9 มีคนอยากจับจอง

1116 คำ
กรรณิการ์ขับรถเข้าไปจอดในบ้าน สายตาเหลือบเห็น เมอร์เซเดสเบนซ์จอดนิ่งอยู่ในโรงจอดรถ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นรถของใคร ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูยังไม่ถึงสิบโมงด้วยซ้ำ แต่แขกของฉัตรภพก็มาถึงเรียบร้อย หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจออกมาหนัก ๆ ด้วยความเบื่อหน่าย เธอเดินเข้าไปในบ้าน ไม่เลี้ยวไปทางห้องรับแขก แต่คิดจะหลบเข้าห้องตัวเอง เพื่อเอาของใช้ส่วนตัวไปเก็บให้เรียบร้อยก่อน พักผ่อนสักชั่วโมง แล้วค่อยลงมาพบแขก กรรณิการ์จึงสาวเท้าเดินตรงไปทางบันได แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง “คุณพลอยคะ คุณฉัตรให้มาเชิญไปที่ห้องรับแขกค่ะ” กิ่ง เด็กในบ้านเรียกเธอไว้ พร้อมกับเดินเข้ามาหา เธอจึงพยักหน้ารับ ก่อนจะยื่นของใช้ส่วนตัวฝากให้เอาขึ้นไปเก็บบนห้อง แล้ว หญิงสาวก็เปลี่ยนทิศทางเดินตรงไปยังห้องรับแขก “น้องพลอยมาแล้วเหรอลูก มาสวัสดีคุณลุงกับพี่เค้าก่อน” ฉัตรภพมองเห็นลูกสาวเดินเข้ามา จึงเรียกให้เข้าไปทำความเคารพแขกผู้ใหญ่ กรรณิการ์เดินตรงเข้าไปพร้อมกับยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณลุง พี่ขุน” กรรณิการ์ยกมือไหว้ทุกคนเสร็จก็เดินไปนั่งลงข้างฉัตรภพ “หวัดดีจ้าหลานพลอย ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ แล้วนี่หนูเรียนจบแล้วใช่ไหม” เสี่ยดำรงเอ่ยถามหญิงสาว “จบแล้วค่ะ” “ตอนนี้น้องพลอยเขาทำงานแล้วที่โรงงาน..” ฉัตรภพเล่าให้เพื่อนฟังด้วยน้ำเสียงภูมิใจ “ทำงานแล้วเหรอ เก่งจริง ๆ จบแล้วก็หางานทำได้เลย ว่าแต่ทำไมไม่กลับมาช่วยพ่อเราล่ะ” “พลอยอยากลองทำงานกับโรงงานใหญ่ๆ ดูค่ะ อยากหาประสบการณ์ ก่อนจะออกมาช่วยงานคุณพ่อเต็มตัว” กรรณิการ์เอ่ยตอบดำรง เสร็จแล้วก็หันมาหาฉัตรภพเป็นการบอกกล่าวไปในตัว “น้องพลอยเหนื่อยไหม ถ้าไม่ไหวก็มาทำงานที่บริษัทพี่ได้นะ” ขุนพลเพิ่งพูดออกมาประโยคแรก เพราะมัวแต่จ้องหน้าหญิงสาว กรรณิการ์ สาวสวยหุ่นดี ผิวขาว รอยยิ้มน่ารักสดใส มองครั้งใดก็ทำให้ชุ่มชื่นหัวใจ ขุนพลเจอกับหญิงสาวครั้งแรกเมื่อสี่ปีที่แล้ว ในงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าของบริษัท เสี่ยดำรงจัดอย่างยิ่งใหญ่ที่โรงแรมชื่อดังของจังหวัด ฉัตรภพเพื่อนสนิทก็มาร่วมงานพร้อม ลูกสาว ตอนนั้นกรรณิการ์ยังเรียนมหาวิทยาลัยปีสอง ขุนพลได้สบตาเธอครั้งแรกก็รู้สึกตกหลุมรักในความน่ารักของหญิงสาว แค่เพียงยิ้มออกมาก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขอยากยิ้มให้กับเธอเช่นกัน ยิ่งได้พูดคุยก็ยิ่งรู้เลยว่า เธอคนนี้คือว่าที่ภรรยาของเขาแน่นอน ขุนพลตกหลุมรักกรรณิการ์ และเคยคุยกับเสี่ยดำรงให้มาสู่ขอเธอกับฉัตรภพ ซึ่งพ่อของหญิงสาวก็ไม่ขัดข้อง แต่ขอให้เธอเรียนจบก่อนแล้วค่อยคุยเรื่องหมั้นหมายกัน ตั้งแต่รู้จักกันจนถึงตอนนี้ เขาคอยหมั่นมาหาหญิงสาวทุกครั้งที่มีโอกาส พยายามสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่ดูเหมือนเธอจะคอยหลบเลี่ยงตลอด อาจจะเป็นเพราะข่าวคราวที่ไม่ดีของเขาเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง ยอมรับว่าเขามีผู้หญิงเข้าหามากหน้าหลายตา แต่ไม่เคยคบใครจริงจัง ไม่เคยรักใคร นอกจากกรรณิการ์ ผู้หญิงคนนี้คนเดียวที่อยู่ในใจ “ขอบคุณค่ะ แต่พลอยจบเกษตร กลัวว่าจะทำงานให้พี่ขุนไม่ได้ อย่าดีกว่านะคะ” หญิงสาวกล่าวปฏิเสธออกมาอย่างนุ่มนวล พยายามเลี่ยงเหมือนทุกครั้งที่ชายหนุ่มเอ่ยชวน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ขุนพล ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อ ผิวเข้ม เป็นคนหนุ่มไฟแรง เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง สร้างขึ้นเองกับมือ ร่ำรวยมหาศาล และยังมีธุรกิจสีเทาจำพวกผับ บาร์ แต่ไม่มีธุรกิจใต้ดิน เรียกได้ว่าเป็นนักเลงคนหนึ่ง เป็นคนกล้าได้กล้าเสียจึงทำให้ธุรกิจรุ่งเรืองเติบโต คบค้าสมาคมกับบุคคลหลายจำพวก บางครั้งก็มีข้อแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ที่ต้องการ เป็นคนประเภทอยากได้ก็ต้องได้ แม้จะไม่ถูกต้องก็ตาม เขาไม่เคยเสียเปรียบใคร “ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ฝึกให้ วันหน้าน้องพลอยจะได้ช่วยพี่บริหารบริษัทเราเอง” ชายหนุ่มยังคงส่งยิ้มมาให้ ราวกับแปลไม่ออกว่าเธอกำลังตอบปฏิเสธ กรรณิการ์รู้ว่าขุนพลคิดยังไง แต่เธอรู้สึกกับเขาแค่คนรู้จัก หรือพี่น้องเท่านั้น เพราะพ่อเธอกับพ่อเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน ทั้งคู่ จึงรู้จักกันมานาน แม้จะห่างหายไปช่วงที่ฝ่ายชายไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกสนิทสนมอะไร ไม่เหมือนความรู้สึก ที่มีต่อราเชน ถึงแม้เจอกันครั้งแรกกับราเชนที่ไร่ส้มภูลม เขาไม่มีทีท่าจะจีบเธอแม้แต่น้อย แต่เป็นเธอเองรู้สึกโหยหาแปลกๆ ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเธอหลงรักเขาแล้วใช่ไหม จนบังเอิญมาเจอกันอีกครั้งแค่เพียงสบตา เธอก็ออกอาการใจสั่น ร้อนวูบวาบ เมื่อยามอยู่ใกล้เขาก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ ต่างจากขุนพลต่อให้นั่งใกล้กันเธอก็ไม่รู้สึกอะไรเลย กรรณิการ์รู้ใจตัวเองดี จึงเลือกจะเฉย ไม่อยากสร้างความหวังให้อีกฝ่ายเข้าใจผิด “ถ้าน้องพลอยเปลี่ยนใจอยากมาทำงานกับพี่เมื่อไหร่ ก็บอกได้นะ มีตำแหน่งรองรับเสมอ” “ขอบคุณค่ะ” กรรณิการ์เอ่ยขอบคุณ แต่ในใจแทบจะร้องยี้ ตำแหน่งอะไรยะ ถึงได้ว่างรอขนาดนั้น “ขอบใจมากนะหลานขุนพล เอาไว้ให้น้องพร้อมกลับมาทำงานกับอาเมื่อไหร่ อาจจะรบกวนให้มาช่วยดูงาน ปรับระบบในโรงงานให้มันเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้” “ได้ครับคุณอา” เอ่ยตอบฉัตรภพ แต่สายตาของขุนพลกลับไม่ละไปจากใบหน้าของหญิงสาว ทำให้กรรณิการ์รู้สึกอึดอัดต้องขยับตัวหลายครั้ง อยากลุกออกไปจากสถานการณ์แบบนี้ “คุณพ่อครับ ตอนนี้น้องพลอยก็เรียนจบ ทำงานแล้วผมอยากจะคุยเรื่องของผมกับน้อง” ขุนพลหันไปคุยกับเสี่ยดำรง ส่วนกรรณิการ์ได้ยินชายหนุ่มเอ่ยชื่อเธอ ถึงกับสะดุ้ง ใจหายวาบ “เออ นั่นสิ” ดำรงทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะหันหน้าไปหาฉัตรภพ ออกแนวหารือ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม