ช่อเอื้องรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า หลังเหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างของเขากำลังลุกขึ้นมาประกาศศักดาเข้าเต็มๆ ตา
แม่ทัพเห็นสาวเจ้าอายหน้าแดงก่ำ จึงดึงมือน้อยๆ ของเธอมาจับความเป็นชายที่แข็งขืนของตน ก่อนจะบอกด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่า “มันเป็นของเธอ”
“เอ่อ...” ช่อเอื้องอายหน้าแดงก่ำ เมื่อท่อนเนื้อขนาดใหญ่ที่ขึงขัง กำลังผงกหัวดิ้นส่ายไปมาอยู่ในมือของเธอหงึกหงัก
“จัดการทักทายมันหน่อยคนดี” แม่ทัพเอ่ยอ้อนนักเรียนคนโปรดที่เข้าคอร์ส ติวเข้มเรื่องบนเตียงกับตนมาเมื่อคืน
คนที่เรียนรู้รูปแบบของการบอกรักระหว่างหญิง-ชาย มาหลากหลายกระบวนท่า ค่อยๆ ตวัดลิ้นเลียไอศกรีมแท่งใหญ่ของอีกฝ่ายอย่างรู้สึกเขินๆ
“ซี้ด...แบบนั้นแหละครับ” แม่ทัพร้องครางขึ้นเบาๆ พร้อมกับจ้องมอง ริมฝีปากอวบอิ่มของนางฟ้าคนสวย ที่ทั้งอมและดูดเลียความเป็นชายของตนได้เก่ง ถึงใจสุดๆ
“อา...พอก่อนคนดี” คนที่เสียวจนแทบจะขาดใจ รีบร้องห้ามอย่างทนไม่ไหวกลัวว่าลาวาสีขาวขุ่นจะระเบิดใบหน้างามๆ ซะก่อน
“อ๊ะ! พี่ทัพจะทำอะไรคะ” ช่อเอื้องถามอย่างมึนงง หลังถูกอีกฝ่ายดึงแขนให้ลุกตามไปที่ใต้ฝักบัวอาบน้ำ
แม่ทัพให้สาวเจ้าไปยินชิดผนังจากนั้นก็ย่อตัวลงไปนั่งยองๆ แล้วจับขาของสาวเจ้ายกขึ้นข้างหนึ่ง จากนั้นก็ขยับใบหน้าเข้าไปใกล้กับดอกไม้งามที่อวบอูม
“อะ...อื้อ...” ช่อเอื้องครางลั่นทันทีที่ลิ้นอุ่นๆ ของเขาดูดเลียอิสตรีของเธอ
“อืม...อร่อยจัง” แม่ทัพเบิร์นดอกไม้งามอย่างเมามัน พร้อมกับกลืนกินน้ำหวานที่หยาดเยิ้มอย่างกระหาย
“อะ...อะ...พี่ทัพขา...” คนที่กำลังจะถึงฝั่งฝัน เริ่มขาสั่นขึ้นมานิดๆ หลังถูกความเสียวซ่านเล่นงานอย่างหนัก แม่ทัพรีบพลิกตัวนั่งพิงกับผนังห้องน้ำ แล้วให้ สาวเจ้ามานั่งคร่อมความเป็นชายของตน
“อืม...เสียวจังเลยค่ะพี่ทัพ” ช่อเอื้องค่อยๆ จับหัวอนาคอนด้าขนาดใหญ่ ถูไถกับร่องที่ชุ่มฉ่ำวนไปมาอย่างเคลิบเคลิ้ม คนหื่นที่กำลังถูกไฟปรารถนาแผดเผา กดเอวบางของสาวลง พร้อมกับเด้งความเป็นชายสวนขึ้นรับทันใด
“อ๊ะ!...อื้อ...” ช่อเอื้องสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจ ขนลุกซู่ไปทั้งตัว ทั้งเสียวซ่านและจุกแน่นไปทั้งแก่นกายสาว
“ขยับสิครับ” แม่ทัพบอกจะก้มลงจูบแม่สาวขี้ที่ตอนตัวแดงเหมือนกับ กุ้งต้มไม่มีผิด
“อะ...อื้อ...” ช่อเอื้องครางเบาๆ พร้อมกับจูบแลกลิ้นกับอีกฝ่าย
“อืม...แน่นจังเลย” แม่ทัพคางเบาๆ ก่อนจะขยับจับเองวบางขยับขึ้นลงช้าๆ
“อา...พี่ทัพขา...” คนที่ถูกอีกฝ่ายควบคุมจังหวะ ร้องครางและส่ายหน้าไปมาอย่างทรมานกับความเสียวที่ทวีคูณมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อครู่ตอนที่เธอถูกลิ้นอุ่นๆ ของเขาเบิร์น มันก็เกือบจะเอื้อมไปแตะขอบสวรรค์ แต่เขาก็หยุด แล้วเปลี่ยนท่าราวกับจงใจแกล้ง และตอนนี้เขาก็ปล่อยให้มือจากการควบคุมจังหวะไปดื้อ
