กลางดึกคืนนั้น
“ทำไมต้องดื่มหนักขนาดนี้ด้วยฮึยัยเห็ด” เขาแบกนิรินขึ้นบ่าเดินขึ้นบันไดมา
ก่อนที่จะแบก เขาลองมาแล้วทุกวิธี ทั้งพยุง ก็แสนจะทุลักทุเล เพราะเนื้อตัวคนเมาอ้อแอ้เหลวเป๋ว ทำท่าว่าจะไหลลงไปนอนที่พื้นได้ทุกเมื่อ กับขนาดตัวที่ต่างกันมากจนเขาไม่สามารถเอาแขนนิรินขึ้นมาพาดที่คอได้ หรือจะค่อยๆ ประคองตัวเจ้าหล่อนเดิน ที่เดินไปซ้ายที เป๋ไปทางขวาที เดินหน้าก้าวนึง ถอยหลังอีกสี่ก้าว ถ้าไม่แบก คืนนี้อาจไม่มีใครได้นอน
“ก็ หวาน อาหย่อย เหล้าอา หย่อย”
“เฮอะ ! เหล้าหวานหรือไม่กล้าปฏิเสธคนยื่นให้กันแน่” พูดถึงแล้วยิ่งโมโห
สมัยก่อนเขาต้องคอยกันผู้คนจากยัยช่อ พอน้องสาวเขาท้องโตออกงานไม่ได้แล้ว เจ้าเด็กหนุ่มพวกนั้นก็เบนเข็มมาที่ยัยเตี้ยของเขากันหมด ส่วนยัยเด็กนี่ก็กระไร อัธยาศัยดี ยิ้มแย้ม ต้อนรับขับสู้ทุกคน อย่างกับเป็นเจ้าของงานซะเอง
“พี่ช้าดดดด หึงอีกแล้วเหรอ”
“รู้แล้วทำไมต้องให้พูด” เขาก็พูดจาโต้ตอบกับคนเมาแบบรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง มาตลอดทาง
ที่พูดกันได้ ก็เพราะมีแค่เขากับยัยเตี้ยนี่แหละ แม่กับพี่นุชพอเจอคนในวงสังคมเดียวกัน อายุใกล้กัน ชอบในเรื่องคล้ายๆ กัน เมื่อจบงานเลี้ยง แต่คนไม่จบ จึงชวนกันไปต่อในเพนท์เฮ้าส์หรูสักที่ ตามประสาคนอยากปล่อยแก่ เขาโทรกลับมาเรียกให้เจ้าชินจัดคนสักสามสี่คนคอยดูแลเรื่องความปลอดภัยของแม่กับพี่นุชอยู่ห่างๆ
ส่วนเจ้าเชษฐ์นั้นหนักกว่าคนที่เขาแบกอยู่อีก ไม่รู้ไปกระสันแอลกอฮอล์มาจากไหน ดื่มซะหลับยาวไม่รู้เรื่องอยู่บนรถตู้ น้องชายเขาคนนี้นิสัยแปลก ถ้าดื่มจนถึงขั้นหนึ่งจะหาที่นอนเลย ตรงไหนมันก็นอนได้หมด ที่ว่าแปลกก็คือ ไม่ว่าจะปลุกให้ตายยังไง เจ้าเชษฐ์ก็จะไม่รู้สึกตัว นี่ก็ได้คนของเจ้าชินช่วยกันหามเข้าห้องไปแล้ว
ที่จริงเจ้าชินก็เสนอให้การ์ดช่วยอุ้มนิรินให้ แต่เรื่องอะไรเขาจะยอม
“ถึงเตียงแล้ว นอนทั้งอย่างนี้ไปก่อนนะ”
“เตียงคราย คะ เตียงพี่ช้าด รึเปล่า”
เขาค่อยๆ วางร่างเล็กลงที่เตียง แม้จะผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่เมคอัพบนหน้ากับเนื้อตัวหอมกรุ่น ส่งกลิ่นจางๆ ยังเหมือนตอนที่ออกไปจากบ้านเมื่อเย็นแทบจะไม่ผิดเพี้ยน
“ทำไม ? อยากนอนเตียงพี่หรือไง” คราวนี้ยัยตัวเล็กส่ายหน้าช้าๆ คงมึนน่าดู แถมยังพยายามต่อสู้กับหนังตาตัวเองที่อยากจะลืมขึ้นยังไง ก็หนักอึ้งจนสู้ไม่ไหว
“ไม่ได้อยากนอนเตียงพี่ ซ้ากโหน่ย”
“ไม่อยากนอนแล้วถามทำไม”
“ไม่อยากนอนเตียง แต่อยากนอนกับพี่ช้าด นอนด้วยกันน้า”
ยัยเตี้ยรุกหนักด้วยการวาดมือมาโอบรอบคอเขาแล้วรั้งเข้าหา
“ถ้าพี่นอนด้วยจริง เราจะไม่ได้นอนน่ะสิ” เขาใช้หลังนิ้วไร้ไปตามสันจมูกเล็กอย่างเอ็นดู
แต่ใกล้กันขนาดนี้ เห็นแก้มนวลๆ สีชมพูเข้มจากฤทธิ์เหล้า แพขนตางอนเด้งที่ถูกแต่งแต้มจนหนา สวยแปลกตากว่าที่เคยเป็น ปากนิด จมูกหน่อยแบบนี้ จะให้เขาอดใจไหวได้ยังไง
“พี่ขอค่าเหนื่อยหน่อยนะครับ”
เขาจรดริมฝีปากปากลงไปที่มุมปากสีระเรื่อ จมูกเขาที่แตะแต้มอยู่บนแก้มนิ่มนี้ให้ความรู้สึกดีเกินบรรยาย เข้าใจแล้วว่าทำไมคนถึงชอบหอมแก้มเด็กซ้ำๆ หลายทีกันนัก กับแก้มของนิรินก็ไม่ต่างกัน
ถ้าเขาจะขอค่าเหนื่อยเพิ่มอีกสักหน่อย จะเป็นอะไรหรือเปล่า...
ชัชวินถอนหายใจนับสิบรอบหลังเข้ามาในห้องตัวเองแล้ว นับวันเขาจะยิ่งถลำลึก ถึงรู้ว่าไม่ควรทำ แต่เมื่อครู่เขาก็เอาเปรียบนิรินไปมากเลยทีเดียว... ที่น่าโมโหก็คือ แม้รู้ว่าผิด แต่เขาก็ยังไม่อยากหยุดตัวเองอยู่ดี
เขาจัดการดับทุกความต้องการด้วยการอาบน้ำ เนื้อตัวที่เปียกชุ่มมีหยดน้ำพราว เมื่อรับกับแอร์เย็นฉ่ำในห้องแล้วให้ความรู้สึกเย็นเยียบไปถึงในกระดูก แต่ขณะที่กำลังเช็ดผมอย่างลวกๆ อยู่นั้นกลับได้สัมผัสถึงความอุ่นจากผ้าขนหนูอีกผืนที่ห่มคลุมมาให้
“เฮ้ย !”
“นิลเช็ดให้นะคะ” เธอไม่ตกใจหรอก เพราะคาดเอาไว้แล้ว ดีเท่าไรที่พี่ชัชไม่ผลักเธอจนกระเด็น
เขาขยี้ตาให้ชัด นี่เขาเอาแต่คิดถึงเธอจนขนาดเห็นภาพหลอนแล้วเหรอ แต่ภาพหลอนนี่มีกลิ่นหอมสะอาดเหมือนคนเพิ่งอาบน้ำ ทาครีมมาด้วยได้หรือไง
“เข้ามาได้ยังไงฮึ”
“พี่ชัชไม่เคยล็อกห้องนี่คะ” แต่คืนนี้เธอว่าเขาควรล็อกนะ
“พี่หมายถึงเข้ามาทำไม” หวังว่าเสียงเขาจะไม่สั่น เพราะมือเล็กๆ ที่ปัดป่ายอยู่บนอกหรอกนะ
“มาจ่ายค่าเหนื่อยให้พี่ชัชไงคะ” นี่เธอลงทุนล้างเมคอัพออกจนเกลี้ยงเกลา น่าหอม น่าจูบ กว่าตอนที่เขาแอบจูบเธอเสียอีก
ชัดเลย ! เขาโดนเด็กหลอก ยัยเตี้ยแกล้งเมา !