“ลงทุนไปเยอะขนาดนี้ แต่ไม่มีวี่แววตอบรับนายยังจะลงทุนต่ออีกเหรอครับ?”
ทางด้านภูผา ตอนนี้เขากำลังนั่งมองออกไปนอกกระจกรถด้วยท่าทางอารมณ์ดีจนกวินทร์รู้สึกแปลกใจ
“อืม ลงทุนมาขนาดนี้ ถอนทุนก็ไม่ได้ ต้องเดินหน้าต่อสิ”
ภูผาบอกขึ้นเมื่อตอนนี้เขารู้สึกท้าทายมากกว่าเดิมอีก เขาแน่ใจแล้วว่าเธอไม่พอใจเขา แต่เรื่องอะไรนั้นเขาไม่รู้เลยจริงๆ
“แล้วคืนนี้...”
“ไปหาแอนนา”
และพอรู้จุดหมาย กวินทร์ก็เปลี่ยนเส้นทางขับรถทันที
“ผมจัดการเรื่องนานาเรียบร้อยแล้วนะครับ เธอรับเงินไปแล้ว ตอนนี้น่าจะบินไปอเมริกาแล้ว”
“อืม ดีแล้ว”
หลังจากค่ำคืนอันเร่าร้อนจบลง ภูผาก็ขอยุติสัมพันธ์กับนานาเมื่อเขารู้ว่าเธอเองก็อยากออกไปจากกรงที่เขาทำขึ้นมา อีกอย่าง เขาแทบไม่ได้สนใจเธอซึ่งอาจนำมาซึ่งการนอกกายเหมือนหลายๆคนที่ผ่านมา เขาเลยตัดปัญหาโดยการปล่อยเธอออกจากกรงก่อนจะเกิดเรื่องพวกนั้น ไม่นานรถก็มาจอดลงที่คอนโดของแอนนา ซึ่งเขาเป็นคนซื้อให้เธอเป็นของขวัญที่เธอบำเรอเขาอย่างถึงใจเมื่อหลายเดือนก่อน
“นายกลับก่อนเลย คืนนี้ฉันน่าจะนอนที่นี่”
“ครับ”
กวินทร์ตอบรับก่อนจะขับรถกลับออกไป ส่วนภูผา วันนี้เขามาที่นี่โดยไม่ได้บอกแอนนา เมื่อเขาเองก็อยากรู้ว่าผู้หญิงพวกนี้จะซื่อสัตย์ต่อเงินที่เขาให้ได้มากขนาดไหน
แกร็ก...
“อ๊า! อ๊า! เทพคะ อ๊ะ! แรงกว่านี้ อ๊า เทพ อ๊า...”
และพอเปิดประตูห้องเข้าไป เสียงหอบกระเส่าที่เขาได้ยินทำเอาภูผาถึงกับถอนหายใจออกมา เมื่อหาความซื่อสัตย์จากผู้หญิงพวกนี้ได้ยากเหลือเกินจริงๆ ขนาดเขาเปิดประตูเข้ามาแล้วคนในห้องยังไม่ได้ยิน สงสัยจะกำลังถึงจุดสุดยอด ภูผาตัดสินใจเดินกลับออกไป เขาไม่ได้โกรธหรือคิดแค้นพวกเธอที่นอกกายเขาแบบนี้เมื่อที่เขาเก็บพวกเธอเอาไว้ก็เพียงแค่สนองความต้องการ ยังมีผู้หญิงอีกนับไม่ถ้วนที่พร้อมจะเข้ามาแทนที่
“เดี๋ยวจัดการแอนนาด้วยนะ...ไม่ต้องมารับหรอก เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับเอง”
เขาโทรไปบอกกวินทร์ ก่อนจะเดินออกไปรอรถแท็กซี่ที่ริมถนน เมื่อที่พักของเขาอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่
“ทั้งวันเลยเหรอคะ? แล้วงานที่ห้าง...”
“พี่ส่งยาหยีไปแทนแล้ว วันนี้น้องเจสมีแค่งานเดียว แต่น่าจะลากยาวทั้งวันนะคะเห็นทีมงานบอกมา”
ปีโป้ที่มารับเจสสิก้าไปส่งที่งานเดินแบบบอกขึ้น
“อ่าว แล้วไม่ลงมาเหรอ?”
เจสสิก้าถามขึ้น เมื่อปีโป้ไม่ลงจากรถมากับเธอ
“พอดีพี่ปีโป้ต้องไปคุยกับเจ้าของงานที่ขอเปลี่ยนตัวไปน่ะค่ะ สัญญามีปัญหา ต้องไปเปลี่ยนสัญญา พี่ปีโป้จะรีบกลับมานะคะ ที่นี่มีทีมงานคอยดูแลน้องเจสโดยเฉพาะ อยากได้อะไรก็บอกได้เลยนะ พี่ไปล่ะ”
บอกเสร็จปีโป้ก็ออกรถไปทันที ปล่อยให้เจสสิก้าเดินเข้าไปในงานโดยมีทีมงานรีบวิ่งออกมาต้อนรับ จากนั้นเธอก็ถูกจับแต่งหน้าแต่งตัว ซึ่งพอเห็นชุดที่เธอต้องใส่เดิน เจสสิก้าถึงกับแปลกใจเมื่อมันแทบจะเรียกได้ว่าซีทรูที่แท้จริง มันบางเบาจนแทบปิดอะไรไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ดูโป๊จนน่าเกลียดเกินไป
“เดี๋ยวจะมีทีมงานมาพาออกไปนะคะ น่าจะอีก 10 นาที น้องเจสอยากได้อะไรอีกไหม?”
“ไม่ค่ะ”
พอแต่งหน้าแต่งตัวเสร็จ ทีมงานในห้องก็ขอตัว ปล่อยให้เจสสิก้าได้พักก่อนจะเริ่มเดินแบบ ไม่นานก็มีคนเดินเข้ามาเพื่อพาเจสสิก้าไปที่หลังเวที
“ทำไมไม่มีคนเลยล่ะคะ คนอื่นหายไปไหนหมด?”
พอมาถึงหลังเวที เจสสิก้าที่สังเกตมาตลอดทางอดที่จะถามขึ้นไม่ได้ เมื่อแทบไม่มีคนอื่น แม้กระทั่งทีมงานก็ไม่เห็นมีมาแสตนบายเหมือนงานอื่นๆที่เธอเคยทำ
“เป็นความต้องการของเจ้าของงานน่ะค่ะ เดี๋ยวน้องเจสแสตนบายอยู่ตรงนี้นะคะ พอได้ยินเสียงเพลงขึ้นก็เดินออกไปเหมือนที่ซ้อมได้เลย”
“ค่ะ”
บอกเสร็จ ทีมงานคนนั้นก็เดินจากไป ปล่อยให้เจสสิก้าได้แต่มองตามอย่างแปลกใจ เธอสอดส่องมองไปรอบๆเพื่อจะเจอคนอื่น แต่กลับไม่มีใครสักคน ทำให้เธอเริ่มไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เมื่อปีโป้ก็ไม่อยู่ให้ได้ถาม
จากนั้นเจสสิก้าก็ค่อยๆเดินขึ้นไปบนเวทีเมื่อเพลงเริ่มขึ้น และเธอก็แทบเดินไม่ออก เมื่อทั้งห้องมีผู้ชมเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ปลายสุดของเวที
ภูผาจ้องมองร่างสูงโปร่งอันสง่างามของเจสสิก้าอย่างชื่นชม เขาต้องเสียงเงินมากมายขนาดไหนเพื่อที่จะได้ครอบครองเธอ
ส่วนเจสสิก้าเธอเองก็จ้องมองภูผาแต่คนละความรู้สึก เมื่อกำลังโกรธกับสิ่งที่เขาทำ เขาใช้อำนาจเงินที่เขามีจนล้นเหลือบังคับให้เธอต้องมายืนอยู่ในจุดๆนี้
สองขาเรียวก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เมื่อเขาท้าทายมา เธอก็จะทำให้เขาเป็นบ้าเพราะความมักมากที่เขามี
“หึหึ สมบูรณ์แบบ...ไร้ที่ติ...นี่สิสมควรมาเป็นผู้หญิงของฉัน...”
