“คุณมีอะไรก็พูดมาได้เลยค่ะ ฉันมีเวลาไม่มาก” พูดพลางเก็บขนมออกจากตู้ ขนมเหลือประมาณ 7 กล่อง ฉันคิดว่าจะเอาไปฝากครูของปลายฝันที่โรงเรียน เมื่อถามแล้วเฮียเฟยเงียบฉันจึงต้องหันมามอง ทว่าก็ชนเข้ากับอกแกร่งจนได้ และยังเผลอสบตาเขาด้วย
ฉันรีบถอยห่างเมื่อได้สติ แต่เฮียเฟยล็อกตัวฉันไว้ด้วยอ้อมแขนของเขา “ปะ ปล่อยค่ะ…”
พูดไม่ทันจบริมฝีปากของเราทั้งคู่ประกบกัน เฮียเฟยพยายามสอดใบลิ้นเข้ามาในปากฉัน และเขาทำมันสำเร็จ หวนให้นึกถึงครั้งแรกที่เราจูบกัน ความรู้สึกตอนนี้มันช่างแตกต่างจากจูบที่เคยได้รับ
‘งื้อ ฟันเราชนกันเลยค่ะเฮีย’
‘ก็เฮียไม่เคยจูบใคร น้องไปรท์เป็นคนแรกเลยนะ’
‘ไปรท์ก็ไม่เคยจูบใครเหมือนกัน’
‘งั้นเราค่อยเป็นค่อยไปเนอะ’
‘ค่ะ แต่ต้องสัญญาก่อนนะคะว่าเฮียเฟยจะจูบกับไปรท์แค่คนเดียว’
‘แล้วน้องไปรท์สัญญาหรือเปล่าว่าจะมีแค่เฮียคนเดียว’
‘สัญญาสิคะ ไปรท์รักเฮียเฟย ไปรท์จะรักษารักของเราให้ดีที่สุด รักเฮียเฟยนะคะ’
จูบที่เขามอบให้ในวันนี้มันแตกต่างจากจูบที่เคยจูบกันมาหลายต่อหลายครั้ง เขาดูชำนาญขึ้นเยอะ และฉันเผลอน้ำตาไหลออกมาจนได้
“ไม่คิดถึงกันบ้างเลยเหรอ” คือคำถามเมื่อเฮียเฟยถอนจูบออกและวางมือแตะลงที่ศีรษะฉัน
ฉันปาดน้ำตาออกจากใบหน้า รวบรวมสติและผละเขาออก “ทีหลังอย่าทำแบบนี้นะคะ”
“ทำไมจะทำไม่ได้ ในเมื่อเฮียคิดถึงไปรท์”
“อย่ามาคิดถึงผู้หญิงเลว ๆ อย่างฉันเลยค่ะ ฉันทิ้งคุณ คุณจำไม่ได้หรือไง”
“จำได้สิ แล้วก็อยากจะถามมาตลอดว่าทิ้งเฮียทำไม ไหนบอกจะอยู่ด้วยกันไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ พอเกิดเรื่องทำไมเป็นอีกคน”
“ก็พอเอาเข้าจริง ๆ มันไม่ง่ายอย่างที่พูดไงคะ ใครจะยอมทิ้งอนาคตที่ดีเพื่อดูแลรักษาคนที่ไม่รู้ว่าจะพิการตลอดชีวิตหรือเปล่า ในเมื่อทางเลือกที่ดีมันอยู่ตรงหน้า ใครจะเลือกเดินทางลำบากกัน”
“ทั้งที่มันพิการเพราะช่วยชีวิตเธอน่ะเหรอ” สร้างความตกใจให้ฉันเป็นอย่างมากเมื่อน้ำตาเฮียเฟยไหลพรากและมองฉันด้วยสายตาที่เจ็บปวด
ฉันกำลังรอเฮียเฟยมารับที่ร้านขายอุปกรณ์ข้างมหา’ลัยระหว่างนั้นก็ก้มกดโทรศัพท์ดูงานกลุ่มที่อาจารย์สั่งในกลุ่มไลน์ แล้วจู่ ๆ ตัวฉันก็ถูกผลักไปอีกทางพร้อมเสียงเรียกชื่อ จากนั้นชั่วพริบตาก็มีเสียงดัง โครม! เกิดขึ้น
หันกลับมาฉันเห็นเฮียเฟยล้มลงเลือดอาบตัวเต็มไปหมด ฉันรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งมาหาเขา “เฮียจ๋า เฮียเจ็บไหม อดทนนะ อย่าทิ้งไปรท์นะ อย่าทิ้งไปรท์ ห้ามทิ้งไปรท์นะคะ สัญญานะ”
น้ำตาฉันไหลออกมาโดยอัตโนมัติ ทั้งตกใจทั้งเป็นห่วง กลัวว่าเขาจะจากฉันไป สภาพเฮียเฟยหนักมาก รถพุ่งชนเขาเต็มแรง ทว่าเขาก็ยังห่วงฉัน เอ่ยถามฉันด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ซ้ำเลือดยังไหลออกจากปาก “เจ็บตรงไหนไหม”
“ไม่ค่ะ ไปรท์ไม่เจ็บเลย เฮียเฟยอดทนหน่อยนะ เสียงรถพยาบาลกำลังมาแล้ว ห้ามทิ้งไปรท์ไปไหนนะคะ”
“น้องไม่เจ็บก็ดีแล้ว เฮียรักไปรท์นะ รักไปรท์มาก ๆ เลย”
“ไม่เอาไม่พูดแล้ว ห้ามพูดนะคะ เก็บแรงไว้ เดี๋ยวหายไปรท์จะอยู่ให้เฮียบอกรักไปตลอดชีวิตเลย” ฉันพูดพลางล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเลือดจากใบหน้าให้เฮียเฟย เลือดเขาเต็มท้องถนน ฉันไม่รู้เลยว่าควรทำยังไง ใจจะขาดฉันเพิ่งเข้าใจความรู้สึกก็วันนี้ว่าเป็นแบบไหน ฉันทำได้แค่ร้องไห้จับมือของเฮียไว้ให้แน่น พูดบอกให้เขาอดทน อดทนอีกนิด อดทนไว้ก่อนเดี๋ยวหมอก็มา นั่งกอด นั่งเช็ดเลือดที่ไหลตามใบหน้า
“ทั้งที่มันไม่ห่วงอนาคตตัวเอง ไม่คิดหน้าคิดหลังยอมเสียโอกาสคว้าตำแหน่งเข้าร่วมทีมชาติเพื่อช่วยชีวิตของเธอ แต่เธอตอบแทนด้วยการกระทำแสนระยำ แล้วตอนนี้ยังพ่นคำเหี้ย ๆ ออกมาเนี่ยนะ ฉันไม่น่าไปหลงรักเธอเลย ฉันไม่น่ารู้จักเธอ” เฮียเฟยจับบ่าทั้งสองข้างของฉันแล้วเขย่าแรงมาก ๆ ด้วยความโกรธ ตั้งแต่รู้จักกันมาเขาไม่เคยทำรุนแรงแบบนี้กับฉันสักครั้ง
“ขอบคุณและขอโทษค่ะ” นี่คือสิ่งที่ฉันฝากลมฝากฟ้ามาบอกเขาทุกวัน ซึ่งวันนี้ฉันได้บอกเขาตัวเป็น ๆ
“ขอโทษ? ขอบคุณ? แค่นี้เหรอ เธอเป็นหนี้ชีวิตฉันนะ เธอติดค้าง แต่มีปัญญาพูดแค่นี้ เหอ น่าขำ”
“พูดมาแบบนี้จะให้ทำยังไงคะ จะเอายังไงก็บอกมาได้เลย”
“ชดใช้สิ ชดใช้มาให้ฉันจนกว่าฉันจะพอใจ” นี่ใช่ไหมที่ว่าเอาคืน ก็เอาสิ ในเมื่อหลายปีที่ผ่านมาก็เหมือนฉันเอาชีวิตของเขามาใช้ ถ้าไม่ได้เขาในวันนั้น วันนี้คงไม่มีฉัน พูดง่าย ๆ ว่าฉันคงจะตายเพราะอุบัติเหตุครั้งนั้นไปแล้ว
“แบบไหนคะ ให้ฉันขาหัก พิการแบบที่คุณเคยเป็น หรือให้ฉันตาย คุณต้องการแบบไหน บอกมาเลยค่ะ ฉันพร้อมจะชดใช้”