ส่วนสาวใช้และทหารที่อยู่ในคฤหาสน์ที่เห็นเหตุการณ์ ตอนที่ท่านชีควาคิมอุ้มแพรไหมเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวก็พากันแปลกใจที่ท่านชีคยอมให้ผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้เข้าไปในห้องส่วนตัวซึ่งปกติแล้วท่านชีควาคิมจะไม่ให้ผู้หญิงคนไหนเข้าไปในห้องส่วนตัว ขนาดตอนซาลัสหาผู้หญิงมาให้ท่านชีคท่านยังให้พาไปรอที่โรงแรมในตัวเมืองเรยาร่า แต่ทำไมหญิงสาวผู้นี้ถึงได้ทำให้ท่านชีคใหญ่ของพวกเขาเป็นห่วงเป็นใยขนาดนี้
ตอนนี้ในห้องของชีควาคิมเต็มไปด้วยหมอที่พากันรีบมาดูแลแพรไหม ส่วนชีควาคิมและพิรัณญาก็ยืนรออยู่ข้างเตียงด้วยความเป็นห่วงแพรไหม
ในระหว่างรอหมอดูอาการแพรไหมอยู่นั้นพิรัณญาก็หันมาเอ่ยกับ ชีควาคิม
“นี่คุณ ขอร้องล่ะอย่ามายุ่งกับเพื่อนฉันเลย ถึงคุณจะเป็นเจ้าของประเทศนี้ก็ตาม แต่เรื่องของคุณกับเพื่อนฉันมันผ่านมานานแล้ว คุณอย่ามารำลึกความหลังกับเพื่อนฉันเลย ฉันขอเถอะ” พิรัณญาพูดด้วยความโกรธเกลียดชีควาคิม ยิ่งคิดย้อนไปเมื่อสองปีก่อนก็ยิ่งเจ็บปวดแทนเพื่อนรัก
“เจนนี่ฟังพี่ก่อนตอนนั้นมันจำเป็นจริงๆ ” ชีควาคิมพยายามจะอธิบายกับพิรัณญาแต่เธอก็ไม่ยอมฟัง
“อย่ามาเรียกฉันแบบนั้นนะ ฉันกับเพื่อนไม่เคยรู้จักคุณ ถ้าเพื่อนฉันตื่นและหายเมื่อไหร่ฉันจะพาเพื่อนฉันกลับเมืองไทยทันที”
“เดี๋ยวก่อนท่านพี่ ท่านพี่รู้จักพวกเธอมาก่อนเหรอครับ” ชีคราชิดที่ยืนฟังอยู่เอ่ยแทรกขึ้นว่าทำไมพี่ของเขาถึงพูดเหมือนกับรู้จักพวกเธอสองคนมาก่อน
“ไม่ค่ะเราสองคนไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อน” พิรัณญาตอบกลับเร็วพลันโดยไม่รอให้ชีควาคิมได้ตอบ
“เธอ!...ทำไมถึงพูดกับท่านพี่ของเราแบบนี้” ชีคราชิดว่าพิรัณญาด้วยความไม่พอใจที่พิรัณญาไม่ให้ความเคารพพี่ชายของเขา
“ก็ฉันไม่รู้จักแล้วจะให้ฉันเคารพเขาทำไม” พิรัณญาเอ่ยตอบแบบมีน้ำโหขึ้นมาบ้าง ทีเขายังใส่อารมณ์กับเธอได้เลย
“ถ้าเธอไม่รู้ ก็จงรู้ตั้งแต่ตอนนี้เลยแล้วกันว่าท่านพี่ของเราคือชีค วาคิม อับดุลลาห์ ชาอิด มูฮัมหมัด ผู้ปกครองรัฐเรยาร่า และเราคือชีคราชิด อับดุลลาห์ ชาอิด มูฮัมหมัด น้องชายของชีควาคิม และ...” ระหว่างที่ชีคราชิดกำลังจะพูดต่อนั้นแพรไหมก็รู้สึกตัว
เมื่อพิรัณญาเห็นแพรไหมรู้สึกตัวก็วิ่งเข้าไปดูอาการและถามหมอทันทีว่าเพื่อนของเธอเป็นอะไรมากไหม
“หมอคะเพื่อนฉันเป็นอะไรมากไหมคะหมอ? ”
“ไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วครับแค่ตกใจเลยเป็นลมครับ”
“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยดูอาการเพื่อนฉัน”
