กรรณิการ์หอบหิ้วของเดินเข้าบ้านด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม รอยยิ้มระบายเต็มหน้า แววตาเปล่งประกายมีความสุข เดินผ่านห้องรับแขกก็ต้องชะงักเท้า เมื่อไม่เจอใครสักคนบ้านเงียบเชียบราวกับไม่มีคนอยู่
เธอจึงวางของไว้บนโต๊ะในห้องรับแขก แล้วเดินหิ้วของกินของฝากจากเสม็ดที่เธอไปมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วตรงไปยังห้องครัว
“ป้าแมวคะ คุณพ่อไม่อยู่เหรอคะ เข้าบ้านมาไม่เจอ”
“คุณฉัตรอยู่ในห้องทำงานค่ะ เมื่อเช้าก็มีแขกมาขอพบ ตอนนี้แขกน่าจะกลับไปแล้วนะคะ”
“อ้อ ... นี่ของฝากค่ะ เอาไปแบ่งกันนะคะ แล้วนี่เอาไว้ทำอาหาร เดี๋ยวพลอยขอไปหาคุณพ่อก่อน” พูดเสร็จกรรณิการ์ ก็ยื่นถุงหิ้วหลายใบให้กับแม่บ้าน ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าไปในบ้าน
เธอเดินตรงไปยังห้องทำงานของฉัตรภพ ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตู เมื่อได้ยินเสียงเอ่ยอนุญาตมาจากข้างในก็ผลักประตูเข้าไป เห็นฉัตรภพยังคงก้มหน้าก้มตายุ่งอยู่กับงาน กรรณิการ์จึงเดินเข้าไปทรุดตัวลงนั่งหน้าโต๊ะทำงาน
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ ทำงานอีกแหละ พลอยมาทีไรก็เห็นยุ่งทุกที นี่ยุ่งจริงหรือแกล้งให้ลูกรู้สึกผิดแล้วต้องรีบกลับมาช่วยคะ” หญิงสาวเอ่ยเย้าผู้เป็นบิดา เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังกดเครื่องคิดเลขมือรัวไม่หยุด ทั้งที่เธอเดินเข้ามานั่งหน้าโต๊ะแล้ว ก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาทักทายลูกสาว
“ยุ่งนะสิ มีลูกสาวกับเค้าคนเดียวก็ไม่ยอมกลับมาช่วย”
“แหมๆ อีกสักปีสองปีนะคะ” หญิงสาวหัวเราะออกมาอย่างร่าเริง ก่อนจะแกล้งรับปากให้ผู้เป็นพ่อดีใจ
ฉัตรภพหรี่ตามองลูกสาว หน้าตาแช่มชื่นมีความสุข ประกายตาสดใส ไม่ได้เจอหน้ากันแค่หนึ่งเดือนแต่ดูลูกสาวเปลี่ยนไปในทางที่ดี ไม่เคยได้ยินเสียงบ่นว่าเหนื่อยกับงาน หรือบ่นเครียดเลยสักครั้งในรอบสามถึงสี่เดือนมานี่
“หายไปไหนมา วันหยุดก็ไม่ยอมกลับบ้าน..หือ?” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกสาวออกมา
“ก็กลับมาหาคุณพ่อแล้วนี่ไงคะ เอ่อ...ช่วงต้นเดือนงาน ยุ้งยุ่งค่ะ พอสิ้นเดือน็ถือโอกาสไปเที่ยวพักผ่อน ไปหาของอร่อยกินบ้างสิคะ พักผ่อนสมอง ทำงานมาทั้งเดือนเหนื่อยแล้ว”
“มิน่า หน้าตาสดใสมีความสุขจริงๆ ไปเที่ยวไหนมา” ฉัตรภพชวนลูกสาวคุยไปเรื่อย ส่วนกรรณิการ์อ้ำอึ้ง ก่อนจะตอบออกมา
“ไปเที่ยวทะเลค่ะ ... กับเพื่อน” เธอไม่กล้าบอกว่าไปกับราเชนสองคน พูดถึงทะเลก็คิดถึงชายหนุ่มขึ้นมาทันที ทั้งที่เจอหน้ากันทุกวัน เมื่อวานเขาก็แวะมาหา อยู่กินข้าวด้วยกัน พอวันนี้ก็คิดถึงอีกแล้ว
ตั้งแต่กลับจากเที่ยวทะเล ราเชนเริ่มเปลี่ยนไปไม่ตรงตามมาตรฐานเดิม กลับบ้านดึกไม่ตรงเวลา พฤติกรรมก็เปลี่ยนไปด้วย ชอบวนเวียนอยู่ใกล้เธอคอยจูบคอยหอม
บางครั้งก็จบลงที่เตียงนอน เธอต้องเอ่ยปากไล่หลายครั้ง ถึงยอมกลับ คิดถึงช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันทีไร หญิงสาวก็หน้าแดงด้วยควาเขินอาย สัมผัสอบอุ่นยังรู้สึกร้อนผ่าวตามตัวเธอ ทั้งที่เขาไม่ได้อยู่ตรงนี้แล้ว
“พลอย”
“...”
ฉัตรภพส่งเสียงเรียกลูกสาวหลายครั้ง แต่อีกฝ่ายเงียบไม่ขานรับ จึงเงยหน้าขึ้นมอง เห็นลูกสาวนั่งนิ่งอมยิ้มน้อยๆ แววตา หวานเปล่งประกายความสุขออกมา ทำให้ผู้เป็นพ่อต้องจ้องมองด้วยความสงสัย
“พลอย”
“คะ?” หญิงสาวหลุดออกจากภวังค์ เมื่อได้ยินเสียงฉัตรภพเรียกอีกครั้ง
“พลอยเป็นไรลูก นั่งเหม่อไม่สบายหรือเปล่า”
“ปะ... เปล่าค่ะ เอ่อ.. เห็นป้าแมวบอกว่าคุณพ่อมีแขก มีอะไรหรือเปล่าคะ หรือว่า ... งานมีปัญหา?”
หญิงสาวยื่นหน้าเข้าไปใกล้ผู้เป็นพ่อ และพยายามดึงสติกลับมา แต่รอยยิ้มก็ยังเกลื่อนบนใบหน้า
เธอจะคิดถึงราเชนทั้งวันทั้งคืน ไม่ได้!
“ไม่ใช่เรื่องงาน เสี่ยดำรงกับขุนพลมา” ฉัตรภพวางมือจากงานที่ทำ แล้วหันมาพูดกับกรรณิการ์
“มาทำไมอีกคะ?” หญิงสาวทำหน้าสงสัย ในเมื่อวันนั้นเธอปฏิเสธไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชวนไปทำงานด้วย หรือเรื่องจะให้พวกเธอหมั้นหมายกัน ตอนนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะในหัวใจของกรรณิการ์ไม่มีที่ว่างให้ใครแล้ว
ฉัตรภพจ้องหน้ากรรณิการ์ นึกถึงวันที่ลูกสาวพาชายหนุ่มชื่อราเชนมาพบเขา หนุ่มหล่อหน้าตาดี ผิวขาว ตัวโตสูงใหญ่ ดูองอาจ แม้ยามพูดราเชนจะยิ้มแย้ม อ่อนน้อม แต่แฝงความหยิ่งทระนง ไม่ยอมคน แววตานิ่งสนิทไม่สามารถจับความรู้สึกได้ ดูลึกลับ เหมือนตัวตนที่แสดงออกไม่ใช่ตัวจริงของเขา
ฉัตรภพจ้องมองท่าทีของลูกสาวแล้ว เชื่อว่ากรรณิการ์มีใจให้กับชายหนุ่มแน่นอน และดูเหมือนจะถึงขั้นหลงรักด้วย ต่างจากฝ่ายชาย วันนั้นกรรณิการ์พาราเชนมากินข้าวที่บ้านเพื่อแนะนำให้เขารู้จัก ฉัตรภพจึงขอพูดคุยกันสองคนโดยไม่ให้กรรณิการ์อยู่รับฟังด้วย เขาพูดคุยด้วยเรื่องทั่ว ๆ ไป ก่อนจะสอบถามประวัติส่วนตัวนิดหน่อย และก็เข้าประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่
“อย่าหาว่าอาก้าวก่ายเรื่องของหนุ่มสาวเลยนะ อามีเรื่องจะถาม เชนก็ตอบตามตรงไม่ต้องเกรงใจอะไร” ฉัตรภพจ้องประสานสายตากับชายหนุ่ม
“ได้ครับ” ราเชนรับคำสั้นๆ
“เชนคิดยังไงกับลูกสาวอา รักหรือชอบ”
“น้องพลอยเป็นคนน่ารัก นิสัยดี ใครอยู่ใกล้ก็ชอบทุกคนครับ”
“แล้วเชนล่ะ คิดยังไงกับน้องพลอย รักแบบแฟนหรือเปล่า”
“ผมคบกับน้องพลอย แค่เพียงเพื่อนรุ่นน้องเท่านั้น ไม่ได้คิดอะไรกับน้องแบบคนรักครับ” ราเชนพูดออกมายิ้มๆ ท่าทางราบเรียบ ไม่มีพิรุธอะไร อาการที่แสดงออกมาก็ดูจริงไม่เหมือนคนโกหก
ฉัตรภพถอนหายใจออกมาเบาๆ ลูกสาวของเขาคิดไปเองอย่างนั้นหรือ
“คุณอาไม่ต้องกังวลนะครับ อยากให้ผมทำยังไงก็บอกได้”
“ถ้าอย่างนั้น ถือว่าอาขอละกัน อย่าเข้าใกล้จนทำให้น้องหรือคนอื่นเข้าใจผิดเลยนะ เพราะน้องพลอยเองก็มีคู่หมายแล้ว กำลังจะจัดงานหมั้นเร็ว ๆ นี้ อาไม่อยากให้คนพูดถึงไม่ดี มันดูไม่เหมาะเท่าไหร่ที่ยังไปไหนมาไหนด้วยกัน หรือไปเที่ยวตะลอนกับ....คนอื่น”