EP.19 หนอนตัวอ้วน

1140 คำ
มยุรีฝันหวานก่อนจะทำท่าแขยงขนเมื่อนึกถึงรูปลักษณ์ของประสิทธิ์ที่ทั้งแก่ทั้งเหี่ยว หัวล้านเตียนโล่งไม่แพ้คุณนิกรผู้จัดการฝ่ายบุคคลของ KPP สักเท่าไรเลย แต่คำพูดต่อของไพโรจน์ก็ทำให้เธอมีภาพใบหน้าหล่อๆ ของเขามาแทนที่ใบหน้าเหี่ยวๆ นั้นได้อย่างอัศจรรย์ ถึงคำพูดเหล่านั้นมันจะไม่ค่อยโสภาสักเท่าไรก็ตาม “เงินหายไปเดือนละหลายๆ ล้าน บริษัทมันคงจะป่วนพิลึกล่ะ หึหึหึ...ต้องโทษไอ้ผู้จัดการ QA. สุดหล่อของเธอนะ อยากได้วัตถุดิบคุณภาพดี ไม่สนิม ไม่ขูดขีด ก็ต้องจ่ายแพงกว่าไงล่ะ แล้วจะได้รู้กันว่าไพโรจน์น่ะรักองค์กรมากกว่าใคร หึหึหึ...รักจนอยากได้อยากครอบครอง ฮ่า ฮ่า ฮ่า...” ห้องประชุมถูกเปิดออกพร้อมๆ กับผู้จัดการแต่ละฝ่ายที่ต่างทยอยกันเดินออกไป ยังเหลือเพียงไพโรจน์ กฤปมัย และดาวินีเท่านั้นที่ยังคงนั่งอยู่ “โชคดีนะครับคุณดิน ที่คุณประสิทธิ์อนุมัติให้รับสินค้าพวกนี้ทั้งหมด ไม่งั้นเราขาดทุนแย่แน่” น้ำเสียงสุภาพส่งออกมาจากร่างสูงใหญ่ราวกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ลูกค้ามีบุญคุณกับบริษัทมาก ที่ยอมรับสินค้าด้อยคุณภาพเหล่านั้นไปใช้ โดยไม่แม้แต่จะออกเอกสารภาคทัณฑ์ที่เรียกกันว่า NCR* ให้กับ KPP เลยสักฉบับ “ครับ ผมก็คิดอย่างนั้น ถ้าลูกค้าไม่รับสินค้าเหล่านั้น บริษัท...คงจะขาดทุนมหาศาลแน่ๆ” เสียงทุ้มราบเรียบเน้นคำว่า ‘บริษัท’ ดั่งจะหักล้างคำว่า ‘เรา’ ที่ไพโรจน์เอ่ยก่อนหน้านี้ และก็ได้เห็นสีหน้าที่ตึงขึ้นของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเป็นของแถม ซึ่งเขาคิดไม่ออกเลยว่าไพโรจน์ใช้กลยุทธ์ไหนทางบริษัทลูกค้าถึงได้ยอมรับสินค้าด้อยคุณภาพนั้นไปได้ หรือว่าตัวหนอนที่ชอนไช KPP ไม่ได้มีแค่หนอนในแผลแต่ยังมีหนอนนอกแผลที่แปลงร่างเป็นแมลงวันแล้วออกไปวางไข่ข้างนอก หรือไม่แมลงวันข้างนอกก็อาจจะบินมาวางไข่ในแผลของ KPP จนทำให้เกิดหนอนตัวอ้วนที่พัฒนาจนกลายร่างเป็นหมีควายขึ้นมาก็ได้ “ถ้าคุณประสิทธิ์ไม่โทรมาบอกผมด้วยตัวเอง ผมคงจะไม่เชื่อนะครับว่าสินค้าด้อยคุณภาพอย่างนั้นลูกค้ายังจะรับได้อีก เพราะลูกค้าเลือกที่จะใช้สเตนเลสเกรดนี้ก็เพราะว่ามันมีคุณสมบัติไม่ขึ้นสนิม ซึ่งหากลูกค้ายอมรับวัตถุดิบปลอมเหล่านี้ก็แสดงว่าไม่เห็นจำเป็นเลยสักนิดที่เราต้องไปซื้อสเตนเลสแพงๆ มาใช้ จริงมั้ยครับ คราวหน้าผมว่าคุณไพโรจน์น่าจะซื้อสเตนเลสท้องตลาดมาใช้ก็พอนะครับ ไม่ต้องใช้ของดีหรอก เพราะยังไงลูกค้าก็ไม่ถือเป็นสาระอยู่แล้ว จริงมั้ยดีดี้” น้ำเสียงอารมณ์ดีที่เอ่ยออกมาแบบไม่สนใจดูสักนิดว่าหน้าของไพโรจน์จะแดงแจ๋ด้วยความโกรธและความอัดอั้นไปขนาดไหนแล้ว ทำให้ดาวินีต้องกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก ก่อนที่ใบหน้านั้นจะหดเหลือ 2 นิ้วเพราะคำถามที่เขาส่งมา “เอ่อ...