“ขยับเลยครับ เอาให้เสร็จนะคนดี” แม่ทัพกระซิบบอกนักเรียนคนเก่ง
“อะ...อืม...” คนที่อยากจะปลดปล่อยความต้องการ เริ่มขยับเอวส่ายร่อนช้าๆ ก่อนจะเพิ่มค่อยเพิ่มความเร็วขึ้น
“ซี้ดดดด....เร็วอีกนิดครับ” แม่ทัพที่ตอนแรกตั้งใจจะสอนให้สาวเจ้ารู้ถึงการไปถึงขอบสวรรค์เอง แต่เอาไปเอามากลับเริ่มจะทนความเสียวซ่านไม่ไหว เมื่อเห็นเอวบางๆ ร่อนส่ายเบาๆ ก็แทบจะคลั่งเสียให้ได้
“อะ...อะ...กรี๊ดดดด” ช่อเอื้องเกร็งกระตุกติดๆ กัน
แม่ทัพรีบรวบร่างบางที่อ่อนปวกเปียกเข้ามากอดซบที่หน้าอกของตน พร้อมกับกระซิบบอก “กอดคอพี่เอาไว้ดีๆ นะ”
คนที่กำลังสุขสมได้ไม่ถึงนาทีก็ตกใจที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็ช้อนขาทั้งสองข้างของเธอ แล้วลุกขึ้นยืน จึงรีบคว้าคอหนาของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น ขณะที่บางสิ่งบางอย่างของเขาและเธอยังคงคากันอยู่
แม่ทัพเปิดเกมรักในท่าผาดโผนหรือที่เรียกกันว่าลิงอุ้มแตง ทำเอาช่อเอื้องกรีดร้องครางลั่นห้องน้ำ เพราะทุกจังหวะของการสอดใส่ เสียวซ่านจนหยดน้ำหวานจากดอกไม้งามไหลกระเซ็นเลอะเปรอะเปื้อนต้นขาของแม่ทัพและบริเวณรอบๆ ก่อนจะต่อด้วยท่วงท่าใหม่ ทั้งขอบอ่างอาบน้ำ หรือแม้กระทั่งบนพื้น เล่นเอาคนอ่อนประสบการณ์ถึงกับหมดแรงเข่าทรุดไปทันใด
เวลา 11:45 น.
“ให้ตายสิ! หยุดทำหน้าแบบนั้นได้แล้วเอื้อง” แม่ทัพบอกก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปในชุมชนที่สาวเจ้าเคยอยู่
“...”คนที่เอาแต่นั่งหน้าบึ้งมาตลอดทาง หันไปมองค้อนอย่างขุ่นเคืองใจ หลังถูกคนหื่นเสิร์ฟบทรักในห้องน้ำนานนับชั่วโมง จัดสารพัดท่า จนเธอทรุดลงนั่งบนพื้นอย่างหมดแรง แม้ว่าเขาจะเข้ามาช่วยอาบน้ำ สระผม แล้วอุ้มพาไปเปลี่ยนชุดที่ห้องแต่งตัว แต่เธอก็ไม่ชอบใจอยู่ดี
“โธ่! มันเรื่องธรรมดาของผัวเมียนะที่รัก” แม่ทัพบอกเสียงอ่อนเมื่อเห็นนางฟ้าคนสวยยังคงเงียบอยู่เช่นเดิม
“...” ช่อเอื้องเบือนหน้าหนีไปมองข้างทางอย่างไม่อยากจะพูดด้วย
“กี่โมงแล้วครับ” แม่ทัพถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าสาวเจ้ายังไม่หายงอน
เธอก้มลงมองนาฬิกาที่มือถือก่อนจะบอกโดยไม่หันไปมองอีกฝ่าย “11:46 นาทีค่ะ”
“อ้าว! พูดได้แล้วเหรอ นึกว่าเมียพี่เป็นใบ้ไปแล้วซะอีก” แม่ทัพหัวเราะเบาๆ อย่างชอบใจที่สามารถทำให้นางฟ้าคนสวยยอมพูดด้วย
“คุณทัพ!” ช่อเอื้องถลึงตาใส่คนหื่นทันใด
“ค้าบบบ” แม่ทัพขานรับเสียงหวานอย่างยั่วยวน
ช่อเอื้องได้ฟังก็รีบเอ่ยเตือนอย่างใจคอไม่ดี “อย่าเรียกแบบนั้นต่อหน้าป้าอรกับลุงศักดิ์นะคะ เอื้อง...”
“เอื้องอะไร?” แม่ทัพเลิกคิ้วถามอย่างกวนๆ
“เอื้องอายเขาค่ะ” เธอกัดฟันตอบอย่างรู้สึกกังวล กลัวว่าอีกฝ่ายจะเผลอหลุดปากเรียกต่อหน้าคนอื่นๆ
“อายทำไมก็เราเป็นผัวเมียกันแล้วนี่”
“พี่ทัพ! ห้ามเรียกแบบนี้” ช่อเอื้องบอกพร้อมกับเขย่าแขนของคนหื่นเบาๆ เพื่อขอคำมั่น
“อืม...ขอคิดดูก่อนนะ” คนที่ถือไพ่เหนือกว่าขยิบตาส่งให้อย่างเจ้าเล่ห์
“โธ่! อย่าแกล้งหนูสิคะ”
“ถ้าหอมแก้มพี่ นั่นอาจจะช่วยได้” แม่ทัพยื่นข้อเสนอ
ช่อเอื้องรีบขยับเข้าไปหอมที่แก้มของอีกฝ่ายเบาๆ อย่างไม่มีทางเลือก เพราะใกล้จะถึงที่พักของตนเองแล้ว
จุ๊บ!
“พี่จะไม่เรียกต่อหน้าคนอื่น ยกเว้นตอนที่เราอยู่ด้วยกันบนเตียงสองคนครับ” แม่ทัพฉีกยิ้มหวานอย่างชื่นใจหลังริมฝีปากบางแตะลงยังแก้มของตน
“เฮ้อ...ขอบคุณนะคะ” ช่อเอื้องถอนหายใจอย่างเพลียๆ
“ฮ่าๆๆ ประชดเก่งนะเรา” แม่ทัพหัวเราะอย่างขำๆ กับสีหน้าท่าทางของนางฟ้าคนสวย ที่ดูจะเศร้าสลดลงไปทันทีทันใด
“ขอบคุณค่ะที่รู้ว่าหนูประชด” เธอส่งค้อนวงใหญ่ไปให้อีกครั้ง
“หึหึ! ตั้งแต่นี้ไปเราต้องเรียกพี่ทัพแทนคุณทัพนะรู้ไหม”
“ทำไมคะ?”
“ก็เรียกคุณมันฟังดูเหินห่างน่ะสิ” แม่ทัพบอกก่อนจะเลี้ยวรถเข้าไปจอดข้างๆ บ้านเช่าของสาวเจ้า
“ได้ค่ะ...พี่ทัพ” ช่อเอื้องพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนจะหันไปปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยออก
“เมียพี่น่ารักจัง” แม่ทัพบอกพร้อมกับก้มลงหอมที่แก้มนวลเบาๆ อย่างอดใจไม่ไหว
“เดี๋ยวคนอื่นเห็นค่ะ” ช่อเอื้องถอนหายใจอย่างรู้สึกเพลียๆ ที่อีกฝ่ายขยันเอ่ยคำต้องห้ามออกมาบ่อยๆ
“รถพี่ติดฟิล์มทึบคนข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็นหรอก” แม่ทัพบอกแม่สาว ขี้กังวล
“เราจะไปกันหรือยังคะ”
“ครับ เชิญเจ้าของบ้านนำทางได้เลยครับ”
คนที่กำลังจะเปิดประตูลงจากรถ รีบหันไปบอกอย่างรู้สึกเขินๆ “เอ่อ...คือว่าบ้านของหนูเป็นบ้านหลังเล็กๆ นะคะ ไม่ได้...”
