Chapter 19 แผนซ้อนแผน
ฉันทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเตียงนอนอย่างเหนื่อยล้า หลังจากรู้ว่าผู้ชายอีกคนเป็นสามีของเพื่อนไปแล้ว ฉันเปิดลิ้นชักหยิบแฟ้มประวัติของ ทวิชขึ้นมามอง
“อย่างน้อยฉันก็ได้รู้ว่าเขาก็เป็นผู้ชายที่ดีพร้อมและเหมาะสมสำหรับเธอนะป่าน”
ฉันหย่อนเอกสารลงในลิ้นชักเหมือนเดิม หยิบปากกาขึ้นมากากบาททับวันที่ในปฏิทินอีกหนึ่งวัน บนปฏิทินฉันวาดรูปการ์ตูนเจ้าบ่าวเจ้าสาวเอาไว้ที่จุดหมายปลายทาง
“เหลือเวลาอีกแค่ 63 วันแล้วสินะ ฉันไม่มีทางเลือกอื่น ต้องเดินหน้ารบราฆ่าฟันกับหม่อมหลวงเพลย์บอยนั่นจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย” คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา
“ไม่น่าปากพล่อยเลยเรา แล้วจะใช้วิธีการไหนไปทำความรู้จักกับเขากันเนี่ย หมอนั่นสนใจนมมากกว่าหน้า สนใจโคนขามากกว่าอยากรู้จักชื่ออีก เขาไม่มีทางสนใจฉันแน่นอน”
ฉันถอนหายใจและลุกขึ้นจะไปห้องน้ำ อย่างน้อยการได้แช่น้ำอุ่นคงทำให้สมองปลอดโปร่งและคิดอะไรออกได้มากขึ้น แต่เสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้นแทรกจังหวะ ฉันหันกลับไปมองตามเสียงเคาะอย่างแปลกใจ เวลาขนาดนี้ไม่น่าจะมีใครกล้าขึ้นมารบกวน
“ใคร”
“ฟ้า ใส เองค่ะ” น้ำเสียงติดๆ ขัดๆ สั่นเครือดังเล็ดลอดผ่านประตูเข้ามา
“มีอะไร” ฉันเดินไปเปิดประตู
“คุณท่านให้เชิญตัวไปพบที่ห้องทำงานค่ะ”
“คุณพ่อบอกหรือเปล่าว่ามีธุระด่วนอะไร”
เด็กฟ้าใสรีบส่ายหน้า “ฟ้าใสไม่กล้าถามค่ะ”
“ฉันรู้แล้วละน่าว่าแกไม่กล้าถาม แต่อยากรู้ว่าคุณพ่อบอกหรือเปล่าว่าเรียกฉันไปพบเรื่องอะไร”
“ท่านไม่ได้บอกค่ะ”
ฉันยกข้อมือมองเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนหรู “ 5 ทุ่ม คุณพ่อเพิ่งกลับมาเหรอ”
“ค่ะ ท่านกลับมาแล้วก็เดินเข้าห้องทำงานเลยค่ะ” คำตอบทำให้ฉันรู้ว่าน่าจะเป็นธุระด่วน ฉันพยักหน้าให้เด็กฟ้าใสเล็กน้อย
“โอเค” ฉันเดินตามเด็กฟ้าใสที่เดินนำหน้าไปก่อน จนกระทั่งถึงห้องทำงานของพ่อ
ห้องทำงานเป็นห้องที่พ่อใช้ได้คุ้มค่ามากที่สุด แม้จะกลับดึกดื่นๆ แต่ท่านก็ยังเข้าไปทำงานต่อในห้องทำงาน บ่อยครั้งที่ฉันเห็นท่านนอนอยู่ในห้องนั้น และฉันคงได้เลือดพ่อมาเต็มๆ
ประมุขของบ้านเงยหน้าขึ้นสบตาฉัน “คุณพ่อมีอะไรด่วนกับดาวหรือเปล่าคะ”
