และหลังจากวันนั้น ทั้งสตีฟและลูกจันทร์ก็กลับมาใช้ชีวิตเหมือนก่อนหน้าที่จะรู้ความจริงทั้งหมด ทำเหมือนกับเรื่องราวต่างๆไม่ได้เกิดขึ้นในเวลาเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา แต่ภายในกลับไม่ได้เป็นเหมือนภายนอกเมื่อมันเปลี่ยนไปตั้งแต่ที่รับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว
“สตีฟ...สตีฟคะ?...สตีฟ”
เสียงเรียกของอันนา แฟนสาวของสตีฟที่พึ่งกลับมาจากต่างประเทศไม่ได้ทำให้สตีฟตื่นจากภวังค์ได้เลย เมื่อเขากำลังคิดถึงจาคอปที่ไม่ได้ไปเจอมาเกือบอาทิตย์แล้ว
“สตีฟ...”
“หือ? อ่าว อันนา กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
สตีฟถึงกับสะดุ้งตกใจเมื่ออันนาเดินเข้ามาจับแขนเขาเขย่าเมื่อเรียกเท่าไหร่เขาก็ไม่ตอบรับจนสตีฟถึงกับตกใจ ก่อนจะเอ่ยทักเมื่อเขาลืมเธอไปเสียสนิทเลยก็ว่าได้
“นี่เรายังเป็นแฟนกันอยู่ใช่ไหมคะ? อันนานึกว่าอันนาเป็นแฟนกับเลขาของคุณซะอีก ไม่คิดจะโทรหาอันนาเลยเหรอ?”
“โธ่ คุณก็รู้ว่าผมยุ่งขนาดไหน แล้วที่เลขาของผมโทรไปก็เพราะผมสั่งทั้งนั้นแหละ แล้วไปเที่ยวสนุกไหม?”
สตีฟรีบลุกเดินมาโอบกอดร่างสูงเพรียวราวนางแบบของแฟนสาวที่คบกันมาเกือบปีอย่างขอโทษพร้อมกับกดจูบลงไปบนแก้มเนียนของเธอ ทำเอาคนที่ถูกแตะต้องถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมาทันที
“ค่ะ ก็ดี...แต่จะดีกว่านี้ถ้าคุณไปด้วย เราจะได้มีค่ำคืนอันแสนโรแมนติกด้วยกัน...”
ไม่พูดเปล่าแต่มือเรียวยังยกขึ้นลูบไล้ไปบนหน้าคมสันของแฟนหนุ่มที่เขาไม่เคยดูหล่อน้อยลงเลยสักวันตั้งแต่คบกันมา
“อันนารักคุณนะคะ”
เธอบอกรักเขา เมื่อต้องการคำว่ารักจากเขาเหมือนกัน แต่สตีฟกลับไม่ได้พูดมันออกมา เขากดจูบลงมาที่ปากบางแทนทำเอาอันนาที่รู้สึกไม่พอใจแต่พอได้จูบเร่าร้อนจากเขา เธอก็ค่อยๆลืมเลือนมันไป แขนเรียวยกขึ้นโอบกอดไปที่ลำคอหนา ก่อนจะตอบสนองจูบของเขาอย่างดูดดื่มไม่แพ้กัน ร่างบางเบียดกระแซะเข้าหาอย่างโหยหา
จุ๊บๆๆๆ จ๊วบๆๆๆ จุ๊บๆๆๆ
“แปปนึง...นีน่า ผมขอเวลาส่วนตัว 2 ชั่วโมง”
แกร๊ก!
“หึหึหึ คุณนี่จริงๆเลยนะคะ”
สตีฟยกโทรศัพท์โทรออกไปบอกนีน่า เมื่อไม่อยากให้ใครเข้ามาขัดจังหวะรักของเขากับแฟนสาว เมื่อเกือบๆสองอาทิตย์ที่เขาไม่ได้ปลดปล่อย ก่อนจะเริ่มกอดจูบกันอย่างบ้าคลั่ง ไม่นานเอ็นใหญ่พร้อมด้วยอุปกรณ์ป้องกันก็ถูกสอดใส่เข้าไปในร่องสาว
สวบ!
“อ๊ะ! อ๊าาาา”
เสียงครางหวานดังขึ้นทันทีที่ถูกเติมเต็ม เธอเงยหน้าขึ้นมองหน้าคนรักอย่างหลงใหล เมื่อไม่เคยมีใครที่สามารถเติมเต็มเธอได้อย่างเขามาก่อน
“ฮึ่ม!!”
ส่วนสตีฟเองก็กำลังเสียวซ่านไม่ต่างกัน เขาค่อยๆขยับแก่นกายเข้าออกเชื่องช้า เมื่อร่องสาวเริ่มดูดรัดแน่นขึ้น การที่เขาตัดสินใจมีคนรักนั้นก็เพราะเขาขี้เกียจหาสาวๆเพื่อมาสนองบนเตียง พอมีแฟนเขาเพียงแค่โทรหาเธอก็มาหาเขาถึงที่แล้ว สะอาด ปลอดภัย แถมไม่ต้องเสียเวลาเลือกด้วยนี่แหละที่เขาต้องการ
“สะ...สตีฟ อ๊ะ! เร็วค่ะ อื้อ อันนา อ๊ะ อันนาต้องการอีก”
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
สตีฟมองคนใต้ร่างที่กำลังดิ้นรนเพื่อให้เขาสนองในสิ่งที่เธอต้องการ และสตีฟก็ไม่ทำให้ผิดหวัง มือใหญ่ช้อนเอาสะโพกผายยกลอยขึ้นสูงแล้วกระแทกเอ็นใหญ่เข้าออกหนักหน่วง และรุนแรงรนร่างบางสั่นระรัวเมื่อกำลังจะไปเยือนสวรรค์
“อ๊ะ! อ๊ะ อ๊ะ อ๊ายยยย!”
และเขาก็ส่งเธอไปเยือนสวรรค์ ก่อนที่จะค่อยๆดึงเอ็นใหญ่ออกจากร่องรักกลวงโบ๋ของเธอถุงยางอนามันถูกดึงออกแล้วทิ้งลงไปที่ถังขยะก่อนเขาจะหยิบอันใหม่ขึ้นมาสวมใส่เมื่อน้ำรักของเธอมันไหลเยิ้มจนต้องเปลี่ยนอันใหม่ เพราะเขายังไม่อยากมีลูกเพิ่มในตอนนี้
สวบ!!!
“อ๊า!!!”
จากนั้นสตีฟก็เริ่มเกมรักอีกครั้ง เขาจ้องมองรอยรักจางๆที่เขาไม่ได้ทำขึ้นบนร่างของคนรักพร้อมกับกัดกรามแน่น เมื่อเขารู้อยู่แล้วว่าอันนาไม่เคยซื่อสัตย์กับเขา และเขาเองก็ไม่เคยคิดจะซื่อสัตย์กับเธอด้วย เมื่อความสุขที่ได้มาคือการแลกเปลี่ยน ในเมื่อเขาและเธอยังไม่ได้ตีตราจองหรือตีทะเบียนสมรสกัน ทั้งเขาและเธอก็ยังมีสิทธิ์ในชีวิตของตัวเอง นั่นคือสิ่งที่เขาคิดมาตลอด เลยทำให้เขาและเธอแทบจะไม่เคยมีปัญหากันในเรื่องพวกนี้
“คุณลูกจันทร์คะ ตกลงงานที่บริษัทคุณสตีฟ...”
“รบกวนช่วยจัดการต่อให้ลูกจันทร์หน่อย พี่ลีลาจัดการได้เลยไม่ต้องถามลูกจันทร์อีก”
“คะ? เอ่อ...ได้ค่ะ...”
ทางด้านลูกจันทร์ ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องเธอก็ไม่ได้เจอกับสตีฟอีก แทนที่เธอจะเบาใจแต่กลับหนักใจมากกว่าเดิมเสียอีก
“ลูกจันทร์ พี่มารับไปทานข้าว...มีปัญหาอะไรรึเปล่า ทำไมหน้าเครียดๆล่ะ”
“ก็ไม่นี่คะ แล้วทำไมมาที่นี่ได้ล่ะ ไหนพี่รามบอกจะไปดูงานต่างจังหวัดไม่ใช่เหรอคะ”
“อืม พอดีพี่ให้ผู้จัดการไปแทน เลยมีเวลามาหาเราไงล่ะ”
รามินทร์ หรือ ราม หนุ่มนักธุรกิจส่งออก ทั้งหล่อ ทั้งรวย แถมชาติตระกูลดีมากเมื่อเขาเป็นถึงลูกชายของหม่อมหลวงเพื่อนสนิทของคุณหญิงสายใจพ่วงตำแหน่งเพื่อนรุ่นพี่ของลูกจันทร์ เมื่อเขาและเธอรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆเรียกได้ว่ารู้ไส้รู้พุงกันเลยก็ว่าได้
“งั้นไปกันเถอะค่ะ ลูกจันทร์หิวแล้ว”
“โอเค ดีมากที่ไม่ให้พี่รอ”
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินออกจากบริษัทไปโดยมีสายตาของพวกพนักงานมองกันอย่างรู้สึกชื่นชมระคนอิจฉาเมื่อช่างดูเข้ากันดีเหลือเกิน คนหนึ่งก็สวยอีกคนก็หล่อ ชาติตระกูลก็ดีถ้าเกิดมองข้ามเรื่องที่ลูกจันทร์มีลูกติด ทุกอย่างก็สมบูรณ์แบบที่สุด
“ฮ่าฮ่าฮ่า อะไรกันคะ ไหนว่าเมื่อวันก่อนเจอสาวในฝันแล้ว ทำไมวันนี้มาบอกว่าโสดอีกล่ะ”
“ในฝันบ้าอะไรกันล่ะ รู้ไหม พอพี่พาไปคอนโตเธอไม่ยอมถอดเสื้อผ้าทั้งๆที่รู้กันอยู่ว่าพาไปคอนโดทำไม”
พอเดินเข้ามาในร้านอาหาร ลูกจันทร์ก็อดที่จะหัวเราะชอบใจไม่ได้ เมื่อรามินทร์บอกว่าโสดอีกครั้งทั้งๆที่เมื่อวันก่อนยังมาเพ้อกับเธอว่าเจอสาวในฝันอยู่เลยแท้ๆ
“แล้วเกิดอะไรขึ้นคะ? เธอยังบริสุทธิ์เลยไม่กล้า?”
“บริสุทธิ์อะไรกันล่ะ หายากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรเสียอีก...ผู้ชาย...”
“คะ?”
“เธอเป็นผู้ชายที่แปลงเพศมา”
“คะ?”
“กระเทย สาวประเภทสอง ตุ๊ด หรืออะไรก็นั่นแหละเธอไม่ใช่ผู้หญิงจริงๆ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า โอ๊ย! พี่รามเอาเรื่องอะไรมาเล่าคะเนี่ย ฮ่าฮ่า แล้วลูกจันทร์จะทานข้าวยังไงคะเนี่ย ฮ่าฮ่าฮ่า โอ๊ยยยย ปวดท้องไปหมดแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า”
และพอได้ยินแบบนั้น ลูกจันทร์ก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นร้านอย่างกลั้นไม่อยู่ เมื่อชายหนุ่มสุดเพอร์เฟคอย่างรามินทร์ดันถูกหลอกตาเสียได้ จะไม่ให้เธอหัวเราะได้ยังไงกัน
ส่วนรามินทร์ทีแรกก็รู้สึกเคืองแต่พอได้เห็นเสียงหัวเราะและรอยยิ้มกว้างที่ไม่เคยเห็นมานานเขากลับเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว เมื่อนานเท่าไหร่แล้วที่เธอไม่มีเสียงหัวเราะแบบนี้
“มีอะไรรึเปล่าคะสตีฟ...คนรู้จักเหรอ?”
“เปล่า ไปกินร้านอื่นเถอะ”
ทางด้านสตีฟที่บังเอิญเดินเข้ามาเจอเข้ากับภาพอันมีความสุขของลูกจันทร์ เขาถึงกับหายใจสะดุดก่อนจะมองไปยังอีกคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอซึ่งก็ดูมีความสุขมากไม่ต่างกัน จากที่คิดว่าจะเดินเข้าไปในร้านเขากลับเดินออกจากร้านอาหารนั่นมา ทำเอาอันนาถึงกับงง
“เดี๋ยวก่อน กินที่นี่แหละ”
แต่เดินออกไปได้ไม่เท่าไหร่ เขาก็เปลี่ยนใจเดินกับเข้ามาในร้านอาหารแทน ทำเอาอันนาถึงกับไปไม่ถูก เดินตามเขาเข้ามาอย่างสับสน สตีฟเลือกที่จะเดินไปนั่งโต๊ะข้างกันกับลูกจันทร์ ทำเอาคนที่กำลังหัวเราะร่าถึงกับหุบยิ้มสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
“มีอะไรรึเปล่าคะที่รัก...ทำไมคุณถึง...”
“ผมจำได้ว่าคุณชอบซุปร้านนี้”
อันนาถึงกับยิ้มออกมาเมื่อเขายังจำได้ว่าเธอชอบอาหารร้านนี้ ถึงจะไม่ใช่ซุปอย่างที่เขาว่าก็ตามที ส่วนลูกจันทร์ที่ได้ยินการสนทนาของสตีฟอย่างชัดเจนถึงกับรู้สึกชาไปทั้งตัว
ที่รักอย่างนั้นเหรอ?...เขามีคนรักแล้ว...อย่างนั้นเหรอ?...
ลูกจันทร์คิดขึ้นในใจโดยไม่รู้เลยว่ารามินทร์กำลังมองอาการแปลกๆของเธออยู่
“มีอะไรรึเปล่า? ลูกจันทร์...”
“เปล่าค่ะ ว่าแต่อาหารมาช้าจังนะคะ”
“โน่นไง พูดถึงก็มาเลย”
รามินทร์บอกขึ้นแต่ก็อดมองลูกจันทร์ไม่ได้ เมื่อตอนนี้หน้าสวยซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด
“เดี๋ยวอันนาสั่งอาหารให้นะคะ...คุณชอบคาโบนาร่า...สเต็กเนื้อ...แล้วก็น้ำส้ม...”
ส่วนอีกโต๊ะก็กำลังสั่งอาหาร อันนาที่พยายามเอาใจคนรักเมื่อกลัวว่าเขาจะเห็นรอยรักของผู้ชายที่เธอแอบไปมีสัมพันธ์ด้วยตอนไปต่างประเทศ และนั่นคือเหตุผลที่เธอต้องเลื่อนเวลาบินกลับเพราะกว่ารอยรักพวกนั้นจะจางลงก็กินเวลาเกือบอาทิตย์เลยทีเดียว
แฟนใหม่สินะ...หึหึ
สตีฟคิดขึ้นในใจ เมื่อก่อนหน้านี้เขาอุตส่ารู้สึกผิดกับเธอ เพราะเขานั้นมีแฟนและใช้ชีวิตอย่างอิสระโดยไม่มีลูกให้ต้องดูแล แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเธอก็ไม่ได้ใช้ชีวิตเหี่ยวแห้งเหมือนอย่างที่เขาคิด เธอเองก็มีแฟนและใช้ชีวิตอิสระไม่ต่างจากเขาเลย
จากนั้นก็อาหารมื้อที่แสนอึดอัดก็เริ่มต้นขึ้น ลูกจันทร์กับรามินทร์กินกันเงียบๆจะมีการสนทนากันบ้างบางครั้ง ต่างจากคู่ของสตีฟและอันนา ที่อันนานั้นคอยเอาอกเอาใจตักโน่นป้อนนี่ให้เขาสารพัด จนกระทั่งเขาสังเกตเห็นว่าลูกจันทร์ลุกเดินออกจากโต๊ะไปเขาเลยลุกตามโดยบอกอันนาว่าจะไปห้องน้ำ
“ค่ะคุณแม่ เจคไม่งอแงใช่ไหมคะ...เดี๋ยวเสร็จงานแล้วลูกจันทร์จะรีบไป”
ลูกจันทร์ขอตัวออกมาโทรไปหามารดาเพราะว่าวันนี้คุณหญิงสายใจนั้นพาหลานชายไปหาลูกแพร์ ลูกสาวคนเล็กของเธอที่แยกตัวออกไปมีครอบครัวแล้ว และลูกแพร์ก็อยากให้มารดาและหลานนอนที่นั่นเธอเลยโทรไปถามกลัวว่าจาคอปจะงอแงแต่ผิดคาดเมื่อลูกของเธอดูท่าจะชอบที่นั่นเพราะมีน้องชายคอยเล่นด้วย
“ยังไม่เปลี่ยนเลยนะ...อยู่กับคนนี้โทรหาอีกคน คงเหนื่อยน่าดู”
สตีฟที่เดินมาทันได้ยินประโยคหลังอดพูดกระแนะกระแหนไม่ได้ ทำเอาลูกจันทร์รีบกดวางสายก่อนจะหันมามองเขา
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
หมับ!
พูดจบลูกจันทร์ก็คิดจะเดินหนี แต่กลับถูกสตีฟจับแขนของเธอเอาไว้
“ถ้ายังทำตัวแบบเดิมก็เอาลูกมาให้ผมเลี้ยง”
สตีฟบอกออกมาในสิ่งที่เขาคิด ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าลูกจันทร์ยังคบผู้ชายมากหน้าหลายตาพร้อมๆกันอยู่
“หุบปากเน่าๆของคุณซะ!”
ลูกจันทร์ต่อว่าออกมาด้วยความโกรธ เมื่อเธอนั้นไม่เคยคบใครอีกเลยหลังจากรู้ตัวว่าท้อง
“ทำไมล่ะ คุณจะได้ทำตามใจตัวเองไง”
“ถ้าอยากมีลูกก็ไปมีกับคนของคุณโน่น ดูระริกระรี้พร้อมอ้าให้เต็มที่ขนาดนั้น แล้วหยุดมารังควานพวกเราสักที”
ลูกจันทร์พยายามสะบัดมือของเขาออก เมื่อมันเพิ่มแรงบีบมากขึ้นเรื่อยๆจนเธอรู้สึกเจ็บ
“อย่ามาว่าคนของผมแบบนั้น เมื่อเป็นคุณเองที่เป็น”
“ฉันจะไปเอากับใคร กี่คนก็เรื่องของฉัน! แค่สเปิร์มตัวเดียวอย่ามาอ้างความเป็นพ่อหน่อยเลย มันก็แค่เรื่องบังเอิญ ถ้าเลือกได้ฉันคงขอมีลูกกับคนอื่นมากกว่าคุณ! โอ๊ย!!! เจ็บนะ! อ๊ะ! ปล่อย! นี่คุณ จะพาฉันไปไหน!”
ด้วยความโกรธกับสิ่งที่ลูกจันทร์พูดออกมา สตีฟลากเธอเดินไปที่รถของเขาโดยไม่สนใจการดิ้นรนและเสียงร้องห้ามของเธอเลยสักนิด แถมเขายังลืมไปเสียสนิทเลยว่ายังมีอีกคนที่รอเขาอยู่ในร้าน
“โอ๊ย! ไม่นะ ปล่อยฉันลงไปนะ ฉันบอก อ๊ายยยย คุณ!!”
ปึก ปัง!!
เสียงปิดประตูรถดังสนั่น เมื่อเขาผลักร่างบางของเธอเข้าไปด้านในพร้อมกับกดล็อกอัตโนมัติ ก่อนจะเดินอ้อมมานั่งลงประจำที่คนขับ ทำเอาลูกจันทร์ถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อเขาแทบไม่ฟังเธอเลยสักนิด
“อย่านะคุณ...ปล่อยฉันลงไปนะ...แฟน...แล้วแฟนคุณล่ะ...”
ลูกจันทร์พยายามตั้งสติแล้วบอกขึ้น ทำเอาสตีฟถึงกับชะงักก่อนจะหันมามองลูกจันทร์
“ทำไม หรือกลัวว่าแฟนคุณจะกระวนกระวาย”
แต่เขากลับคิดไปถึงรามินทร์เสียอย่างนั้น และจากนั้นเขาก็ออกรถ ลูกจันทร์ที่ไม่รู้จะทำยังไงกับคนแบบเขาได้แต่นั่งเงียบมองไปยังถนนที่เขากำลังพาเธอไป ซึ่งไม่นานเขาก็มาจอดอยู่ข้างทางที่แทบไม่มีคนสัญจรไปมา
“คุณยังต้องการอะไรจากฉันอีก ไหนว่าเกลียด รังเกียจฉันนักหนาแล้วยังจะมายุ่งกับฉันทำไม?”
“ถ้าคุณไม่ใช่แม่ของลูกผมก็คงไม่คิดยุ่งด้วย...ยกลูกให้ผมสิแล้วผมจะไม่ยุ่งกับคุณอีก”
“ไปตายซะ!!”
หมับ!
“อึ! อื้อๆๆๆๆ”
ปัก! ปัก! ปัก!
ด้วยความโกรธลูกจันทร์เลยด่าเขาออกมา และสตีฟก็ทำในสิ่งที่เธอไม่คาดคิด เขาดึงเธอเข้ามาจูบอย่างแรง แรงกระแทกทำให้ลูกจันทร์รู้สึกถึงรสเลือดเค็มปร่าและความเจ็บที่ปากของเธอ มือเรียวยกขึ้นทุบไปที่อกของเขาเพื่อให้เขาปล่อย แต่ยิ่งเธอตีเขา เขาก็ยิ่งจูบแรงกว่าเดิมจนสุดท้ายลูกจันทร์ก็เลิกดิ้น ปากเล็กค่อยๆยอมอ้าออกให้เขาได้เข้าไปทักทายลิ้นเรียวของเธอ แต่เธอก็ไม่ยอมตอบสนองเขา สตีฟที่กำลังโกรธจัดไม่สนใจอะไรจนกระทั่งจูบเธอจนพอใจเขาจึงค่อยๆถอยปากออกมา สองตาคมจับจ้องคนตรงหน้านิ่ง เมื่อไม่เพียงเธอไม่ตอบสนองแต่ลูกจันทร์ยังนั่งเฉยให้เขาทำอย่างที่เขาต้องการนี่สิที่เขาแปลกใจ
“พอใจแล้วใช่ไหม? พอใจแล้วก็ปล่อยฉันลง”
“ทำไม?...ทำไมถึงไม่บอกว่าคุณท้อง”
สตีฟอดถามในสิ่งที่อยากรู้ไม่ได้ เพราะถ้าเป็นลูกจันทร์คนก่อนเขาแน่ใจว่าเธอต้องเรียกร้องความรับผิดชอบจากเขาแน่
“ไม่รู้ว่าคนไหนคือพ่อของลูกเลยไม่รู้ต้องบอกคนไหนดี”
“.................”
และคำตอบของเธอก็ทำเอาสตีฟถึงกับนิ่งเงียบ หน้าคมที่เรียบตึงกำลังบ่งบอกว่าโกรธกับสิ่งที่ได้ยิน
ปึก!
“ลงไป...ไสหัวลงไป”
สตีฟดันตัวออกจากลูกจันทร์ด้วยท่าทีรังเกียจ ซึ่งเหมือนกับเมื่อ 3 ปีก่อนไม่มีผิด ก่อนที่เขาจะปลดล็อกรถให้กับเธอ
ส่วนลูกจันทร์ก็มองเขาอย่างผิดหวัง แล้วตัดสินใจลงจากรถของเขามา ก่อนจะมองตามท้ายรถที่ขับออกไปด้วยความเร็วราวพายุ