“พี่รู้ครับ” แม่ทัพยิ้มก่อนจะเปิดประตูก้าวลงจากรถ แล้วเดินอ้อมไปหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าที่ท้ายรถอย่างไม่รอช้า
“ให้ช่วยไหมคะ” ช่อเอื้องเดินตามไปถาม
“ไม่ต้องครับ แค่นี้จิ๊บๆ ขนาดหนูพี่ยังอุ้มได้สบายๆ เลย” คนออกกำลังกายเป็นประจำบอกพร้อมกับขยิบตาให้สาวเจ้า
“ชิ!” ช่อเอื้องมองค้อน ก่อนจะออกเดินนำไปยังบ้านเช่าของตัวเอง
ด้านนิลยาที่กำลังจะเดินไปซื้อของในตลาดสด แต่พอเดินออกจากบ้านมาก็เห็นหนุ่มสาวเดินตามกันมาจึงเอ่ยทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“สวัสดีคุณทัพ สวัสดีจ้ะเอื้อง”
“สวัสดีครับ” แม่ทัพรีบยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทันใด
“สวัสดีค่ะป้านิล ลุงศักดิ์ไปไหนคะ?” ช่อเอื้องยกมือไหว้พร้อมกับมองหาผู้ใหญ่อีกคน
“ลุงไปทำงานจ้ะ น่าจะกลับมาตอนค่ำๆ ว่าแต่..เอื้องจะมาเก็บของวันไหนลูก?” นิลยาเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
“เอ่อ...ยังไม่แน่ใจค่ะ แต่คืนนี้เอื้องกับพี่ทัพจะมานอนที่นี่ ”
“ดีเลยค่ะ ป้าจะได้ทำอาหารเลี้ยงคุณทัพสักมื้อ” นิลยาบอกอย่างดีใจ
“ขอบคุณครับ” แม่ทัพฉีกยิ้มอย่างชอบใจกับการต้อนรับของอีกฝ่าย
“เอ่อ...ป้านิลเห็นพี่ส้มบ้างไหมคะ” ช่อเอื้องถามถึงคนที่เงียบหายไป นับตั้งแต่ที่เกิดเรื่องเกิดราวขึ้น
“อืม..ได้ข่าวว่านังส้มมันหนีไปอยู่กับแฟนแล้วน่ะเอื้อง หนูมีอะไรกับมันหรือเปล่า?” นิลยาถามอย่างข้องใจว่าเหตุใดช่อเอื้องถึงได้ไปสนิทกับส้ม เด็กสาวใจแตก ที่เรียนก็ไม่จบ แถมยังมีข่าวว่าเสพยาอีกด้วย
“ปะ...เปล่าค่ะ หนูขอตัวเข้าไปดูบ้านก่อนนะคะ” ช่อเอื้องรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีทันใด
“จ้ะ ป้ากับลุงไปทำความสะอาดและนอนเฝ้าให้ทุกคืนเลย” นิลยาบอกยิ้มๆ
“ขอบคุณมากๆ เลยค่ะป้านิล” ช่อเอื้องยกมือไหว้อีกครั้งอย่างรู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของผู้ใหญ่ทั้งสอง
“ไม่เป็นไรจ้ะ เย็นๆ พาคุณทัพมาทานข้าวบ้านป้านะ” นิลยาหันไปส่งยิ้มให้หนุ่ม-สาว ก่อนจะออกเดินไปตามทางอย่างอารมณ์ดี
“ค่ะ” ช่อเอื้องขานรับ ก่อนจะเดินไปไขกุญแจที่หน้าบ้าน
“เจอกันตอนเย็นครับป้านิล” แม่ทัพตะโกนบอก แล้วรีบเดินตามหลังสาวเจ้าเข้าบ้านหลังน้อยไปอย่างไม่รอช้า
“เอ่อ...พออยู่ได้ไหมคะ?” เจ้าของบ้านหันไปถามยิ้มๆ กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่สะดวก
“อยู่ได้สบายมากครับ” แม่ทัพเอ่ยพร้อมกับหันไปมองรอบๆ อย่างรู้สึกชื่นชม ถึงแม้จะหลังเล็กไปหน่อย แต่ก็สะอาดสะอ้านสุดๆ
“คุณทัพจะนอนที่นี่จริงๆ เหรอคะ”
“จริงสิ ทำไมเหรอ?”
“เอ่อ...”
“เอื้อง! เราจับมือกันเดินมาถึงตรงนี้แล้วนะ ยังมีอะไรที่ทำให้ต้องเป็นกังวลอีก” แม่ทัพเติมความมั่นใจให้กับสาวขี้กังวล
‘มีเยอะเลยค่ะ’ ช่อเอื้องแอบตอบในใจก่อนจะหันไปมองทางอื่น
“พี่หิวข้าวจัง แถวนี้มีร้านไหนอร่อยบ้าง” แม่ทัพเปลี่ยนเรื่องคุย
“มีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นค่ะ เดี๋ยวหนูเดินไปซื้อให้” ช่อเอื้องรีบขันอาสา
“ไม่เอา! พี่จะไปนั่งกินที่ร้านครับ” แม่ทัพส่ายหน้าปฏิเสธ พลางจ้องมองใบหน้างามอย่างจับสังเกต
“แต่ว่าอากาศมันร้อนนะคะ”
“เอื้องเคยไปนั่งกินหรือยัง?”
“เคยค่ะ”
“งั้นก็ไม่มีปัญหา” แม่ทัพฉีกยิ้มพร้อมกับยักไหล่ทั้งสองข้างขึ้นนิดๆ
‘ใครบอก! นั่นแหละปัญหาใหญ่เลยล่ะ หากเขาไปนั่งกินที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของป้าทอง ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของแหล่งข่าวในชุมชน พรุ่งนี้จะต้องมีคนเดินผ่านหน้าบ้านของเธอเป็นร้อยๆ รอบแน่’
“เอื้อง! สรุปจะพาพี่ไปกินก๋วยเตี๋ยวไหม ถ้าไม่ไปพี่จะโทรสั่งอาหารมากิน ที่บ้านแทน” แม่ทัพถามย้ำเมื่อเห็นสาวเจ้าเงียบไป ‘อะไรวะ! แค่ชวนไปกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน ทำไมถึงทำหน้าเหมือนกับว่าเราชวนไปฆ่าใครอย่างงั้นแหละ’
“ค่ะ” เธอขานรับอย่างโล่งใจที่อีกฝ่ายจะโทร. สั่งอาหารมากินที่บ้าน
“ทำไมทำหน้าเหมือนกลัวใครจะรู้ว่ามีผัว” แม่ทัพเลิกคิ้วถามอย่างกวนๆ เมื่อเห็นอาการที่แสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากจะไปไหนมาไหนกับตนให้คนในชุมชนแห่งนี้เห็น
“พี่ทัพ” ช่อเอื้องมองค้อนคนที่เอ่ยคำต้องห้ามออกมาอย่างเคืองๆ
“ก็มันจริงนี่” คนหล่อเริ่มจะโมโหขึ้นมานิดๆ ไม่เข้าใจว่าสาวเจ้าจะอายทำไม เพราะคนในชุมชนต่างก็รู้สถานะของตนในงานศพของบิดากันหมดแล้ว
“หนูเพิ่งจะเรียนจบมัธยมปลายนะคะ แล้วพ่อก็เพิ่งจะเสียได้ไม่กี่วัน”
“โอเคๆ งั้นเดี๋ยวพี่โทรสั่งอาหารมากินที่บ้านครับ” แม่ทัพรีบตัดบทอย่างเข้าใจสถานการณ์
“ขอบคุณนะคะที่เข้าใจหนู” ช่อเอื้องโล่งใจที่อีกฝ่ายยอมจบง่ายๆ
“พี่ประชดครับ” แม่ทัพกลอกตาเมื่อเห็นสาวตรงหน้าคลี่ยิ้มบางๆ
“หนูก็ขอบคุณอยู่ดีค่ะ” ช่อเอื้องตอบอย่างรู้สึกขำนิดๆ ที่อีกฝ่ายย้อนศรด้วยประโยคที่เธอเคยเอ่ย
“พี่ขอไปดูห้องนอนของเอื้องหน่อยได้ไหม”
“ได้ค่ะ” เจ้าของห้องยิ้มก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องนอนให้อีกฝ่ายเข้าไปดู
แม่ทัพเดินเข้าไปสำรวจห้องนอนสีฟ้าพาสเทลอ่อนๆ ขนาด 5x5 เมตร หน้าต่างทุกบานในห้องกรุมุ้งลวดพร้อมกับติดเหล็กดัดแน่นหนา ข้าวของเครื่องใช้ในห้องประกอบไปด้วยเตียงขนาด 3.5 ฟุต มีเครื่องรับสัญญาณ Wifi ติดอยู่ใกล้ๆโต๊ะทำงานขนาดเล็กกะทัดรัด ถัดไปเป็นโซฟาหนังสีน้ำตาลอ่อนตัวใหญ่ ทีวี ตู้เย็น กระติกน้ำร้อน เตาไมโครเวฟ อยู่บนชั้นวางตามมุมต่างๆ อย่างลงตัว และเขายังสังเกตเห็นว่าในห้องนอนยังมีห้องน้ำเล็กๆ อยู่ด้วย
“ทำไมดูแน่นหนาจัง?”
