“เชี่ยก้องมึงจูบกูทำไมเนี่ย”
“เออ แล้วมึงจูบตอบกูทำไมล่ะ”
“กูถามมึงก่อนนะ อย่าเอานิสัยตอบคำถามด้วยคำถามมาใช้ไอ้ห่า”
…
ทั้งสองคนนิ่งเงียบและทบทวนสิ่งๆ ต่างในหัวสักพัก
สำหรับก้องภพมันไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายอะไรเพราะเขาชอบจูลอยู่มากมานานแล้วการที่เขาจู่โจมเธอเขาก้พอจะรู้ว่าต้องมีสักวัน แต่การที่เธอจูบตอบมามันเหนือความคาดหมายมาก มันทำให้เขาใจเต้นไม่เป็นส่ำ
สำหรับจูลที่กำลัง งง ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เธอไม่เคยเฉลียวใจแม้แต่น้อยกับท่าทีของก้องภพที่เคยปฏิบัติกับเธอมานาน 7-8 ปี แต่พอมาคิดๆ ดู เธอก็เริ่มจะเรียบเรียงข้อมูลได้ จูลเป็นคนฉลาดเพราะงั้น
“ก้อง มึงชอบกูหรอ” เธอถามเขาอย่างจริงจังและมองเข้าไปในดวงตาของเพื่อนสนิท
“เออ” เขาตอบกลับมาแบบไม่สบอารมณ์นัก เพราะไม่คิดว่าการบอกรักของเขาจะออกมาในรูปแบบนี้
“มึง…” เธอพูดยังไม่ทันจบ
“ไอ้จูล มึงโง่จริงหรือแกล้งโง่ มันจะมีผู้ชายคนไหนที่ตามมึงต้อยๆ ตลอด 7-8 ปี มึงเรียกหากี่ครั้งไม่ว่ากูจะทำอะไรอยู่กูก็แทบจะบินมาหามึงทุกครั้ง มึงใช้สมองอันน้อยนิดของมึงคิดบ้าง”
“ก้อง”
“เออ กูก้องเอง ไม่ต้องเรียกย้ำ”
“ก้อง”
“เชี่ยไรมึงอีก ถ้ามึงเรียกชื่อกูอีกรอบคราวนี้กูจับมึงกดตรงนี้แน่จูล”
“กูจะบอกว่ากูมีคนที่กูชอบอยู่แล้ว และพวกเราก็…”
“ห๊าาาา” ก้องภพอุทานตกใจลากเสียงยาวไม่เชื่อ เพราะคนแบบจูลไม่น่าจะ…
แล้วจูลก็เล่าให้เขาฟังหมดเปลือก ก้องภพขบกรามแน่นคิดถึงสิ่งที่ไอ้หมอนั่นทำกับยัยนี่ แค่คิดเขาก็ไม่อยากให้อภัย แต่แล้วทำไมยัยนี่ถึงยังรักเขาล่ะ ที่เรียกก้องภพมาเพราะแค่อยากเอาคืนผู้ชายคนนั้น หัวใจเขาเริ่มเจ็บแปลบ
แต่ความรักที่มีอยู่เต็มอก มา 8 ปี ก็ใช่ว่าจะลบเลือนกันไปง่ายๆ
“กูไม่คิดว่าจะมีผู้ชายคนไหนบนโลกที่จะรักและดูแลมึงได้ดีเท่ากูนะจูล”
“อืม กูรู้ แต่กูรักเขาไปแล้วก้อง”
“เฮ้ออ กูช้าไปหรอ กูโง่คิดไปเองว่าคนแบบมึงคงไม่มีทางตกหลุมรักใคร แล้วสุดท้ายเราจะได้ลงเอยกัน”
“ก้อง”
“กูใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยและเสียโอกาสตรงนี้ไปสินะ”
…
“เอาเถอะ ใช่ว่ามันจะตัดใจกันได้ง่ายๆ ถ้าหมอนั่นทำให้มึงเสียใจ กูไม่ปล่อยไปแน่”
“ก้อง”
“เออ เรียกอยู่นั่นแหละ แล้วจะไปมั้ยผับน่ะ แต่งตัวมาซะขนาดนี้”
“ไปสิ เธอยิ้มให้เขา”
เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เปิดอกคุยกัน ก้องภพมองจูลด้วยแววตาเหมือนเดิม ถึงแม้ในใจจะเจ็บปวด แต่เธอก็เป็นเพื่อนคนสำคัญของเขาอยู่ดี
.
.
ที่ผับของเซน
“น้องจูลลลลลล ทางนี้ค่ะ” พระเจ้าคุณยูมิ วันนี้ก็สวยจนตาพร่าเหมือนเดิม สวยไม่สวยดูจากอาการไอ้ก้อง
“คุณยูมิ คนนี้ก้องภพ เพื่อนจูลค่ะ” ฉันแนะนำหมอนี่ให้คุณยูมิรู้จักก่อนที่หมอนี่ที่อยากจะแนะนำตัวเองจนตัวสั่นและทำท่าเหมือนอยากกระโจนเข้าหาเจ้าของร่างบางนี้
“สวัสดีครับ ก้องภพเองครับ คุณยูมิ แค่ชื่อก็ทำผมใจเต้นแล้วครับ” นั่นมุกตกสาวของมึงใช่มั้ยไอ้ก้อง แต่เสียใจคนนี้เขามีเจ้าของแล้ว
“สวัสดีค่ะคุณก้องภพ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เราขึ้นไปชั้น VIP กันเลยดีมั้ยคะ” เธอยิ้มโปรยเสน่ห์ให้ไอ้ก้อง จริงๆ ก็ยิ้มปกตินั่นแหละ แต่ไอ้หมอนี่น่าจะเติมฟิลเตอร์เข้าไป เลยมโนไปแบบนั้น
“เช็ดน้ำลายก่อนมึง คนนี้เขามีเจ้าของแล้ว นู้นไง” ฉันสะกิดบอกเพื่อนที่มองตามหลังร่างบางนมตู้ม แล้วชี้ไปทางคุณคริสเตียนแฟนสุดหล่อลูกเสี้ยวของนาง ไอ้ก้องหน้าเอ๋อทันทีแล้วหันมามองหน้ากับฉันตาละห้อย คิกๆ สมน้ำหน้า
ทุกคนมองมายังพวกเรา สายตาจับจ้องมายังฉันไม่วางตา ฉันพยายามไม่ประหม่าและยิ้มให้พวกเขา เพื่อนคุณยูมิสินะ หลังจากพวกเราแนะนำตัวกันสักพัก เจ้าของร่างใหญ่ผู้มีนัยน์ตาสีฟ้าสุกสว่างที่ฉันหลงใหล ก็ได้พาร่างของตัวเองขึ้นบันไดมา
พระเจ้าแผนคุณยูมิอีกแล้วใช่มั้ย ฉันหันมองหน้าคุณยูมิคาดคั้น แล้วเธอก็ยิ้มร้ายกลับมา
“จูล มาได้ยังไง” ไอ้หมอนี่มาถึงก็ทักฉันคนแรกเลยงั้นหรอ คนอื่นมีเยอะแยะทำไมไม่ทัก เขาทำหน้าไม่สบอารมณ์แล้วเหลือบมองไปยังไอ้ก้องเพื่อนฉัน คิกๆ แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันแฮะ น่าสนุกชิบ
“จูลอยากมาเปิดหูเปิดตาบ้างคะบอส คงไม่เป็นไรมั้งคะเพราะไม่ใช่เวลางานแล้ว” ฉันเริ่มค่อนขอดเขา เขามองมาด้วยแววตาแสนเจ็บปวด
“คนนี้ใช่มั้ยเจ้านายมึง” ก้องภพกระซิบข้างหูฉัน
“อืม” ฉันกระซิบกลับไปใกล้ๆ ใบหูเขา
ภาพที่ออกมาค่อนข้างน่าพอใจ เพราะดูเหมือนคู่รักที่กำลังกระซิบกันอยู่ ฉันเหลือบมองหน้าเดวิด หน้าเขาเริ่มหดหู่และเศร้าสร้อย ชักเริ่มสงสารนิดๆ แล้วแฮะ
จนฉันลุกไปเข้าห้องน้ำ แล้วเขาก็ดูเหมือนจะเมาแล้วเดินตามฉันมา เขาเริ่มกระชากแขนฉันอยู่ตรงหน้าห้องน้ำแล้วถามฉัน
“คุณมีแฟนแล้วหรอจูล” เขาเมาจนหน้าแดง แต่ไม่ได้ขึ้นเสียงกับฉัน
“บอสเห็นเป็นยังไงละคะ” ฉันตอบกลับด้วยท่าทีแข็งกระด้างและเฉยเมย
“นั่นสินะ ก็ดูรักกันดี ผมซะอีกที่เป็นไอ้โง่ที่ไปหลงรักคุณ”
ห๊ะ ทำไมเขาพูดแบบนี้ล่ะ รักฉันงั้นหรอ ไม่อยากจะเชื่อ เขาต้องเมาแน่ๆ ถึงพูดออกมาแบบนี้ เพื่อความแน่ใจ
“บอสบอกว่ารักจูลงั้นหรอคะ” ฉันถามย้ำคำพูดเขา
เมามองมาท่าทางจริงจัง ถึงจะเมาแต่ก็ยังครองสติอยู่ ไม่ได้เมามากขนาดนั้นสินะ นัยน์ตาสีฟ้าจ้องมาที่ตัวฉัน วินาทีนั้นหัวใจฉันเต้นตึกตัก พระเจ้าคนแบบเขา
“ผมพูดจริง แต่มันไม่ได้สำคัญแล้วแหละตอนนี้ เพราะคุณไม่ได้รักผม”
เขาพูดแล้วเดินออกไปเลย คือเดินออกไปไม่ใช่ว่าออกไปจากตรงนั้นนะ ออกจากผับไปเลย เพราะตอนฉันกลับมาก็มองหาเขาไม่เจอแล้ว ฉันพยายามมองหาเขาที่ในผับที่มีแต่คนเบียดเสียดและยัดเยียดกัน แต่ก็ไม่เจอ นี่ฉันเล่นแรงไปรึเปล่านะ ฉันเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง
เขารักฉันงั้นหรอ ทุกอย่างที่เขาแสดงออกมาคือเขารักฉันงั้นหรอ พระเจ้าไม่อยากจะเชื่อ ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ จริงๆ ฉันคิดว่าเขาน่าจะแค่หลงใหลกับร่างกายบริสุทธิ์ของฉัน เขาแค่ไม่อยากให้ฉันไปนอนกับคนอื่น แค่อยากให้ฉันเป็นนางบำเรอให้เขาแค่คนเดียว ฉันคิดแค่นั้น ฉันมันโง่สินะ
เฮ้อออ แล้วจะทำไงต่อละทีนี้จูลเอ๊ย เกมที่เธอเล่นเองและชนะเอง แต่กลับไม่ได้มีความสุขกับการชนะเลย