“หลับฝันดีนะลูกพ่อ” สง่าบอกฝันดีลูกสาวคนเดียวของตนเองเมื่อขึ้นมาส่งลูกสาวสุดที่รักเข้านอน
“ฝันดีเช่นกันค่ะพ่อหง่า”
น้ำเสียงหวานบอกฝันดีพ่อผู้ให้กำเนิดกลับเช่นกัน เอณิการ์ ผู้ดี หรือเอ วัย 19 ปี เด็กสาวอาศัยอยู่กับพ่อสองคน แม่ของเธอเพิ่งจะจากไปเมื่อปีที่แล้ว และเธอก็เป็นลูกสาวคนเดียวของนายสง่า เจ้าของร้านไอศกรีมในมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่
เด็กสาวใบหน้าสวยหวาน ผิวขาวนวลอมชมพูต้องแสงของพระจันทร์ในค่ำคืนนี้ที่สาดส่องเข้ามาในห้อง หล่อนนั่งมองกระจกหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแย้มยิ้มกับกระจกโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังมีดวงตาสีเขียวมรกตจ้องมองอยู่ในความมืด
ฮืม!
กลิ่นสาบพรหมจรรย์กระตุ้นให้โดมินิกคำรามพร่าและเฝ้ารอจังหวะจะจู่โจมดวงหน้าหวานของเจ้าของห้องนอนสีชมพูหวานที่เขามาเกาะขอบหน้าต่างเฝ้ามองอยู่
“พรุ่งนี้ไม่มีเรียน ไปช่วยพ่อขายไอศกรีมดีกว่า”
เธอพึมพำกับตัวเองแล้วยื่นมือไปจิ้มกระจกบอกเงาตัวเองที่สะท้อนตรงหน้า เอณิการ์เรียนคณะศึกษาศาสตร์ วิชาภาษาไทย เด็กสาวฝันอยากเป็นแม่พิมพ์ของชาติ เธอจึงเลือกเรียนคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย บวกกับนิสัยที่รักการอ่าน และตอนนี้เธอก็เรียนอยู่ปีหนึ่ง กิจกรรมที่มหาวิทยาลัยเยอะ แต่ก็ไม่ทำให้เหนื่อยกลับสนุกด้วยซ้ำที่ได้ทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัย
ฮืม!
โดมินิกฮึ่มฮั่มอย่างอดทน สองมือกำแน่นเกาะขอบหน้าต่างห้องขนาดเล็กไว้อย่างใจเย็น แต่เหมือนว่าสัญชาตญาณสัตว์ในตัวของเขามันไม่ยอมเชื่อฟัง และทันทีที่ร่างเล็กอ้อนแอ้นลุกขึ้นปิดไฟเดินไปล้มตัวนอนบนเตียง เขาก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในความมืด แม้จะมืดแต่ดวงตาของสัตว์อย่างเขาก็มองเห็นทุกอย่างชัดเจน
ตุ้บ!
เสียงเหมือนมีอะไรดังกระทบพื้นทำให้เอณิการ์เพ่งมองในความมืดด้วยความตกใจ เพราะอยู่ๆ ก็มีเสียงกระแทกดังขึ้นใกล้ๆ แล้วเธอก็ต้องเบิกตากว้างดิ้นรนหาทางเอาตัวรอดในความมืดเมื่อมีอะไรสักอย่างปิดปากของเธอไว้
อือ!
คนที่ทนความกำหนัดของตัวเองไม่ไหวปลุกปล้ำร่างน้อยในความมืด กดร่างเล็กที่ดิ้นรนให้อยู่ใต้ร่าง เอามือหนาของตัวเองออกจากปากเล็กแล้วประกบปากหนาตัวเองบดจูบปิดเสียงร้องของคนตัวเล็กไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกนอกห้อง
“อือ...อ่า...”
เสียงครางอู้อี้ดังลอดออกมาจากริมฝีปากที่บดบี้ขยี้กันและสองมือใหญ่ก็รวบมือเล็กขึ้นตรึงไว้เหนือหัวเพียงมือเดียว ส่วนมืออีกข้างก็กอบกุมเต้าอวบอูมขนาดพอดีมือของตนเอง
“อ่า...หวาน”
โดมินิกผละปากร้อนรุ่มออกมาจากปากน้อยหวานละมุนที่บดขยี้จูบปลุกปล้ำมาไล้เลียริมฝีปากเล็กที่ตนบีบคางเล็กไว้เพื่อไม่ให้สาวน้อยใต้ร่างส่งเสียงร้องเรียกให้คนเข้ามาช่วย
“อือ...อื้อ” ร่างน้อยบิดดิ้นรนขัดขืนไปมาในความมืด และก็ตกใจกลัวกับไฟมุมมืดที่สะท้อนเข้ามาผ่านทางหน้าต่างของห้องกระทบกับดวงตาสีมรกตน่ากลัว
“อ่า...หอมเหลือเกิน กลิ่นเธอทำให้ฉันปวดร้าวสาวน้อย” ดวงตาสีมรกตจ้องมองใบหน้าสวยสั่นกลัวตนเองในความมืด แต่เขากลับมองเห็นมันชัดเจน
“อือ...อื้อ”
เอณิการ์ได้แต่ดิ้นรนไปมาพูดไม่ได้ เพราะมีมือของเขาบีบคางเล็กของเธอไว้
“อ่า...คืนนี้เธอต้องสังเวยร่างให้ฉันสาวน้อย อืม...”
มือใหญ่ข้างที่รวบตรึงมือเล็กทั้งสองไว้เหนือหัวก็เคลื่อนมาลูบไล้ลำคอระหง แล้วโน้มหน้าไปซุกปลายจมูกโด่งกับซอกคอระหงที่บิดเบี่ยงหนีไปมา ยิ่งคนตัวเล็กดิ้น เขายิ่งปวดร้าวต้องการ กลิ่นกายของเธอช่างหอมเย้ายั่วไม่เหมือนผู้หญิงที่เคยผ่านมาของเขา
“อือ...หอมเหลือเกิน อ่า...”
ลากไล้ปลายลิ้นสากกับซอกคอระหงแล้วมาขบเม้มติ่งหูเล็ก แล้วเคลื่อนมาบดจูบปากน้อยที่เคยบดจูบควานกินความหวานก่อนหน้าอีกครั้ง ปากหนาที่บดขยี้กับปากเล็กดูดเม้มเรียวลิ้นน้อยของอีกฝ่ายแม้อีกฝ่ายจะถอยร่นลิ้นหนี แต่ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของโดมินิก
มือใหญ่ปล่อยมือที่บีบล็อกคางเล็กแล้วเคลื่อนมาลูบไล้เรือนกายเล็กของอีกฝ่าย ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาต้องร่วมรักกับเด็กตัวเท่านี้ แต่หล่อนหอมเย้ายั่วเหลือเกิน เขาปรารถนา และเด็กคนนี้นี่แหละที่จะเป็นคนขยายเผ่าพันธุ์ของเขา
“อ่า...อือ”
เสียงครางอู้อี้ดังลอดออกมาจากริมฝีปากที่บดขยี้กันและร่างเล็กก็ดิ้นไปมาใต้ร่างใหญ่โตไม่ยอมให้ความร่วมมือไปกับคนในความมืด แต่หารู้ไม่ว่ายิ่งดิ้นยิ่งเป็นการปลุกเร้าอารมณ์ของสัตว์ป่าในตัวของบุรุษเหนือร่าง
“อ่า...ไม่ไหวแล้ว ฉันอยากได้เธอแม่หนูน้อย อ่า...กลิ่นสาวของหล่อนช่างหอมเหลือเกิน อืม...” เขาครางพร่าด้วยภาษาไทยที่ชัดเจน เขามีแม่นมเป็นคนไทยจึงไม่แปลกที่จะพูดไทยได้ราวกับเป็นเจ้าของภาษา
“มะ...ไม่นะ คุณอย่าทำร้ายหนูเลย หนูกลัว คุณปีศาจ...” เมื่อปากเป็นอิสระ หล่อนก็อ้อนวอนขอร้องคนเหนือร่าง ยิ่งได้เห็นดวงตาสีมรกตทอประกายแสงก็ยิ่งกวาดกลัว
“ชูว์...เด็กน้อยของฉัน เธอถูกฉันเลือกแล้ว อีกอย่างกลิ่นตัวของหนูมันเชิญชวนฉันมาเองนะสาวน้อย” น้ำเสียงแหบพร่าเปล่งออกมาด้วยความยากลำบากแล้วนำมือใหญ่มาขยุ้มขยำสองเต้าเล็กกระเปาะพอดีมือของตนเองแล้วก็บีบเคล้นคลึงขยำเป็นจังหวะ
“อ่ะ...เจ็บ คุณอย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ อ่ะ...อือ” หล่อนดิ้นและจับมือใหญ่ที่ขยำหน้าอกของตนเอง ใบหน้าสวยชื้นเหงื่อและบิดเบี้ยวไปมาด้วยความเจ็บกับสัมผัสที่ไม่คุ้นชิน
“อ่า...หนูไม่เจ็บหรอก สาวน้อยของฉัน เธอจะเสียวมากกว่า เชื่อฉันถ้าไม่อยากตาย”
เขาขู่เสียงเข้มในท้ายประโยค แล้วดวงตาของเขาก็ทอแสงอีกครั้งจนเอณิการ์ไม่กล้าพูดอะไรและดิ้นรนขัดขืนอีก สาวน้อยสั่นกลัวอยู่ใต้ร่างใหญ่โตของบุรุษในความมืด แต่ตาของเขาช่างน่ากลัว ยิ่งได้สบจ้องยิ่งทำให้หนาวสั่นไปทั่วร่างเล็ก
“ว่าง่ายๆ แบบนี้ฉันชอบ ฉันไม่ชอบคนที่ไม่เชื่อฟังฉัน” มือใหญ่ลูบแก้มนวลเนียนและเขาก็รู้ว่าตอนนี้ดวงตากลมโตของหล่อนกำลังมีน้ำเอ่อล้นออกมา
“อือ...คุณอย่าทำอะไรหนูเลยนะคะ คุณ...”
“ฉันแค่สอนให้หนูรู้จักความสุขเท่านั้นสาวน้อย เชื่อฉัน”
น้ำเสียงทุ้มแหบพร่าเปล่งออกมาหลอกล่อเด็กสาวใต้ร่าง แล้วเขาก็ผละร่างขึ้นมานั่งคร่อมหญิงสาวแล้วปลดเปลื้องเสื้อสูทราคาแพงของตัวเองออก และไม่นานท่อนบนของเขาก็เปลือยเปล่า
“คุณจะข่มขืนหนู” หล่อนถามเขาทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าเขากำลังจะทำอะไร
“อย่าใช้คำนั้นกับฉันเด็กน้อย เพราะฉันไม่เคยข่มขืนใคร และหนูก็จะสมยอมและชอบมัน เชื่อฉันเด็กน้อย” จับมือเล็กที่กำเกร็งแน่นข้างลำตัวมาทาบทับหน้าอกกำยำของตนเอง แล้วก็บังคับให้หล่อนคายมือที่กำแน่นออกมาลูบไล้หน้าอกแข็งแรงของตน
“ไม่...คุณเป็นปีศาจ ตาของคุณน่ากลัว มันส่องแสง คุณไม่ใช่คนใช่ไหมคะ คุณ...”
“ชูว์...อย่าพูดแบบนั้น ฉันพิเศษกว่ามนุษย์ธรรมดาทั่วไป”
เมื่อเขาอ้าปากกว้าง เขี้ยวคมของเขาก็งอกยาวออกมา ถ้าหากว่าเปิดไฟหรือกลางวัน เด็กน้อยใต้ร่างคงกรี๊ดสลบไปแล้ว เขาอยากกัดซอกคอของหล่อนเพื่อตีตราจองไว้ และก็เร็วเท่าความคิด เขาโน้มตัวลงไปซุกซอกคอระหงแล้วกัดงับเขี้ยวแหลมๆ เข้ากับซอกคอหอมหวานของเด็กสาว
“อ่ะ...เจ็บ!”
หล่อนอ้าปากกว้างตาค้างในความมืด สองมือก็คว้าไหล่หนากำแน่นเมื่อถูกเขี้ยวแหลมของคนเหนือร่างฝากฝังเข้ามาในซอกคอของตนเอง แม้จะมองไม่เห็นแต่ก็รับรู้ได้ว่าตอนนี้ตัวเองถูกกัดและก็เป็นแผลลึกด้วย กลิ่นคาวเลือดของเอณิการ์คละคลุ้งไปทั่วห้อง
“อ่า...เลือดของเธอหวานมากสาวน้อย ต่อไปนี้หนูเป็นของฉัน หนูต้องตั้งท้องลูกของฉัน ฉันเลือกเธอเด็กน้อย” ไม่รู้อะไรทำให้โดมินิกตัดสินใจเลือกสาวน้อยใต้ร่างเป็นแม่ของลูก แต่สัญชาตญาณบางอย่างสั่งให้เขาพูดและตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรและทำไมต้องเป็นเด็กสาวเอเชียร่างเล็กใต้ร่างคนนี้ด้วย
“หนูไม่เข้าใจ หนูต้องฝันแน่ๆ แต่ทำไมหนูเจ็บคอแบบนี้ หนูมีเลือดไหลด้วย” หล่อนปล่อยมือจากไหล่หนามากุมต้นคอที่รู้สึกเจ็บของตนเองก็รับรู้ได้ถึงความชื้นเหนียวของเลือดที่ซึมไหลออกมาจากแผลที่ซอกคอ
หึหึ...
“มันคงเป็นฝันที่เธอจะจำไปจนตายเลยแหละ เด็กน้อยของฉัน”
ความเจ็บปวดที่ซอกคอและดวงตาสีมรกตทอประกายแสงเรืองรองของคนเหนือร่างทำให้หล่อนไม่อาจเชื่อได้ว่ามันคือความจริง แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงว่าเธอฝัน เธอต้องฝันแน่ๆ เธอคงจะอ่านนิยายแฟนตาซีมากไปช่วงนี้
“หนูฝันแน่ๆ ”
หึหึ...
“ฝันก็ฝันสาวน้อย และตอนนี้ฉันก็ไม่อยากเสียเวลาแล้ว กลิ่นสาบพรหมจรรย์ของหนูทำให้ฉันปวดเอ็นเนื้อกลางร่างมาก” เขาไล้ปลายลิ้นเลียเลือดสาวบริสุทธิ์ที่เปรอะเปื้อนตามขอบปากและเขี้ยวของตนเอง ก่อนจะเก็บเขี้ยวที่งอกออกมาให้กลับเป็นปกติ
“มันคือฝัน ยังไงก็คือฝัน”
หนูน้อยบอกตัวเองแล้วก็ไม่ได้สนใจจะดิ้นรนขัดขืนเหมือนตอนแรก และใจสาวดวงน้อยวัยกระเตาะก็เต้นแรงผิดจังหวะเมื่อถูกถอดเสื้อผ้าออกจนตอนนี้เหลือแต่ร่างเปลือยและมีร่างใหญ่โตของบุรุษในความมืดคร่อมทับเหนือร่างและเขาก็เปลือยเหมือนเธอ จากตอนแรกเขายังมีกางเกงติดกาย แต่ตอนนี้เขาถอดออกหมดแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นไม่รู้อะไรแข็งๆ ดุนดันเบียดสีกับหน้าท้องแบนราบของเธอ