“นายจะพาเธอขึ้นไปจริงๆเหรอครับ...ให้ผมพาไปที่โรงแรม...”
“ไม่จำเป็น เสร็จแล้วนายก็กลับไปได้เลย ปิดข่าวด้วย”
“ครับ...”
พอเสร็จสมอารมณ์หมาย ภูผาก็พาเจสสิก้าออกมาทางด้านหลัง เมื่อเจสสิก้าทนรับความต้องการของเขาไม่ไหวสลบคาอกหลังจากที่เสร็จสมไปหลายรอบอย่างไม่เต็มใจ
เขาพาเธอมาที่ห้องชุดสุดหรูหรา ที่ไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาเหยียบที่นี่เลยสักคน จนกวินทร์ต้องเสนอว่าจะพาเธอไปพักที่โรงแรมก่อน แต่ภูผาก็ยังยืนยันจะพาเธอขึ้นไปในพื้นที่ส่วนตัวของเขา ก่อนจะช้อนอุ้มเอาร่างไร้สติของเจสสิก้าขึ้นมา กวินทร์ได้แต่มองตามอย่างนึกสงสัย ว่าเจ้านายของเขานั้นกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
ส่วนทางด้านปีโป้ ตอนนี้เธอกำลังสับสนมึนงงเมื่อนั่งรอเจสสิก้ามาร่วม 3 ชั่วโมง แต่ตอนนี้ทีมงานกลับบอกเธอว่าเจสสิก้ากลับไปแล้วทั้งๆที่เธอยังนั่งรออยู่
“นี่จะบ้าเหรอห๊ะ! จะกลับได้ยังในเมื่อฉันยังอยู่”
“แต่คุณกวินทร์แจ้งมาว่าจะไปส่งเธอเองนี่คะ อีกอย่าง พวกเราก็ออกมาตั้งแต่แต่งหน้าให้น้องเจสเสร็จ เห็นว่างานเป็นความลับ แต่พี่ปีโป้ไม่รู้เลยเหรอคะ? ไม่ลองติดต่อน้องเจสดูล่ะค่ะ”
และสุดท้ายปีโป้ก็ต้องเดินออกมาจากบริษัทของภูผา เธอนั่งมองโทรศัพท์ ที่พยายามโทรเท่าไหร่เจสสิก้าก็ไม่รับสายอย่างเป็นกังวล ก่อนจะมีสายที่เธอไม่รู้จักโทรเข้ามา
“ตอนนี้เจสอยู่กับผม คุณกลับไปได้เลย ผมจะดูแลเธอเอง”
พอกดรับ ก็เป็นภูผาที่โทรเข้ามา ก่อนที่เขาจะวางสายไปทันทีที่พูดจบ
“อย่า...อย่าบอกนะว่า อ๊าย!!! ไม่จริงงงง น้องเจส ไม่จริงใช่ไหม!”
ปีโป้กรีดร้องดังลั่นรถเมื่อรู้ว่าเจสสิก้าอยู่กับภูผา ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้เธอคิดไปทางอื่นได้เลยนอกจากเจสสิก้าได้ตกลงไปในหลุมที่ภูผาขุดเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“แล้วฉันจะทำยังไงดี ฮือๆๆ คุณภูผานะคุณภูผา ฮือๆๆ ผู้หญิงมีเป็นร้อยเป็นล้าน ทำไมต้องเป็นน้องเจสด้วย ฮือๆๆๆ อ๊ายยยย”
ปีโป้กรีดร้องอย่างเสียใจ เธอน่าจะอยู่ดูแลเจสสิก้าไม่น่าปล่อยให้อยู่คนเดียวเลยจริงๆ
“ไอ้คนบ้า! ไอ้คนทุเรศ! ฉันบอกว่าไม่ต้องการเป็นผู้หญิงของคุณ! แล้วจะยังทำแบบนี้ทำไมห๊ะ! อ๊ายยยยย!”
หลังจากที่หมดสติไปหลายชั่วโมงจนกระทั่งเช้า เจสสิก้าก็เริ่มโวยวายเป็นบ้าเป็นหลังเมื่อลืมตาขึ้นมาพบว่าเธอนอนอยู่ข้างภูผา
“โอ๊ย! เดี๋ยวก่อนสิ ผมเจ็บนะคุณ”
ภูผาที่กำลังนอนหลับสบายรีบลุกขึ้นเมื่อถูกทุบตีจากเจสสิก้า
“เจ็บเหรอ? แล้วที่ทำกับฉันนี่ล่ะห๊ะ! อ๊ายยยย ฉันเกลียดคุณ เกลียดๆๆๆๆ”
เจสสิก้าที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากโวยวายเมื่อดันเสียทุกอย่างให้กับภูผาไปหมดแล้ว เธอนั่งร้องไห้ออกมาอย่างไม่คิดอาย ส่วนภูผา เขาค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้น แล้วมองไปที่เจสสิก้าอย่างนึกขำเมื่อเธอคงไม่รู้ตัวว่าไม่ได้ใส่เสื้อผ้าจึงมานั่งโล่งโล่งร้องไห้อยู่แบบนี้
หมับ...
เขาค่อยๆยื่นมือไปกอบกำที่หน้าอกกลมกลึงของเธอ เมื่อมันช่างถูกใจเขาเหลือเกิน จนเจสสิก้าที่ฟูมฟายอยู่ถึงกับหยุดลงทันที
เพี๊ยะ!
“ไอ้บ้า! ไอ้โรคจิต!”
เธอยกมือขึ้นตบลงไปที่ใบหน้าคมเมื่อเห็นสิ่งที่เขาทำกับเธอ จนภูผาถึงกับยกมือขึ้นลูบหน้าอย่างรู้สึกแสบ ส่วนเจสสิก้ารีบยกผ้าห่มขึ้นมาบดบังร่างเปลือยของตนเองเอาไว้ เมื่อดันลืมตัวลืมสำรวจตัวเอง
“อ๊ายยยยย ไอ้คนโรคจิต จิตวิปริต ไอ้คนหื่นกาม ไอ้ๆๆๆ”
พอดึงผ้าห่มมาปิดร่างของตัวเองจนหมด กลายเป็นภูผาที่ไร้ผ้าห่มปิดกายเปลือยจนความต้องการที่กำลังตื่นขึ้นมาโผล่ออกมาชี้หน้าเจสสิก้า จนเธอต้องกรีดร้องออกมาอีกรอบ
“หึหึหึ เสียงดีสมกับเป็นดาราจริงๆ”
ภูผาพูดขึ้น ก่อนจะลุกเดินหนีเข้าห้องน้ำทั้งๆที่ไม่มีอะไรปกปิดร่างกายเลยสักนิด เมื่ออยากอวดความเป็นชายให้เธอได้ดู
ส่วนเจสสิก้า ตอนนี้เธอแทบอยากตบตัวเองที่พลั้งเผลอจนเกิดเรื่องขึ้นจนได้ เธอรีบมองหาเสื้อผ้าแต่กลับพบว่าไม่มีเลยสักชิ้น และพอจะลุกร่างกายท่อนล่างกลับปวดแสบไปหมด มันบ่งบอกว่าเธอได้เสียความบริสุทธิ์ที่เก็บเอาไว้เนิ่นนานให้เขาไปแล้วจริงๆ
ไม่นานภูผาก็เดินกลับออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวพันรอบท่อนล่าง เขาเดินมาหาเจสสิก้า จนเธอต้องรีบดึงผ้าห่มมาปิดร่างกายเอาไว้จนชิด
“จะอายทำไม ผมเห็นหมดแล้ว ลุกขึ้นสิ หรืออยากให้ผม...ต่อให้...”
“ไม่! ไปหาเสื้อผ้ามาให้ฉันสิ! คุณเอาเสื้อผ้าของฉันไปไว้ที่ไหน”
“หึหึหึ เอาไว้ต่อตอนเย็นก็ได้ ไปอาบน้ำเถอะ ชุดของคุณน่าจะใกล้ถึงแล้ว”
พูดจบ ภูผาก็เดินออกจากห้องนอนไป ปล่อยให้เจสสิก้าได้อาบน้ำเมื่อมันสายเกินกว่าเขาจะต่อให้เธอได้ เพราะมีงานสำคัญต้องไปทำ ส่วนเจสสิก้า พอภูผาออกจากห้องไปแล้ว เธอก็ค่อยๆพยุงร่างกายอันปวดร้าวลุกขึ้น เธอมองไปรอบๆห้องอันหรูหราอย่างไม่อยากเชื่อว่าจะมาอยู่ในห้องเขาจริงๆ
“นั่งสิ กินข้าวเสร็จแล้วผมจะไปส่ง”
“ไม่ ฉันอยากกลับ”
พออาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดที่ภูผาเอามาให้เสร็จ เจสสิก้าก็เดินออกมาจากห้องนอน ภูผาที่เห็นเรียกให้เจสสิก้ามาทานข้าวด้วย เมื่อกวินทร์ซื้อจากร้านอาหารมาให้ และเจสสิก้าก็ปฏิเสธอย่างไม่ต้องสงสัย
“งั้นคงต้องรอผมอิ่มก่อน”
และเขาก็ยังนั่งกินต่ออย่างไม่สนใจ ส่วนเจสสิก้าก็เดินไปที่ห้องรับแขกแล้วนั่งลงเพื่อรอเจ้าของห้องกินข้าวให้เสร็จก่อน
“นี่มันกระเป๋าฉันนี่”
เธอหยิบกระเป๋าถือที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมา ก่อนจะรีบควานหาโทรศัพท์มือถือ และพบว่าแบตเตอรี่หมด ไม่นานภูผาก็เดินเข้ามาหาหลังจากกินข้าวจนอิ่มแล้ว
“คุณจะไม่...”
