยเสียงหวานออกไป “ท่านแม่ทัพเคี่ยวกรำคุณชายมากเลยหรือเจ้าคะ คุณชายป่วยไข้เช่นนี้ เหตุใดมิขอความเมตตาลดการฝึกลงบ้างซักเล็กน้อย “ “อรือ ข้าเป็นบุตรชายของนักรบ ป่วยไข้อันใดกัน มิมีหรอก “ บุรุษทำหน้าตาอย่างทะนงตน ใบหน้าหวานขมวดคิ้วบางๆ ช่วยบุรุษผลัดผ้าแล้วยังช่วยประคองไปนั่งที่โต๊ะไม้ นั่งป้อนข้าวคนดั่งทารกไปเสียแล้ว บุรุษก็นึกว่าตนเองนั้นไร้มือ อ้าปากกลืนอาหารลงไปอย่างหน้าทน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม