7

993 คำ
“วิ” “ว่าไงเหรอจ๊ะภัส” “พวกเมียเก็บนี่มันเป็นแบบนี้ทุกคนรึเปล่า” “เป็นยังไงเหรอ” “ชอบอ่อยผู้ชายไม่เลือก ยอมอ้าแขนอ้าขาให้เขาเอาเพื่อให้ได้เงิน พวกเอาตัวเข้าแลกน่ะ” “ต้องเป็นแบบนี้ทุกคนอยู่แล้วละจ้ะ” พริมากำหมัดแน่น เธอหยุดชะงักระหว่างจะเดินไปตบนังสองตัวนั่นกับสงบสติอารมณ์เอาไว้ เธอควรสงบสติอารมณ์เอาไว้แล้วก็ควรตอกคนทั้งสองกลับไปให้หน้าหงาย แทนที่จะทำท่าทีร้อนตัวให้พวกหล่อนเยาะเย้ยเอาได้อีก “พวกเธอสองคนนี่รู้เรื่องเมียน้อยเมียเก็บดีจังเลยนะ หรือว่าทุกวันนี้ทำอาชีพนี้อยู่ล่ะจ๊ะ” พริมาหมุนกายกลับไปพลางเอ่ยถามยิ้ม ๆ “นี่เธอ ฉันหมายถึงเธอนั่นแหละ” ภัสสรเผลอพูดออกไป ก่อนจะยกมือขึ้นปิดปาก แต่สักพักก็เหยียดยิ้ม คิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิด เธอพูดเรื่องจริงทุกอย่าง “หมายถึงฉันก็พูดกันตรง ๆ ด่ากันตรง ๆ มาเที่ยวพูดจากระทบกระเทียบแดกดันทำตัวเหมือนพวก...” “พวกอะไรย่ะ” ภัสราเอ่ยถามกลับไป “พวกขี้อิจฉายังไงล่ะ พวกขี้อิจฉาที่เห็นคนอื่นได้ดีกว่าไม่ได้ ก็จะดิ้น ๆ ๆ เหมือนพวกไส้เดือนโดนน้ำร้อนลวก” “เป็นนางบำเรอให้พวกเศรษฐีกระเป๋าหนักน่ะเหรอที่ได้ดี อีโธ่เอ๊ย!” “เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันเป็นนางบำเรอให้เศรษฐีกระเป๋าหนัก” พริมาเอ่ยถามกลับ มองอย่างเอาเรื่อง “ก็... ก็ทำไมจะไม่รู้ล่ะ เธอมันจนจะตาย จะมีเงินที่ไหนมาซื้อข้าวของแพง ๆ ของแบรนด์เนมแบบนี้ล่ะ” “ฉันจะเอาเงินมากจากไหนมันก็เรื่องของฉัน ไม่ได้ไปเอาเงินบนหัวเธอก้แล้วกัน ทำไมต้องเดือดร้อนด้วยมิทราบ” “แต่ฉันอับอายที่ต้องบอกใคร ๆ ว่าอยู่ร่วมสถาบันเดียวกันกับคนที่ทำงานหาลำไพ่พิเศษขายตัวไปเรียนไปแบบเธอ” “ถ้าอายก็ไม่ต้องบอกสิ เพราะฉันไม่เคยนับว่าพวกเธอเป็นเพื่อนเสียด้วยซ้ำ ยิ่งถ้าใครมาถามว่ารู้จักพวกเธอไหม ฉันจะรีบบอกทันทีว่าไม่รู้จัก พวกที่ชอบนินทาว่าร้ายเหยียดหยามดูถูกคนอื่น ไม่มีใครเขาอยากจะคบค้าสมาคมด้วยหรอกนะ” “นี่เธอว่าพวกฉันอย่างงั้นเหรอ” “ใช่ แล้วฉันก็ไม่คิดที่จะพูดจากระทบกระเทียบแดกดันเหมือนที่พวกเธอทำหรอกนะ ฉันตรง ๆ เลย ไม่ชอบอ้อมโลก” พริมาพูดออกไปตรง ๆ เพราะเธอเป็นคนตรง ๆ ทำไมจะต้องมาพูดจาอ้อมค้อมแดกดันประชดประชันกันด้วย “นี่เธอ! กล้าว่าพวกฉันอย่างนั้นเหรอ” “จะใหญ่มาจากไหน จะเป็นลูกคุณหนูไฮโซแค่ไหน ถ้าดูถูกคนอื่น ฉันก็กล้าว่า เพราะบางทีพ่อแม่ก็คงจะไม่ได้อบรมสั่งสอนพวกเธอสองคน ฉันเลยช่วยสั่งสอนให้ไง” พูดจบพริมาก็หมุนกายเดินออกไปจากห้องน้ำ ก่อนจะร้องเสียงหลง “โอ๊ย!” ผมของเธอถูกกระชากจนหน้าหงาย ก่อนที่อีกฝ่ายจะกระชากแขนให้หมุนกายกลับมา แล้วใบหน้าของพริมาก็ถูกฝ่ามือพิฆาตตบจนหน้าหัน พริมาหน้าชาไปทั้งแถบ เธอถูกวิกานดาล็อกเอาไว้ ภัสราเดินมาหยุดตรงหน้า มองอย่างเอาเรื่องก่อนจะกอดอกเหยียดปาก “ปากดีนักนะนังพรีม วันนี้ฉันจะตบบัณฑิตเกียรตินิยมให้ห้าแหกเลย ปากหมากล้าลามปามพ่อแม่ฉันเหรอ วันนี้แกตาย” ภัสราฟาดฝ่ามือลงไปอีกครั้ง แต่กลับไปโดยวิกานดาแทนเพราะพริมาหลบทัน นั่นทำให้ใบหน้าของวิกานดาหันไปตามแรงตบ “ภัสเธอตบฉันทำไม” “ฉันขอโทษ ก็มันหลบ ฉันเลยพลาด เธอจับมันให้ดีสิ ฉันจะตบมันให้หน้าหันเลยคราวนี้” ภัสรารีบบอกก่อนจะฟาดฝ่ามือลงไปอีกครั้งแต่พริมาก็หลบได้ทันอีก “โอ๊ย! ภัสฉันเจ็บนะ” วิกานดาร้องด้วยความเจ็บเพราะโดนตบทั้งสองซีกแก้มจนหน้าหันและชาไปหมด “เธอก็ล็อกให้มันดี ๆ สิ” “เธอก็เล็งให้มันดี ๆ สิ” ในขณะที่ทั้งสองสาวกำลังทะเลาะกันอยู่ พริมาก็กระโดดขาคู่ถีบภัสราจนหงายหลัง แต่เธอก็หงายหลังด้วยเพราะเสียหลัก พริมาทาบทับอยู่กับร่างของวิกานดาที่รองรับตัวเธออยู่ ทำให้เธอไม่เจ็บปวดอันใด ในขณะที่วิกานดาร้องออกมาด้วยความเจ็บ พอได้โอกาสพริมาก็รีบลุกขึ้น ยิ้มสะใจที่จัดการสองสาวจอมวายร้ายได้ อยากหาเรื่องเธอก่อน รู้ไหมว่าเธอไปเรียนวิชาการป้องกันตัวมาแล้ว เพราะเถื่อนชอบกีฬาด้านนี้เลยพาเธอไปเรียนมวยไทยมาด้วย ไม่ว่าจะตบจะถีบจะกระทืบใคร ถ้าเป็นผู้หญิงด้วยกันเธอสู้ไม่ถอย ไม่ยอมให้โดนตบฝ่ายเดียวแน่ ๆ “นังพรีมแก!” วิกานดาลุกขึ้นมาจะตบพริมาบ้าง “นังวิ” เรียกจิกหัวเธอว่านัง เธอก็เรียกกลับ พริมาผลักจนร่างของวิกานดาเซไปชนกับร่างของภัสราที่เพิ่งลุกขึ้นมาจนล้มไม่เป็นท่าไปในห้องน้ำอีกครั้ง “แก” สองสาวชี้หน้าพริมาด้วยนิ้วสั่นระริก “แกจะทำไมฉันเหรอ” หยาบมาหยาบกลับไม่โกง จิกหัวเรียกนัง เรียกแกเธอก็เรียกเป็นเหมือนกันเพราะเธอก็มีปาก มีมือมีเท้า เธอไม่ยอมให้ใครมารังแกง่าย ๆ แน่ พริมาเหยียดปากก่อนจะปิดประตูทางเข้าห้องน้ำโครมใหญ่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม