"นั่งกินด้วยกันสิ" เอ่ยชวนมายาที่ยืนอยู่บริเวณนั้นจนคนที่ตักข้าวให้นายหญิงของบ้านถึงกับยิ้มออกมา
"คือ ฉัน" อยากจะบอกเหลือเกินว่าเธออิ่มมากแล้วก่อนจะขึ้นไปตาม
"นั่งลง! ข้างฉัน"
"ค่ะ" ป้านอมตักข้าวให้มายาทันทีที่นั่งลงพร้อมกับขยิบตาให้ ข้าวในจานเธอไม่เยอะเท่ากับคุณผู้หญิงของบ้าน รู้สึกขอบคุณจนต้องเผลอยิ้มออกมาอย่างโล่งอก เพราะตอนนี้เธอแทบจะอาเจียนหากต้องทานเข้าไปใหม่ในปริมาณที่เยอะแบบนั้น
"ยิ้มอะไร"
"เปล่าค่ะ" หันมาตอบด้วยใบหน้าเรียบนิ่งอย่างเคย คุณหญิงศศิไม่อยากคาดคั้นเพราตอนนี้เธอหิวเต็มที
"ลืมเสียสนิทว่าวันนี้อยากทานแบบเต็มเครื่อง" คุณผู้หญิงของบ้านเปรยออกมาทำให้คนร่วมโต๊ะต้องหันไปมอง อย่างสงสัย อาหารมากมายบนโต๊ะนี่ยังไม่มากพออีกเหรอแถมกรรมวิธีในการทำก็ช่างยุ่งยาก หากให้เธอจำทั้งหมดนั่นคงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี
"งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้นอมเตรียมให้ค่ะ" นั่นปะไร คนเป็นลูกน้องกลับเห็นดีเห็นงามแต่คงเป็นความสุขของลูกจ้างทุกคนกระมังที่ยินดีทำให้เจ้านาย เห็นใบหน้าคนแก่ตรงหน้าที่ตั้งใจทำอาหารทุกขั้นตอนด้วยรอยยิ้มก็รู้สึกปลื้มแทน
"เธอยิ้มอีกแล้ว" คุณหญิงของบ้านเอ่ยแซว
"ขอโทษค่ะ" ไม่รู้ทำไมต้องขอโทษแต่เธอก็พูดคำนี้จนติดปากไปเสียเเล้ว
"กินเถอะ ไม่หิวหรือไงแล้วอีกอย่างหนึ่ง มารยาทบนโต๊ะอาหารคือห้ามเขี่ยข้าวในจาน จำไว้เวลาไปไหนจะได้ไม่อายใครเดี๋ยวจะหาว่าญาติผู้ใหญ่ไม่สอน"
"ค่ะ ฉันจะจำไว้" อาหารมื้อเย็นรอบสองของมายาถูกกลืนลงคอตามที่คนเป็นนายสั่ง อุส่าตั้งใจจะทานให้แค่หมดข้าวในจานแต่พอข้าวหมดแล้ว คุณหญิงดันสั่งให้ป้านอมตักให้อีกราวกลับอยากแกล้ง วันนั้นมายาแทบจะอาเจียนขึ้นมาจริงๆ หลังจากมื้ออาหาร ดูเวลาตอนนี้เกือบหนึ่งทุ่มใกล้เวลาที่ลูกจ้างอย่างเธอต้องกลับ แต่วันนี้อาจจะแปลกไปเสียหน่อยเพราะปกติเธอจะกลับทันทีที่ถึงเวลาเพราะนายหญิงของเธออยู่ที่บ้านหลังใหญ่ของนายสินชัยที่มีเหล่าบริวารมากมายคอยคุ้มกันแต่วันนี้เธอลังเลที่จะปล่อยนายหญิงไว้ในบ้านที่มีแม่บ้านเพียงไม่กี่คนปราศจากเหล่าลูกน้องคอยคุ้มกัน