ฉัน” “ผมว่าให้หน้าที่การซื้อเป็นของผมเถอะครับ แล้วหน้าที่การตรวจสอบคุณภาพเป็นของคุณดิน เพราะคุณดินน่าจะรู้ดีกว่าผมว่าการเปลี่ยนร้านซื้อขายวัตถุดิบนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ โดยเฉพาะทางคุณประสิทธิ์ก็ไว้ใจในคุณภาพของร้านนี้เสียด้วย และอีกอย่างที่นี่ไม่ว่าเอกสารอะไรที่ต้องการคุณแก้วเขาก็หามาให้จนครบ ถ้าเป็นที่อื่นจะวุ่นวายกว่านี้นะครับ” ท่าทางและน้ำเสียงที่เอ่ยเรื่อยๆ คล้ายจะเป็นการอธิบายในความไม่ยุ่งยากลำบากใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่สายตาที่ส่งมานั้นมันหมายถึง เด็กอ่อนกำลังหัดจะก้าวเดินและคงจะอีกนานกว่าที่จะเดินตามทันเฒ่าเจนสนามอย่างเขา “อืม...เอกสารอะไรก็หามาให้จนครบหรือครับ สำคัญนะครับร้านนี้ เที่ยงแล้วผมว่าเราไปหาอะไรทานกันดีมั้ยครับ จะได้คุยเรื่องนี้กันต่อด้วย นะครับคุณไพโรจน์ ผมคงต้องอาศัย...คำชี้แนะจากคุณอีกเยอะ” ชายหนุ่มที่เอามือล้วงกระเป๋าพูดแบบรำพึงรำพันกับตัวเองแต่สายตาที่แสดงออกนั้นมัน ‘นกรู้’ ชัดๆ แล้วจะยังท่าทีสุภาพที่คล้ายอยากจะสร้างสัมพันธไมตรีต่อกันนั้นด้วย จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ได้แต่มองอย่างสงวนท่าที “ผมต้องขอตัวครับ ไม่สะดวก นัดคุณประสิทธิ์ทานอาหารกลางวันน่ะครับ ไปช้าจะไม่ดี” คำพูดอย่างสุภาพก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูบ่งบอกว่าหากเขายังขืนยืนคุยอยู่อย่างนี้ได้ช้าแน่ ‘แมลงวันคงมาวางไข่ไว้ที่นี่จริงๆ หนอนที่นี่ถึงได้ตัวอ้วนนัก’ ความคิดผุดขึ้นพร้อมๆ กับรอยยิ้ม ทว่าดวงตากลับจ้องมองแต่คนที่กำลังเก็บอุปกรณ์ประกอบการประชุม เพราะรู้ว่าหนอนตัวอ้วนก็จ้องมองเธออยู่เหมือนกัน “ดีดี้ไปด้วยกันนะ มยุรีเขาก็ไป จะได้ไปรู้จักลูกค้าไว้ด้วย” คำเอ่ยชวนแกมสั่งพร้อมทั้งให้เหตุผลกันปฏิเสธเพราะหนึ่งนั้นไม่อยากทิ้งเธอให้อยู่กับคนที่ไม่น่าไว้วางใจว่าจะมาล้วงความลับของฝ่ายหรือไม่ สองเพราะอาหารมื้อนี้ถ้าดาวินีไม่ไปก็คงจะไม่อร่อยเท่าที่ควร “เออ...ผู้จัดการคะ ดีดี้ไม่สะดวก” ดาวินีที่สะดุ้งกับคำสั่งแกมบีบบังคับพยายามอย่างยิ่งที่จะใช้สติตัวเองให้ตอบปฏิเสธออกไป ดวงตาสวยหวานหลุบลงต่ำไม่กล้าจ้องสบสายตาจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่มองมาอย่างต้องการบีบคั้นให้เธอตอบรับจะได้รีบพากันออกไปจากห้องนี้เสียที เพราะดูท่าผู้จัดการหนุ่มหล่อนี้จะกัดไม่ปล่อย “ไม่สะดวกไม่ได้นะ นานๆ คุณประสิทธิ์จะให้เข้าพบสักที เป็นโอกาสของเธอแล้วนะจะได้รู้จักท่านไว้” หมื่นคำหว่านล้อมถูกนำมาใช้ ยังไงเสียวันนี้ก็ต้องพาเธอไปด้วยให้ได้ เพราะลูกไก่ตัวน้อยบ่ายเบี่ยงมาหลายครั้งแล้ว “อืม...ดีนะครับ ไปเถอะดีดี้ ผมเองก็อยากรู้จักคุณประสิทธิ์อยู่พอดี มาทำงานตั้งเกือบเดือนแล้ว ยังไม่เคยได้พบคุณประสิทธิ์สักครั้ง จะได้ไปช่วยคุณไพโรจน์อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย ไปกันเถอะครับคุณไพโรจน์ให้คุณประสิทธิ์รอนานจะไม่ดีนะครับ ไปดีดี้” กฤปมัยเอ่ยสนับสนุนรับสมอ้างราวกับว่าเขานั้นก็ได้รับคำเชิญเหมือนกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม