หลังจากเหตุการณ์วันนั้นที่กันต์ธีร์สารภาพรักและจูบพิมลดา ความรู้สึกของพิมลดาถูกปลุกเร้าอย่างรุนแรง เธอรู้สึกตื่นเต้นและสับสนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จูบแรกของเธอเป็นประสบการณ์ที่หวานล้ำและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนด้วยความตื่นเต้นและความกลัวที่ถาโถม พิมลดาจึงพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับกันต์ธีร์ เธอหลีกเลี่ยงทุกสถานการณ์ที่อาจทำให้ต้องเจอเขา หรือพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ความหลีกเลี่ยงนี้เป็นวิธีที่เธอใช้ในการจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง และให้เวลาตัวเองในการคิดทบทวนว่าควรทำอย่างไรต่อไป
เจ๊แวว: (เดินเข้ามาในห้องพักพร้อมกับนิตา) "สวัสดีจ้ะ ยัยลดา! ทำไมเหม่อลอยอยู่คนเดียว? ทำอะไรอยู่เหรอ?"
พิมลดา: (ตกใจหันไปมอง) "อ้อ เจ๊แวว นิตา… เอ่อ… ฉันแค่ชงกาแฟน่ะ"
นิตา: (หัวเราะ) "เห็นพิมตกใจแบบนั้นคิดว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า เจ๊แววแกล้งได้ดีเลยนะ"
เจ๊แวว: (ยิ้มแหย่) "ใช่ๆ! สงสัยว่าจะมีเรื่องใหญ่แน่เลย ทีนี้ทะเลาะกับแฟนหรือเปล่าจ๊ะ?"
พิมลดา: (ถอนหายใจ) "ไม่มีหรอกค่ะ เรื่องมัน… ซับซ้อนหน่อยน่ะ"
นิตา: "ซับซ้อนยังไงเหรอ? ถ้าอยากพูดก็เล่าให้ฟังได้เลยนะ"
เจ๊แวว: "ใช่ค่ะ เล่ามาเถอะ เผื่อเราจะช่วยอะไรได้บ้าง"
เจ๊แวว และ นิตา คือเพื่อนสนิทของพิมลดามาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย ทั้งสามคนมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและเป็นกันเองมาก เจ๊แววเป็นสาวสองที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและเสน่ห์ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ใกล้เธอ เธอเป็นผู้นำในกลุ่ม มักจะจัดกิจกรรมหรือให้คำแนะนำด้วยความจริงใจและเป็นธรรมชาติ
ในขณะที่ นิตา เป็นสาวใส่แว่นที่ดูเหมือนเด็กเนิร์ด แต่มีความลึกซึ้งและความเฉลียวฉลาดที่ซ่อนอยู่ใต้รูปลักษณ์ที่เรียบง่ายของเธอ นิตามักจะเป็นที่พึ่งพาในเรื่องที่ต้องการการคิดวิเคราะห์และคำปรึกษาที่ดี แม้จะมีบุคลิกที่เงียบสงบ แต่เธอมีความเป็นกันเองและใส่ใจในรายละเอียดของชีวิตของพิมลดา
ทั้งสามคนมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและเปิดเผย ไม่เพียงแค่เป็นเพื่อนร่วมงาน แต่ยังเป็นครอบครัวที่คอยสนับสนุนและดูแลกันในทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ พวกเขามีการพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาและเข้าใจกันดี ทำให้พิมลดารู้สึกสบายใจเมื่อสามารถเปิดใจและแบ่งปันปัญหาหรือความรู้สึกกับพวกเขาได้อย่างเต็มที่
พิมลดา: "ไม่มีอะไรหรอกเจ๊"
เจ๊แวว: (ยิ้มเบาๆ) "โอเคๆ ไม่มีก็ไม่มี เจ๊ไม่คะยั้นคะยอหรอก รู้ดีว่าถ้าพิมลดาไม่พร้อมง้างปากยังไงก็ไม่เล่า"
นิตา: (มองอย่างเข้าใจ) "อยากเล่าเมื่อไหร่ค่อยเล่านะ"
พิมลดา: "คืนนี้ไปหาร้านไวน์ดื่มกันไหมเจ๊แวว นิตา?"
เจ๊แวว: (มองพิมลดาด้วยความเข้าใจ) "โอเค๊ ฉันรู้ว่าอยากเล่าแต่ต้องย้อมใจนิดนึงก่อนใช่ไหม"
นิตา: หัวเราะเบาๆเข้าใจทุกอย่างดี แต่ไม่พูด
ที่ร้านไวน์แห่งนี้, บรรยากาศอันอบอุ่นและน่าดื่มด่ำถูกเติมเต็มด้วยแสงไฟนวลและเสียงหัวเราะของกลุ่มเพื่อนสนิท ทั้งพิมลดา, เจ๊แวว, และนิตา ต่างนั่งอยู่ที่โต๊ะมุมหนึ่งของร้านที่มีความเป็นส่วนตัว ขวดไวน์เปิดอยู่หลายขวดและแก้วไวน์ที่เต็มไปด้วยเหล้าสีแดงนั้นเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว
พิมลดาที่นั่งอยู่ระหว่างเจ๊แววและนิตา รู้สึกถึงฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่เริ่มทำให้เธอรู้สึกกรึ่มและมีอารมณ์สบายมากขึ้น เสียงพูดคุยของเพื่อนๆ ข้างๆ ทำให้เธอรู้สึกเบาใจขึ้น และในที่สุดก็ถึงเวลาแล้วที่เธอจะเปิดเผยเรื่องราวที่เก็บไว้ในใจ
"เออ... ทุกคน," พิมลดาเริ่มพูดด้วยเสียงที่ยังกระท่อนกระแท่นจากไวน์ที่ดื่มเข้าไปมากมาย "มีเรื่องต้องเล่า... เรื่องของกันต์ธีร์น่ะ..."
เธอสะบัดหัวเล็กน้อยและหัวเราะเบาๆ ก่อนที่จะเล่าต่อ เจ๊แววและนิตามองเธอด้วยความสนใจและความเข้าใจ ที่เคยอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ กัน พวกเธอรู้ดีว่าพิมลดากำลังต้องการที่ปรึกษาและความช่วยเหลือทางอารมณ์
พิมลดาตั้งใจเล่าเรื่องราวของกันต์ธีร์อย่างละเอียด แม้จะมีบางช่วงที่เธอพูดสลับสับสนเนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แต่เธอก็พยายามสื่อสารความรู้สึกของเธอออกมา "พอเขาสารภาพรัก... ฉันก็ตกใจมาก... แล้วก็... เอ่อ... จูบ... คือ จูบแรกของฉัน... แล้วก็... ฉันรู้สึกงงและ..."
หลังจากที่พิมลดาได้เล่าเรื่องราวของกันต์ธีร์ให้เพื่อนๆ ฟัง, บรรยากาศยังคงเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความตื่นเต้น
เจ๊แววยิ้มกว้างพร้อมกับร้องออกมา “ว้ายยย ดีจังงง!” พร้อมกับทำท่าทางตื่นเต้น “แหม น่ารักจริงๆ เลย!”
นิตาที่นั่งข้างๆ ยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “เด็กหนุ่มมาสารภาพรัก หวายยย หวายยย!” เธอหัวเราะแล้วเสริม “เด็กหนุ่มว๊ายน่ากินจะตาย เนาะ?”
เจ๊แววหันไปมองนิตาและยิ้ม “ใช่! น่ากินจริงๆ แต่เธอน่ะอย่ามาแบ๊วให้มาก อย่าลืมว่า คุณนิตาของเราที่ดูเนิร์ดๆ แบบนั้นยังรู้เรื่องรู้ราวกว่าคุณเยอะ”
นิตายิ้มกว้างและแกล้งทำท่าทางคิดลึกๆ พร้อมพูด “อืมๆ แน่นอน เจ๊แววพูดถูก ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตา แต่ความรู้ลึกซึ้งก็มีมากนะ” เธอพูดติดตลกทำให้เจ๊แววหัวเราะ
กันต์ธีร์ที่ชวนโอมมาดื่มเพราะหงุดหงิดกับเรื่องที่เกิดขึ้น พิมลดาหลังจากจูบกันก็หลบหน้าหลบตาหาไปเลย คิดในขณะ เดินเข้ามาในร้าน ร่างสูงใหญ่และหน้าหล่อเหลาของกันต์ธีร์โดดเด่นท่ามกลางความครื้นเครงของร้าน เขามองไปยังโต๊ะที่จองไว้และเดินไปนั่ง ท่ามกลางสายตามากมายของเกือบทุกโต๊ะที่จ้องมองมา