“ไม่เป็นไรครับมันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว” แล้วหมอก็หันไปทำความเคารพท่านชีคทั้งสองก่อนที่อามีนจะเดินไปส่ง เมื่อหมอออกไปแล้วชีควาคิมก็เดินไปนั่งข้างเตียงของแพรไหมเพื่อถามอาการด้วยความห่วงใย
“วินนี่เป็นไงบ้างค่อยยังชั่วรึยัง? ” ชีควาคิมถามด้วยความห่วงใยแต่แพรไหมกลับไม่สนใจความห่วงใยจากชีควาคิมแม้แต่น้อย หญิงสาวหันไปพูดกับพิรัณญาแทน
“เจนนี่ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะ เรากลับประเทศไทยตอนนี้เลยฉันไม่อยู่แล้วที่นี่ ฉันอยากกลับบ้าน”
พอตื่นขึ้นมาแพรไหมก็ชวนพิรัณญากลับประเทศไทยทันทีโดยไม่สนใจผู้ชายที่กำลังนั่งหน้าดำหน้าแดงด้วยความโกรธอยู่ข้างเตียง ทันทีที่เธอฟื้นขึ้นมาแทนที่จะตอบคำถามเขาแต่เขาก็ไม่ได้โกรธเธอเพราะเรื่องนั้น แต่เขาโกรธเธอเพราะเธอจะเดินทางกลับประเทศไทยทั้งๆ ที่เพิ่งเดินทางมาถึงเรยาร่าได้ไม่นาน
“ได้วินนี่ งั้นเราให้คุณซาลัสไปส่งที่โรงแรมในตัวเมือง ค้างที่นั่นสักคืนแล้วค่อยจองตั๋วกลับแกว่าไงวินนี่” พิรัณญาเห็นด้วยกับเพื่อนพร้อมกับเอ่ยถามแพรไหมเพื่อขอความคิดเห็น หญิงสาวก็ไม่อยากให้เพื่อนอยู่ใกล้ชีควาคิม ยิ่งเพื่อนเธออยู่ใกล้กับเขามากเท่าไหร่ มันยิ่งจะทำให้เพื่อนเธอเจ็บปวดและลืมเขาไม่ได้สักที
“ไม่! พวกเธอสองคนจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วพวกเธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะออกไปจากประเทศนี้ คิดดูให้ดีนะถ้าพวกเธอไปแล้วความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะเป็นยังไง” ชีควาคิมตวาดดังลั่นจนทุกคนในห้องที่รู้จักชีควาคิมดีว่าเวลาโกรธแล้วจะเป็นยังไงก็แทบอยากหนีออกจากห้องนี้ไปให้พ้น แต่ในห้องนี้มีเพียงแค่สามคนเท่านั้นที่ไม่กลัว คือ ชีคราชิด แพรไหมและก็พิรัณญาที่ไม่รู้สึกกลัว
“ทำไมจะไม่ได้ก็ในเมื่อมันเป็นความต้องการของฉัน” แพรไหมสวนกลับทันทีที่โดนขัดใจ
“ไม่ได้เราบอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้” ชีควาคิมตวาดออกมาด้วยความโกรธ
‘พี่ไม่ยอมให้วินนี่ต้องหลุดมือพี่ไปอีกเป็นครั้งที่สองอีกเป็นแน่’ ชีควาคิมเอ่ยรำพึงกับตัวเอง
“ถ้ายังดื้อที่จะกลับก็อย่าหวังเลยว่าประเทศไทยจะได้รับน้ำมันดิบจากเรา ทางเราจะยกเลิกการค้าขาย และการร่วมหุ้นทำธุรกิจกับประเทศของเจ้า คิดดูให้ดีนะ หึหึ” ชีควาคิมจำเป็นต้องยกเอาเรื่องนี้ขึ้นมาขู่ เพื่อหญิงสาวจะได้อยู่ที่นี่ต่อไปตามที่เขาต้องการ เขารู้ดีว่าแพรไหมเป็นคนเห็นแก่คนอื่นเสมอถึงมันจะเป็นความคิดที่งี่เง่าก็ตามเถอะ
‘มันมีที่ไหนกันเรื่องช่วยเหลือน้ำมงน้ำมันและการสนับสนุนอย่างที่พี่ชายเขายกมาเป็นเหตุผลเพื่อรั้งให้ผู้หญิงสองคนนี้อยู่ที่นี่ต่อเนี่ยนะ หึหึ...’
ชีคราชิดยืนขำพี่ชายตัวเองที่แต่งเรื่องมาโกหกหญิงสาว เพื่อจะให้อยู่เรยาร่าต่อเนี่ยนะสงสัยพี่เขาจะเอาจริงกับผู้หญิงคนนี้ คิดแล้วเขาก็หันไปมองผู้หญิงอีกคนที่เป็นเพื่อนเธอที่เขาปะทะคารมด้วย เขาก็รู้เลยว่าดื้อรั้นไม่ยอมคนแน่เลยและยังเป็นผู้หญิงที่สวยไม่แพ้เพื่อนเธอเลย พวกเธอสองคนสวยแก่นเซี้ยวแสบกินกันไม่ลงเลยก็ว่าได้ เท่าที่เขาสังเกตลักษณะท่าทางดู เขาก็ตกหลุมรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอลงจากรถแล้วแต่เขาก็แสร้งเก็บความรู้สึกไว้
“ได้ค่ะเราสองคนจะอยู่ที่นี่ แต่ระหว่างที่เรารอจนกว่าจะถึงวันงานคุณห้ามมาให้ฉันเห็นหน้าและห้ามมายุ่งกับฉันและเพื่อน ถ้าคุณทำตามที่ฉันขอได้ฉันกับเพื่อนถึงจะอยู่ที่นี่” แพรไหมคิดตามคำชีควาคิมอธิบายให้ฟังอย่างละเอียดดีแล้วเธอก็ตัดสินใจจะอยู่ที่นี้ต่อ ในเมื่อได้ตัดสินใจมาแล้ว ถ้าเดินถอยหลังกลับก็ยอมแพ้สิ หึหึ
ส่วนชีควาคิมเมื่อได้ยินว่าแพรไหมจะอยู่ที่นี่ต่อก็ดีใจแต่ความดีใจต้องหยุดลง เมื่อคำพูดต่อมาของแพรไหมว่าจะอยู่ที่นี่แต่ห้ามให้เขามาให้เธอเห็นหน้าและยังห้ามมายุ่งกับเธออีก จะให้เขาทำได้ยังไงก็ในเมื่อเขารอวันนี้มานานมากกว่าจะถึงวันนี้ แต่ยังไงเขาต้องตกลงตามที่เธอพูดแค่สองวันเอง เขาต้องการรั้งให้เธออยู่ที่นี่กับเขาตลอดไป เดี๋ยวค่อยคิดหาแผนการที่จะรั้งเธอทีหลังทั้งตัวและหัวใจดีกว่ายังไงตอนนี้ก็ยอมๆ ไปก่อนแล้วกัน
“ได้เราตกลงตามที่พวกเธอต้องการ” ชีควาคิมเปลี่ยนสรรพนามทันทีเพื่อให้ดูเป็นทางการ ทีหญิงสาวยังทำเหมือนไม่เคยรู้จักเขาเลยทำไมเขาจะทำไม่ได้
“ขอบคุณค่ะท่านชีคที่ตกลงทำตามที่เราต้องการ” ในเมื่อเขาพูดเป็นทางการ หญิงสาวก็ขอพูดบ้าง
“ไม่เป็นไร พวกเธอเป็นแขกของเรา ทางเราต้องยอมทำตามที่แขกต้องการอยู่แล้ว” ชีควาคิมเอ่ยด้วยความเฉยชาต่อแพรไหม หญิงสาวเฉยชากับเขาก่อนเองดีเหมือนกันเธอจะได้รู้อีกด้านหนึ่งของเขาว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นยังไง ‘แพรไหมบังคับให้พี่ต้องเล่นบทโหดเองนะอย่ามาเสียใจทีหลังละกัน หึหึ’ ประโยคหลังเขาเอ่ยต่อในใจ
“ขอบคุณค่ะท่านชีคที่ให้เกียรติเราสองคนว่าแต่ว่าห้องพักของเราอยู่ไหนคะ เราสองคนอยากนอนพักผ่อนแล้วค่ะ เพราะเราเหนื่อยกับการเดินทางมาก....” แพรไหมอยากออกไปให้พ้นห้องนี้เต็มแก่แล้วในตอนนี้ ยิ่งเห็นหน้าชายคนที่รักยิ่งเจ็บ
“เราขอโทษที่ไม่ได้พาไปที่พักและลืมแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ เราชีควาคิม อับดุลลาห์ ชาอิด มูฮัมหมัด และนั่นน้องชายของเราชีคราชิด อับดุลลาห์ ชาอิด มูฮัมหมัด” ชีควาคิมแนะนำพร้อมกับผายมือไปทางน้องชายของตนเองที่ยืนส่งยิ้มมาให้แพรไหมอยู่ก่อนแล้ว พลอยทำให้ชีค วาคิมอารมณ์เสียใส่น้องชายที่บังอาจยิ้มหวานให้แพรไหมของเขา แต่ถ้าหากชีควาคิมสังเกตดีๆ ว่าชีคราชิดยิ้มให้พิรัณญาที่ยืนข้างแพรไหมต่างหากไม่ใช่แพรไหมของเขา
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะท่านชีคทั้งสอง ดิฉันพิรัณญามาเป็นเพื่อนแพรไหมที่เป็นลูกสาวรัฐมนตรีค่ะ” พิรัณญาเอ่ยทักทายยกมือไหว้แบบไทยพร้อมกับสะกิดแพรไหมให้ทำตามเธอ เพราะว่าเพื่อนเธอเอาแต่ยืนนิ่งหลังจากที่ได้ยินชีควาคิมแนะนำตัว พิรัณญารู้ว่าเพื่อนเธอเจ็บแค่ไหนที่ถูก ชีควาคิมมองด้วยความเฉยชา
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับคุณพิรานญ่า...” ชีคราชิดรีบทักทายกลับทันทีเมื่อได้รู้ชื่อของคนที่เขาหมายตาไว้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้วแต่เพราะชื่อภาษาไทยหญิงสาวเรียกยากเลยทำให้เขาเรียกเพี้ยนๆ ไปบ้าง
“ฉันชื่อ พิ-รัณ-ญา ค่ะหรือจะเรียกเจนนี่ก็ได้ค่ะ ดิฉันเข้าใจค่ะว่ามันเรียกยาก ส่วนแพรไหมท่านชีคราชิดก็เรียกวินนี่ก็แล้วกันนะคะจะได้เรียกง่ายๆ ” พิรัณญารีบแก้ต่างทันทีที่ถูกเรียกชื่อของตัวเองเพี้ยนๆ
“งั้นพาพวกเราไปห้องพักผ่อนเถอะค่ะวินนี่อยากอาบน้ำให้สบายตัว” แพรไหมที่เงียบไปพักหนึ่งเอ่ยขึ้น
“ได้เดี๋ยวเราให้สาวใช้พาไป เพราะเรากับท่านพี่มีเรื่องต้องคุยกันนิดหน่อย ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้พาไปด้วยตนเอง” ชีคราชิดเอ่ยขอโทษแพรไหมและพิรัณญาก่อนจะเรียกสาวใช้มาพาทั้งสองไปพักห้องที่พี่เขาเตรียมไว้ เพราะพี่ชายของเขาเอาแต่นิ่งเงียบจนเขาต้องได้จัดการทุกอย่างแทน
“ไม่เป็นไรค่ะท่านชีคราชิดแค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว” แพรไหมพูดจาอ่อนหวานกับชีคราชิดก่อนจะเดินตามสาวใช้ไปห้องพักตามที่ชีคราชิดบอก