ตัดสินใจเดินขึ้นห้องเจ้านาย เคาะประตูอยู่นานแต่ไม่มีเสียงตอบรับ แถมยังได้ยินเสียงข้าวของหล่นเริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากล มือบางกระชับปืนข้างกายขึ้นมาถือไว้ ค่อยๆ ไขกุญแจห้องที่ขอจากป้านอมไว้ เมื่อเข้ามาก็เป็นอย่างที่คาดการไว้ คุณผู้หญิงของบ้านถูกมัดมือมัดเท้าและปิดปากอยู่บนเตียง เธอพยายามดิ้นทุรนทุรายดีใจจนน้ำตาไหลออกมาเมื่อเห็นว่าใครเข้ามาช่วยชีวิต มายารีบมองสำรวจภายในห้องอย่างระมัดระวัง สายตาคนบนเตียงส่งมาบอกเธอว่าพวกนั้นอยู่ในห้องแต่งตัว มายารับทราบรีบมุ่งตรงไปยังที่หมาย ไม่นานเสียงปืนก็ดังขึ้นหลายนัด จนเงียบไป คุณผู้หญิงของบ้านกรี้ดออกมาอย่างสุดเสียงแม้จะยากลำบากก็เถอะเพราะที่ปากมีผ้ารัดไว้ จนเป็นลมไป
"พาคุณผู้หญิงของป้าไปพักห้องไหนได้บ้าง พาไปที" เสียงปืนหลายนัดทำให้เด็กรับใช้ในบ้านตื่นตกใจพากันวิ่งมายังต้นเสียงและเมื่อประตูถูกเปิดออก ก็พบมายาที่กำลังแบกคุณผู้หญิงของบ้านออกมาแทน
"ทางนี้เลยค่ะ" ป้านอมรีบเดินนำไปยังอีกห้องพร้อมกับไขประตูเพื่อให้มายาได้วางคนที่กำลังหมดสติได้ถนัด
"จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นายหญิงและอยู่ดูแลเธอจนกว่าฉันจะมา"
"และห้ามใครเข้าไปยุ่งวุ่นวายห้องคุณท่าน จนกว่าฉันจะสั่ง" เอ่ยสั่งทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นออกมาอย่างจริงจังไม่มีท่าทีว่าจะเล่นต่างจากคนอึนๆ ในห้องครัวโดยสิ้นเชิง เสื้อผ้ามายาตอนนี้มีแต่คราบเลือดในมือถือปืนแน่นและเดินกลับไปยังห้องเกิดเหตุ สำรวจห้องคนเป็นนาย คนพวกนั้นเพียงเข้ามาขโมยทรัพย์สินโดยแอบปีนเข้ามาทางหน้าต่าง เธอไม่ได้ฆ่าพวกหัวขโมยกระจอกแค่อยากสั่งสอนว่าอย่ามาแตะต้องนายเธอ หนึ่งในผู้ชายสามคนที่ลักลอบเข้ามาในวันนี้คือคนงานเก่าที่ถูกไล่ออกไป มันหวนกลับมาอีกเพราะคิดว่านายหญิงของเธอไม่อยู่บ้าน แต่พวกมันกลับพลาดและซวยที่เจอมายา กระสุนหลายนัดเล็กไปที่ข้อเท้าของคนพวกนั้น แน่นอนว่าไม่ตายก็เหมือนตายไม่มีทางที่คนพวกนั้นจะกลับมาใช้ชีวิตหรือเดินได้อย่างคนปกติ ไม่นานรถกระบะคันโตจากบ้านใหญ่ก็มาถึง และหอบหิ้วคนพวกนั้นไป พวกนั้นคือลูกน้องของมายาอีกทอดหนึ่ง รับคำสั่งให้มาเก็บกวาดและจัดการพวกมันแทนเธอ ไม่อาจรู้ได้ว่าพวกมันจะมีชีวิตรอดหรือไม่ซึ่งเธอไม่เคยให้ค่าพวกมันอยู่แล้ว
"เธอ! " คุณผู้หญิงของบ้านตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจกระถดตัวหนีมายาด้วยความระแวง
"คุณปลอดภัยค่ะ"
"แล้วเธอล่ะ" เห็นสภาพมายาแล้วดูเหมือนว่าแย่กว่าเธอหลายเท่า
"ฉันสบายดี" ผู้ชายท่าทางกำยำสามคนที่ทำร้ายเธอกลับพ่ายแพ้ให้ผู้หญิงร่างเล็กอย่างมายาเนี่ยนะ เธอเริ่มจะกลัว
"อยากเปลี่ยนเสื้อผ้ามั้ย" เห็นเสื้อสีขาวของมายาที่เปรอะเลือดช่างดูขัดหูขัดตาจึงเอ่ยถามออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ทั้งที่ตอนนี้เธอก็ยังตกใจไม่หาย
"เดี๋ยวฉันก็กลับแล้วค่ะ" คำตอบของมายาทำให้คุณหญิงศศิกังวลหนักกว่าเก่า
"ไม่ได้! ถ้าพวกนั้นกลับมาอีกล่ะ"
"กลับมาไม่ได้แน่นอนค่ะ และฉันจะรอจนกว่าไอ้กลิ่นไอ้ฟูจะมาแล้วถึงกลับ นายหญิงไม่ต้องกลัว"
"ไม่! ฉันไม่ไว้ใจทั้งนั้นนอกจากเธอ เธอต้องอยู่" โวยวายออกมาราวกับเด็กถูกขัดใจ
"ค่ะ แต่ขอฉันคุยโทรศัพท์สักครู่" การไม่ขัดใจและการทำตามคำสั่งเจ้านายคือสิ่งที่มายาทำมาโดยตลอด เธอเดินออกไปคุยโทรศัพท์นอกระเบียง ใบหน้ายิ้มแย้มของคนข้างนอกอยู่ในสายตาคนเป็นนายตลอด
"มาย โตขึ้นอยากเป็นอะไรเหรอ" หมอมะนาวเอ่ยถามออกมา
"หมอ" มายาตอบได้อย่างทันควันโดยไม่ต้องคิด
"ทำไมล่ะ หน้าตาสวยๆ อย่างมายเป็นดาราได้เลยนะ" เอ่ยออกมาทีเล่นทีจริงขณะกำลังแปรงผมให้เด็กสาวตรงหน้า มายาโตขึ้นเรื่อยๆ จนเธอนึกอิจฉาผิวพรรณทรวดทรงองค์เอวก็ดูเต่งตึงไปหมด
"จะได้ดูแลพี่หมอบ้าง" คราวนี้คนที่นั่งหันหลังอยู่หันกลับมาหาคุณหมอมะนาวคนสวย
"พี่ดูอ่อนแอเหรอ"
"ไม่"
"อย่าเลย เดี๋ยวพอมายมีแฟนก็ลืมพี่" เห็นสายตาจริงจังของเด็กสาวตรงหน้าก็เริ่มไปไม่เป็น เอ่ยติดตลกออกมาแทน นับวันคนตรงหน้าเริ่มพูดจาและมีท่าทางแปลกๆ กับเธอตลอด
"ไม่ค่ะ มายชอบพี่หมอ จะมีพี่หมอคนเดียว"
"รู้ตัวมั้ยว่าพูดอะไรออกมา"
"รู้ค่ะ" ยิ่งทำให้คุณหมอพูดไม่ออกลุกขึ้นยืนและเดินหนีเตรียมขึ้นเตียงแทน
"นอนเถอะ พี่ง่วงแล้วล่ะ" เด็กสาวได้แต่ก้มหน้า โทษตัวเองที่ปากไว หมอมะนาวคงเกลียดเธอไปแล้ว