ก่อนที่กันต์ธีร์จะเดินไปถึงโต๊ะที่โอมจองไว้ เขาหยุดชะงักเมื่อเหลือบไปเห็นโต๊ะที่มุมหนึ่งของร้าน ในมุมที่แสงไฟสลัวสะท้อนออกมาจากกำแพงข้างๆ นั่นคือพิมลดา ที่นั่งอยู่กับเพื่อนๆ ทั้งสามคนกำลังสนุกสนานและหัวเราะเสียงดัง พิมลดาดูมีความสุขและผ่อนคลาย ขณะที่สองเพื่อนของเธอพูดคุยกันอย่างรื่นเริง
กันต์ธีร์ยืนนิ่งมองไปที่พิมลดา ใจของเขาถูกกระตุ้นให้รู้สึกถึงความรู้สึกที่ค้างคาในใจ ความรู้สึกหงุดหงิดจากการที่เธอหลบหน้าเขาเข้ามารุมร้าวอย่างไม่หยุดหย่อน เขาพยายามสูดลมหายใจลึกเพื่อสงบสติ ก่อนที่จะหันกลับไปหันไปทางโต๊ะของโอม
กันต์ธีร์พยายามหลีกเลี่ยงการมองไปที่โต๊ะของพิมลดาอีก เขาเดินไปยังโต๊ะที่จองไว้ แต่หัวใจของเขายังคงเต้นแรงเมื่อคิดถึงการเจอเธออีกครั้ง ความรู้สึกที่ยังค้างคาและสับสนยังคงวนเวียนอยู่ในใจของเขา ขณะที่เขานั่งลงและพยายามไม่ให้ความรู้สึกนี้รบกวนความสุขของค่ำคืนนี้
ร้านใกล้จะปิดแล้ว และแสงไฟในร้านเริ่มลดลงเมื่อพนักงานเตรียมปิดร้าน สามสาวที่ยังนั่งอยู่บริเวณโต๊ะของพวกเธอเริ่มเก็บของและเตรียมตัวกลับบ้าน โดยพิมลดาเริ่มเมาหนัก เธอเอนตัวพิงไปข้างหลังและทำเสียงหัวเราะอย่างลำพอง
เจ๊แววและนิตาช่วยกันพยุงพิมลดาที่เริ่มตัวอ่อนแรง แต่ก็ยังมีสีหน้ามีความสุขจากการพูดคุยและดื่มด่ำกับไวน์อย่างดี พวกเธอลุกขึ้นและเดินออกจากร้านไปยังข้างถนนในคืนที่มืด
ข้างถนนที่เงียบสงัด เจ๊แววยืนข้างพิมลดาที่นั่งอยู่บนขอบฟุตบาท ขณะที่นิตาก้มหน้าหาแท็กซี่ในโทรศัพท์มือถือ เสียงของพิมลดายังคงเป็นเสียงหัวเราะคิกคักเบาๆ ขณะที่เธอพยายามประคองตัวเองให้ยืนอยู่ได้
“เดี๋ยวรถมาแล้ว จะไปไหนกันดีเนี่ย” เจ๊แววพูดอย่างใจเย็น ขณะที่มองไปที่พิมลดาที่กอดรอบตัวเองเพื่อไม่ให้ล้ม
นิตาเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์และหันไปตอบ “แท็กซี่กำลังมาถึงแล้ว แค่รออีกแป๊บเดียว”
ขณะที่โอมไปเอารถนั้น เขาไม่ทันสังเกตร่างใหญ่ของกันต์ธีร์ไปทางไหน แต่กันต์ธีร์ก้าวตามหลังสามสาวมา สามสาวยืนอยู่ที่ฟุตบาท รอรถแท็กซี่และอาการเมาของพวกเธอทำให้ไม่ค่อยระวังตัว กันต์ธีร์ซึ่งก้าวตามหลังมาเงียบๆ จนกระทั่งเขามาหยุดที่พิมลดาที่นั่งกองอยู่บนฟุตบาท เขาไม่รอช้า ดึงพิมลดาที่เมาและหมดเรี่ยวแรงขึ้นมาอย่างเบามือและอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขน
เจ๊แววและนิตาที่เมาแต่ยังมีสติพอจะโวยวาย ได้ยินเสียงเหวี่ยงอยู่ข้างหลังและเห็นการกระทำของกันต์ธีร์ ก็ตกใจและยืนมองด้วยอาการตกใจ
“ใครมาน่ะ มาแตะเพื่อนฉันทำไม!” เจ๊แววพูดเสียงดัง ขณะที่นิตาทำท่าจะเข้าไปห้าม
“ผมกันต์ธีร์ครับ” กันต์ธีร์ตอบกลับอย่างสุภาพ
เจ๊แววที่เมาแล้วดูจะเข้าใจสถานการณ์ได้เริ่มยิ้มและมองไปที่นิตา
“อ๋ออออ พาไปเลย พาไปส่งบ้านดีๆนะ”
เธอพูดพร้อมยิ้ม
“ครับ ผมจะพาไปส่งเอง” กันต์ธีร์ยิ้มตอบ และอุ้มพิมลดาอย่างอ่อนโยน พาขึ้นแท๊กซี่ไป
นิตาและเจ๊แววยืนมองจนกันต์ธีร์จะพาพิมลดาไป
หล่ออออ สูงงงง แลที่สำคัญเด็กกกกว่า กระดูกอ่อนๆ น่ากินเนาะยันนิตา
นิตามองตามที่เจ๊พูด พยักเพยิด อืมมม น่ากินจริงๆ หญ้าอ่อนหวานๆ
ทั้งคู่หันมามองหน้ากันหัวเราะพร้อมกันด้วยความเมา