บทที่ 1
“ไม่! ยังไงวินนี่ก็ไม่ไปเด็ดขาดคุณพ่อก็รู้ว่าวินนี่เกลียดคนประเทศนี้ยังกับอะไร คุณพ่อยังคิดจะให้วินนี่ไปอีกเหรอคะ ไอ้รัฐเรยาร่าที่มีแต่ทะเลทรายร้อนระอุแบบนั้น มิหนำซ้ำยังเป็นประเทศเดียวกันกับผู้ชายสารเลวคนนั้นอยู่อีก แล้วแบบนี้จะให้หนูไปได้ยังไง”
เสียงดังอยู่นั้นเป็นเสียงของวินนี่หรือแพรไหม กิจเจริญทรัพย์ วัย 24 ปี รูปร่างบางเพรียวระหง อกอวบอิ่ม ในตาชวนฝัน ไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องหลง แถมยังดื้อรั้นเอาแต่ใจ หญิงสาวกำลังค้านหัวชนฝา เมื่อผู้เป็นบิดาอยากให้เธอไปรัฐเรยาร่า ‘ยังไงชาตินี้ก็ไม่มีวันไปเหยียบประเทศของผู้ชายคนนั้นหรอก ยิ่งคิดย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อนยิ่งแค้น เมื่อโดนเขาทิ้งแบบไม่เหลือใย แต่ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจของเธอถึงตัดเขาไม่ขาดสักที ใจเจ้ากรรมจะมัวรักเขาอยู่ทำไม แล้วไอ้งานวันเกิดบ้านั้นมันก็เป็นงานวันเกิดเขา พ่อนะพ่อยังจะขอร้องให้เขาไปอีก’ สาวเจ้าพึมพำด้วยความเจ็บปวดกับอดีตที่ผ่านมาของตัวเอง
“โธ่!...วินนี่ช่วยพ่อเขาเถอะนะลูก ถือว่าเห็นแก่แม่แล้วกัน”คุณหญิงพิสมัยพูดช่วยสามีอีกแรงหนึ่งเพื่อให้บุตรสาวเดินทางไปร่วมงานวันเกิดของชีค วาคิม อับดุลลาห์ ชาอิด มูฮัมหมัด ผู้ปกครองรัฐเรยาร่าแทน ถึงจะรู้ว่าบุตรสาวเกลียดชายที่ว่าก็ตาม แต่จะให้ทำยังไงได้ก็ในเมื่อสามีของเธอไม่ว่างไป เลยต้องพึ่งลูกสาว ถ้าสามีเธอไม่ติดประชุมสภาในวันนั้นพอดี คงไม่ลำบากลูกสาวของเธอหรอก
“วินนี่ช่วยพ่อเถอะนะ พ่อไม่อยากให้ลูกไปร่วมงานวันเกิดท่าน ชีควาคิม แต่ที่พ่อให้ลูกไป เพราะทางนั้นเขากำชับมาในการ์ดว่าต้องเป็นคนในครอบครัวเราเท่านั้นที่ต้องไปร่วมงาน” ท่านรัฐมนตรี อินธรรู้ว่าบุตรสาวคนเดียวของตัวเองมีความหลังยังไงกับชีควาคิม แต่มันก็แปลกอยู่ว่าทำไม ทางด้านของชีควาคิมต้องส่งการ์ดมาบ้านเขาด้วย ทั้งที่ควรจะส่งไปที่สภา แถมกำชับแน่ชัดว่าต้องเป็นคนในครอบครัวเขาไปเท่านั้น หรือว่า....คงไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกมั้ง อินธรได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ
สาธารณรัฐอาหรับเรยาร่า
รัฐเรยาร่าเป็นรัฐที่กำลังพัฒนาโดยมีสองชีคหนุ่มอย่าง ชีค วาคิม อับดุลลาห์ ชาอิด มูฮัมหมัด และชีค ราชิด อับดุลลาห์ ชาอิด มูฮัมหมัด ช่วยกันบริหารปกครองมาโดยตลอดระยะเวลา 2 ปี หลังบิดาของชีคหนุ่มทั้งสองจากไปไม่นานมารดาก็มาจากไปอีกคน จึงเป็นเหตุทำให้ชีคทั้งสองคนรักใคร่สามัคคีกัน ช่วยกันบริหารบ้านเมืองอย่างขยันขันแข็ง ที่สำคัญชีคทั้งสองยังไม่มีชีคคา ชายหนุ่มจึงเป็นที่หมายตาของผู้หญิงทั้งในประเทศและนอกประเทศเป็นอย่างยิ่ง
รัฐเรยาร่ากำลังพัฒนาหลายด้านไม่ว่าจะเรื่องการค้าน้ำมันกับทางยุโรปก็กำลังไปได้ดี ไหนจะเรื่องการค้นพบแหล่งน้ำมันแห่งใหม่ ทางตอนใต้ของเรยาร่า ตอนนี้เขากำลังจะเริ่มการขุดเจาะ จึงทำให้สองพี่น้องทำงานตัวเองเกลียว นอกจากธุรกิจน้ำมันดิบแล้ว ยังมีการช่วยสนับสนุนเผ่าเบดูอิน ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น บางเผ่าเขาช่วยก็สร้างโรงงานทอผ้า บางเผ่าก็เลี้ยงอูฐ และอีกหลายๆ เผ่าสองชีคพี่น้องได้ให้ความดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ต่างจากเผ่าอื่นๆ
หลังจากชีควาคิมกับแพรไหมแยกทางกัน เขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากผู้ชายอ่อนโยนกลายมาเป็นผู้ชายเห็นแก่ตัว เอาแต่อารมณ์ของตัวเองเป็นใหญ่ แถมยังเห็นผู้หญิงทุกคนเป็นแค่เพียงที่ระบายความใคร่ของเขาเท่านั้นเพราะว่าหัวใจของชายหนุ่มไม่เหลือที่ว่างให้ใครอีกแล้วนอกจากเธอคนเดียวผู้เป็นดั่งชีวิต ถึงแม้วันเวลาจะผ่านไป 2 ปี แต่เขาก็ยังลืมหญิงสาวไม่ได้จนมาถึงทุกวันนี้เขายังต้องทนทรมานกับความรักที่ต้องสูญเสียเธอไปโดยที่เขาทำอะไรไม่ได้เลย จนกระทั่งเมื่อ 3 วันก่อนเขาส่งการ์ดเชิญให้ท่านรัฐมนตรี อินธร กิจเจริญทรัพย์ เพื่อให้มาร่วมงานฉลองวันคล้ายวันเกิดของเขาพร้อมทั้งครอบครัว เพื่อเขาจะได้เจอหญิงสาวอีกครั้ง ระหว่างกำลังคิดอยู่นั้นก็มีเสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ใคร?” ชีค วาคิม อับดุลลาห์ ชาอิด มูฮัมหมัด วัยเพียง 29 ปี ผิวเข้มตามแบบของหนุ่มอาหรับ จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าคมเข้ม ในตาสีทรายน่าหลงใหล จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ใครๆ ต่างใฝ่ปองฝันใฝ่ในตัวเขา
“ซาลัสเองขอรับท่านชีคใหญ่” ซาลัสลูกน้องคนสนิทตอบกลับด้วยความนอบน้อม
“เข้ามาได้” เมื่อเห็นว่าเป็นคนสนิทของตัวเองชีควาคิมก็อนุญาตให้เข้ามาพบ
“มีอะไรซาลัสถึงได้มาพบเรา? ”
“ทางประเทศไทยโทรมาแจ้งว่าท่านรัฐมนตรี อินธร กิจเจริญทรัพย์ มาร่วมงานไม่ได้เพราะท่านติดประชุมสภา แต่ท่านบอกว่าจะส่งลูกสาวมาร่วมแสดงความยินดีแทนขอรับท่านชีคใหญ่” เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาซาลัสรีบเอ่ยรายงานในเรื่องที่ตัวเองตั้งใจจะรายงานทันที ซาลัสรู้ดีว่าท่านชีคของตัวเองเป็นเช่นไร
เมื่อได้ฟังรายงานจากคนสนิทแล้วหัวใจที่เคยห่อเหี่ยวของเขานั้นได้กลับมามีชีวิตชีวาพองโตขึ้นมาอีกครั้ง อีกไม่นานเจ้าของหัวใจดวงนี้ของเขากำลังจะเดินทางมาหาเขาอีกไม่นานที่จะถึงนี้ ครั้งนี้เขาจะไม่ปล่อยให้หญิงสาวหลุดมือไปเป็นครั้งที่สองอีกเป็นแน่ เขาจะใช้เล่ห์กลอุบายทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมาครอบครองและเคียงข้างตลอดไปจนผืนทรายเรยาร่าจะกลบหน้าเขา จะไม่มีวันเลิกรักแพรไหมชีควาคิมเอ่ยหมายมั่นในใจ
ซาลัสเห็นท่านชีคของตัวเองนั่งยิ้มคนเดียวเลยแปลกใจจนอดที่จะเอ่ยถามออกไปไม่ได้
“ท่านชีคเป็นอะไรขอรับ ถึงได้ยิ้มเยี่ยงนี้? ”
“เปล่าไม่มีอะไร ถ้าเจ้ารายงานเสร็จแล้วก็ออกไปได้แล้ว เราอยากอยู่คนเดียว เอ่อ!...เราลืมบอกเจ้าเรื่องหนึ่งช่วยไปบอกสาวใช้จัดที่พักให้ลูกสาวของท่านรัฐมนตรีจากประเทศไทยด้วยเข้าใจไหมซาลัสจัดห้องข้างห้องของเรานะซาลัส” ชีคว่าคิมเอ่ยด้วยความเจ้าเล่ห์ เมื่อคิดแผนการอะไรบางอย่างออก
“ขอรับท่านชีคใหญ่ ว่าแต่ทำไมไม่จัดให้พักที่ห้องรับรองขอรับท่านชีค หรือท่านอยากให้นางพักข้างห้องของท่านก็เพราะว่า.....” ซาลัสยังไม่ทันได้พูดตามที่ตัวเองคิดชีควาคิมก็เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของเราจะไปไหนก็ไปและอย่าลืมไปทำตามที่เราสั่งด้วยล่ะ”
“ขอรับท่านชีคใหญ่” ซาลัสรับคำทั้งๆ ที่ยังสงสัยท่านชีคอยู่ว่าทำไมต้องดีใจขนาดนั้นที่ท่านรัฐมนตรีมาไม่ได้และบอกว่าจะส่งลูกสาวมาแทนแค่เนี่ยท่านชีคของเขาก็ยิ้มไม่หุบ แล้วเขาก็เดินออกจากห้องไปทำตามสั่งด้วยความสงสัยและงุนงง