“ไม่อะไรทั้งนั้น ฉันจะกลับ”
ยังฟังที่เขาพูดไม่จบ เจสสิก้ารีบบอกขึ้น เพราะเธอไม่อยากอยู่ที่นี่นานไปกว่านี้อีกแล้ว ก่อนภูผาจะพาเธอเดินออกจากห้อง
ถ้าจะอยู่ห้องใหญ่ขนาดนี้ ซื้อบ้านอยู่เลยไม่ดีกว่ารึไงกัน!
เจสสิก้าคิดขึ้น เมื่อกว่าจะเดินมาถึงลิฟต์ก็ทำเอาเหนื่อย เพราะห้องของภูผามันทั้งใหญ่และซอกซอยเยอะเกินกว่าที่จะอยู่คนเดียวด้วยซ้ำ เขาพาเธอมาขึ้นรถที่จอดรออยู่และมีกวินทร์เป็นคนขับให้
“เดี๋ยวช่วยไปจอดข้างทางที่ไม่ค่อยมีคนให้ฉันหน่อยนะคะ”
พอขึ้นรถมา เจสสิก้าก็บอกกวินทร์ทันที
“คงไม่ได้ ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณจนกว่าจะถึงที่หมาย...ออกรถได้แล้ว”
แต่ภูผาไม่สนใจ เมื่อต้องการคุยถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเธอ และเจสสิก้าก็ต้องนั่งเงียบ เมื่อเธอได้พ่ายแพ้ให้กับเขาไปหมดแล้ว
“นี่เป็นสัญญา...”
แคว๊ก! แคว๊ก!
พอภูผายื่นกระดาษที่เขียนสัญญาถึงความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น เจสสิก้าก็ฉีกมันทิ้งทันทีเช่นกัน
“ฉันไม่สนใจสัญญาบ้าบออะไรนี่หรอก และสิ่งที่เกิดขึ้นฉันจะคิดว่าทำบุญทำทาน...”
“ผมไม่นับถือศาสนา เลยไม่คิดจะรับบุญรับทานอะไรทั้งนั้น ผมบอกแล้วว่าต้องการให้คุณมาเป็นผู้หญิงของผมและผมก็ไม่ได้พูดเล่นด้วย ผมจะให้ค่าใช้จ่ายไม่ว่าคุณจะต้องการหรือไม่ และถ้าคุณอยากได้อะไรเพิ่มเติมก็บอกกวินทร์ได้เลย แต่มีข้อแม้ว่าห้ามนอกกายผมไม่ว่าจะกรณีใดใดทั้งสิ้น เพราะถ้ามันเกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นอันจบลง”
เมื่อสัญญาไม่มี ภูผาเลยบอกขึ้นเอง ทำเอาเจสสิก้าต้องหันมามองเขา เมื่อเขาช่างตื๊อจนน่ารำคาญทั้งๆที่เธอไม่เล่นด้วยเลยสักนิด
และจากนั้นเจสสิก้าก็ได้แต่นั่งเงียบ เมื่อทั้งโกรธ ทั้งโมโหแต่เธอกลับไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย ส่วนภูผา เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากเอาชนะเจสสิก้าขนาดนี้ เพราะถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาคงโบกมือลาไปเรียบร้อยแล้ว
“ลงไปสิ ถึงแล้ว เห็นว่าวันนี้คุณมีถ่ายละครที่นี่”
ไม่นาน รถยนต์คันหรูก็มาจอดลงที่สวนสาธารณะ ซึ่งปีโป้เป็นคนให้ข้อมูลนี้มา และพอเจสสิก้าเห็นแบบนั้น เธอก็รีบเดินลงจากรถของเขาโดยไม่สนใจว่าใครจะมาเห็นเลยสักนิด เพราะอึดอัดจนแทบอยากกระโดดลงรถครั้งแล้วครั้งเล่า
“ตกลงเธอจะยอม...”
เป็นประโยคแรกที่กวินทร์พูดออกมา หลังจากเจสสิก้าเดินลงจากรถไปแล้ว
“ยอมสิ เพราะฉันจะทำให้เธอยอมเอง หึหึหึ”
ปากพูดแต่สายตากลับเอาแต่มองร่างสูงโปร่งของเจสสิก้าที่เดินไปยังกองถ่าย ยิ่งได้เข้าใกล้เขายิ่งรู้สึกหลงใหลจนละสายตาจากเธอไม่ได้เลยจริงๆ ก่อนกวินทร์จะออกรถเมื่อต้องเข้าบริษัทเพื่อประชุมกับพวกผู้ถือหุ้น