ภูผาเอาแต่จ้องมองราวกับอยากกลืนกินคนที่กำลังเดินเฉิดฉายอยู่บนเวที ทุกท่วงท่าลีลาทำเอาเขาแทบนั่งเฉยอยู่ไม่ไหว
“หยุด”
พอเจสสิก้าเดินมายืนอยู่ตรงหน้าเขา ภูผาก็บอกขึ้น และเจสสิก้าก็หยุดยืนตามที่เขาต้องการ เมื่อยังไงเขาก็เป็นนายจ้าง
“ผมรู้ว่าคุณเองก็รู้ว่าผมต้องการอะไร? ทำไมไม่ตกลงสักทีล่ะ หรือว่าผมยังให้ไม่พอ”
เขาถามออกมาพร้อมกับมองเธออย่างสื่อความหมาย
“ฉันไม่ต้องการเป็นของเล่นของใคร”
เจสสิก้าบอกขึ้น เธออยากออกไปจากตรงนี้ ตรงที่ๆเหมือนกำลังยืนเป็นหุ่นให้เขาได้แทะเล็ม เหมือนของเล่นชั้นสูงที่ต้องใช้เงินซื้อมา
“ของเล่นอะไรกัน แค่แลกเปลี่ยนความสุข”
ภูผาบอกออกมาด้วยรอยยิ้ม เมื่อเขาไม่เคยเจอใครแบบเธอมาก่อน คำพูดตรงไปตรงมาแบบไม่คิดรักษาน้ำใจของเธอ ยิ่งทำให้เขาอยากเอาชนะ
“ต้องขอโทษที่ความสุขของคนเราไม่เหมือนกัน”
“ก็ทำให้เหมือนซะสิ”
ภูผาลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปประจันหน้ากับเจสสิก้า ทั้งสองมองหน้ากันอย่างท้าทาย และโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะมัวแต่โมโห กลับถูกภูผาคว้าหมับเข้าที่มืออย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะกระตุกดึงเธอลงมา
“ว๊าย! นี่! จะทำอะไรห๊ะ!”
เจสสิก้าถึงกับกรีดร้องเมื่อนึกว่าจะต้องตกลงไปนอนบนพื้นพรมเสียแล้ว แต่ดีที่เขาดึงเธอจนตกลงมาในอ้อมกอดของเขาแทน
“ก็แค่ทำให้ความสุขของเราตรงกันไง”
ไม่พูดเปล่า ภูผาค่อยๆพยุงให้เธอได้ยืนอยู่ตรงหน้าเขา โดยมีเจสสิก้ามองเขาอย่างไม่ไว้ใจ
“ว๊าย!!”
และภูผาก็ทำในสิ่งที่เธอไม่คาดคิดเขาดันเธอให้เอนตัวนอนลงไปบนเวทีแล้วเลื่อนตัวเข้ามาประชิดแนบสนิทกับร่างกายของเธอจนเจสสิก้าตกใจ
“อย่านะ ไม่อย่างนั้นฉันฟ้องคุณหมดตัวแน่”
เจสสิก้าขู่ออกมาพร้อมกับมองภูผาอย่างหวั่นใจ
“ผมรวย จะฟ้องสักกี่รอบก็ไม่หมดตัวหรอก”
ภูผาก้มลงมาพูดชิดริมฝีปากของเจสสิก้า จนเธอต้องหันหน้าหลบ เขาเลยได้แต่สัมผัสไปบนแก้มเนียนของเธอแทน
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่อยาก อ๊ะ! อื้ออออ”
ปากที่กำลังจะพูดถูกเขาจูบปิดอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาอยากสัมผัสเธอจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว เจสสิก้าพยายามสะบัดหน้าหนีแต่เขาเอามือจับล็อคเธอเอาไว้แน่นแล้วบังคับให้เปิดปากออกให้เขาได้เข้าไปเล่นกับลิ้นเล็กของเธอ
“กึด!”
พอลิ้นร้อนเข้าไปในปากเล็กได้ เจสสิก้าก็กัดเข้าอย่างจังจนภูผาต้องถอนปากออก
“อึ๊!...บ้าเอ้ย! ชอบแบบรุนแรงก็ไม่บอก”
เขาบอกขึ้นพร้อมกับมองเธออย่างชอบใจ
“อ๊ายยยย ใครอยู่ข้างนอก อึ๊!ๆๆๆ”
ปากที่กำลังจะร้องเรียกให้คนช่วยถูกปิดลงอีกครั้ง พร้อมกับมือใหญ่บีบบังคับไม่ให้เธอได้กัดเขาได้อีก ร่างใหญ่บดเบียดแนบชิดจนเจสสิก้าไม่สามารถดิ้นหนีได้