“มีอะไรรึเปล่าลูกทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ?”
ระหว่างทางกลับบ้าน คุณหญิงสายใจอดถามขึ้นไม่ได้เพราะตั้งแต่ขึ้นรถมาจนถึงตอนนี้ ลูกจันทร์แทบไม่พูดไม่จาแถมยังทำหน้าเครียดอยู่ตลอดเวลาอีก
“คะ? เอ่อเปล่าค่ะ...”
ลูกจันทร์รีบเปลี่ยนสีหน้าให้เป็นปกติทันที เพราะไม่อยากให้มารดาเป็นกังวลด้วย
“อ้อ ตอนอยู่ในห้างแม่เจอลูกชายคนเล็กของคุณหญิงแสนศิริด้วยนะ หล่อแถมยังเก่งอีก เห็นว่ายังโสดอยู่ด้วยนะ เป็นถึงประธานบริษัท...จะว่าดูๆไป หลานชายของแม่ก็เหมือนสตีฟอยู่นะเนี่ย โตมาหล่อเหมือนคุณลุงเขานะลูก ดูสิ หล่อเหมือนกันนะเนี่ยจาคอปน้อย”
“...............”
คุณหญิงสายใจอดที่จะพูดถึงสตีฟไม่ได้ เมื่อเธอนั้นนึกชื่นชมในความเก่งของสตีฟที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยแบบนั้น ถ้าไม่เกิดเรื่องเมื่อสามปีก่อนเธอคงคิดอยากจับคู่สตีฟให้กับลูกจันทร์อย่างแน่นอน แต่พอเกิดเรื่องนั้นเธอแทบไม่เคยคิดอยากหาคู่ให้กับลูกสาวของเธออีกเลย
ส่วนลูกจันทร์พอเห็นมารดาพูดออกมาแบบนั้นก็แทบอยากจะร้องไห้ออกมา เมื่อความลับที่น่าจะเป็นความลับได้อีกไม่นานกำลังทำให้เธอกังวลใจ เธอกลัวเหลือเกินว่าถ้าเกิดสตีฟรู้ความจริงแล้วไม่คิดยอมรับลูกชายของเธอ เพราะเขาไม่เคยคิดจะรับผิดชอบเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
“พี่ลูกจันทร์! ไม่คิดจะบอกลูกแพร์จริงๆเหรอคะว่ากลับมาแล้ว”
พอมาถึงบ้าน ลูกแพร์ น้องสาวคนเดียวของลูกจันทร์ยืนรออยู่แล้วรีบเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าบึ้งตึงเมื่อเธอนั้นแค่แวะมาหามารดาแต่แม่บ้านกลับบอกว่าพี่สาวของเธอกลับมาพร้อมกับหลานชาย เธอนี่แทบอยู่เฉยไม่ได้
“ลูกแพร์...พอดียุ่งๆพี่เลยยังไม่ได้บอกน่ะ...ว่าแต่มาคนเดียวเหรอ?”
“ค่ะ แค่แวะมาหาคุณแม่ ไม่คิดว่าจะเจอเซอร์ไพรส์แบบนี้”
ลูกแพร์ทั้งพูดทั้งเดินไปเปิดประตูอีกฝั่งเพื่อมองหาหลานชายของเธอ
“เจค! นี่โตเป็นหนุ่มขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย”
พอเห็นจาคอป ลูกแพร์ก็พูดขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจโดยลืมมองสีหน้าท่าทางของมารดา ที่โกรธลูกสาวคนเล็กเพราะปิดบังเรื่องหลานมาร่วมสามปี
“ไม่ต้องาจับหลานฉันเลย...”
คุณหญิงสายใจบอกขึ้นพร้อมกับปัดมือบุตรสาวคนเล็กออกห่าง ทำเอาลูกแพร์ถึงกับมองมารดาด้วยสีหน้าตกตะลึง
“อะไรกันคะ...เจคกลับมาแค่ไม่กี่วัน หนูกลายเป็นหมาหัวเน่าแล้วเหรอคะคุณแม่”
“ใช่! ถอยไปเลยนะยัยลูกตัวดี”
“ฮ่าฮ่าฮ่า โธ่ ลูกแพร์ขอโทษที่ไม่ได้บอก ก็พี่ลูกจันทร์น่ะสิคะ กอดขาขอร้องเอาไว้ ลูกแพร์เลยไม่กล้าบอกคุณแม่”
ลูกแพร์ที่แกล้งพูดถึงกับหัวเราะร่าออกมาอย่างชอบใจเมื่อเห็นมารดาโกรธเธอแบบนั้น เพราะเธอนั้นรู้เรื่องนี้หลังจากแต่งงานแล้ว เธอบินไปเยี่ยมพี่สาวถึงอังกฤษเพราะคิดว่าอยากไปพักผ่อนด้วย แต่กลับเจอเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่เมื่อลูกจันทร์นั้นคลอดลูกชายก่อนที่เธอจะแต่งงานได้เดือนกว่าๆ เธอเลยได้ไปเลี้ยงหลานช่วยพี่สาวอยู่พักใหญ่ๆก่อนจะบินกลับมาพร้อมเก็บเรื่องนั้นไว้เป็นความลับ
“แล้วนี่ซันล่ะ ไม่มาด้วยเหรอ?”
คุณหญิงสายใจอดถามถึงหลานชายอีกคนลูกชายสุดรักสุดหวงของลูกแพร์ไม่ได้
“คุณย่าเขาเอาไปนอนด้วยค่ะ ลูกแพร์เลยมีเวลามาเที่ยวไงคะ พอดีเลย วันนี้ขอนอนที่นี่เลยแล้วกันนะคะ”
“ลูกคนนี้...อย่าลืมโทรไปบอกตะวันล่ะ”
“ค่าาาา”
พูดจบคุณหญิงสายใจก็ช้อนเอาร่างอ้วนของจาคอปขึ้นแล้วเดินหนีเข้าบ้านโดยมีลูกจันทร์มองตามอย่างรู้สึกขำไม่ได้ เมื่อลูกชายของเธอทั้งอ้วนทั้งหนักแต่มารดาของเธอก็ยังคงพยายามที่จะอุ้มไปด้วยตัวเอง
“แล้วนี่พี่ลูกจันทร์แค่มาเยี่ยมหรือมาอยู่เลยคะ?”
พอมารดาเดินเข้าไปในบ้านแล้ว ลูกแพร์เลยถามขึ้น
“ก็...คิดว่าจะแค่มาเยี่ยม แต่ดูๆแล้วน่าจะไม่ได้กลับไป”
ลูกจันทร์บอกออกมาตามที่เห็น เมื่อคุณหญิงสายใจนั้นดูจะติดหลานชายจนแทบแยกกันไม่ออก ขนาดจะนอนยังต้องมาล่ำลาบางทีถึงกับอุ้มไปนอนด้วย ถ้าเกิดเธอพาจาคอปกลับอังกฤษมีหวังมารดาของเธอได้ตรอมใจอย่างแน่นอน
“บอส...เอ่อ บอสคะ ต้องตัดสินใจแล้ว...บอส...”
ทางด้านสตีฟ ตั้งแต่กลับมาจากห้างสรรพสินค้าเขาก็เอาแต่ใจลอยจนแทบทำงานกันไม่รู้เรื่องจนนีน่าต้องเข้ามายืนฟังการประชุมด้วยเพราะเจ้านายเล่นไม่ตอบสนองอะไรเลยสักอย่าง จนพวกที่เข้ามารายงานถึงกับทำตัวไม่ถูก
“ห๊ะ? เอ่อ ว่ายังไง”
“คือรายงานเสร็จแล้ว บอสเลือกแบบไหนคะ?”
สตีฟที่พึ่งดึงสติกลับมาได้มองไปที่หน้าจอมอนิเตอร์ที่ฉายบนผนังพักใหญ่ๆก่อนจะเลือกแบบที่เขารู้สึกชอบที่สุด จากนั้นพนักงานทุกคนก็เดินออกจากห้องทำงานของเขาไป เหลือแค่นีน่าที่ยังต้องอยู่เพื่อรอคำสั่งงานต่อ
“นีน่าว่าบอสไปพักหน่อยดีกว่าไหมคะ?”
นีน่าพูดขึ้นอย่างเป็นห่วง
“อืม เสร็จงานเดี๋ยวค่อยไป ว่าแต่อันนากลับมารึยัง?”
สตีฟอดที่จะถามถึง อันนา แฟนสาวของเขาไม่ได้ เมื่อเธอบอกว่าบินไปต่างประเทศ นี่ก็เป็นอาทิตย์แล้วยังไม่เห็นเธอมาหาเขาเลย
“ยังค่ะ เห็นว่าจะอยู่ต่ออีก 1 อาทิตย์...”
“อืม ช่วยตามแบบจากฝ่ายออกแบบต่อด้วย ออกไปได้แล้ว”
“ค่ะ...”
นีน่าเดินออกจากห้องทำงานของผู้เป็นเจ้านายด้วยสีหน้าเรียบตึงโดยซ่อนความเจ็บช้ำน้ำใจเอาไว้ภายใต้หน้ากากของเธอ
“เฮ้อ...คิดบ้าอะไรอยู่วะ...ผู้หญิงแบบนั้นนอนกับผู้ชายไม่เลือกหน้าอยู่แล้ว จะเป็นลูกเราได้ยังไง ไร้สาระสิ้นดี”
พอเลขาสาวเดินออกไป สตีฟก็ทิ้งตัวลงพิงพนักเก้าอี้อย่างหมดแรง เมื่อเอาแต่คิดถึงหน้าเด็กที่เจอในวันนี้
“คุณแม่...จะให้ลูกจันทร์...ทำอะไรนะคะ...”
“ก็แม่เปิดบริษัทรับจัดงานเลี้ยง...ว่าจะทำเล็กๆพอแก้เหงา แต่ใครจะไปรู้ว่ามันจะไปได้สวยขนาดนี้...มีแต่งานใหญ่ๆ แถมยังมีมาตลอดจนผู้จัดการมาขอลาออกเพราะเหนื่อยเกินไป...นะลูก ช่วยเข้าไปดูให้จนกว่าแม่จะหาผู้จัดการคนใหม่ได้...ได้ไหม?”
คุณหญิงสายใจที่ทำหน้าหนักใจเดินเข้ามาบอกให้ลูกจันทร์ช่วยเข้าไปทำงานแทนผู้จัดการที่ลาออกไปเมื่อวาน เพราะอันที่จริงแล้วเธอเปิดบริษัทนี้เมื่อปีก่อน กะว่าจะทำเล่นๆแก้เหงาแต่เอาไปเอามากลับดีเกินคาด เมื่อทั้งพวกคุณหญิงคุณนายต่างติดต่อมาให้ไปจัดงานให้ ทั้งงานคิดเงินและงานการกุศลคุณหญิงสายใจรับทำหมด ตอนนี้จากบริษัทเล็กๆก็กลายเป็นใหญ่โตจนผู้จัดการถึงกับขอลาออกกลางอากาศไปเรียบร้อยแล้ว
“เฮ้อ...ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวลูกจันทร์จัดการเอง”
“งั้นเดี๋ยวแม่จะเลี้ยงเจคเอง ไม่ต้องห่วงนะลูก”
ลูกจันทร์อดมองมารดาอย่างรู้ทันไม่ได้ เมื่อคุณหญิงสายใจนั้นติดหลานชายแจขนาดนี้ อีกอย่างยังไงเธอก็ไม่มีงานทำอยู่แล้ว จะกลับไปทำงานมหาวิทยาลัยก็คงไม่มีใครอยากจ้างเมื่อเธอนั้นทั้งเลี้ยงลูกทั้งเรียนต่อจนได้ปริญญาเอกมาอีกใบ คงไม่มีที่ไหนอยากจ่ายเงินจ้างเธอแน่นอน
และหลังจากวันนั้นลูกจันทร์ก็เข้าไปศึกษาดูงานที่บริษัทของมารดา จากบริษัทจัดงานเลี้ยงธรรมดาๆกลับกลายเป็นบริษัทที่มีระบบระเบียบการทำงานตามมาตรฐานสากลเมื่อลูกจันทร์เข้ามาจัดระบบใหม่ทั้งหมด ทั้งยังรับพนักงานเพิ่มและเพิ่มตำแหน่งต่างๆจนพวกพนักงานพากันตื่นเต้นดีใจ เพราะปกติแล้วคุณหญิงสายใจมักจ้างพวกคนไร้บ้านบ้าง คนจรบ้าง หรือพวกตกงานเพื่อให้มีงานทำมีเงินใช้แถมหาที่พักให้อีก เรียกได้ว่าเป็นบริษัทเพื่อการกุศลอย่างสมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้