“ไม่ได้เจอกันเลย โครงการที่เขาใหญ่เป็นยังไงบ้าง”
“ดำเนินการไปได้ 20 เปอร์เซ็นต์ค่ะ ช่วงนี้ดาวก็ไปๆ มาๆ ระหว่างเขาใหญ่กรุงเทพฯ ”
“วันศุกร์ที่จะถึงนี้ แกช่วยพาแขกของพ่อไปดูบ้านโครงการที่เขาใหญ่ที เอาหลังใหญ่ที่สุดและให้เลือกวิวได้ตามใจชอบ”
“ใครคะ”
“หม่อมพิศพิไล”
“ทำไมหม่อมถึงอยากซื้อบ้านในโครงการของเราคะ”
“เออน่า! สั่งอะไรก็ทำเถอะ”
“ค่ะพ่อ”
ประมุขของบ้านขยับตัวลุกออกจากเก้าอี้ เตรียมที่จะออกไปจากห้องทำงานเมื่อคุยธุระเสร็จเรียบร้อย “ตอนเช้าไปรับหม่อมพิศพิไลที่วังด้วยนะ”
“ค่ะ”
“ฉันมีธุระกับแกแค่นี้ ไปนอนเถอะ” สิ้นน้ำเสียงทุ้มห้าว เจ้าของร่างใหญ่ออกจากห้องทำงานไปก่อน คนได้รับคำสั่งอย่างฉันได้แต่มองตามอย่างไม่เข้าใจ ไอ้ครั้นจะถามก็ไม่พ้นโดนดุอีกตามเคย
รายละเอียดที่ฉันขอถูกวางไว้บนโต๊ะในเช้าของวันต่อมา แต่ฉันไม่มีเวลาดูเอกสารชุดนั้นจนกระทั่งถึงตอนเย็น
กว่าจะสะสางงานของตัวเองเรียบร้อย ซึ่งหมายถึงเลยเวลาเลิกงานปกติไปหลายชั่วโมง ฉันจึงมีเวลามานั่งไล่ดูโฆษณาย้อนหลัง จากตอนแรกที่อยากดูแค่ผลงานของหม่อมหลวงเทวานุพงศ์เปรียบเทียบกับผลงานของเจ้าอื่น แต่ก็เจอสิ่งผิดปกติบางอย่าง
พินทุอรไม่เคยใช้บริการบริษัทโฆษณาที่ฉันเคยใช้มาก่อน และตลอดระยะเวลา 5 ปีก็ผูกขาดกับ Sunshine Production เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ดูจากตารางค่าใช้จ่าย ก็มีงบประมาณเพิ่มมากขึ้นด้วย นั่นทำให้ฉันต้องเรียกดูข้อมูลเพิ่ม
ฉันกดอินเตอร์คอมเรียกเลขาหน้าห้อง ปกติพิมพ์วราจะยังไม่กลับ หากฉันยังอยู่ที่ทำงาน
“พี่พิมพ์ ดาวอยากได้รายละเอียดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาย้อนไปอีก 2 ปีหลังค่ะ”
“สักครู่นะคะ” พิมพ์วราตอบกลับ ผ่านไปสักพักเธอก็กลับเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสารที่ฉันขอ
“พี่พิมพ์กลับเลยก็ได้นะคะ ดาวขออ่านเอกสารพวกนี้สักพัก”
“แฟ้มชุดนั้นมีอะไรผิดปกติหรือเปล่าคะ ปกติพี่ไม่เคยเห็นดาวอ่านเอกสารรายงานซ้ำหลังจากที่เซ็นอนุมัติไปแล้ว”
พิมพ์วรารู้ว่าทุกครั้งที่เจ้านายสาวจะจดปากกาเซ็นเอกสาร เธอจะต้องมั่นใจว่าไม่มีข้อผิดพลาด เพราะคติประจำตัวของเธอคือ…คำว่าแก้ได้คือเหตุผลที่ไร้ความรับผิดชอบ เมื่อต้องกลับมาแก้ไขอีกรอบหมายถึงการบกพร่องของการทำงานขั้นสุด นั่นทำให้พิมพ์วราค่อนข้างแน่ใจว่าเอกสารชุดที่อยู่ในมือเจ้านายสาวมีปัญหา
“ดาวจะรับอะไรเพิ่มหรือเปล่าคะ”
“ไม่แล้วค่ะ ดาวแค่อยากรู้ว่า Sunshine Production ทำไมถึงได้งานต่อเนื่อง 5 ปีโดยไม่มีการเปลี่ยนบริษัทสักครั้ง ทั้งที่ราคาก็เพิ่มสูงขึ้นทุกปี เลยอยากดูตารางเปรียบเทียบจากตอนที่ดาวเคยทำเอง มีตรงไหนแตกต่างกันบ้าง”
“หน้าดาวดูเครียดๆ นะคะ”
“ค่าโฆษณาสูงเกินงบที่บริษัทตั้ง พินทุอรเซ็นอนุมัติค่าใช้จ่ายเกินยอดที่เธอสามารถอนุมัติได้โดยไม่ผ่านดาว ดาวอยากรู้ว่าเธอใช้วิธีการหลีกเลี่ยงยังไงบ้าง”
“เป็นไปได้เหรอคะ พินทุอรเป็นคนเก่งและทำงานดีมาก”
“อาจจะเพราะเธอเก่งมาก กว่าดาวจะเห็นจุดบกพร่องก็ผ่านนาน”
“ดาวก็ยุ่งมาก คงไม่มีเวลามาตรวจสอบรายละเอียดทุกอย่างได้หมด มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่พิมพ์กลับบ้านได้แล้ว ดาวได้ข้อสรุปแล้ว แต่ขอเปรียบเทียบรายละเอียดนิดหน่อยเอง”
“โอเคค่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะคะ”
“ค่ะ” พิมพ์วราเดินออกจากห้องไป ฉันรีบเปิดแฟ้มเอกสารที่ พิมพ์วราถือเข้ามาให้ นั่งอ่านไปจนกระทั่งเวลาผ่านไปอีกหลายชั่วโมง
ฉันตื่นเข้าออฟฟิศแต่เช้าเพราะเรื่องของเมื่อวานติดค้างไปก่อกวนในความฝันจนทำให้หลับไม่เต็มตื่น ไม่คิดว่าตัวเองบกพร่องจนไว้ใจคนผิด ถ้าเป็นแผนกอื่นฉันก็คงไม่โกรธเท่านี้
เพราะเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานมาก ความเฉียบขาดและการตัดสินใจของฉันเป็นสิ่งที่ทุกคนในบริษัทรู้ดี คนทำงานดีจะได้รับการตอบแทนที่คุ้มค่า แต่หากว่าเป็นอีกอย่าง ฉันก็ไม่เคยปล่อยคนประเภทนี้เอาไว้ในบริษัทเช่นกัน
แต่ถึงฉันจะดุและเฉียบขาด ฉันก็ไม่เคยตัดสินคนโดยที่ยังไม่รู้เหตุผล เพราะฉะนั้นฉันจะให้โอกาสพินทุอรได้อธิบาย
พิมพ์วราตกใจไม่น้อยที่เห็นฉันที่ออฟฟิศตอน 7 โมงเช้า ฉันเดา สีหน้าของเธอออกโดยที่ไม่ต้องบอกออกมา
“มาแต่เช้าเลยนะคะ” พิมพ์วราพยายามทำตัวปกติเอ่ยทักฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ค่ะ...ดาวขอกาแฟด้วยนะคะพี่พิมพ์”
“ได้ค่ะ” พิมพ์วราหมุนตัวเดินไปจัดการตามหน้าที่ของตัวเอง ฉันเดินตรงเข้าไปในห้องและเปิดแฟ้มเอกสารอ่านอีกรอบ
ไม่นานพิมพ์วราก็นำกาแฟเข้ามาเสิร์ฟ มีเลมอนเค้กเสิร์ฟคู่มาด้วย