“คุณพ่อห่วงความปลอดภัยของหนูน่ะค่ะ เวลาที่ท่านไม่อยู่บ้านหรือไปทำงาน หนูก็จะหมกตัวอยู่แต่ในห้องนอน” ช่อเอื้องอธิบายเพิ่ม
“ท่านน่ารักมากๆ รอบคอบไปหมดเลย” แม่ทัพเอ่ยชม
“ใช่ค่ะ มีครั้งหนึ่งที่หนูร้องไห้ ไม่อยากไปโรงเรียนเพราะมันเป็นวันแม่ ซึ่งหนู...ไม่มี พ่อก็เลยแต่งตัวเป็นผู้หญิง แล้วเดินมาเคาะประตูห้องนอนของหนูพร้อมกับบอกว่า...สวัสดีจ้ะหนูเอื้อง วันนี้แม่จะพาหนูไปเที่ยวจ้ะ” ช่อเอื้องเล่าถึงเรื่องของบิดา
“...” แม่ทัพได้ฟังก็ถึงกับอึ้งจนพูดไม่ออก
ช่อเอื้องยิ้มก่อนจะพูดต่อ “ตลอดทางมีแต่คนหัวเราะ แต่พ่อกลับไม่สนใจสิ่งรอบข้าง พ่อห่วงแต่ความรู้สึกของหนู”
“ท่านเก่งจัง ที่เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับเอื้อง” แม่ทัพรู้สึกเสียดายที่ไม่ไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับบิดาของสาวเจ้า
“ใช่ค่ะ ตั้งแต่นั้นมา...วันแม่ของทุกปี คุณพ่อจะแต่งตัวเป็นผู้หญิง แล้วขี่มอเตอร์ไซค์พาหนูออกเที่ยวทั้งวัน ทุกๆ ครั้งที่ได้ยินเสียงหัวเราะของผู้คนที่หันมามอง หนูกับพ่อก็จะพากันหัวเราะกับปฏิกิริยาของพวกเขา”
“อืม...งั้นเราเก็บบ้านหลังนี้เอาไว้ เผื่อวันไหนเอื้องอยากจะกลับมานอนที่นี่ เราก็มานอนด้วยกันอีก” แม่ทัพออกความเห็น พลางคิดไปว่าจะให้คนสนิทติดต่อเจรจาซื้อพื้นที่ในชุมชนแห่งนี้ แล้วพัฒนาใหม่ แต่นั่นคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเสี่ยวินัยไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน
“ขอบคุณค่ะ” ช่อเอื้องยกมือไหว้อย่างดีใจที่อีกฝ่ายตัดสินใจให้เช่าบ้านหลังนี้ต่อไป
“ไหว้พี่ทำไมครับ เรื่องเล็กน้อยเอง” แม่ทัพบอกพลางดึงสาวเจ้าเข้ามากอด
“แล้วตอนเป็นเด็กของพี่ทัพเป็นยังไงบ้างคะ” ช่อเอื้องอยากรู้ชีวิตในวัยเด็กของอีกฝ่าย ซึ่งแน่นอนว่ามันคงจะแตกต่างจากเธอไปอย่างสิ้นเชิง
“ก็ทั่วๆ ไปของเด็กผู้ชายครับ พี่ไปเรียนที่ไหนก็มีแต่เรื่องชกต่อยที่นั่นเป็นประจำ” แม่ทัพกลอกตาเมื่อนึกย้อนไปถึงวัยเด็กของตน
“เพราะ?”
“เพราะพี่หล่อ ก็เลยถูกหาเรื่องบ่อยๆ น่ะสิ” แม่ทัพบอกพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นนิดๆ เพื่อจะให้สาวเจ้าได้เห็นถึงความหล่อเหลาของตนชัดๆ
“คิกๆๆ” ช่อเอื้องหัวเราะออกมาอย่างเบรกไม่อยู่ กับท่าทีมั่นหน้ามั่นโหนก เอ๊ย! มั่นอกมั่นใจของอีกฝ่าย
คนที่สาวๆ ในประเทศต่างพากันโหวตให้ติด Top 10 ของหนุ่มหล่อรวย ที่อยากจะขึ้นเตียงด้วยมากที่สุด ถามกลับอย่างรู้สึกขุ่นเคืองใจ
“อ้าว! หัวเราะแบบนี้แสดงว่าพี่ไม่หล่อหรือไงครับ”
“หล่อสิคะ พี่ทัพน่ะหล่อมาก” ช่อเอื้องตอบตามตรง
“จริงเหรอ? ไหนขอดูมือข้างหลังหน่อยซิ แอบไขว้นิ้วเอาไว้หรือเปล่า” แม่ทัพเอื้อมมือไปจับแขนทั้งสองข้างของสาวเจ้าชูขึ้นอย่างหยอกเย้า
“พี่ทัพอ่าน แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ด้วยเหรอคะ” ช่อเอื้องเลิกคิ้วถามอย่างรู้สึก อึ้งนิดๆ
“อ่านครับ” สาวกตัวยงพยักหน้ารับก่อนจะปล่อยแขนของสาวเจ้าลง
“หนูก็อ่านค่ะ” ช่อเอื้องบอกอย่างดีใจที่มีคนชอบอะไรเหมือนๆ กัน
“ชอบใครเป็นพิเศษไหม?”
“อืม...หนูชอบแฮกริดค่ะ”
“เพราะ...” แม่ทัพถามพลางหัวเราะอย่างขำๆ นึกว่านางฟ้าคนสวยจะชอบแฮร์รี่ หรือไม่ก็รอน
“เขารักสัตว์ค่ะ แล้วก็เป็นตัวละครที่วิเศษมาก”
“โอเค! งั้นวันนี้เราดูหนังเรื่อง Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald (สัตว์มหัศจรรย์: อาชญากรรมของกรินเดลวัลด์) กันไหม?”
“ดีค่ะ” ช่อเอื้องขานรับคำชวนทันใด
“เยี่ยม! เดี๋ยวพี่โทรสั่งพิชซ่ากับไก่ทอดมากินด้วย โอเคไหม?” แม่ทัพบอกเพราะรู้สึกหิวขึ้นมานิดๆ
“โอเคค่ะ” ช่อเอื้องพยักหน้ารับทันใด
แม่ทัพยิ้มก่อนจะกดโทร. สั่งอาหารและเครื่องดื่ม จากนั้นก็เปิดโทรทัศน์ จอแบน ขนาด 32 นิ้ว ที่เชื่อมต่อ wifi และใส่รหัสเข้าดูหนังใน Netflix
หลังจากหนังจบ หนุ่มสาวก็ผล็อยหลับไปในอ้อมกอดของกันและกันบนเตียงเล็กๆ ขนาดสามฟุตครึ่ง จนกระทั่งเวลา 18:08 น. ก็ได้ยินเสียงเรียกของนิลยาดังขึ้นที่หน้าบ้าน
“เอื้อง! เอื้อง!”
“อื้อ...ค่ะป้านิล” ช่อเอื้องขยับลุกเตียงจาก แล้วรีบเดินออกไปหาทันที
“พาคุณทัพมากินข้าวด้วยกันเร็ว” คนที่เข้าครัวทำกับข้าวแบบสุดฝีมือเอ่ยชวนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ได้ค่ะป้านิล” ช่อเอื้องขานรับ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ก็เห็นเจ้าชายของเธอลุกนั่งอยู่บนเตียง
“พี่หลับไปตอนไหนเนี่ย?” แม่ทัพหันไปถามสาวเจ้าอย่างรู้สึกมึนงง
“หนูก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ป้านิลมาตามไปทานข้าวแล้ว”
“พี่ขอล้างหน้าแป๊บหนึ่งครับ”
“ค่ะ” ช่อเอื้องขานรับก่อนจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดหน้าในตู้เสื้อผ้าส่งให้อีกฝ่าย “นี่ค่ะ”
“ขอบคุณครับ” แม่ทัพยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำที่แสนสะอาด แล้วล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น จากนั้นก็เดินไปบ้านหลังข้างๆ พร้อมกับช่อเอื้อง